จำคุกปารีณา-หมิ่นช่อ
บิ๊กตู่อ้างเรื่องการเมือง
รุมถล่ม‘ป้อม’แจกขัน

ศาลรธน.สั่ง 5 แกนนำกปปส. หยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส.จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย หลังถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกคดีชุมนุมปี 56-57 และนัด 5 พ.ค.ชี้ขาดคุณสมบัติ ‘ธรรมนัส’ ต้องคำพิพากษาศาลออสเตรเลีย ขณะที่ศาลอาญาสั่งจำคุก ‘ปารีณา’ 8 เดือน คดีโพสต์หมิ่น ‘ช่อ’ ให้รอลงอาญา 2 ปี ‘บิ๊กตู่’ ซัดการเมือง ถล่มขัน ‘บิ๊กป้อม’ เจ้าตัวเมิน ถูกยื่นกกต.สอบเอาผิด เดียร์โพสต์ขยี้ซ้ำ รมต.ป่วยโควิด จี้แจงไทม์ไลน์ ฝ่ายค้านอัด ‘ศักดิ์สยาม’ ไม่รับผิดชอบสังคม ภูมิใจไทยโต้กลุ่มดาวฤกษ์ ชี้ เป็นเรื่องของหมอเปิดเผยรายละเอียด รัฐสภา ลุยถกร่างพ.ร.บ.ประชามติ พปชร.ยื่นแก้รธน. 5 ประเด็น 13 มาตรา เพื่อไทยเล็งแก้ทั้งฉบับ และรายมาตรา

‘บิ๊กตู่’ชี้เป็นเรื่องการเมือง

เมื่อเวลา 13.10 น. วันที่ 7 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยปฏิเสธที่จะตอบถึงประเด็นการเมืองกรณี การแจกขันสงกรานต์ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และถูกพรรคฝ่ายค้านท้วงติงถึงความไม่เหมาะสม และนำไปเทียบกับการแจกขันของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่เคยถูกสั่งห้าม โดยกล่าวเพียงว่า “ก็เป็นเรื่องของการเมืองไป”

บิ๊กป้อมเมินถูกยื่นสอบแจกขัน

ด้านพล.อ.ประวิตรปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงกระแสวิจารณ์การมอบขันน้ำพลาสติกให้ส.ส.พปชร. นำไปแจกให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แม้ศบค. จะห้ามเล่นสาดน้ำ รวมทั้งนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ โดยพล.อ.ประวิตรมีสีหน้าเรียบเฉย โดยไม่หยุดตอบคำถาม ก่อนขึ้นรถยนต์เดินทางออกจากทำเนียบทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศรีสุวรรณได้ยื่นกกต. ขอให้สอบสวนกรณี พล.อ.ประวิตร ทำขันน้ำกว่า 200,000 ใบ ให้ส.ส.พรรคนำไปแจกประชาชนในพื้นที่ช่วงสงกรานต์ ซึ่งอาจไม่เป็นไปตามระเบียบกกต.ว่าด้วยจำนวน หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขของการให้ตามประเพณีหรือเมื่อมีเหตุอันสมควรฯ พ.ศ. 2561 และฉบับที่ 2 (พ.ศ.2564) เนื่องจากมีมูลค่าเกินกว่า 3 พันบาท ซึ่งขันน้ำพลาสติกดังกล่าว เมื่อเปรียบเทียบราคาที่จำหน่ายกันในท้องตลาด ใบละ 10-29 บาท ดังนั้น การจัดทำขันน้ำของพล.อ.ประวิตร จะอยู่ประมาณ 2-9 ล้านบาท

สุชาติปัดจับมือ3มิตรตั้งกลุ่ม4ว.

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และรองหัวหน้า พปชร. กล่าวถึงกระแสข่าวเข้าร่วมตั้งกลุ่มในนามกลุ่ม 4 ว. กับกลุ่มสามมิตรว่า ไม่มีอะไร เป็นพี่น้องกัน ทุกคนอยู่แล้ว และในพปชร. เรานับถือกันทุกคนอยู่แล้ว ตนไม่มีอะไรกับใคร ทุกวันนี้ก็อยู่กับหัวหน้าพรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัยวุฒิ ธนาคมา นุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้ยืนรอนายสุชาติ ที่บริเวณหน้าบันได ตึกบัญชาการ 1 เมื่อนายสุชาติให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น ได้เดินมาพูดกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่ใช่มีแค่กลุ่ม 4 ว. แต่มี 5 ว.ด้วย แล้วชี้มือไปที่นายชัยวุฒิ พร้อมหัวเราะ ก่อนเดินขึ้นตึกบัญชาการ 1 เพื่อไปประชุมครม.

‘เดียร์’โพสต์เหน็บรมต.ติดโควิด

น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. โพสต์เฟซบุ๊กระบุกรณีรัฐมนตรีติด โควิด-19 ว่า “ในฐานะผู้แทนประชาชน และเป็นหนึ่งในทีมผู้บริหารประเทศ การแสดงตนเป็นตัวอย่างโดยการเปิดเผยไทม์ไลน์อย่างละเอียด ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในการปฏิบัติตามกฎหมาย และจิตสำนึกต่อสังคม แฟร์กับประชาชน หน้าที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบ”

พท.อัด‘ศักดิ์สยาม’อภิสิทธิ์ชน

น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรค เพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งที่เพิ่งให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ร่างกายยัง แข็งแรงดีและได้ผ่านการฉีดวัคซีนป้องกัน โควิด-19 แล้วว่า นายศักดิ์สยามโกหกประชาชน ลดทอนความเชื่อมั่นรัฐบาล ใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นยันต์กันผี ฉีดแล้วจะปฏิบัติตัวอย่างไรก็ได้ ทั้งที่รัฐมนตรีและรัฐบาล ต้องเป็นแบบอย่างกับสังคม ต้องมีความรับผิดชอบสูงกว่าประชาชน นาย ศักดิ์สยามและรัฐมนตรีอีกหลายคนที่ต้องกักตัว ไม่ควรเป็นหนึ่งในสาเหตุของการแพร่ระบาดในคลัสเตอร์ทองหล่อ ยิ่งตอกย้ำว่าการระบาดครั้งนี้อาจกลายเป็นการระบาดระลอก 3 หรือไม่

“รัฐบาลทำลายความน่าเชื่อถือให้กับวัคซีนที่เป็นผู้สั่งซื้อ และยังผูกขาดการเข้าถึง จากนี้รัฐบาลต้องทำความเข้าใจกับประชาชนทั้งที่ได้รับวัคซีนแล้วและยังไม่ได้รับวัคซีน ว่าวัคซีนไม่ใช่ยาวิเศษ เมื่อได้รับไปแล้วจะทำให้ตัวเองไม่ติดเชื้อโควิด-19 ได้ รัฐมนตรีที่ติดเชื้อโควิดไม่รับผิดชอบต่อสังคม ซ้ำยังปกปิดข้อมูล ทำตัวเป็นอภิสิทธิ์ชน ลอยตัวเหนือปัญหาที่ตนเองเป็นผู้ก่ออยู่เสมอ ประชาชนต้องรับกรรมแทนทุกครั้ง” น.ส. อรุณีกล่าว

ซัดรบ.ล้มเหลวจัดหาวัคซีน

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า การระบาดรอบนี้ คนที่เดือดร้อนมากสุดคือประชาชนที่หาเช้ากินค่ำ และเป็นความ เสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการฉีดวัคซีนล่าช้า เพราะกว่าประชาชนจะได้รับการฉีดวัคซีนตามแผน เดือนละ 10 ล้านโดส ต้องรอจนถึงเดือนมิ.ย. ดังนั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้ คือเครื่องยืนยันความล่าช้าในการจัดหาวัคซีน และการประเมินสถานการณ์ที่ต่ำเกินไปของรัฐบาล

นายวิโรจน์กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข เร่งจัดหาวัคซีนให้เร็วขึ้น และถ้าไม่สามารถบริหารจัดหาและจัดฉีดวัคซีนให้เร็วกว่านี้ได้จริงๆ ตนคิดว่าอย่ายื้อ ยอมให้เอกชนเข้ามาร่วมจัดหาและจัดฉีดวัคซีนได้แล้ว อย่ากลัวเสียหน้า ชีวิตและปากท้องของประชาชน 67 ล้านคน สำคัญกว่ามาก

ภท.โต้ดาวฤกษ์ปมไทม์ไลน์

นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนสมาชิก ภท. ชี้แจงถึงน.ส. วทันยา โพสต์ข้อความเรียกร้องให้เปิดไทม์ไลน์ของนายศักดิ์สยาม ว่า การเปิดไทม์ไลน์ เป็นเรื่องระหว่างคนไข้กับแพทย์ เพื่อประโยชน์ในการสอบสวนโรค กรณีนี้นายศักดิ์สยาม บอกแล้วว่าติดมาจากทีมงานหน้าห้อง ซึ่งทีมสอบสวนโรคจะไปดำเนินการตามกระบวน การ การติดโรคไม่ใช่อาชญากรรม ผู้ป่วยแอดมิดอยู่โรงพยาบาล จะให้ออกมา เปิดเผยไทม์ไลน์จะเป็นไปได้อย่างไร เป็นเรื่องของแพทย์ที่จะเปิดเผย

พปชร.ยื่นแก้5ประเด็น13มาตรา

เมื่อเวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ฐานะรองหัวหน้าพปชร. พร้อมสมาชิกพรรค ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา โดยนายไพบูลย์กล่าวว่า พปชร.ได้รวบรวมรายชื่อ ส.ส.พรรค 110 ชื่อ เพื่อเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญใน 5 ประเด็น 13 มาตรา พร้อมบันทึกหลักการและเหตุผล สรุปสาระสำคัญของร่างแก้ไขดังกล่าว ประเด็นที่ 1 แก้ไขเพิ่มเติมหมวด 3 สิทธิและเสรีภาพ แก้ไขมาตรา 29, 41 และมาตรา 45 ประเด็นที่ 2 แก้ไขระบบการเลือกตั้ง มาตรา 83, 85, 86, 90, 91, 92 และมาตรา 94

ประเด็นที่ 3 แก้ไขมาตรา 144 การพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณ ซึ่งเดิมมีปัญหากระทบต่อการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณ แก้ไขโดยให้ใช้ข้อความตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 168 วรรคห้า วรรคหก วรรคเจ็ด วรรคแปด และวรรคเก้า มาใช้แทน ประเด็นที่ 4 แก้ไขมาตรา 185 เพื่อแก้ไขอุปสรรคการทำงานของส.ส. และส.ว.ให้สามารถติดต่อส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ได้ โดยได้นำรัฐธรรมนูญ 2540 มาตรา 111 มาใช้แทน และประเด็นที่ 5 แก้ไขบทเฉพาะกาล มาตรา 270 เปลี่ยนแปลงอำนาจวุฒิสภา ให้เป็นอำนาจรัฐสภา โดยส.ส. ส.ว. มีหน้าที่และอำนาจติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ เพื่อให้บรรลุ เป้าหมาย ตามหมวด 16 การปฏิรูปประเทศ และการจัดทำและดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ

เสนอใช้บัตรเลือกตั้ง2ใบ

นายไพบูลย์กล่าวว่า พรรคเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญดังกล่าว มีสาระสำคัญคือการแก้ไขระบบเลือกตั้ง จากบัตรใบเดียวเป็นบัตร 2 ใบ ซึ่งตรงกับความต้องการของทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล รวมทั้งประชาชนก็ต้องการแบบนี้ เป็นการแก้ไขเพื่อลดความขัดแย้ง ซึ่งหลายฝ่ายโจมตีว่า พปชร.ได้ประโยชน์จากบัตรใบเดียว นอกจากนี้ยังมีเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งเป็น ส.ส.ระบบแบ่งเขต 400 คน บัญชีรายชื่อ 100 คน ตามรัฐธรรมนูญปี 2540 ส่วนการคำนวณ ส.ส. ให้ใช้ตามรัฐธรรมนูญ 2550 ฉบับแก้ไขครั้งที่ 1

ส่วนมาตรา 144 ซึ่งที่ผ่านมาในรัฐธรรม นูญ 2560 กำหนดบทลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ ทำให้ไม่สามารถทำงานได้ เนื่องจากมีกฎหมายอาญาเข้าเกี่ยวข้องและเป็นบทลงโทษที่เกินกว่าเหตุ จึงเสนอนำบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ 2550 มาใช้ โดยที่ ส.ส.และส.ว. ยังคงแปรญัตติไม่ได้เหมือนเดิม ขณะที่อำนาจ ส.ว. ที่เดิมส.ว. ทำหน้าที่ติดตามการปฏิรูปประเทศและติดตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ให้แก้ไขบทเฉพาะกาล มาตรา 270 เปลี่ยนแปลงอำนาจวุฒิสภาให้เป็นอำนาจรัฐสภา โดย ส.ส. ส.ว. มีหน้าที่และอำนาจติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ ซึ่งส.ส.มีจำนวนมากกว่าส.ว.

จ่อเลิกไพรมารีโหวต

นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า นอกจากนั้นยัง ขอแก้ไขเรื่องไพรมารีโหวต ซึ่งทุกพรรคทักท้วงในเรื่องนี้ เพราะไม่เหมาะสมกับสภาพความเป็นจริงและสร้างปัญหายุ่งยากให้ทุกพรรคมากเกินกว่าที่ควรจะเป็น จึงแก้ไขให้กลับไปใช้บทบัญญัติว่าด้วยพรรคการเมือง ในรัฐธรรม นูญ 2550 มาตรา 47 มาบังคับ ใช้แทน

ทั้งนี้ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พปชร.เสนอ เราต้อง การแสดงถึงความจริงใจ จริงจัง เพื่อให้การแก้รัฐธรรมนูญเป็นรูปธรรม ดังนั้น ขอให้สมาชิกทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้าน ได้พิจารณาร่างของพปชร.ด้วย ส่วนที่มาและอำนาจของส.ว.นั้น เราไม่แก้ไขเพราะอาจจะไม่สำเร็จ ไม่อยากมีเงื่อนไขว่าต้องแก้อำนาจ ส.ว.ก่อน เหมือนเอาประชาชนเป็นตัวประกัน ไม่อยากให้เอาเรื่องนี้ มาเป็นปัญหาทำให้ร่างที่เราจะแก้ ชักช้าไปด้วย

นายไพบูลย์กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรได้เห็นร่างทั้งหมดแล้วและเห็นชอบด้วยเพราะให้สิทธิเสรีภาพประชาชนมากขึ้น หากมีการบรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในช่วงต้นเดือนมิ.ย. การพิจารณาวาระ 1, 2 และ 3 คาดว่าจะเสร็จในเดือนส.ค. ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะเสนอแก้มาตรา 256 เพื่อแก้ทั้งฉบับนั้น เรื่องนี้ต้องไปถามส.ว.ก่อนเพราะกระทบเขา และต้องถามฝ่ายค้านด้วย เพราะฝ่ายค้านก็มีสิทธิโต้แย้ง สุดท้ายต้องถามรัฐบาลด้วย เพราะเป็นผู้ใช้งบประมาณทำประชามติ หากเป็นรูปแบบนี้ต้องออกเสียงประชามติ

พท.ชงแก้ทั้งฉบับ-รายมาตรา

ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหา สารคาม พท. ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า พท.จะยื่นขอแก้รัฐธรรมนูญ 2 แบบคือ แก้ทั้งฉบับและแก้แบบรายมาตรา เพราะถ้าจะต้องทำประชามติตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องทำ หากประชาชนเอาด้วย มือในสภาก็ไม่มีสิทธิ์จะมาโต้แย้ง เพราะเป็นความต้องการของประชาชน

ส่วนกระแสข่าวเปลี่ยนตัวประธานวิป ฝ่ายค้านนั้น นายสุทินกล่าวว่า ยังไม่ทราบ แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ เรื่องตำแหน่งสามารถหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงกันได้ ไม่ได้บอกว่าไม่มี อะไรที่เป็นไม่ได้

จำคุกเอ๋ – น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ เดินทางฟัง คำตัดสินคดีน.ส.พรรณิการ์ วานิช กก.บห.คณะก้าวหน้า ฟ้องหมิ่นประมาท โดยศาลพิพากษาจำคุก 8 เดือน ปรับ 66,666 บาท โทษจำให้รอลงโทษ 2 ปี ที่ศาลอาญา เมื่อวันที่ 7 เม.ย

คุกปารีณา 8 เดือนคดีหมิ่นช่อ

เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ศาลอาญา รัชดาฯ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาในคดีดำที่ อ.2043/ 2562 ที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีตโฆษกและส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ฟ้องร้อง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.พปชร. ข้อหาหมิ่นประมาท สืบเนื่องจาก น.ส.ปารีณา โพสต์ภาพ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และน.ส.พรรณิการ์ที่ถ่ายรูปร่วมกับประชาชนในจ.ปัตตานี แล้วใช้ข้อความกล่าวหาว่า นายธนาธร น.ส.พรรณิการ์และพรรคอนาคตใหม่ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดหลายจุดใน กทม. เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2562 ซึ่งน.ส.ปารีณาให้การปฏิเสธ อ้างเฟซบุ๊กที่โพสต์ภาพและข้อความดังกล่าวเป็นเฟซบุ๊กปลอม และน.ส.พรรณิการ์ จงใจฟ้องร้องเนื่องจากโกรธเคืองที่ตนเองยกมือประท้วงน.ส.พรรณิการ์ หลายครั้งขณะประชุมสภา

ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ให้จำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสนบาท แต่ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 เป็นจำคุก 8 เดือน ปรับ 66,666 บาท โทษจำคุกให้รอลงโทษ 2 ปี

ศาลรับชี้สถานะส.ส.5กปปส.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลรัฐธรรมนูญ มี คำสั่งรับคำร้องกรณี กกต.ขอให้วินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสี่ ว่าสมาชิกภาพส.ส. ของนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นาย ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. นายถาวร เสนเนียม ส.ส.เขต 6 สงขลา นายอิสสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายชุมพล จุลใส ส.ส.เขต 1 ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (4) (6) จากเหตุ ต้องคำพิพากษาศาลอาญาจำคุกในคดีชุมนุม กปปส. ปี 2557 ไว้พิจารณาวินิจฉัย และแจ้งให้ กกต.ทราบ พร้อมส่งสำเนาคำร้องให้ผู้ถูกร้องทั้ง 5 ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง

ศาลรัฐธรรมนูญ ยังมีคำสั่งให้ทั้ง 5 คน หยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสอง เนื่องจากเห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้อง ปรากฏว่าศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษจำคุกบุคคล ทั้ง 5 คน และบุคคลทั้ง 5 ถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นายชุมพล นายอิสสระ และนายณัฏฐพล มีกำหนด 5 ปีนับแต่วันมีคำพิพากษา กรณีจึงปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่ามีกรณีตามที่ถูกร้องแล้ว จึงให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย และแจ้งให้ กกต. และประธานสภาทราบ

อย่างไรก็ตาม ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับวินิจฉัยในประเด็นที่ กกต.ขอให้วินิจฉัยว่า กรณีดังกล่าวเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายพุทธิพงษ์ นายณัฏฐพล และนายถาวร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่ โดยเห็นว่าเมื่อ วันที่ 22 มี.ค. มีพระบรมราชโองการฯ ประกาศว่านายพุทธิพงษ์ พ้นจากความเป็นรมว.ดีอีเอส นายถาวร พ้นจากความเป็นรมช.คมนาคม และนายณัฏฐพล พ้นจากความเป็นรมว.ศึกษาธิการแล้ว

ธรรมนัสระทึก-ศาลชี้ชะตา5พ.ค.

ศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีการอภิปรายเพื่อวินิจฉัย ในคดีที่ประธานรัฐสภาส่งความเห็นของ ส.ส. 51 คน ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคหนึ่ง และมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพ ส.ส.ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (10) และความเป็นรัฐ มนตรีของร.อ.ธรรมนัส สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 17 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบ มาตรา 160(6) และมาตรา 98 (10) หรือไม่ จากกรณีเคยต้องคำพิพากษาหรือ คำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายอันถึงที่สุดว่าได้กระทำความผิด ในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้าซึ่งยาเสพติด แม้จะเป็นคำพิพากษาของศาลต่างประเทศ ซึ่งศาลได้ให้ ร.อ.ธรรมนัส ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา รวมทั้งมีหนังสือเรียกเอกสารหลักฐานจากคู่กรณี และกระทรวงต่างประเทศแล้ว

โดยศาลเห็นว่า คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมาย และมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวนตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง และกำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ ลงมติ และอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังในวันที่ 5 พ.ค. เวลา 15.00 น.

กรณีดังกล่าว ร.อ.ธรรมนัส ถูกพรรคฝ่ายค้านกล่าวหาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่าศาลออสเตรเลีย มีคำพิพากษา เมื่อเดือนมี.ค.2537 ว่า มีความผิดฐานนำเข้าและค้ายาเสพติดสั่งจำคุก 6 ปี แต่จำคุก 4 ปี ก่อนถูกเนรเทศกลับประเทศไทย จึงมีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งส.ส.และรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (10) และมีการเข้ายื่นเรื่องให้ประธานสภา ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

สภาเดินหน้าถกพรบ.ประชามติ

เมื่อเวลา 09.40 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมรัฐสภาสมัยวิสามัญ มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม โดยมีสมาชิกลงชื่อเข้าประชุม 289 คน ขณะที่องค์ประชุมต้องมี 368 คน จึงยังไม่สามารถเปิดประชุมได้ เนื่องจากมีส.ส.ภูมิใจไทยทั้งพรรค ส.ส.ปชป. และส.ว.บางส่วนที่ต้องกักตัว ดูอาการติดเชื้อโควิด-19 ทำให้นายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พท. ได้ลุกขึ้นกล่าวตำหนิสมาชิกรัฐสภาที่ไม่มาประชุม ทั้งที่เปิดประชุมสมัยวิสามัญ ประธานตั้งกรรมการสอบสมาชิกรัฐสภาที่ไม่มาร่วมประชุม

กระทั่งเวลา 10.00 น. การประชุมกลับมาเปิดอีกครั้ง โดยมีสมาชิก 377 คน ถือว่าครบองค์ประชุม โดยนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส. บัญรายชื่อ พปชร. ในฐานะประธานวิป รัฐบาล ชี้แจงว่า ตนได้รับแจ้งจากส.ส.พปชร. ขอลาการประชุม เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด จึงขอกักตัว ป้องกันตัวเองและจะไปตรวจโควิด และทราบว่าบางพรรคขอลาประชุมยกพรรค ซึ่งตรงนี้ขออนุญาตเลื่อนการประชุมออกไปก่อน เพื่อให้กฎหมายที่จะพิจารณาต่อไปนี้มีความรอบคอบ และเป็นไปตามรูปแบบของรัฐสภา

ด้านนายชวนชี้แจงว่า เมื่อองค์ประชุมครบแล้ว ประธานต้องทำหน้าที่ ไม่สามารถเลื่อนการประชุมได้ โดยพิจารณาร่างพ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ ที่ค้างอยู่ต่อทันที

ม.10 ฉลุยกำหนดกรอบเวลา

จากนั้นเวลา 10.15 น. เข้าสู่วาระการประชุม โดยนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ ชี้แจงถึงรายละเอียดการแก้ไขเนื้อหามาตรา 10-11 และมาตรา 20/3 ที่คณะกรรมการกฤษฎีกา นำไปปรับปรุงให้สอดคล้องกับเนื้อหามาตรา 9 ที่รัฐสภามีมติให้ปรับปรุงแก้ไขในการประชุมครั้งที่แล้ว โดยมาตรา 10 การให้ทำประชามติภายใน 90-120 วัน นับจากวันที่ประธานรัฐสภาส่งเรื่องการทำประชามติให้นายกฯทราบ ไม่มีสมาชิกคนใดคัดค้าน ที่ประชุมลงมติเห็นชอบด้วยคะแนน 449 ต่อ 0 งดออกเสียง 2

กมธ.ข้างมากย้ำให้ยื่น5หมื่นชื่อ

ส่วนมาตรา 11 เรื่องจำนวนผู้เสนอเข้าชื่อทำประชามติ ที่ร่างกมธ.เสียงข้างมากระบุให้มีประชาชนเข้าชื่อ 5 หมื่นคนขึ้นไป โดยมีกมธ.เสียงข้างน้อย และสมาชิกหลายคน อาทิ นายชูศักดิ์ ศิรินิล กมธ.เสียงข้างน้อย นาย ณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เห็นแย้งว่าเป็นจำนวนมากเกินไป ควรกำหนดแค่ 1 หมื่นคนก็เพียงพอ เพราะไม่ว่าจะเสนอไปกี่รายชื่อ อำนาจชี้ขาดว่าจะทำประชามติหรือไม่ ก็ยังอยู่ที่ครม. ถ้าครม.ไม่เห็นชอบก็ทำประชามติ ไม่ได้ ดังนั้น การให้ประชาชนเข้าชื่อเป็นการริเริ่มทำประชามติเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่า จะสำเร็จผลต้องทำประชามติ จึงควรกำหนดไว้ 1 หมื่นคน น่าจะเหมาะสมแล้ว

พล.อ.ต.เฉลิมชัย เครืองาม กมธ.เสียงข้างมาก ยืนยันว่าตัวเลข 50,000 ชื่อเหมาะสมแล้ว เพราะจากข้อมูลทางวิชาการและข้อมูลจากต่างประเทศ จะเห็นว่าตัวเลขการเข้าชื่อทำประชามติยิ่งน้อย ยิ่งทำให้เกิดความขัดแย้งโดยเฉพาะในชุมชนที่มีความเห็นต่าง เพราะต่างฝ่ายต่างรวบรวมรายชื่อเสนอให้ทำประชามติ ในเรื่องที่ตัวเองไม่เห็นด้วย

ที่ประชุมลงมติเห็นด้วยตามที่กมธ. เสียงข้างมากเสนอมาด้วยคะแนน 347 ต่อ 154 งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนน 2

ใช้เขตจังหวัด-ห้ามพระเณรออกเสียง

ต่อมาที่ประชุม มีมติเห็นชอบกับการแก้ไขของกมธ.ในมาตรา 12 -16 ส่วนมาตรา 17 เกี่ยวกับเขตออกเสียง โดยใช้เขตจังหวัดเป็นเขตออกเสียงประชามติ โดยนายชูศักดิ์ ศิรินิล กมธ.เสียงข้างน้อย และนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.พรรคก้าวไกล อภิปรายเสนอกรณีที่มีการทำประชามติในกรณีอื่นๆ ที่ไม่ใช่รัฐธรรมนูญ ให้ กกต.เป็นผู้กำหนดได้ เพราะแทนที่จะใช้เขตจังหวัด อาจมีบางกรณีที่ไม่จำเป็นต้องใช้เขตจังหวัด ก็ให้ใช้ กกต. เป็นผู้กำหนด สามารถแก้ไขปัญาได้ตรงมากกว่า

นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ประธานกมธ. ชี้แจงว่า กฎหมายฉบับนี้ถูกออกแบบมาสำหรับทำประชามติระดับชาติ ส่วนการทำประชามติระดับพื้นที่หรือระดับท้องถิ่น มีกฎหมายเฉพาะบังคับใช้อยู่ก่อนแล้ว และถือว่าประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจ ประชาชนย่อมมีสิทธิ์ทำประชา มติ และร่างนี้ก็ผ่านการพิจารณาของกมธ.เสียงข้างมาก กมธ.จึงขอยืนตามร่างเดิมให้คงจังหวัดเป็นเขตออกเสียงประชามติ

จากนั้นที่ประชุมลงมติเห็นชอบตามกมธ.เสียงข้างมากด้วยคะแนน 319 ต่อ 124 เสียง งดออกเสียง 2 ไม่ลงคะแนน 4

ขณะที่มาตรา 20 เรื่องการกำหนดบุคคลต้องห้ามออกเสียงประชามติ ที่กมธ.ระบุห้ามพระภิกษุ สามเณร นักพรต นักบวช และผู้อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ผู้ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือโดยคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน ไม่สมประกอบ เป็นผู้ออกเสียงประชามติ แต่กมธ.เสียงข้างน้อยและส.ส.ฝ่ายค้านคัดค้าน ก่อนที่ประชุมจะลงมติเห็นชอบกับเนื้อหาที่กมธ.แก้ไขมาด้วยคะแนน 338 ต่อ 105 งดออกเสียง 3

เวลา 19.30 น. ที่ประชุมได้พิจารณาถึงมาตรา 42/2 ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับวิธีการลงคะแนนออกเสียงประชามติผ่านทางไปรษณีย์ ซึ่งไม่มีผู้สงวนคำแปรญัตติ ทำให้นายพรเพชร วิชิตชลชัย ในฐานะรองประธานรัฐสภา แจ้งขอปิดการประชุม โดยนัดประชุมใหม่ใน วันที่ 8 เม.ย. เวลา 09.30 น.

โปรดเกล้าฯพรฎ.ปิดสภาวิสามัญ

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ปิดประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา พ.ศ. 2564 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่มีการตราพ.ร.ฎ.เรียกประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา พ.ศ. 2564 ตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย. 2564 บัดนี้ สมควรให้ปิดประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภาดังกล่าว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 122 และมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา ตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. 2564

คุกส.ส.เพื่อไทยคดีย้ายผอ.โรงเรียน

เวลา 16.30 น. ศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 จ.ขอนแก่น เผยแพร่เอกสารคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำที่ อท.5./2562 คดีหมายเลขแดงที่ 24/2563 ในคดีโยกย้ายแต่งตั้ง ผอ.โรงเรียนขอนแก่น วิทยายน โดยมิชอบ ซึ่งศาลพิพากษาจำคุก 1 ปี 6 เดือนนายบัลลังก์ อีกส่วนจำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา คดีนี้เป็นที่สนใจของคนในแวดวงการศึกษาในพื้นที่ เพราะนอกจากนายบัลลังก์ คนอื่นเป็นบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 25 มีชื่อเสียงในจังหวัด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน