‘โอเกะ-อาบนวด’ด้วย
ชี้ยาแรงกระทบล้านคน
‘ตู่’ลั่นมีคนติดปิด14วัน
ตจว.ผวาคนพื้นที่สีแดง
ล้อมคอกสถานบันเทิง ศบค.เคาะวันนี้ ปิดผับ-โอเกะ-อาบอบนวดใน 41 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อ จนกว่าจะพ้นช่วงระบาด ให้ภาครัฐทำงานอยู่บ้าน ส่วนสงกรานต์ยังไม่ล็อกดาวน์ หมอทวีศิลป์ชี้แค่นักเที่ยวป่วยไม่กี่ร้อย ใช้ยาแรงกระทบนับล้านคงไม่ยุติธรรม บิ๊กตู่สั่งเอง ผับ-บาร์แพร่โควิดปิดทันที 14 วัน พร้อมให้อำนาจผวจ.สั่งปิดได้ทุกแห่งที่ทำคนป่วย
ตู่สั่งปิดทันทีผับทำติดโควิด
เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ห่วงใยประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในสถานบริการต่างๆ รัฐบาลจึงเน้นมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ในสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายผับ บาร์ คาราโอเกะ โดยเริ่มแล้วตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย. เป็นต้นไป โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.กรณีพบผู้ติดเชื้อในสถานประกอบการแห่งใดแห่งหนึ่ง ให้ปิดสถานประกอบการ นั้นๆ อย่างน้อย 2 สัปดาห์, 2.กรณีพบผู้ติดเชื้อในสถานประกอบการหลายแห่งให้พื้นที่ใกล้เคียงกัน ให้ปิดสถานประกอบการในพื้นที่นั้นๆ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ และ 3.กรณีมีการแพร่ระบาดในสถานประกอบการหลายแห่งในพื้นที่จังหวัดใด ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือ กทม. พิจารณาปิดสถานประกอบการในพื้นที่ทั้งจังหวัด/กทม.อย่างน้อย 2 สัปดาห์
มอบอำนาจผวจ.สั่งปิดได้เลย
โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) ได้เพิ่มความเข้มข้นและความถี่ในการตรวจกำกับดูแล ให้สถานประกอบการดำเนินมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ตามที่กำหนดให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนการจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ยังเปิดดำเนินการได้ตามที่กำหนดในแต่ละพื้นที่ โดยให้เน้นย้ำมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ส่วนกรณีปิดสถานประกอบการที่พบผู้ติดเชื้อ เพื่อจัดระเบียบและระบบป้องกันโรคโควิด-19 อย่างน้อย 2 สัปดาห์ หากพบการแพร่ระบาดในร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหรือกทม. พิจารณาเพิ่มการปิดร้านอาหารที่มีความเสี่ยง ได้แก่ สถานประกอบการที่เป็นห้องแอร์ สถานประกอบการที่ไม่ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ด้วยเช่นกัน
โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า กรณีที่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ให้ผู้ว่าฯ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด มีอำนาจสั่งปิดตลาด สถานที่ประกอบหรือจำหน่ายอาหาร สถานที่ผลิตหรือจำหน่ายเครื่องดื่ม โรงงาน สถานที่ชุมนุมชน โรงมหรสพ สถานศึกษา หรือสถานที่อื่นใดไว้เป็นการชั่วคราว พร้อมทั้งสั่งให้ผู้ที่เป็นหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคติดต่ออันตราย โรคระบาดหยุดการประกอบอาชีพเป็นการชั่วคราว และสั่งห้ามผู้ที่เป็นหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคติดต่ออันตราย หรือโรคระบาดเข้าไปในสถานที่ชุมนุมชน โรงมหรสพ สถานศึกษา หรือสถานที่อื่นใด เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อด้วย
ชงปิดผับบาร์ใน 41 จว.ติดเชื้อ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า เช้าวันนี้ ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (อีโอซี) กระทรวงสาธารณสุข ได้พิจารณาเรื่องการปรับระดับพื้นที่ หรือปรับสีพื้นที่ โดยได้ข้อสรุปและจะเสนอ ศบค.ชุดเล็กว่า จะไม่ปรับระดับพื้นที่ หรือปรับสีพื้นที่ เพราะจะกระทบต่อการวางแผนการเดินทางของประชาชนและผู้ประกอบการที่ไม่เกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็นเรื่องสถานบันเทิงเท่านั้น ดังนั้นมาตรการในช่วงสงกรานต์จึงยังไม่เปลี่ยนแปลง โดยข้อมูลจนถึงวันที่ 7 เม.ย. มีผู้ติดเชื้อที่เกี่ยวข้องสถานบันเทิงเพียง 20 จังหวัด และ 504 รายเท่านั้น ถ้าจะออกมาตรการไปกระทบต่อคนนับล้านคงไม่ยุติธรรมกับคนอื่นๆ การใช้ยาแรงกวาดไปทั้งหมดจึงไม่เหมาะสม ผอ.ศบค.จึงมอบหมายให้เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พูดคุยกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเสนอแนวทางการให้ยาเฉพาะจุดที่มีปัญหา เฉพาะเจาะจงลงไป โดยให้กระทรวงสาธารณสุขทำเสนอขึ้นมา
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ในที่ประชุม ศบค. ชุดเล็ก ทางอีโอซีกระทรวงสาธารณสุขได้เสนอแนวทางผ่านไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศบค.ให้ปิดสถานบริการ สถานประกอบการ ที่มีลักษณะคล้ายสถานที่บริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ และสถานประกอบกิจการอาบ อบ นวด อย่างน้อย เป็นเวลา 14 วัน หรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ซึ่งมาตรการเหล่านี้จะนำเข้าสู่ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กอีกครั้งในวันที่ 9 เม.ย. เพื่อพิจารณาและเสนอ ผอ.ศบค.ลงนาม โดยมาตรการดังกล่าวจะใช้กับจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อในสถานบันเทิงและจังหวัดใหญ่ที่เป็นทางผ่านและมีสถานบันเทิงจำนวนมาก รวมทั้งสิ้น 41 จังหวัด ประกอบด้วย กทม. ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม สมุทรปราการ สมุทร สงคราม สมุทรสาคร พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ลพบุรี นครนายก ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ระนอง ชุมพร นครศรีธรรมราช ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี สงขลา ยะลา นราธิวาส นครราชสีมา ขอนแก่น ชัยภูมิ อุดรธานี บุรีรัมย์ เลย เชียงใหม่ ลำปาง เชียงราย ตาก และเพชรบูรณ์
ภาครัฐเวิร์กฟรอมโฮม
ทั้งนี้ ข้อเสนอที่กล่าวมาเป็นการพิจารณาในเบื้องต้นและจะมีการอนุมัติในภายหลัง แต่ที่เอามาพูดก่อนเพื่อให้ผู้ประกอบการใน 41 จังหวัดได้เตรียมการล่วงหน้า พร้อมกันนี้ ผอ.ศบค.ยังให้หน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยกำหนดแนวทางเวิร์ก ฟรอม โฮม ตามความเหมาะสมในแต่ละกรณี รวมถึงขอความร่วมมือไปยังภาคเอกชนให้พิจารณาแนวทาง ดังกล่าวด้วยเพื่อลดปริมาณผู้ปฏิบัติงานและลดการเดินทาง
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า เราขอความร่วมมือสถานประกอบการอื่นที่ยังไม่ได้รับคำสั่งให้หยุดการดำเนินงานให้เพิ่มความเข้มงวดในมาตรการป้องกันโควิด-19 หรืออาจจะพิจารณาหยุดดำเนินการด้วยความสมัครใจ และขอให้ประชาชนร่วมมือต่อการป้องกันโควิด-19
สำหรับแนวทางในการจัดกิจกรรมช่วงสงกรานต์ การจัดพิธีสรงน้ำพระ รดน้ำขอพรผู้ใหญ่ การเดินทางข้ามจังหวัดยังสามารถไปได้ทุกที่ แต่มีข้อห่วงใยให้ทุกคนยึดถือมาตรการป้องกันโควิด-19 บุคคลที่เคยไปในพื้นที่เสี่ยงควรหลีกเลี่ยงการพบปะผู้สูงอายุ หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมในพื้นที่แคบ และย้ำว่าปีนี้งดการสาดน้ำสงกรานต์ คอนเสิร์ต ปาร์ตี้โฟม ประแป้ง ส่วนกิจกรรมอื่นๆ ให้อยู่ในดุลพินิจคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด
3 จว.คุมเข้มคนจากพื้นที่สีแดง
สำหรับแต่ละจังหวัดผู้ว่าราชการจังหวัด ต่างมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ เชื้อโควิดของจังหวัดตัวเองออกมาแล้ว ตามที่รัฐบาลมอบหมาย อาทิ จ.นครราชสีมา กำหนดให้ผู้ที่มาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดหรือพื้นที่สีแดง ประกอบด้วย กรุงเทพฯ ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และนครปฐม ไม่ว่าจะเข้าพักในหมู่บ้านหรือรีสอร์ต ต้องรายงานตัวกับผู้นำชุมชนภายใน 12 ชั่วโมงและห้ามเดินทางไปสถานที่มีคนแออัด ส่วนผู้ให้บริการห้องพักต้องคัดกรองอาการและวัดไข้ ผู้เข้าพักทุกวันตลอดระยะเวลาที่เข้าพัก รวมทั้งบันทึกรายละเอียดการเดินทางส่งสำนักงานสาธารณสุข ถ้ามาจากพื้นที่สีแดงต้องแยกโซนที่พักและรับประทานอาหาร ผู้ที่เดินทางมาต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิดและสแกนคิวอาร์โค้ดไทยชนะ หากพบว่า ผู้มาจากพื้นที่สีแดงไม่ปฏิบัติตามให้ดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
ขณะที่จ.ขอนแก่น กำหนดให้ผู้ที่มาจากพื้นที่สีแดงทั้ง 5 จังหวัด ต้องสแกนคิวอาร์โค้ดของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น เพื่อรายงานตัว และกักตัว 14 วันที่บ้านตัวเองทันทีโดยไม่มีการละเว้น ส่วนประชาชนที่เดินทางมาจากพื้นที่อื่นๆ เมื่อกลับเข้าที่พักอาศัยให้รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานในพื้นที่ ส่วนของการเดินทางออกนอกพื้นที่นั้นทางจังหวัดไม่ได้ห้ามแต่อย่างใด
เช่นเดียวกับจ.เชียงราย ที่มีคำสั่งให้ผู้มาจาก 5 จังหวัดพื้นที่เสี่ยงต้องกักตัว 14 วัน หากเป็นผู้เดินทางกลับมาภูมิลำเนาให้แจ้งผู้นำชุมชนและอสม.ติดตามตัวอย่างใกล้ชิด และให้หลีกเลี่ยงร่วมกิจกรรมรวมกลุ่มคน การจัดเลี้ยงสังสรรค์ รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด หากผู้ใดหรือสถานประกอบการใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรบไม่เกิน 20,000 บาท ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ ปี 2557 ด้วย
ภูเก็ตปิดผับบาร์สงกรานต์
ส่วนที่จ.พิษณุโลก กำหนดให้สถานบันเทิงเปิดได้ถึงเวลา 24.00 น. และห้ามผู้มาจาก 5 จังหวัดสีแดงเข้าใช้บริการโดยเด็ดขาด โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.
ที่จ.ภูเก็ต นายณรงค์ วุ่นซิ้น ผวจ.ภูเก็ต กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อภูเก็ต มีมติสั่งปิดสถานบันเทิง ประเภท สถานบริการ ผับ บาร์ ที่พบการแพร่ระบาดของ โควิด 3 แห่ง เป็นเวลา 14 วันตั้งแต่ 8-21 เม.ย. ประกอบด้วย 1.ร้านคาเฟ่ เดลมา ม.3 ต.กมลา 2.ร้านอิลลูชั่น ถ.บางลา ต.ป่าตอง และ 3.ร้านเชลเทอ ถ.บางลา ต.ป่าตอง พร้อมให้ทำความสะอาดสถานที่ทั้งหมด นอกจากนี้ยังสั่งปิดสถานบันเทิงทั่วทั้งจังหวัดภูเก็ต เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 9-18 เม.ย. เนื่องจากในช่วงดังกล่าวจะมีนักท่องเที่ยวคนไทยจากกรุงเทพฯ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมาก เกรงว่าสถานบันเทิงจะกลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อเหมือนที่เป็นอยู่ในขณะนี้
