สองก๊ก‘4ว-4ช’ชิงเลขาฯ
‘แฮงค์’ชิ่ง-อ้างยังกักตัว

จับตา พปชร.นัดประชุมใหญ่ 18 เม.ย. ‘ป้อม’ยันไม่เลื่อน เตรียมปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรค ก๊วน ‘4ว.-4ช.’ เปิดศึกชิงเก้าอี้เลขาฯพรรค ‘อนุชา’ อ้างร่วมประชุมไม่ได้ ติดกักตัวโควิด แกนนำหลายคนก็เช่นกัน เพื่อไทยงัดกฎหมายทวงถามจริยธรรม รัฐมนตรี-บิ๊กข้าราชการ ต้นตอแพร่โควิด แต่ยังลอยนวล ปชป.แนะทุกพรรคร่วมมือ เร่งผ่านร่างพ.ร.บ.ประชามติ ยันจุดยืน 3 พรรคร่วมรัฐบาล ยื่นแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราให้ทันสภาสมัยสามัญ แนะ ‘ไพบูลย์’ คุยกับคนในพรรคให้เป็นเอกภาพก่อน ก้าวไกลชี้ปัญหารุม เชื่อรัฐบาลอยู่ไม่ครบเทอม

ป้อมยังไม่เลื่อนถกใหญ่พปชร.

วันที่ 12 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งมีกำหนดการจัดประชุมใหญ่ฯในวันที่ 18 เม.ย.นี้. ที่โรงแรมรามา การ์เด้นส์ ล่าสุดพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยังคงให้เป็นไปตามกำหนดที่วางไว้โดยยังไม่เลื่อนการประชุมออกไป แม้จะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งบางพรรคการเมืองได้แจ้งคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อขอเลื่อนออกไป

อนุชาอ้างแกนนำไม่พร้อม

ด้าน นายอนุชา นาคาศัย รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี เลขาฯพปชร. เผยว่า ขณะนี้การประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคพปชร. ยังเป็นไปตามที่กำหนดไว้วันที่ 18 เม.ย.ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่เชื่อว่าจะมีความชัดเจนภายใน 2-3 วันนี้หรือหลังจากเทศกาลสงกรานต์ ว่าจะเลื่อนหรือไม่เลื่อนการประชุม ทั้งนี้หากพรรคไม่เลื่อนการประชุม ตนก็คงไปร่วมประชุมด้วยไม่ได้เนื่องจากอยู่ระหว่างการกักตัว 14 วัน และมีสมาชิกพรรคหลายคนก็อยู่ในช่วงของการกักตัวเช่นกัน ดังนั้นต้องรอความชัดเจนหลังจากเทศกาลสงกรานต์ไปแล้วอีกครั้งหนึ่งว่าจะเลื่อนหรือไม่

แหล่งข่าวเผยว่า การประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2564 วันที่ 18 เม.ย.นี้ ที่โรงแรมรามา การ์เด้นส์ ระเบียบวาระการประชุม คือเรื่องที่ประธานแจ้งที่ประชุมทราบ เรื่องรับรองรายงานการประชุม ครั้งที่ 2/2563 และเรื่องเพื่อพิจารณา ได้แก่ รายงานการดำเนินกิจการของพรรคในรอบปี 2563 และรายงานงบการเงินของพรรค ประจำปี 2563 โดยเป็นงานธุรการพรรคการเมืองตามปกติที่ต้องรายงานต่อ กกต.ไม่มีวาระเรื่องการปรับโครงสร้างพรรคแต่อย่างใด

อีกทั้ง จะมีแกนนำพรรคหลายคนที่ต้องลาประชุมเพื่อกักตัว เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงสัมผัสผู้ติดเชื้อโควิด-19 อาทิ นายอนุชา นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเศรษฐกิจและสังคม นายไผ่ ลิกค์ กก.บห.พรรค นาย อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ

จับตาศึกชิงเลขาฯพรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมใหญ่ พปชร. 18 เม.ย. ถูกจับตา เพราะนอกจากจะมีการปรับโครงสร้างกก.บห.พรรค เพื่อทดแทน นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ที่ถูกศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกในคดีการชุมนุม กปปส. จนทำให้พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี และหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.แล้ว ที่ประชุมพรรคอาจพิจารณาเปลี่ยนแปลงตำแหน่งเลขาธิการพรรค

และที่ผ่านมามีความเคลื่อนไหวของกลุ่ม ‘4 ว’ และ ‘4 ช’ เพื่อแย่งเก้าอี้ดังกล่าว ซึ่งกลุ่ม 4 ช นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ที่จะเข้ามาเสียบเก้าอี้เลขาฯ พรรค ร่วมด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง, นางนฤมล ภิญโญสันวัฒน์ รมช.แรงงาน และนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม ขณะที่กลุ่ม 4 ว. นำโดย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม, นายอนุชา และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ที่ต้องการรักษาเก้าอี้เลขาฯพรรคของนายอนุชาไว้

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร เคยปฏิเสธข่าวการแบ่งกลุ่มแย่งเก้าอี้ในพรรคว่าไม่มี แต่ก็ไม่ยืนยันว่าจะมีการเปลี่ยนตัวเลขาฯพรรคหรือไม่ เพียงแต่ระบุว่าขึ้นอยู่กับสมาชิกพรรค

ปชป.จี้เร่งผ่านพรบ.ประชามติ

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช ประธานวิปพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาล 3 พรรค ว่า 3 พรรคคือประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทยและชาติไทยพัฒนา ยังยืนยันหลักการเดิมที่จะร่วมกันเสนอแก้ไขรายมาตราให้ทันตอนเปิดสมัยประชุมสภาสมัยสามัญนี้ ช่วงนี้สภาหยุดยาวแต่ละพรรคจะไปร่างของแต่ละพรรค แล้วมาร่วมปรึกษาหารือกันว่าประเด็นใดบ้างที่สอดคล้องกันมากที่สุด เพื่อร่วมกันลงชื่อและจัดพิมพ์ร่างของ 3 พรรคร่วมเพื่อเสนอต่อประธานรัฐสภา โดยจะหารือกันอย่างเป็นทางการอีกครั้งก่อนเปิดประชุมสภาเดือน พ.ค.

ขณะนี้เราเห็นว่าควรร่งรัดให้ ร่างพ.ร.บ. ออกเสียงประชามติ ที่ค้างการพิจารณาของรัฐสภาให้ผ่านโดยเร็ว เพราะมาตราหลักๆ ก็ผ่านไปแล้ว เหลืออีก 10 กว่ามาตราเท่านั้น ดังนั้น เมื่อเปิดสมัยประชุมสภาสามัญมาแล้วก็ควรเอาร่าง พ.ร.บ.ประชามติ มาพิจารณาให้แล้วเสร็จ ถ้ามีเรื่องอะไรที่ต้องทำประชามติก็สามารถทำได้ทันที จึงอยากเรียกร้องให้ทุกพรรคร่วมมือกันพิจารณา และการพิจารณาที่ผ่านมาควรจะผ่านแล้วไม่ผ่านประชาชนยังเห็นใจ เพราะไม่อยากให้เกิดโควิด-19 เป็น ซูเปอร์สเปรด เดอร์ในสภา และหากไม่ผ่านอีกก็อาจถูกมองในแง่ลบได้

สอนไพบูลย์-ทำพปชร.เป็นเอกภาพ

เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุการแก้ไขรัฐธรรมนูญน่าจะใช้เวลาหลายปี นายชินวรณ์กล่าวว่า นายไพบูลย์ยังมีแนวคิดเดิม ที่จะไม่เห็นด้วยที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะกระทบต่ออำนาจเดิม หรือประเด็นที่ยังไม่เป็นประชาธิปไตย วันนี้สถานการณ์และบริบททางการเมืองเปลี่ยนไปแล้ว นายไพบูลย์ ซึ่งเป็นรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐด้วย ควรไปแลกเปลี่ยนแนวคิดคนในพรรคเพื่อให้เป็นเอกภาพก่อน เพราะเป็นพรรคแรกที่เสนอเข้าสภา เพื่อจะมาร่วมมือกันทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตย และถอดสลักเปิดประตูการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามว่าส่วนตัวคิดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ นายชินวรณ์กล่าวว่า คิดว่าสมาชิกรัฐสภาต้องร่วมมือกันเพื่อให้การแก้ไขเกิดขึ้นให้รัฐบาลชุดนี้ ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถตอบคำถามประชาชนได้ ที่สำคัญหากมีการยุบสภา หรือมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง หากไม่เปลี่ยนกติกายังใช้กติกาเดิมก็ทำให้การเมืองอยู่ในวังวนเดิมอีก ทุกคนก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน

สว.ชี้ไม่มีเหตุผลต้องแก้ทั้งฉบับ

นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. กล่าวกรณีฝ่ายค้านระบุแก้รัฐธรรมนูญไม่ยากหากส.ว.ให้ความร่วมมือ ว่า ไม่เกี่ยวกับการให้หรือไม่ให้ความร่วมมือ แต่เป็นการดูว่าเสนอเรื่องใดประเด็นใด และประเด็นที่เสนอแก้ได้จริงหรือไม่ ส.ว.ต้องดูอีกทีแก้แล้วได้ประโยชน์อย่างไร ทุกอย่างอยู่ที่เหตุผล แต่การแก้ทั้งฉบับต้องกลับไปถามอีกว่าที่จะแก้มีปัญหาอะไร แก้ทั้งฉบับทำได้หรือไม่และต้องไปถามประชาชนก่อน เสนอแก้ทั้งฉบับแต่ไม่รู้ว่าจะแก้อะไร หรือแก้ไปในทิศทางไหน แบบนี้อย่างไรก็ไม่ผ่าน ซึ่งไม่เกี่ยวกับการให้หรือไม่ให้ความร่วมมือจากส.ว.แต่เป็นการขอดูหลักการเหตุผล ส.ส.ที่มาจากประชาชนถ้าต้องการแก้จริงก็มีอำนาจ มีสิทธิ์อยู่แล้ว แต่บางทีไม่ได้มีปัญหาแต่ไม่ชอบ เสนอจะตัดอำนาจส.ว.บ้าง เสนอเช่นนี้ไม่เจตนาต้องการแก้ แต่เสนอเพื่อให้เกิดความขัดแย้ง

ตอนนี้กลับไปตั้งหลักดีๆ แล้วดูว่าอะไรที่เป็นปัญหาหรือเป็นเรื่องที่ตนเองต้องการจริงๆ เช่น บัตรเลือกตั้ง หรือ ส.ส.ควรมีคนเดียวเขตเดียวอยู่หรือไม่ ซึ่งตนมองว่าเขตเดียวเบอร์เดียวไม่เวิร์กสำหรับประเทศไทย ใครมีเงินมากก็ได้ไป กลายเป็นว่าเข้ามาถอนทุน ในภาวะตอนนี้ยังไม่มีเหตุผลต้องแก้ทั้งฉบับ ประโยชน์ที่จะได้รับมันยังไม่ใช่ และกลายเป็นการเอาชนะคะคานด้วยวาทกรรม รัฐธรรมนูญมาจากเผด็จการ มาจากคสช. ท่องกันเป็นนกแก้วนกขุนทอง

ชวนลงชื่อแก้รธน.ทางไปรษณีย์

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้ก่อตั้งกลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า แกนนำกลุ่ม Re-Solution กล่าวถึงการรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา “ล่าล้านชื่อรื้อระบอบประยุทธ์” ทั่วประเทศ ว่า หลังจากเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 6 เม.ย. เราเคยมีแผนไปตั้งโต๊ะจัดกิจกรรมตามจังหวัดตลอดช่วงสงกรานต์ แต่ต้องยกเลิกทั้งหมดไปก่อน จะพักการเดินสายกิจกรรมลงพื้นที่ชั่วคราว แต่จะเดินต่อเรื่องการรณรงค์ให้คนส่งไปรษณีย์เข้ามาเเทน ขณะนี้ยังทยอยส่งชื่อเข้ามาเรื่อยๆ ขอเชิญชวนทุกคนไม่ว่าใครจะอยู่พรรคใด ชอบหรือไม่ชอบพรรคไหน ข้อเสนอเราเป็นข้อเสนอที่ใครอยากได้รัฐธรรมนูญที่เป็นธรรม เป็นกลาง สามารถมาลงชื่อเพื่อให้ได้รัฐธรรมนูญฉบับที่เป็นธรรม

ก้าวไกลเตือนรบ.ไม่ครบเทอม

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ ที่มีมวลชนนัดเคลื่อนไหว ว่า หลายปัญหารุมเร้ารัฐบาลเหมือนฝีใกล้แตก ความไม่พอใจของประชาชนพุ่งสูงโดยเฉพาะเรื่องโควิด-19 ที่มีคนของรัฐบาลเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของคลัสเตอร์ เรื่องโควิดจะชี้ขาดรัฐบาลหากบริหารจัดการไม่ได้ เรื่อง โควิดจะไปผสมกับปัญหาเดิมๆ ก่อนการระบาดระลอกใหม่ เศรษฐกิจก็น่าเป็นห่วงอยู่แล้ว บวกกับความไม่พอใจทางการเมือง คือท่าทีของพล.อ.ประยุทธ์ ชัดเจนว่าไม่ต้องการให้มีส.ส.ร.มาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

เมื่อหลายอย่างรุมเร้าอาจนำไปสู่การเปลี่ยนรัฐบาลที่เร็วขึ้นได้ บรรดาพรรคร่วมรัฐบาลหลังจากนี้อาจเริ่มเห็นการเว้นระยะห่าง ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลกับนายกฯ กับพรรคพลังประชารัฐ เช่น เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เห็นชัดพรรคร่วม 3 พรรค เริ่มเว้นระยะห่างออกจากท่าทีของพลังประชารัฐ เพราะรู้ดีว่าถึงจุดหนึ่งคงไม่สามารถแบก พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นภาระพรรคจนกระทบความนิยมทางการเมืองในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า ทั้งหมดทั้งมวล คิดว่ารัฐบาลไม่น่าจะอยู่ครบเทอม และจุดจบของรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารก็อาจซ้ำรอยเดิม ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ฟางเส้นสุดท้ายของประชาชนไม่รู้จะอดทนได้นานแค่ไหน แต่รูปธรรมมีอะไรที่คาดไม่ถึงมาเป็นตัวกระตุ้นให้ประชาชนออกมาบอกว่า ยอมไม่ได้อีกแล้ว

พท.จี้ถามจริยธรรมรมต.-ขรก.

น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การระบาดของโควิด-19 คลัสเตอร์ทองหล่อแพร่กระจายไปหลายจังหวัด สาเหตุส่วนหนึ่งเพราะผู้มีอำนาจหละหลวม ไม่ทำตัวให้เป็นแบบอย่าง การสั่งจำคุกผู้จัดการคลับย่านทองหล่อ 2 เดือนเป็นเพียงการแก้ปัญหาปลายเหตุ แต่ยังหาผู้กระทำผิดทั้งเจ้าของผับตัวจริงและเจ้าหน้าที่รัฐที่ปล่อยปละละเลยให้เปิดบริการเกินเวลาไม่ได้ ทั้งที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ เคยอ้างว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญปี 60 เพื่อให้นักการเมืองเป็นคนดี มีความซื่อสัตย์สุจริต ขณะเดียวกันยังมี พ.ร.บ.มาตรฐานจริยธรรม พ.ศ.2562 เพื่อเป็นหลักเกณฑ์การประพฤติปฏิบัติอย่างมีคุณธรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ข้าราชการ พนักงานราชการ ครม. ส.ว. ส.ส และยังมี พ.ร.บ.มาตรฐานจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ พ.ศ.2561 ซึ่งบังคับใช้ครอบคลุม ส.ส. ส.ว. และ ครม. ในหมวด 3 ข้อ 21 ระบุว่า ต้องยึดมั่นในความถูกต้องชอบธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ และปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทางราชการ

แต่นักการเมืองและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่กลับทำตรงข้าม ไปสถานบันเทิงที่ไม่มีการควบคุมโรคที่ดีพอ จนเกิดการระบาดอีกครั้ง สร้างความเสียหายให้กับประชาชน คนตกงานเพิ่ม ท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์เงียบสงัด รายได้หดหาย กลับไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ยังลอยนวลพ้นผิด ตอกย้ำอีกครั้งว่ากฎหมายถูกเลือกใช้กับประชาชนตัวเล็กตัวน้อย และฝั่งตรงข้ามรัฐบาลใช่หรือไม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน