สาหัส3เหตุสะลิงขาด
อุบัติเหตุ4วันตาย152

เปิดสถิติ 4 วันดับ 152 เจ็บ 1,494 คน ส่งคุมประพฤติ 2,095 คดี ปากน้ำ-บุรีรัมย์- ชัยภูมิท็อปทรีคดีเมาขับ ผู้คนเริ่มทยอยกลับกรุงแล้ว ตร.ขอนแก่นแจกข้าวเหนียวมะม่วงแก้หิว กระเช้าขึ้นวัดที่พัทลุง สะลิงขาดร่วงกระแทกพื้น แม่เฒ่าดับ 2 สาหัส 3 ตร.ขอนแก่นเผยสาเหตุทัวร์ไฟไหม้ 5 ศพ ญาติเหยื่อร่ำไห้ทำพิธีเชิญวิญญาณ เผยด.ญ. 6 ขวบเสียชีวิตพร้อมแม่ในวันเกิดตัวเอง โคราชชาวบ้าน ก่อเจดีย์ทรายเป็นสิริมงคล ร.พ.มะเร็งลพบุรี จัดทำสงกรานต์บุญวิถีใหม่

4 วันดับ 152 เจ็บ 1,494 คน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 14 เม.ย. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นาย อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ฐานะประธานคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2564 ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 13 เม.ย. ซึ่งเป็นวันที่ 4 ของการรณรงค์ “สงกรานต์สุขใจ ขับขี่ปลอดภัย ห่างไกลโควิด” เกิดอุบัติเหตุ 376 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 29 ราย ผู้บาดเจ็บ 392 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 36.44 ขับรถเร็วร้อยละ 28.72 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 86.86 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 61.70 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 41.76 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 34.57 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดได้แก่ ช่วงเวลา 16.01-20.00 น. ร้อยละ 31.91 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 27.32 ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,913 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 59,420 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 350,921 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 70,130 ราย มีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 18,950 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 17,530 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (16 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพฯ กาฬสินธุ์ (จังหวัดละ 3 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (17 คน)

สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 4 วันของการรณรงค์ (10-13 เม.ย.) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,465 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 152 ราย ผู้บาดเจ็บ รวม 1,494 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 20 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ นครศรีธรรมราช (65 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ ขอนแก่น (8 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (69 คน)

ปากน้ำ-บุรีรัมย์-ชัยภูมิท็อปเมาขับ

ด้านนายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติกล่าวว่า สถิติคดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติวันที่ 4 ของการคุมเข้มในวันสงกรานต์ (13 เมษายน 2564) ซึ่งศาลปิดทำการหลายพื้นที่ ทำให้สถิติคดีเข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติ เพียง 160 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถในขณะเมาสุรา 159 คดี คิดเป็นร้อยละ 99.38 คดีขับเสพ 1 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.62 ในส่วนของการติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว หรือกำไล EM กับผู้กระทำผิดเมาแล้วขับไม่มีเพิ่มเติม ยังคงตัวเลขสะสม 4 วันอยู่ที่ 8 ราย โดยมีเงื่อนไขห้ามออกจากที่พักอาศัย ในช่วงเวลาตั้งแต่ 22.00-04.00 น. เป็นระยะเวลา 15 วัน ทั้งนี้ สำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศเฝ้าติดตามและควบคุมดูแลผู้กระทำผิดตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านศูนย์ควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (Electronic Monitoring Control Center – EMCC) พร้อมประสานเครือข่ายภาคประชาชน อาสาสมัครคุมประพฤติ เตรียมพร้อมลงพื้นที่หากมีการผิดเงื่อนไขคุมความประพฤติ

สำหรับยอดสะสมสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมประพฤติในช่วง 4 วันที่มีการควบคุมเข้มงวด (10-13 เมษายน 2564) มีจำนวนทั้งสิ้น 2,095 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถในขณะเมาสุรา 2,084 คดี คิดเป็นร้อยละ 99.47 คดีขับเสพ 11 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.53

จังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถขณะเมาสุราสะสมสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ อันดับ 1 ยังคงเป็นจังหวัดสมุทรปราการ 154 คดี อันดับสอง จังหวัดบุรีรัมย์ 144 คดี และ อันดับสาม จังหวัดชัยภูมิ 140 คดี

สะลิงขาด – เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งช่วยเหลือผู้โดยสารกระเช้าขึ้นที่สูงวัดอุทัยธรรมาราม ต.นาโหนด อ.เมือง จ.พัทลุง หลังเกิดอุบัติเหตุสะลิงขาดร่วงตกลงมาด้านล่าง กลางงานบุญสงกรานต์ มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 3 ราย เมื่อ 14 เม.ย.

พัทลุงสลดกระเช้าร่วงดับ2เจ็บ 3

เมื่อเวลา 10.45 น. วันเดียวกัน ร.ต.อ. ศุภชัย หมื่นอักษร ร้อยเวร สภ.เมืองพัทลุง รับแจ้งจากพลเมืองดี มีอุบัติเหตุกระเช้าโดยสารของวัดอุทัยธรรมาราม ต.นาโหนด อ.เมือง ขาด ทำให้ผู้ที่อยู่ในกระเช้าตกลงมายังด้านล่างได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยพัทลุง เจ้าหน้าที่ชุดกู้ชีพ เทศบาลตำบลนาโหนด ในที่เกิดเหตุ บริเวณจุดขึ้นเนินควนของวัด ที่เป็นกระเช้าแขวนบนลวดสะลิงติดกับบันไดทางขึ้น เจ้าหน้าที่พบลวดสะลิงขาดกระเช้าไหลตกลงมากระแทกพื้นด้านล่างทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ 5 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งช่วยคนเจ็บที่เป็นหญิง 2 ราย และชาย 1 ราย นำออกจากกระเช้าปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำทั้ง 3 รายส่งโรงพยาบาลพัทลุง ซึ่งผู้ได้รับบาดเจ็บเป็น ผู้สูงอายุทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ทราบชื่อคือนาง จรรยา เวชรังสี อายุ 73 ปี และนางปิ่น รัตนะอุบล อายุ 83 ปี พบมีบาดแผลร่องรอยการกระแทกจนเสียชีวิต

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บไปร่วมงานสงกรานต์ที่วัดอุทัยธรรมารามหรือวัดควนนาโหนด จัดขึ้นทุกปี ในวันที่ 14 เม.ย. บริเวณยอดควนสูง โดยมีบันไดและกระเช้าสะลิงขึ้นเป็นระยะทางกว่า 300 เมตร กิจกรรมทุกปีได้จัดให้มีพิธีแก้บนทำบุญตายาย ตาหมอโล่ ที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชาวบ้านในละแวกนั้นเคารพนับถือ โดยการรำมโนราห์ถวายเพื่อให้ช่วยปกป้องและคุ้มครอง ช่วงเช้าชาวบ้านเดินทางขึ้นทางกระเช้าอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะ ผู้สูงอายุ จนกระทั่งมีการแจ้งเตือนว่าระวังกระเช้าที่ใช้งานมานานหลายปีสะลิงจะขาด แต่ก็ยังมีผู้ใช้ไม่ขาดสายจนสุดท้ายสะลิงก็ ขาดลง จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ดังกล่าว

ตร.เผยสาเหตุทัวร์ไฟไหม้

จากอุบัติเหตุสลดรถทัวร์โดยสารของบริษัท 407 พัฒนา จำกัด รับผู้โดยสารมาเต็มคันรถรวมพนักงานของรถจำนวน 33 คน โดยมีจุดหมายปลายทางที่กรุงเทพฯ แต่เกิดเหตุการณ์ล้อรถด้านหลังฝั่งขวาระเบิด จนเกิดประกายไฟลุกไหม้รถวอดทั้งคัน ในพื้นที่ อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น เมื่อกลางดึกวันที่ 13 เม.ย.2564 ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตคาซากรถ 5 คน ได้รับบาดเจ็บ 12 คน และหนีออกมาได้ 16 คน ขณะที่พนักงานขับรถหลังจากเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ควบคุมตัวมาตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์และสารเสพติดซึ่งร่างกายปกติ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา “กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” โดยเบื้องต้นทราบชื่อผู้เสียชีวิตยืนยันแล้วก่อนหน้านี้ 1 ราย คือ น.ส.สุกัญญา เกดหอม อายุ 20 ปี ชาว ต.เมืองเพียง อ.กุดจับ จ.อุดรธานี ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

พ.ต.อ.ถนอมศักดิ์ โสภา ผกก.สภ.บ้านแฮด เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางคดีพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำคนขับรถ และแจ้งข้อหาเรียบร้อยแล้ว และไม่ให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน จึงได้ส่งตัวส่งฟ้องฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่นแล้วเช่นกัน ซึ่งการประกันตัว หรือการปล่อยตัวชั่วคราวก็แล้วแต่ศาลจะพิจารณา

ทางด้านของพนักงานขับรถได้ยื่นขอประกันตัวที่ชั้นศาล โดยศาลอนุญาตให้ประกันตัว

ต่อมาพ.ต.อ.ถนอมศักดิ์ โสภา ผกก.สภ.บ้านแฮด เผยว่าว่า สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว มีข้อสรุปจากทางเจ้าหน้าที่วิศวกรกรมการขนส่งทางบกส่งรายละเอียดมายังพนักงานสอบสวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยพบว่า เกิดการขัดข้องที่ระบบเบรกของรถ ทำให้เบรกค้างจนเกิดความร้อนทำให้ยางระเบิดขึ้น พอยางระเบิด เศษยางเช่นพวกหน้ายางที่มีความร้อนกระเด็นไปโดนวาล์วท่อแก๊ส NGV ที่มีอยู่ภายในรถจำนวนมากเนื่องจากรถทัวร์โดยสารคันดังกล่าวใช้ทั้งระบบแก๊สและน้ำมัน ทำให้แก๊สรั่วออกมาในอากาศเกิดการติดไฟขึ้นจนเป็นสาเหตุทำให้เกิดไฟไหม้อย่างรวดเร็ว

ในส่วนของรถจักรยานยนต์ที่อยู่ภายในรถทัวร์นั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเกิดสาเหตุของอุบัติเหตุสลดแต่อย่างใด อีกทั้งรถจักรยานยนต์จอดอยู่บริเวณโซนด้านหน้าห่างจากบริเวณที่เกิดไฟไหม้ซึ่งอยู่วงท้ายของรถ ซึ่งในส่วนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะต้องทำการตรวจสอบต่อไปอีกในเรื่องของการเกิดระบบเบรกขัดข้อง ว่าเกิดจากสาเหตุใดที่ทำให้เบรกขัดข้องจนเป็นเหตุการณ์สลดดังกล่าว ในส่วนประเด็นการนำรถจักรยานยนต์ขึ้นมาบนรถนั้น ทางขนส่งจังหวัดขอนแก่นยืนยันว่าสามารถทำได้ หากในรถที่ว่างก็ให้คิดค่าใช้จ่ายเป็นสัมภาระไปตามระเบียบของทางบริษัทรถที่ให้บริการ

ตร.เผยชื่อเหยื่อทั้ง 5 ราย

สำหรับศพผู้เสียชีวิตที่อยู่ที่นิติเวช ร.พ. ศรีนครินทร์ มีทั้งสิ้น 5 รายนั้น ขณะนี้ทราบชื่อหมดแล้ว ประกอบด้วย น.ส.สุกัลยา เกษหอม อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 ม.14 ต.เมืองเพีย อ.กุดจับ จ.อุดรธานี, นายสหรัฐ อ้อมแก้ว อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 158/2 ม.4 ต.ม่วงไข่ อ.พังโคน จ.สกลนคร, น.ส.ปรางค์ทอง กาล้อม อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 ม.5 ต.คำบง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี, ด.ญ.ปวรรัตน์ กาล้อม อายุ 6 ขวบ บุตรสาว อยู่บ้านเลขที่ 64 ม.6 ต.ซีวาน อ.พิมาย จ.นครราชสีมา และน.ส.หนึ่งฤดี ปิ่นแคน อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 ม.4 ต.บังกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ โดยญาติสามารถติดต่อขอรับศพได้ที่นิติเวช ร.พ.ศรีนครินทร์ แต่ทุกศพต้องมีการตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบอัตลักษณ์บุคคลที่ตรงกันก่อนจึงจะรับออกไปได้ ขณะนี้ยังไม่มีการรับศพออกไป และหากญาติต้องการเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตาย ให้ประสานมาที่สภ.บ้านแฮดได้ทันที

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้บังคับบัญชากำชับให้มีการทำงานอย่างละเอียด รอบคอบ เพื่อช่วยเหลือครอบครัวคนเจ็บ คนตาย ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ คปภ. ได้มาตรวจสอบ เพื่อเตรียมทำเรื่องชดเชยสินไหมให้กับผู้ประสบเหตุจากรถทัวร์คันดังกล่าว ซึ่งพบว่ารถทัวร์คันเกิดเหตุทำประกันภัยกับบริษัทวิริยะประกันภัยวงเงิน 1,500,000 บาท, พ.ร.บ.รถยนต์ 500,000 บาท ประกันภัยชั้น 1 และประกันภัยผู้โดยสารที่นั่งละ 100,000 บาท และหากทางเจ้าของรถทัวร์ บริษัทรถทัวร์ ต้องการเยียวยาหรือเข้าเยี่ยมคนเจ็บ ก็สามารถทำได้เช่นกัน

สลด 6 ขวบดับในวันเกิด

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนาย วรพงษ์ เสริมทรง อายุ 44 ปี ว่าเป็นพี่เขยของ น.ส.ปรางค์ทอง กาล้อม อายุ 24 ปี และยังเป็นลุงของ ด.ญ.ปวรรัตน์ กาล้อม อายุ 6 ขวบ ที่เสียชีวิต ก่อนเปิดเผยว่าในที่ 13 เม.ย. ยังเป็นวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 6 ขวบของ ด.ญ.ปวรรัตน์ อีกด้วย

นายวรพงษ์เผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า ช่วงก่อนสงกรานต์ ตนเองและภรรยาซึ่งเป็นพี่สาวคนตายไปรับ 2 แม่ลูกจาก อ.พิมาย จ.นครราชสีมา กลับมาเที่ยวพบปะครอบครัวที่บ้านเกิด ที่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี กระทั่งในวันที่ 12 เม.ย.ทั้งคู่ต้องเดินทางกลับไปหาอดีตสามีที่ อ.พิมาย เพื่อจะร่วมกันจัดงานวันคล้ายวันเกิดให้กับ ด.ญ.ปวรรัตน์ ซึ่งมีอายุครบ 6 ขวบในวันที่ 13 เม.ย. ขณะนี้อดีตสามีของ ผู้ตายและเป็นพ่อของ ด.ญ.ปวรรัตน์ได้เดินทางมาที่ขอนแก่นเพื่อจะขอตรวจดีเอ็นเอแล้ว

น.ส.ยุพาวรรณ กาล้อม อายุ 26 ปี พี่สาวของน.ส.ปรางค์ทอง และเป็นป้าของ ด.ญ. ปวรรัตน์กล่าวว่า ครั้งแรกที่เห็นข่าวในใจไม่อยากเชื่อว่าเป็นน้องสาว ไม่อยากจะให้เกิดขึ้น กับน้องสาว ภาวนาว่าขอให้กลับถึงบ้านที่อ.พิมายแล้ว พอเช็กเบอร์โทร.เข้าก็ไม่มีเบอร์น้องสาวโทร.มา เพราะน้องสาวบอกว่าลืมสายชาร์จไว้ที่รถตนเอง อาจจะแบตฯ หมดหรือลืมชาร์จ จึงเช็กไปที่บริษัท 407 พัฒนา โดยบริษัทบอกว่าน้องสาวนั่งอยู่ชั้นสอง เบาะหลังด้านขวา

“วินาทีนั้น 80% คาดว่าเป็นน้องสาวกับหลานของเรา อาจจะเสียชีวิตบนรถทัวร์เพราะเกิดไฟไหม้และใกล้จุดที่ทั้งคู่นั่ง ตอนนี้มั่นใจว่าเป็นศพของน้องและหลาน แต่ยังขอรับศพกลับไม่ได้เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่บอกให้รอวันทำการคือวันที่ 19 เม.ย. แต่ทุกคนก็ต้องกลับไปทำงานเพราะลาต่อจากวันหยุดยาวไม่ได้ จึงอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยในเรื่องนี้เพื่อให้ทุกคนที่เดินทางมาจากอุดรธานีและญาติๆ ทุกคนได้ร่วมกันส่งดวงวิญญาณน้องไปสู่สุคติ” น.ส.ยุพาวรรณกล่าว

ทั้งนี้ญาติของ 2 แม่ลูก เตรียมทำพิธีเชิญวิญญาณออกจากรถทัวร์อีกด้วย

เชิญวิญญาณ – ครอบครัวทำพิธีเชิญวิญญาณ น.ส.ปรางค์ทอง และด.ญ.ปวรรัตน์ กาล้อม สองแม่ลูกชาวจังหวัดอุดรธานี เหยื่อรถทัวร์ไฟไหม้ย่างสด 5 ศพ บริเวณริมถนนมิตรภาพ ตรงป้ายเขต อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 14 เม.ย.

ญาติทำพิธีเชิญวิญญาณ

ต่อมานางเสน่ห์ บุญประมวล พร้อมด้วย นายธนาดล บุญประมวล ย่าและพ่อ ด.ญ. ปวรรัตน์ พร้อมญาติๆ ที่เดินทางมาจาก จ.นครราชสีมา นิมนต์พระสงฆ์ 1 รูป มาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณของ ด.ญ.ปวรรัตน์ เพื่อปลดปล่อยดวงวิญญาณตามความเชื่อของคนไทย โดยครอบครัวได้นำรูปของน้องและเสื้อผ้า รวมทั้งนม 1 กล่องมาประกอบพิธี ท่ามกลางความโศกเศร้า ญาติๆ ต่างพากันร้องไห้ระงม พร้อมเรียกชื่อผู้เสียชีวิตให้กลับบ้าน

ตร.แจกข้าวเหนียวมะม่วง

ที่ ถนนมิตรภาพขาขึ้น หน้าสถานีตำรวจภูธบ้านแฮด จ.ขอนแก่น พ.ต.อ.ถนอมศักดิ์ โสภา ผกก.สภ.บ้านแฮด พร้อมข้าราชการตำรวจ นำข้าวเหนียวมะม่วง น้ำดื่ม จำนวน 100 ชุด พร้อมผ้าเย็น แจกให้กับประชาชนที่สัญจรผ่านหน้าสถานีตำรวจ เพื่อไว้รับประทานระหว่างเดินทาง หลังจากที่พบว่าเริ่มมีประชาชนเดินทางกลับไปเตรียมตัวทำงานก่อนเพื่อหลีกปัญหาจราจรติดขัด หลังวันพรุ่งนี้เป็นวันหยุดวันสุดท้าย เพื่อจะได้ไปทำงานในวันศุกร์นี้

ผกก.สภ.บ้านแฮดกล่าวว่า มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง เป็นมะม่วงที่ขึ้นชื่อของอ.บ้านแฮด เพราะมีการส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศ มะม่วงมีรสชาติหอมหวาน และผลเป็นสีเหลืองสด และเมื่อได้รับประทานคู่กับข้าวเหนียวมูนดอกอัญชัน ยิ่งทำให้เอร็ดอร่อย ส่วนการอำนวยความสะดวกประชาชนที่สัญจรผ่านในพื้นที่ จะเน้นการอำนวยความสะดวกจราจร จะมีการวางกรวยไม่ให้รถจอดข้างทาง เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ เพราะขณะนี้ในพื้นที่มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุแล้ว 7 ราย และได้รับบาดเจ็บกว่า 20 ราย

บรรยากาศสงกรานต์ทั่วไทย

ขณะที่บรรยากาศของเทศกาลสงกรานต์ในพื้นที่ต่างแม้จะงดการสาดน้ำแต่หลายพื้นที่ก็พยายามคงประเพณีที่มีมาแต่โบราณเอาไว้ โดยที่บ้านด่านคนคบ ต.ด่านคล้า อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ชาวบ้านในพื้นที่จัดกิจกรรมก่อเจดีย์ทราย ตามประเพณีไทยแต่โบราณ เป็นการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามให้คงอยู่คู่เมืองไทย โดยมีผู้สูงอายุแต่งชุดไทย นุ่งโจงกระเบน ออกมารำรอบๆ เจดีย์ทราย เป็นการปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายต่างๆ ออกจากหมู่บ้าน จะทำให้หมู่บ้านมีความสงบสุข ขณะที่บริเวณอุทยานไทรงาม ต.ในเมือง อ.พิมาย ทางเจ้าหน้าที่ติดป้ายงดสาดน้ำสงกรานต์ภายในอุทยานไทรงาม ถนนรอบเขื่อนพิมาย เงียบเหงาเป็นอย่างมาก ทำให้ไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมอุทยานปราสาทหินพิมายเหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา พ่อค้า แม่ค้าต่างได้รับผลกระทบไปด้วย

ด้านจ.ตราด นักท่องเที่ยวและชาวตราดพาครอบครัวมาพักผ่อน เล่นน้ำที่หาดบานชื่นตลอดทั้งวัน แม้ว่าจังหวัดตราดจะพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 10 ราย จากการแพร่ระบาดระลอก 3 แต่โรงแรมและรีสอร์ต หลาย 10 แห่งบริเวณหาดบานชื่น มีนักท่องเที่ยวจองห้องจองเต็มหมดแล้วตั้งแต่ก่อนเทศกาลสงกรานต์ ส่วนที่ อ.เกาะช้าง จ.ตราด นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยเดินทางกลับ ทำให้มีรถยนต์ รอลงเรือเฟอร์รี่มีระยะทางยาวกว่า 1 ก.ม.

พ.ต.อ.วิเชียร ยันตรัตน์ รอง ผบก.ภ.จว.ตราด ดูแลงานด้านมวลชนสัมพันธ์และจราจร เปิดเผยว่า ได้ขอความร่วมมือจากทุกส่วนราชการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในวันนี้ ซึ่งจำนวนรถยนต์ที่เดินทางไปท่องเที่ยวเกาะช้าง 4-5 วันที่ผ่านมา มีมากกว่า 6 พันคัน การเดินทางกลับวันนี้จะดีเพราะจะทำให้จำนวนรถยนต์ในช่วงเสาร์อาทิตย์ลดลง น่าจะทำให้การเดินทางของนักท่องเที่ยวสะดวกสบายขึ้น

ร.พ.มะเร็งลพบุรีทำบุญวิถีใหม่

นพ.เมธี วงศ์เสนา ผอ.ร.พ.มะเร็งลพบุรี นำคณะแพทย์ พยาบาล พร้อมด้วย ผู้ป่วยมะเร็งญาติผู้ป่วย และเจ้าหน้าที่ พร้อมผู้ป่วย ประกอบพิธีทำบุญวิถีใหม่ และสรงน้ำขอพรพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำโรงพยาบาล เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อตนเองและครอบครัว เนื่องในโอกาสวันสงกรานต์ และวันขึ้นปีใหม่ของไทย โดยงดกิจกรรมรดน้ำขอพรผู้ใหญ่เปลี่ยนรูปแบบเป็นการส่งมอบพวงมาลัยดอกมะลิและผ้าขาวม้า เป็นของที่ระลึกแทนในวันสงกรานต์และวันครอบครัวประจำปี 2564 เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด 19

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ส่งเสริม และสืบทอดขนบธรรมเนียมประเพณีไทยอันดีงาม สร้างความสามัคคีของบุคลากร ตลอดจนเพื่อไม่ให้ผู้ป่วยมะเร็งรู้สึกโดดเดี่ยวในวันสำคัญของไทย โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ป่วยได้ มีแรงใจที่เข้มแข็งในการต่อสู้กับโรคร้ายต่อไป

โอกาสเดียวกัน ทางโรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี ยังได้จัดอาหารมื้อพิเศษให้แก่ผู้ป่วยที่สามารถรับประทานได้ด้วยตนเอง และญาติ ผู้ป่วยได้รับประทานเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ เนื่องในวันสงกรานต์และวันครอบครัวประจำปี 2564 อีกด้วย

แจกกันน็อก – พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งจุดตรวจป้องกันอาชญากรรมและลดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ พร้อมแจกหมวกกันน็อกและเฟซชีลด์ให้ประชาชน ที่ถนนพระราม 1 หน้าสนามกีฬาแห่งชาติ กทม. เมื่อวันที่ 14 เม.ย.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน