สวนอจ.นิด้า-ปูดตั้งรัฐบาล
พท.ชี้พปชร.แก้รธน.ผิดจุด

โฆษกปชป.โต้จับมือพรรคคนแดนไกล เคลื่อนไหวตั้งรัฐบาล สวนเดือด ‘อานนท์’ อาจารย์นิด้า เพ้อเจ้อ โชว์ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญร่างแรก ทวงคืนสิทธิ์ขั้นพื้นฐานประชาชน ชี้ฉบับ 60 เขียนไม่ครอบคลุม เพื่อไทยเมินฉบับพปชร. ชี้แก้ไม่ถูกจุด ไม่ปิดสวิตช์ส.ว. แถมเปิดช่องส.ส.ล้วงลูกหน่วยงานรัฐใช้งบประมาณ ย้ำเปิดสมัยสามัญ ยื่นแก้ใหม่ทั้งฉบับผ่านมาตรา 256 ส.ว.-กกต.-ผู้ตรวจการแผ่นดิน ผวาโควิด สั่งเวิร์กฟรอมโฮม ลดเวลาทำงาน

พท.เมินร่างรธน.ฉบับพปชร.

วันที่ 14 เม.ย. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญใน 5 ประเด็น 13 มาตรา ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำโดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค พปชร.เสนอล่าสุดว่า ตนไม่เห็นด้วยกับร่างของ พปชร. เนื่องจากร่างดังกล่าวไม่มีการเสนอแก้อำนาจหน้าที่ของ ส.ว. ในการโหวตเลือกนายกฯ รวมทั้งมาตรา 185 ที่ไปแก้ไขอุปสรรคการทำงาน ของส.ส.และ ส.ว.ให้สามารถติดต่อส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ได้ ซึ่งมีความล่อแหลมและสุ่มเสี่ยงที่ ส.ส.จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับงบประมาณ ดังนั้น ร่างแก้ไข ดังกล่าวไม่เคลียร์ แก้ปัญหาไม่ตรงจุด

ขณะที่ในส่วนของพรรคร่วมฝ่ายค้านยังคงยืนยันในหลักการเดิมซึ่งเป็นจุดร่วม คือต้องตัดอำนาจ ส.ว.ในการโหวตเลือกนายฯ ทิ้งไป ทั้งนี้ ในส่วนของพรรค พท.นั้นเรายืนยันว่าเราจะแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับผ่านมาตรา 256 โดยที่ไม่แตะหมวด 1 และ 2 เพื่อให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่ใช่รัฐธรรมนูญเพื่อสืบทอดอำนาจของใครอีกต่อไป และตรงกับความต้องการและเจตนารมณ์ของพี่น้องประชาชนที่อยากแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ปชป.เปิดร่างแก้รธน.ร่างแรก

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญว่า ในส่วนของพรรคได้จัดเตรียมไว้เสร็จแล้วตั้งแต่ช่วงเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส.ส.ทั้งในส่วน ปชป. พรรคภูมิใจไทย และพรรคชาติไทยพัฒนา ที่มีความเสี่ยงต้องกักตัวเพื่อป้องกันไว้ก่อน จึงเป็นเหตุให้ยังไม่ได้หารือร่วมกัน แต่นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิป ปชป. ได้พูดคุยแนวทางในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว ในส่วนของ ปชป.มีทั้งหมด 6 ร่าง ซึ่งต้องนำไปประกอบการพูดคุยเพื่อหาข้อยุติที่ตรงกัน คาดว่าทันเปิดสมัยประชุมสามัญหน้า

ร่างแรกของพรรคคำนึงถึงประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง สิทธิของประชาชนที่ลดน้อยถอยลงจะแก้ให้กลับคืนมา เช่น มาตรา 29 สิทธิในกระบวนการยุติธรรม ต้องดึงสิทธิประชาชนคืนมาเพราะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน สิทธิในการเข้าถึงด้วยความสะดวกรวดเร็วและเป็นธรรม สิทธิในการตรวจสอบข้อเท็จจริงตรวจเอกสารอย่างเพียงพอ สิทธิที่จะได้รับการพิจารณาอย่างถูกต้องรวดเร็วและเป็นธรรม สิทธิในการคุ้มครองและความช่วยเหลือที่จำเป็นและเหมาะสมจากรัฐ เด็ก สตรี เยาวชน ผู้สูงอายุ ผู้พิการย่อมมีสิทธิได้รับความคุ้มครองในการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีอย่างเหมาะสม ในคดีอาญาผู้ต้องหา จำเลย มีโอกาสต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ ได้รับความช่วยเหลือในทางคดีจากทนายและได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเป็นหลัก สาระสำคัญต่างๆ เหล่านี้ควรกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ เพื่อเป็นหลักประกันสิทธิขั้นพื้นฐานให้ประชาชน

ย้ำแก้รธน.ไม่เกี่ยวร่วมรัฐบาล

มาตรา 43 สิทธิชุมชน เกี่ยวข้องโดยตรงกับวิถีชีวิตของพี่น้องประชาชนและชุมชน รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันยังไม่ครอบคลุมสิทธิของประชาชนในการมีส่วนร่วมปกป้องสิทธิของตนอง หลักการในรัฐธรรมนูญปี 2550 กำหนดไว้ค่อนข้างชัดในการดูแลสิทธิชุมชน สิ่งแวดล้อม สุขภาพ อนามัย สวัสดิภาพ คุณภาพชีวิต การรับฟังความเห็น โครงการที่อาจเกิดผลกระทบต่อประชาชน โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วม มีองค์กรอิสระประกอบด้วยทุกภาคส่วน ดูแลจัดการศึกษาด้าน สิ่งแวดล้อมหรือทรัพยากรธรรมชาติ หรือด้านสุขภาพ, มาตรา 46 สิทธิผู้บริโภค สิทธิในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันลดน้อยลงไปในเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภค

มาตรา 72 สิทธิในการจัดสรรที่ดินทำกิน เรื่องนี้สำคัญที่สุด ต้องเป็นหลักประกันให้ประชาชนเกี่ยวกับที่ดินทำกินได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ประชาชนโดยเฉพาะเกษตรกรยังไม่ได้รับความเป็นธรรมเรื่องการถือครองที่ดิน เนื่องจากยังไม่ได้มีการพิสูจน์สิทธิ์ในที่ดินทำกินอย่างเป็นระบบและเป็นธรรม การแก้ไขมาตราดังกล่าวถือว่ามีความสำคัญกับพี่น้องประชาชน

ที่กล่าวคือร่างแรกที่อยากนำเสนอว่าพรรคคิดถึงประโยชน์ของประชาชน จะไม่ขอพูดถึงใครที่พยายามพูดให้พรรคเสียหาย ว่าพรรคไม่มีความจริงใจ ให้คนพูดกลับไปดูความตั้งใจที่ผ่านมาจะเป็นคำตอบ ส่วนเรื่องร่วมรัฐบาลอย่านำมาโยงกับเรื่องนี้ เพราะจุดหมายคือมุ่งผลสำเร็จในการแก้รัฐธรรมนูญเป็นสำคัญ ถ้าคิดเพื่อให้ทุกอย่างเดินไม่ได้คิดง่ายเกินไป วันที่ 15 เม.ย. จะเปิดรายละเอียดร่างที่สอง เพื่อบอกกล่าวแลกเปลี่ยนความเห็นกันที่เกิดประโยชน์

โต้เดือด-อจ.นิด้าพาดพิงปชป.

นายราเมศกล่าวกรณี นายอานนท์ ศักดิ์ วรวิชญ์ อาจารย์คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ กล่าวอ้าง มีข่าวกรองสารพัดเกี่ยวกับพรรคเก่าแก่ ส่งคนไปเจรจาพรรคการเมืองคนแดนไกล 3 ครั้ง เพื่อจัดตั้งรัฐบาล ว่า เรื่องนี้มีนักข่าวโทรศัพท์มาสอบถามกันมากว่าเป็นพรรคไหน คงตอบได้แต่เพียงว่าไม่ทราบเพราะเขายังไม่เอ่ยชื่อพรรค แต่พรรคก็ได้ติดตามข้อมูลที่นายอานนท์ ให้สัมภาษณ์อย่างต่อเนื่องด้วยความไม่สบายใจ ถ้าหมายถึง ปชป.คงไม่ใช่ เพราะที่พูดมาสวนกับความเป็นจริงของพรรคทุกเรื่อง และถ้าหมายถึงพรรคส่งคนไปเจรจากับพรรคของคนแดนไกล คงสันนิษฐานกันออกว่าพรรคคนแดนไกลคือใคร ยืนยันว่า ปชป.ไม่เคยส่งใครไปเจรจา

“เป็นสิ่งที่เพ้อเจ้อไปอีก คงไม่มีใครเชื่อว่าปชป.จะไปเจรจาหรือจับมือกับพรรคคนแดนไกล เหมือนบอกว่าควายไปเรียนจบด๊อกเตอร์ไม่มีใครเชื่อหรอก” นายราเมศกล่าว และว่าส่วนเรื่องภายในพรรค ก็ชัดอยู่แล้วว่าเป็นเรื่องภายในและไม่ได้มีปัญหา ความแตกต่างทางความคิดมีบ้างเป็นเรื่องธรรมดา

ด๊อกเตอร์ควรฉลาดพูด

ที่นายอานนท์ บอกว่ามีหูตาเหมือนสับปะรดแต่กลับมาพูดไม่เป็นสับปะรด ล่าสุดวันนี้ออกมาโพสต์อีกครั้งก็ต้องขอบคุณที่เลือก ปชป.มาตลอด จะศรัทธาหรือไม่เป็นสิทธิส่วนตัว แต่ไม่มีสิทธิมาพูดจาให้ร้ายพรรคให้เกิดความเสียหาย ปชป.ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองมายาวนานมีแพ้มีชนะ เป็นได้ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล เป็นเรื่องปกติ อย่าห่วงพรรคจะสูญพันธุ์ ถ้าเล่นการเมืองแบบโง่ๆ เหมือนนายอานนท์กล่าว พรรคคงไม่อยู่มาได้ถึงทุกวันนี้ “จบด๊อกเตอร์ควรพูดอะไรให้ฉลาด และคนที่มีความรู้ดีและมีคุณธรรมต้องพูดจากันด้วยเหตุด้วยผล การชี้นิ้วด่าคนอื่นว่าโง่ ไม่น่าเชื่อว่าจะมาจากปากคนที่บอกว่าเป็นครูบาอาจารย์ ที่เหยียดหยามคนอื่นว่าโง่”

ที่บอกว่ารังเกียจท่าทีทางการเมืองของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้า ปชป. และนายชวน หลีกภัย ประธานสภา นั้นไม่ทราบว่ารังเกียจเรื่องอะไร แต่ถ้ารังเกียจนายชวน เพราะตลอดชีวิตทางการเมืองทำเพื่อประชาชน ทั้งเรื่องการศึกษา คมนาคม สาธารณสุข การกระจายอำนาจ กระจายโอกาส กระจายรายได้ การขยายมหาวิทยาลัยไปต่างจังหวัด และอีกมากมายหลายเรื่อง แน่จริงนายอานนท์ก็ควรหาโอกาสยกเลิก กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา โครงการนมโรงเรียน โครงการอาหารกลางวันเด็ก เบี้ย ผู้สูงอายุ ถนนสี่ช่องจราจร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตอบโต้ดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา นายอานนท์ โพสต์ทำนองว่า มีความเคลื่อนไหวในการจัดตั้งรัฐบาล คนน้าจะกลับมาเป็นหัวหน้าพรรค พร้อมนั่งนายกฯ มีการส่งคนไปเจรจากับพรรคคนแดนไกล ส่วนหลานรอขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคล้มเจ้า ส่งผลให้ นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.ปชป. โพสต์ เฟซบุ๊กว่า นายอานนท์ ไม่กล้าเอ่ยชื่อแต่พยายามสื่อให้คนทั่วไปเข้าใจว่าเป็น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ซึ่งเป็นการใช้จินตนาการหรือมโนไปเอง พร้อมขู่ให้ไปพิสูจน์ความจริงกันในศาล ซึ่งนายอานนท์ โพสต์โต้กลับในวันที่ 13 เม.ย. อ้างว่าข่าวกรองของพรรคการเมืองเก่าแก่ที่ออกมา เพราะในพรรคแตกแยก ชิงดีชิงเด่นกันเอง ทำลับๆ ล่อๆ ส่งคนโน้นไปเจรจาพรรคการเมืองคนแดนไกล 3 ครั้ง คนในพรรคก็จ้องกันเองและข่าวก็กระเด็นออกมา

ยืนกรานไม่ถอนตัวจากรัฐบาล

นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา คณะกรรมการ Smart democrat และ ผอ.คณะกรรมการประสานงานองค์กรเครือข่ายภายนอกพรรค พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงข้อเสนอของ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือไอติม ผู้ก่อตั้งกลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า แกนนำกลุ่ม Re-Solution ว่า เป็นตรรกะวิบัติ ย้อนเเย้งที่อยากให้แก้รัฐธรรมนูญแต่กลับอยากให้พรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะ ปชป.ถอนตัวจากรัฐบาล ถ้าปชป.และทุกพรรคร่วมถอนตัวและรัฐบาลยุบสภา เราก็ต้องกลับไปใช้รัฐธรรมนูญเดิม ผลลัพธ์และวิกฤตก็ยังคงเดิม แล้วรัฐธรรมนูญจะได้แก้หรือไม่ พรรคไม่อาจคาดหวังได้ทั้งหมดกับฝ่ายบริหารที่จะมานำการเเก้ไข แต่ปชป.จะยืนยันเจตจำนงในวิถีของพรรคอย่างถึงที่สุด ต้องการให้แก้รัฐธรรมนูญในระบบรัฐสภา ก่อนยุบสภาหรือการถอนตัว

ตนสงสัยตรรกะและสับสนกับข้อเสนอที่นายพริษฐ์ พยายามเสนอสังคม แม้ในเนื้อหาที่เสนอตนเห็นด้วยในหลายข้อ เข้าใจเจตนาดีของนายพริษฐ์ ซึ่งเป็นคนหนุ่ม คนกล้า หากแต่ประสบการณ์เป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้ สะสม โดยเฉพาะเรื่องของบ้านเมือง ตนและนายพริษฐ์คงคิดไม่ต่างกันในเรื่องการอยากเห็นบ้านเมืองดีขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการเเก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ต้องเลือกวิธี เส้นทางให้เเม่นยำ สุขุม ไม่อยากให้ชาวไทยสงสัยว่านายพริษฐ์ มีวิธีคิดหรืออุดมการณ์ คล้ายนายพริษฐ์ ชิวรักษ์ และผู้อยู่เบื้องหลัง

วุฒิสั่งเวิร์กฟรอมโฮมวันเว้นวัน

นายนัฑ ผาสุข เลขาธิการวุฒิสภา ลงนามประกาศให้ข้าราชการและบุคลากรของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติงานภายในที่พักอาศัย (work from home) สลับวันเว้นวัน ตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย. ถึงวันที่ 31 พ.ค. เพื่อลดความแออัด และเว้นระยะห่างทางสังคมภายในอาคารรัฐสภา

กกต.ลดเวลาทำงาน

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. ลงนามในประกาศสำนักงาน กกต. กำหนดแนวทางและมาตรการต่างๆ ในการปฏิบัติงานของสำนักงาน กกต. ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ในประกาศกำหนดให้ผอ.กต.จังหวัด และ กทม. ออกคำสั่งให้พนักงานปฏิบัติงานที่สำนักงานและนอกสำนักงาน ระหว่าง 16 เม.ย.-31 พ.ค.64 ตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยสอดคล้องมาตรการของ ศบค. ในส่วนของพนักงานและลูกจ้างประจำสำนักงาน กกต.ส่วนกลาง กกต.กทม. มาปฏิบัติงานที่สำนักงานตั้งแต่เวลา 09.00-15.00 น. ในช่วงวันที่ 16 เม.ย.-31 พ.ค.64

ผู้ตรวจฯเวิร์กฟรอมโฮม

พ.ต.ท.กีรป กฤตธีรานนท์ เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ลงนามในประกาศมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด ขอความร่วมมือหน่วยงานราชการ work from home ระหว่างวันที่ 19- 30 เม.ย. และให้รายงานผลการดำเนินงานหรือความก้าวหน้าของงานต่อผู้บังคับบัญชาทุกสัปดาห์เป็นอย่างน้อยตามแบบฟอร์มรายงานการ ปฎิบัติงานจากที่พักอาศัย

น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ผอ.สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รักษาการที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ แจ้งผ่านไลน์กลุ่มผู้สื่อข่าวทำเนียบ ว่า ได้ดำเนินการฉีดฆ่าเชื้อที่ทำงานของสื่อมวลชน ทำเนียบ ทั้ง 3 จุดอย่างละเอียด เพื่อเตรียมเปิดการทำงานในวันที่ 16 เม.ย. นี้ และขอสื่อมวลชนปฏิบัติตามมาตรการที่ได้แจ้งแล้ว เรื่องลดจำนวนคน สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ไม่แออัด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน