ตัดคอสยองคาสำนักสงฆ์
สธ.รุดดูแล-ห่วงเป็นลัทธิ
พระพยอมชี้มิจฉาทิฐิสุดโต่ง

กรมสุขภาพจิตเตรียมส่งทีมดูแลชุมชนรอบสำนักสงฆ์ในหนองบัวลำภู ที่อดีตเจ้าสำนักสงฆ์สร้าง ‘กิโยติน’ ตัดคอฆ่าตัวตายคาวัด ขณะชาวบ้านกำลังสวดมนต์ปฏิบัติธรรม ญาติและลูกศิษย์ ไม่ติดใจสาเหตุ เพราะเคยสั่งเสียไว้ก่อนหน้า จะตัดคอถวายเป็นพุทธบูชา ‘พระพยอม’ ติงความคิดสุดโต่ง ศรัทธาเอียงเอนไปทาง ‘มิจฉาทิฐิ’ ย้ำคำสอนพระพุทธเจ้าคือการตัดกิเลสไม่ใช่การตัดชีวิต

เมื่อวันที่ 18 เม.ย. พ.ต.ท.ไพโรจน์ คํามะตะศิลา สว. (สอบสวน) สภ.เมืองหนองบัวลําภู สอบปากคำพระ แม่ชี ญาติ และ ลูกศิษย์ สํานักสงฆ์ภูหินกอง หรือภูคำไก่ บ้านนาแค ม.4 ต.ลําภู เพิ่มเติมประกอบสำนวนคดีนายธรรมกร วังปรีชา อายุ 68 ปี หรืออดีตพระธรรมกร ฐานธัมโม อดีตเจ้าสำนักสงฆ์ภูหินกอง ฆ่าตัวตายด้วยการตัดคอตัวเองภายในสำนักสงฆ์ เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมา

โดยวันเกิดเหตุ เวลา 09.30 น. รับแจ้งเหตุคนฆ่าตัวตายภายในสํานักสงฆ์ภูหินกอง หรือภูคำไก่ บ้านนาแค ม.4 ต.ลําภู จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่พฐ. แพทย์ร.พ.หนองบัวลำภู และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยนเรศวร เมื่อถึงวันที่เกิดเหตุพบชาวบ้านกว่า 300 คน แต่งกายชุดขาวรวมตัวอยู่บริเวณหน้าศาลาวัด พร้อมระบุว่าบรรจุศพผู้เสียชีวิตลงหีบแล้ว เมื่อตรวจสอบภายในหีบศพ พบร่างผู้เสียชีวิตมีแต่ตัว บริเวณลำคอถูกของมีคมตัดจนขาด ส่วนศีรษะถูกบรรจุในหีบใบเล็กที่อยู่ข้างกัน ทราบว่าผู้ตายคือนายธรรมกร วังปรีชา อายุ 68 ปี หรืออดีตพระธรรมกร ฐานธัมโม อดีตเจ้าสำนักสงฆ์ที่เกิดเหตุ

ส่วนจุดที่เกิดเหตุอยู่บริเวณด้านหลังรูปปั้นชายที่ไม่มีศีรษะ มือทั้งสองประครองศีรษะยื่นไปทางด้านเจดีย์สัพสังวรเจดีย์ ที่อยู่บริเวณลานด้านหน้าศาลา พบห้างไม้สูงกว่า 4 เมตร ใช้เชือกชักรอกใบมีดความกว้างประมาณ 4 นิ้ว ยาวประมาณ 1 เมตร มีถังปูนที่หล่อปูนจนแข็งตัวห้อยติดกับปลายมีดทั้งสองด้าน เป็นตัวถ่วงน้ำหนัก ลักษณะคล้ายเครื่องประหาร ชีวิตที่เรียกว่ากิโยติน เบื้องต้นทราบว่า ขณะเกิดเหตุลูกศิษย์ต่างนั่งสวดมนต์อยู่บริเวณ หน้าเจดีย์ไม่มีใครเห็น เพียงแต่ได้ยินเสียงดังจึงพากันมาดูพบว่าผู้ตายถูกใบมีดดังกล่าว ตัดศีรษะเสียชีวิตแล้ว คาดว่าผู้ตายชักรอกดึงมีดขึ้นไปบนปลายห้างไม้ แล้วใช้มีดตัดเชือกปล่อยให้ใบมีดตกลงมาบั่นคอตนเองเสียชีวิต

สอบสวนนายบุญเชิด บุญรอด น้องชาย ผู้เสียชีวิตให้การว่า นายธรรมกรบวชมานาน 13 ปี กระทั่งเป็นเจ้าสำนักสงฆ์ที่เกิดเหตุ ที่ผ่านมามุ่งมั่นจะตัดศีรษะตัวเองเพื่อเป็นพุทธบูชา ตามความเชื่อของตัวเองและเคยสั่งเสียญาติพี่น้องไว้ก่อนหน้า ก่อนจะลาสิกขา เมื่อวันที่ 14 เม.ย. และก่อเหตุในช่วงเช้า ขณะชาวบ้านกำลังสวดมนต์ปฏิบัตรธรรม กันอยู่ ญาติและลูกศิษย์จึงไม่ติดในสาเหตุการเสียชีวิตครั้งนี้ พากันบรรจุร่างลงหีบศพ และทำความสะอาดห้างไม้ที่เกิดเหตุ ก่อนแจ้ง เจ้าหน้าที่ให้มาชันสูตรพลิกศพ ประกอบกับในที่เกิดเหตุพบจดหมายของผู้ตายลงวันที่ 9 เม.ย. 64 สรุปข้อความได้ว่า เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ให้คำมั่นว่าเมื่อครบกําหนด 5 ปี จะสักการบูชาพระพุทธเจ้าโดยการตัดศีรษะตัวเอง เพื่อตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าในอนาคต เมื่อถึงกําหนด 5 ปี จึงทําตามที่ตั้งใจไว้ เมื่อชันสูตรเสร็จเจ้าหน้าที่มอบศพให้ญาติจัดการตามประเพณี โดยกำหนดทำพิธีฌาปนกิจในบ่ายวันที่ 15 เม.ย.

ด้านพระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโน เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ถนนบางกรวย- ไทรน้อย ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี แสดงคติธรรมถึงกรณีดังกล่าวว่า นับตั้งแต่บวชเรียนเป็นพระชั้นนักธรรมเอกมา ไม่เคยปรากฏเห็นผ่านหูผ่านตาในคำสอนพระธรรมวินัยในเล่มไหนมาก่อนว่า ให้ตัดหัวถวาย เป็นพุทธบูชาให้กับพระพุทธเจ้าได้ พระรูปนี้น่าจะเป็นคนแรกของประเทศหรือคนแรกของโลกที่ยอมตัดหัวตัวเองเช่นนี้ ที่ผ่านมาเห็นแต่พระอดข้าวหรือเผาตัวประท้วงเท่านั้น การฆ่าตัวตายด้วยการใช้กิโยตินตัดหัวไม่เคยมีมาก่อน แม้แต่พระอัครสาวกของพระพุทธเจ้าเอง ก็ไม่เคยทำ

เพราะแม้แต่พระสังฆราชองค์ปัจจุบันท่านยังทรงสอนว่า ชีวิตนี้มันน้อยหนักแต่สำคัญและต้องใช้ให้เป็น การไปตัดหัวตัวเองเพื่อหวังจะถวายหัวกับพระพุทธเจ้านั้น แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าพระพุทธเจ้าท่านจะทรงรับหัวนั้น เพราะพระพุทธเจ้าเองแม้แต่เงินทองท่านยังไม่ทรงรับหรือแตะต้องเลย แล้วท่านจะไปรับหัวได้ยังไง ไม่รู้ว่าไปคิดแบบนี้ได้ยังไง มันน่าเกลียด คนพวกนี้เรียกว่า สัจจาภินิเวส (ความยึดมั่นในสัจจะ) ประเภทสุดโต่งพวกหัวชนฝา รักษาสัจจะแบบงมงายโดยไม่คำนึงถึงเหตุผลความเป็นจริงในปัจจุบัน

“การตัดหัวถวายเป็นพุทธบูชา เพราะเชื่อว่า วิธีนี้จะทำให้สำเร็จเป็นพระปัจเจกพระพุทธเจ้า ในโลกหน้านั้น อาตมาไม่เคยเห็นในพระไตรปิฎก หน้าไหน เล่มไหนระบุไว้เลย เพราะแม้แต่การ สักการบูชาด้วยดอกไม้ ธูปเทียน พระพุทธเจ้ายังเรียกว่าอามิสบูชายังสู้การปฏิบัติบูชาไม่ได้ เพราะพระพุทธเจ้าสรรเสริญการปฏิบัติบูชามากกว่าอามิสบูชา ฉะนั้นสิ่งที่ควรจะตัดตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าคือการตัดกิเลส ไม่ใช่การตัดชีวิต อย่าโง่ไปตัดชีวิตด้วยการ ตัดคอ ถ้าพระรูปนี้มุ่งมั่นตัดกิเลสตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าถึงถูกต้อง อาตมาขอฝาก ไปถึงชาวพุทธทั้งหลายว่า อะไรก็ตามที่นอกทาง สายกลาง เห็นผิดเป็นถูก เห็นถูกเป็นผิด ด้วยการนับถือศรัทธาเอียงเอนไปทางมิจฉาทิฐิ (ความเห็นผิดจากทำนองคลองธรรม) ไม่ใช่สัมมาทิฐิ (ความเห็นชอบตามทำนองคลองธรรม) จะมีความสุขได้ยังไง ถ้าคิดจะถวายชีวิต ก็บวชถวายชีวิตให้พระพุทธศาสนาไปด้วยการ ถวายเรี่ยวแรง บวชถวายชีวิตให้พระพุทธศาสนา เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาจะได้ประโยชน์มากกว่า” เจ้าอาวาสวัดสวนแก้วกล่าว

ด้าน พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า การวางแผน ฆ่าตัวตายมานานกว่า 5 ปีในกรณีนี้ และมีคนทราบจำนวนมากแต่ไม่มีใครห้าม อาจเป็นการผสมกันระหว่างความเชื่อและความคิดผสมรวมกัน เมื่อนานวันเข้าก็เชื่อตามความคิด โดยไม่ได้เกลาความคิด คนเปราะบางก็เชื่อแบบนั้น และอาจส่งต่อความเชื่อให้ขยาย วงกว้าง ดังนั้น กรมสุขภาพจิตจะส่งทีมลงไปดู วงกว้างผลกระทบในชุมชน ถ้าไม่แผ่ในวงกว้างก็เหมือนเหตุการณ์หนึ่งที่ผ่านไป และเรียนรู้ไม่ให้เกิดภาวะซ้ำอีก ส่วนใครมีภาวะอ่อนไหวมากจะหามาตรการป้องกัน นอกจากนี้ อยากขอความร่วมมือไม่เผยแพร่และไม่ส่งต่อข้อมูลขั้นตอนการฆ่าตัวตาย เพราะหลายครั้งพบว่าทำให้เกิดการลอกเลียนแบบ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเปราะบาง

การที่มีภาพหรือนำเสนอข่าวดึงให้เกิดความ สำคัญ ทำให้คนมีแนวโน้มความคิดอยู่แล้ว เข้ามามากขึ้น ส่วนลัทธิหรืออะไรไม่ใช่แค่ เป้าหมายฆ่าตัวตายเพื่อบูชาเท่านั้น แต่จะดึงจุดอ่อนของผู้คนมาร่วมกัน เช่น กลุ่มคนไม่ได้ รับความรัก ถูกปฏิเสธ เราเท่านั้นที่เข้าใจกัน จะมารวมกลุ่มกันก่อน และกล่อมเกลาว่านี่คือวิธีการที่ถูกต้อง และมักจะพบบ่อยเอาแนวคิดว่าการทำแบบนี้เป็นการบูชา โดยหลักการแล้วทุกคนจะรู้ว่าไม่จริงทั้งหมด ในที่สุดก็สิ้นชีวิตไป ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นอย่างที่ผู้นำลัทธิเคยกล่าวอ้าง” พญ.พรรณพิมลกล่าว

“การป้องกันจิตใจตนเองเป็นเรื่องสำคัญ แต่แต่ละคนมีความเปราะบางทางจิตใจไม่เท่ากัน เราจึงไม่อยากให้ขยายวงกว้าง เพราะไม่รู้ว่าคนรับสารตัวนี้ไปจะกลั่นกรองแค่ไหน คนมั่นคงทางจิตใจก็คงเข้าใจมองแบบเข้าใจเหตุการณ์ คนอ่อนไหวอาจจะโน้มเข้าไปหา ต้องอยู่ที่ตัวเองต้องแยกแยะ และคนรอบข้างคนอ่อนไหวว่า คนใกล้ตัวเราอ่อนไหวขนาดไหน เชื่อว่าความใกล้ชิดและการพูดคุยกันเป็นทางเลือกและทางออกที่ดีกว่า ต้องฝากหวังว่า จะไม่เป็นปรากฏการณ์ทำให้ดูน่าสนใจ เป็นเรื่อง ต้องปฏิบัติ” อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว

พระกิโยติน – พระธรรมกร วังปรีชา อายุ 68 ปี เจ้าสำนักสงฆ์ภูหินกอง จ.หนองบัวลำภู ใช้เครื่องประหารกิโยติน ที่สร้างขึ้นเองตัดคอฆ่าตัวมรณภาพคาสำนัก พร้อมทั้งยังสร้างรูปปั้นศีรษะขาด และป้ายข้อความถวายเป็นพุทธบูชา

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน