แจงเต๊ะท่า-ถ่ายเล่น
เข้าไปนั่ง-ยังไม่ได้บิน
รัฐมนตรีฮึ่มภาพเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯพาเมียนั่งฮ.หลวง สั่งปลัดทส.สอบด่วน ด้านจตุพรบ่นปวดหัวชี้ไม่ควรเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น สั่งให้ตรวจสอบถึงแผนการบินด้วย ด้านอธิบดีรับเป็น เจ้าหน้าที่ของกรมจริง เป็นภาพตั้งแต่เดือนม.ค. แค่การเข้าไปถ่ายรูปเฉยๆ เฮลิคอปเตอร์ยังไม่ได้ยกตัวขึ้นบินแต่อย่างใด แต่ได้สั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว ด้านหัวหน้าสำนักป้องกันรักษาป่าฯภาคกลาง ก็แจง ระบุเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวขออนุญาตกัปตัน ขอถ่ายรูปขณะนั่งในตัวเครื่องเท่านั้น
ฮ.หลวง – เพจ ‘ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน’ โพสต์ภาพภรรยาจนท.หน่วยบินพิทักษ์ป่าบ้านโป่ง นั่งอยู่ในฮ. ซึ่งอธิบดีกรมอุทยานฯสั่งสอบแล้ว เบื้องต้นระบุว่านั่งถ่ายเล่นโดยฮ.ยังไม่ได้ขึ้นบิน เมื่อวันที่ 21 เม.ย.
เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก “ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน” โพสต์ข้อความและรูปภาพเจ้าหน้าที่หน่วยป่าไม้บ้านโป่ง (สปป.1) นำหญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบินตรวจป่า มีการกล่าวอ้างว่าหญิงคนดังกล่าว เป็นคนสนิท มีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขตหนึ่ง ใน จ.นครศรีธรรมราช โดยเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้นำเครื่องแบบนักบินของตัวเอง ให้หญิงสาวคนดังกล่าว สวมด้วย ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อโซเชี่ยลอย่างกว้างขวาง
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้เพิ่งมีประเด็น พ.ต.ท.นายหนึ่ง พาภรรยา ขึ้นบินบนเฮลิคอปเตอร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องของความเหมาะสมอย่างกว้างขวาง ต่อมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งย้าย และตั้งกรรมการสอบทางวินัยกับพ.ต.ท.คนดังกล่าวแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ที่นำหญิงสาวคนสนิทขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของ ทส. นั้น เป็นเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ของสำนักป้องกันปราบปราม และควบคุมไฟป่า (สปป.) 1 (ภาคกลาง) ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้ถ่ายรูปกับหญิงคนสนิททั้งด้านใน และด้านนอกเฮลิคอปเตอร์หลายรูปแล้วโพสต์รูปขึ้นใน เฟซบุ๊ก พร้อมกับเช็กอินสถานที่ว่า อยู่ที่อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ จ.กาญจนบุรี
นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องนี้ ได้สอบถามไปยังนายศักดิ์ชัย จงกิจวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่า และควบคุมไฟป่า ได้รับแจ้งว่า เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ที่เป็นประเด็นอยู่ในโซเชี่ยลขณะนี้ เป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักป้องกันไฟป่าฯ กรมอุทยานแห่ง ชาติฯ จริง เป็นภาพตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 แต่ภาพที่ปรากฏนั้นเป็นเพียงแค่การเข้าไปถ่ายรูปเฉยๆ เฮลิคอปเตอร์ยังไม่ได้ยกตัวขึ้นบินแต่อย่างใด ซึ่งหากสังเกตจากภาพจะพบว่า เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นสามีนั่งอยู่ข้างหลัง คาดว่าภรรยาของเจ้าหน้าที่เข้าไปนั่งคู่กับคนขับ เพื่อต้องการถ่ายรูป ซึ่งหากเป็นแบบนี้จริงก็ไม่ได้ถือว่าเป็นความผิดแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ตนได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว ว่าเป็นการเข้าไปถ่ายรูปเฉยๆ ตามที่กล่าวอ้างจริงหรือไม่
ด้านนายชาติชาย ศรีแผ้ว หัวหน้าสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่าที่ 1 ภาคกลาง ได้รายงานต่อผู้บังคับบัญชา ระบุว่า จากภาพข่าวเหตุการณ์ที่มีเจ้าหน้าที่สปป.1 ได้พาภรรยาขึ้นไปถ่ายรูปบนเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ เจ้าหน้าที่คือ นายพัฒนยุทธ เพ็ชรมณี ตำแหน่งพนักงานพิทักษ์ป่า ระดับ ส.3 ได้ชี้แจงว่าเหตุการณ์ตามภาพข่าวที่เกิดขึ้น ประมาณเดือนมกราคม 2564 ได้มีแผนบินที่จะต้องบินตรวจสอบสภาพป่าบริเวณอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ และหลังจากบินเสร็จสิ้นภารกิจ เครื่องบินได้มาจอดที่เขื่อนวชิราลงกรณซึ่งนายพัฒนยุทธได้ขออนุญาตกัปตันเพื่อขอถ่ายรูปในขณะนั่งถ่ายในตัวเครื่องบินซึ่งทั้งหมดนี้เป็นคำชี้แจงของนายพัฒนยุทธ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า เบื้องต้นตนได้มอบหมายให้นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดทส. รวมทั้งนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตรวจสอบในเรื่องนี้ ซึ่งสามารถไปดูตารางการบินในวันนั้นๆ ได้ ไม่น่ามีอะไรยุ่งยาก ทุกอย่างมีขั้นตอนอยู่แล้ว หากพบว่าเป็นเรื่องจริง ถือว่าเป็นบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต ก็จะมีโทษตามระเบียบราชการอยู่แล้ว
ด้านนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดทส. ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับรายงานเช่นกันว่า ภาพที่เห็นในตอนแรกเป็นเพียงการถ่ายรูปเล่น โดยที่เฮลิคอปเตอร์ไม่ได้ยกตัว แต่ต่อมากลับเห็นภาพขณะที่เห็นเฮลิคอปเตอร์อยู่กับภูเขาและก้อนเมฆด้วย จึงสั่งให้ทางผู้อำนวยการ กองการบินไปตรวจสอบแผนการบิน ซึ่งจะบันทึกเอาไว้ชัดเจน ว่ามีใครขึ้นบินบ้าง แผนการบินเป็นอย่างไร
“ผมก็ปวดหัวเหมือนกันในเรื่องแบบนี้ ถามว่าเป็นความผิดร้ายแรงหรือเปล่า ก็ไม่ใช่ แต่เป็นเรื่องของความไม่เหมาะสม และไม่สมควรจะมีเรื่องแบบนี้ การทำงานของทส.มีคนจับตามากพออยู่แล้ว ไม่ควรต้องให้มาปวดหัวกับเรื่องแบบนี้อีก ซึ่งผมก็ตำหนิคนที่ทำไปแล้ว และหากตรวจสอบพบว่ามีการบินจริง โดยให้ภรรยา หรือผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นไปนั่งบนเฮลิคอปเตอร์โดยไม่มีเหตุสมควร ก็จะตั้งกรรมการสอบต่อไป” นายจตุพรกล่าว
