รวมเกินครึ่งแสน-ตาย121ราย
กทม.พุ่ง740-เปิด10จว.สูงสุด
ดำหัว‘สมศักดิ์’ดับ1ติดเชื้อ10
ช็อกวันเดียวติดเชื้อพุ่ง 2,070 ราย กทม.มากสุด 740 ป่วยสะสมเกิน 5 หมื่นแล้ว ตายเพิ่ม 4 รวม 121 ราย พบผู้ป่วยอาการหนักเกือบ 400 ราย ศบค.ยันไม่มีเคอร์ฟิว ด้านเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ วุ่น ผู้ต้องขังติดโควิด 4 คน เป็นผู้ต้องขังใหม่ อยู่ในแดนกักกันโรค ที่เชียงใหม่เจอป่วยเพิ่ม 151 ราย โรงเรียนอนุบาลติดเชื้อ 20 มีทั้งนักเรียน พี่เลี้ยง ภารโรง โคราชตายรายแรก หนุ่มอ้วน น้ำหนัก 140 ก.ก. ขณะที่ป่วยอีก 31 พร้อมสั่งกักตัวพระเณรวัดสุทธจินดาฯ วัดดังเมืองย่าโมหลังพบฆราวาสติดเชื้อมาช่วยงานที่วัด ‘อนุทิน’ มั่นใจยังคุมสถานการณ์ได้ ส่วนรดน้ำดำหัว ‘สมศักดิ์ เทพสุทิน’รมว.ยุติธรรม ยังวุ่น ตายแล้ว 1 ขณะที่ส.ส.สุโขทัยก็ติดเชื้อ รวม 10 รายแล้ว
ป่วยโควิดพุ่งวันเดียว 2,070
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 23 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อใหม่ 2,070 ราย ซึ่งเป็นสถิติสูงสุด โดยติดเชื้อในประเทศ 2,062 ราย จากระบบเฝ้าระวังและบริการ 1,902 ราย และจากการตรวจเชิงรุก 160 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 8 ราย เดินทางมาจากอินเดีย 5 ราย ปากีสถาน มาเลเซีย และตุรกี ประเทศละ 1 ราย รวมติดเชื้อสะสม 50,183 ราย หายป่วย 30,189 ราย กำลังรักษา 19,873 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย และเสียชีวิตสะสม 121 ราย โดยผู้ติดเชื้อในรอบเดือนเม.ย. 21,320 ราย เสียชีวิตสะสม 27 ราย
“วันนี้หลายคนเห็นภาพการแชร์ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องว่าจะประกาศเคอร์ฟิวกทม.ซึ่งไม่มีเด็ดขาด ไม่มีการกำหนด ทั้งการประชุมที่กระทรวงสาธารณสุข สธ. และศบค.ชุดเล็ก แม้วันนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,070 รายซึ่งเป็นสถิติสูงสุดก็ตาม” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
ตายเพิ่ม 4-สะสม 121
ส่วนผู้ป่วยใหม่ 4 ราย ประกอบด้วยผู้เสียชีวิตรายที่ 118 เป็นชายไทยอายุ 72 ปี อยู่กรุงเทพฯ ประวัติ 9-12 เม.ย.ไปที่จ.ภูเก็ต วันที่ 13 เม.ย.มีอาการไอ ไข้ เจ็บคอ ถ่ายเหลว วันที่ 17 เม.ย.อาการไม่ดีขึ้น จึงเข้ารับการรักษา พบปอดอักเสบ และตรวจพบเชื้อใน วันที่ 18 เม.ย.มีอาการเหนื่อยหอบ ใส่ท่อช่วยหายใจและเสียชีวิตในเวลา 18.00 น. วันที่ 20 เม.ย.
รายที่ 119 เป็นชายไทย อายุ 74 ปี อยู่จ.สงขลา มีโรคความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นผิดจังหวะ ประวัติวันที่ 6 เม.ย.สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า วันที่ 10 เม.ย.ตรวจพบเชื้อ วันที่ 11 เม.ย.ไปรักษา จากนั้นวันที่ 15 เม.ย. มีอาการปอดอักเสบและวันที่ 22 เม.ย.หัวใจหยุดเต้นทำการกู้ชีพและเสียชีวิตในวันเดียวกัน
รายที่ 120 เป็นหญิงไทย อายุ 29 ปี อยู่จ.สมุทรปราการ มีโรคอ้วน มีการสัมผัสกับ ผู้ป่วยยืนยัน โดยวันที่ 10 เม.ย.ตรวจพบเชื้อ วันที่ 12 เม.ย.มีอาการไอ เสมหะ หอบเหนื่อย และเสียชีวิตในวันที่ 22 เม.ย.
รายที่ 121 เป็นชายไทย อายุ 83 ปี อยู่สมุทรปราการ โรคประจำตัว เบาหวาน ความดันโลหิตสูงไตเรื้อรัง หัวใจ มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยก่อนหน้า วันที่ 8 เม.ย.เข้ารับการรักษา มีอาการไอ มีเสมหะ วันที่ 9 เม.ย.พบติดเชื้อ เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล วันที่ 10 เม.ย.อาการไม่ดีขึ้น มีอาการปอดอักเสบรุนแรงใส่ท่อช่วยหายใจและเสียชีวิตในวันที่ 22 เม.ย.
“ขอแสดงความเสียใจกับทั้ง 4 รายในวันนี้ เราเห็นตัวเลขเสียชีวิตสอดคล้องกับตัวเลขที่มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งการติดเชื้อเพิ่มทำให้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นด้วย” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
กทม.เจอป่วยมากสุด 740
นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า วันนี้ตัวเลขที่พุ่งขึ้นมาก 2 พันราย พบว่า 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากสุด คือกทม. 740 ราย เชียงใหม่ 237 ราย ชลบุรี 125 ราย สมุทรปราการ 79 ราย นครราชสีมา 69 ราย สมุทรสาคร 48 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 44 ราย ปทุมธานี 41 ราย สุราษฎร์ธานี 38 ราย และระยอง 35 ราย โดยพื้นที่สีแดงมีผู้ติดเชื้อใหม่เกิน 100 ราย จึงอยู่ที่ 3 จังหวัด คือกทม. เชียงใหม่ และชลบุรี ส่วนจังหวัดอื่นๆ ภาพรวมไม่ต่างจากเมื่อวานหรือวันก่อนๆ คือยังทรงๆ อยู่
สำหรับผู้ป่วยที่ต้องใช้ท่อช่วยหายใจอีก 91 ราย อยู่ในกรุงเทพฯ 37 ราย, สมุทรปราการ 8 ราย, ชลบุรี 6 ราย, นนทบุรี 5 ราย, ปทุมธานี 4 ราย, เชียงใหม่ 3 ราย, สมุทรสาคร 3 ราย, นครสวรรค์ 2 ราย, พระนครศรีอยุธยา 2 ราย, ประจวบคีรีขันธ์ 2 ราย และอีก 19 จังหวัด จังหวัดละ 1 ราย
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 145.3 ล้านราย เพิ่มขึ้น 8.84 แสนราย เสียชีวิตสะสม 3.08 ล้านราย เพิ่มขึ้น 13,388 ราย การติดเชื้อรายวันเยอะสุดคืออินเดีย 332,503 ราย ติดเชื้อรวม 16.2 ล้านราย ส่วนเอเชียนั้น ฟิลิปปินส์ติดใหม่ 8.7 พันราย มาเลเซีย 2.8 พันราย จีน 6 ราย เกาหลีใต้ 735 ราย ญี่ปุ่น 5.2 พันราย กัมพูชา 446 ราย
โฆษกศบค. กล่าวต่อว่า ต้องติดตามการแพร่ระบาดในประเทศอินเดีย ซึ่งน่ากังวลอย่างมาก มีประชาชนติดเชื้อ 16 ล้านคน จากประชาชนพันล้านคน แม้ทางอินเดียพยายามทำเต็มที่ยังมีตัวเลขที่สูง ดังนั้นเราจะต้องดูแลคนที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศ โดยดูประวัติ ของคนที่จะเดินทางเข้ามาด้วย
“ที่ประชุมศบค.รับทราบความเสี่ยงการแพร่ระบาดในกลุ่มสถานที่ดูแลผู้สูงอายุของเอกชน ซึ่งมีผู้ช่วยพยาบาล ทำหน้าที่ดูแล ผู้สูงอายุ ติดเชื้อจากสามี ที่เป็นเจ้าหน้าที่ใน โรงพยาบาลเอกชน และนำมาติดเชื้อในหอ ผู้ป่วย4A มีผู้สูงอายุ 2 ราย เพศหญิงอายุ 88 ปี และชาย 84 ปี ดังนั้นผู้ที่ต้องกำกับดูแลคือสถานพยาบาล ต้องมีมาตรการและการคัดกรองผู้ป่วยอย่างเข้มงวด รวมทั้งคลัสเตอร์สถานปฏิบัติธรรม จ.เชียงใหม่ ซึ่งกรณีนี้ต้องดูไปถึงศาสนาอื่นด้วย โดยจะประสานไปทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และกระทรวงวัฒนธรรม รวมถึงหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการติดเชื้อในสถานที่แห่งอื่นที่มีกิจกรรมคล้ายกัน”
โดยจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 352 ราย ผู้ป่วยต้องใช้ท่อช่วยหายใจอีก 91 ราย โดยพบว่าตัวเลขการเสียชีวิตสอดคล้องกับการติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
สภาวุ่นเจอติดเชื้อแล้ว 5
เมื่อเวลา 10.10 น. ที่รัฐสภา นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ของบุคลากรรัฐสภาว่า เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ได้รับรายงานว่า ฝ่ายวุฒิสภามีผู้ติดเชื้อโควิด 2 คน ฝั่งส.ส. 1 คน แต่วันนี้จำนวนผู้ติดเชื้อที่ยืนยันแล้ว ฝ่ายส.ว.เพิ่มเป็น 4 คน ฝ่ายส.ส.ยังคงเป็น 1 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ชาย ในส่วนของส.ว.คนที่ 3 เป็นพนักงานราชการประจำสำนักบริหารงานกลาง โดยพักอยู่คอนโดฯ และห้องเดียวกันกับผู้ป่วยรายที่ 1 ของฝ่าย ส.ว. จึงได้รับเชื้อมาจากผู้ป่วยรายที่ 1
นพ.สุกิจกล่าวต่อว่า ส่วนคนที่ 4 เป็นพนักงานทำความสะอาดของสำนักเลขาธิการวุฒิสภา ได้รับการตรวจเชื้อจากการตรวจใหญ่เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ที่ด้านหน้าตึกวุฒิสภา และเพิ่งได้รับผลรายงานเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ว่า ติดเชื้อ หลังจากที่ได้รับการสว็อบเทสต์ แล้วยังมาทำงานและมาร่วมงาน “Senate Food ส.ว. มาแล้ว” ซึ่งขณะนั้นยังไม่ทราบผล หลังจากทราบผลแล้ว ส.ว.ประกาศกักตัว 5 คน เจ้าหน้าที่ 30 คน ก็ต้องกักตัว 14 วัน คาดว่าทางวุฒิสภาจะจัดการต่อไป
นพ.สุกิจกล่าวอีกว่า มีผู้สื่อข่าวจำนวนหนึ่ง ที่ไปร่วมทำข่าวส.ว. และกลับมาที่ห้องพัก ผู้สื่อข่าว วันนี้สำนักเลขาธิการสภาจึงทำความสะอาดห้องผู้สื่อข่าวและห้องแถลงข่าว และขอความร่วมมือกับผู้สื่อข่าวที่ไปทำข่าวให้กักตัวเพื่อเฝ้าสังเกตอาการ ส่วนเจ้าหน้าที่ฝั่งส.ส.ที่ติดเชื้อยังมี 1 คน คือเจ้าหน้าที่เทคนิควิชาการทีวีรัฐสภา ซึ่งกลับเข้ามาทำงานก่อนจะทราบผลว่าติดเชื้อ ส่งผลให้ผู้ใกล้ชิดได้ตรวจ หาเชื้อ 25 คน โดยผลตรวจออกมาเป็นลบทุกคน แต่ยังคงให้กักตัวจนถึงวันที่ 30 เม.ย.
นพ.สุกิจกล่าวด้วยว่า ส่วนของคนงาน ที่ก่อสร้างรัฐสภา ทราบผลล่าสุดคือมีผู้ติดเชื้อโควิด 4 คน ซึ่ง 3 คนเข้ามาปฏิบัติงานในส่วนกลาง ชั้นล่าง ซึ่งไม่มีบุคลากรของรัฐสภาทำงานอยู่ แต่อีก 1 คนเข้ามาปฏิบัติงานในชั้นบี 1 ห้อง CCTV และได้สัมผัสใกล้ชิดกับตำรวจสภา 3 คนที่เข้าไปสังเกตการณ์ จึงส่งตำรวจทั้ง 3 คนไปตรวจหาเชื้อเรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้รับแจ้งผลมาเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ว่าผลเป็นลบ ส่วนอีกรายหนึ่งที่เป็นเจ้าหน้าที่ผู้หญิง อยู่กมธ. 2 ที่สามีติดเชื้อนั้นจะไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีกครั้งวันนี้
พบผู้ต้องขังติดเชื้อ 4
ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรมว.ยุติธรรม กล่าวถึงการตรวจพบการติดเชื้อโควิด-19 ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ว่า เบื้องต้นตรวจพบผู้ต้องขังติดเชื้อ 4 ราย ซึ่งตรวจพบภายในแดนกักกันโรค โดยปกติเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และเรือนจำต่างๆ ทั่วประเทศ จะคัดกรองอย่างเข้มงวด กรณีนี้ตรวจพบเชื้อในผู้ต้องขังรายใหม่ที่เพิ่งเข้ามา ซึ่งปกติจะคัดกรองโรค ตรวจหาเชื้อและแยกเข้าสู่แดนกักกันอยู่แล้ว ส่วนของผู้ต้องขังที่พบเชื้อ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ทราบเรื่องแล้ว และสั่งให้ส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลราชทัณฑ์แล้ว นอกจากนี้ยังสั่งให้เตรียมความพร้อมของโรงพยาบาลสนามเผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉินด้วย ส่วนเจ้าหน้าที่ที่มีความเสี่ยงสูง สั่งให้ตรวจโรคและกักตัวแล้ว และยังกำชับให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด
“การจะพบการติดเชื้อในเรือนจำอาจเกิดขึ้นได้ แต่จะมีในเฉพาะแดนกักโรคเท่านั้น เพราะผู้ต้องขังที่มาใหม่ทุกคนต้องถูกตรวจหาเชื้ออย่างเคร่งครัดทุกคน การที่มาจากข้างนอกนั้นเราไม่ทราบว่ามีโอกาสรับเชื้อมากน้อยแค่ไหน แต่ในแดนทั่วไป ยืนยันว่าไม่มีและยังไม่พบผู้ติดเชื้อ เพราะเราทำตามมาตรการคนในห้ามออกคนนอกห้ามเข้า ขอให้ญาติ ผู้ต้องขังทุกคนสบายใจได้และอย่าตื่นตระหนก ตกใจ ทั้งนี้ เวลามีผู้ต้องขังเข้ามาใหม่หรือกลับจากการไปศาล เราต้องขอให้ทุกคน ให้ความร่วมมือตรวจหาเชื้อเพื่อป้องกัน หากตรวจได้เร็ว เราจะป้องกันได้เร็ว ไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย เพราะวันนี้สถานการณ์ไม่ปกติ มีการแพร่ระบาดทุกพื้นที่ จึงต้องชี้แจงเพื่อให้ทุกคนเข้าใจและไม่เกิดความสับสน”
ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต กล่าวด้วยว่า มีการเสนอข่าวจากสื่อแห่งหนึ่งระบุว่าเลขาฯรมว.ยุติธรรม ติดเชื้อโควิด-19 จากการร่วมงานเลี้ยงรับประทานอาหาร ที่จ.สุโขทัย ขอชี้แจงว่าตนไม่ได้เดินทางไปจ.สุโขทัย และไม่ได้เข้าร่วมงานดังกล่าว โดยรมว.ยุติธรรมมอบหมายให้ทำภารกิจอยู่ที่กทม.ตลอด และตนไม่ได้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ผ่านมาตรวจสุขภาพตลอด มีใบรับรองจากแพทย์ยืนยันได้ ผลล่าสุดตรวจเมื่อวันที่ 22 เม.ย. จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ผลออกมาเป็นลบ
“ที่ผ่านมาผมระมัดระวังตัวและป้องกันตนเองเป็นอย่างดีตามมาตรการของสาธารณสุข คนส่วนใหญ่เข้าใจผิด คิดว่าผมติดเชื้อไปแล้ว และคิดว่าผมจงใจปกปิดไทม์ไลน์อีกด้วย ผมยืนยันว่าไม่ได้เดินทางไปสุโขทัย ช่วงที่ผ่านมาทำภารกิจแต่ในกทม.” ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต กล่าว
อยุธยาติดเชื้อเพิ่มอีก 19
นพ.พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จ.พระนคร ศรีอยุธยา พบว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 19 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 263 ราย สอบสวนโรค พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 133 ราย ส่งตรวจหาเชื้ออยู่ระหว่างรอผลตรวจ
สำหรับผู้ป่วย พบ 1 รายเดินทางไปซื้อของที่ในตลาดกลางเพื่อการเกษตรกร (ตลาดกุ้ง) ผู้ป่วยรายที่ 216 เป็นชาย 35 ปี รับราชการทหารอากาศ ดอนเมือง สัมผัสกับคนในครอบครัวติดเชื้อถึง 8 ราย และยังคงมีผู้ป่วยกลุ่มสถานบันเทิง
ระยองติดเชื้อเพิ่ม 35-ตาย 1 คน
นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง เปิดเผย ว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 35 คน เสียชีวิต 1 คน สำหรับผู้เสียชีวิตตรวจพบว่าติดเชื้อ โควิด-19 หลังเกิดอุบัติเหตุ ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยเสียชีวิตเนื่องจากสาเหตุสมองได้รับ ความกระทบกระเทือน โดยมีการกักตัวผู้สัมผัส ใกล้ชิดแล้ว
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ ส่วนใหญ่แพร่ระบาดในกลุ่มผู้ร่วมงาน จึงขอให้ผู้ที่สัมผัสกลุ่มเสี่ยงกักตัวเองเฝ้าระวัง หากพบมีอาการให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที
ขณะนี้ จ.ระยองมีผู้ป่วยสะสมระลอกใหม่ 343 คน กักตัวกลุ่มเสี่ยงเฝ้าระวัง 1,553 คน รักษาหายแล้ว 10 ราย โดยพบผู้ป่วยใน 6 อำเภอ เหลือเพียงอ.วังจันทร์ กับ อ.เขาชะเมา ที่ยังไม่พบ ผู้ติดเชื้อ
เชียงใหม่ติดเชื้อโควิด 151
วันเดียวกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่รายงานว่า จ.เชียงใหม่ ตรวจพบผู้ติด เชื้อโควิดรายใหม่เพิ่ม 151 ราย ยอดสะสมของการระบาดรอบใหม่ 2,970 ราย ขณะนี้มีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 2,567 ราย และรักษาหายพร้อมให้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว 403 ราย ขณะที่กลุ่มเสี่ยงที่ได้รับการตรวจแล้ว 37,200 ราย และยังอยู่ระหว่างการตรวจ รวมทั้งรอผลตรวจอีกจำนวนมาก
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือระหว่าง รอผลให้กักตัวอยู่ตลอด แม้ทราบผลแล้วยังให้สังเกตอาการต่อไปจนครบ 14 วัน
ผู้ปฏิบัติธรรมแห่ตรวจเชื้อ
ส่วนกรณีเกิดคลัสเตอร์สถานปฏิบัติธรรมใน ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ที่มีแม่ชีและผู้ปฏิบัติธรรมติดเชื้อโควิด-19 จากการปฏิบัติธรรมร่วมกันรวมกว่า 40 คนนั้น ล่าสุดผู้ที่ไปปฏิบัติธรรมตามสถานปฏิบัติธรรมต่างๆ ใน จ.เชียงใหม่ จำนวนมากต่างเข้ารับการตรวจคัดกรอง หาเชื้อตามโรงพยาบาลเอกชน เนื่องจากเกรงว่าจะติดเชื้อ เพราะผู้ปฏิบัติธรรม หลายคนนิยมแวะเวียนไปปฏิบัติธรรมตามสถานปฏิบัติธรรมต่างๆ ซึ่งอาจนำเชื้อไปแพร่ระบาดต่อด้วย
อนุบาลเชียงใหม่ติดเชื้อ 20
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลแม่คือ หรือศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของเทศบาลตำบลแม่คือ ต.แม่คือ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีเด็กติดเชื้อโควิดจำนวนมากนั้น
น.ส.สุริศรี สารพฤกษ์ ปลัดเทศบาลตำบลแม่คือ กล่าวว่า มีเด็กในศูนย์เด็กเล็กเป็นกลุ่มเสี่ยง 52 คน และตรวจพบเด็กที่ติดเชื้อ 16 ราย เด็กเล็กอายุ 2 ขวบ 4 ราย เด็กโตอายุ 3-6 ขวบ 12 ราย ครูพี่เลี้ยง 3 คน และนักการภารโรงอีก 1 คน จากเมื่อวานนี้ตรวจโรคกลุ่มผู้ปกครองอีก 80 คน จะทราบผลในเย็นวันที่ 23 เม.ย. สำหรับโรงพยาบาลสนามเฉพาะกิจของเทศบาลตำบลแม่คือ จะรองรับได้ 30 คน จะให้ผู้ปกครองที่ติดเชื้อเข้าอยู่ดูแลเด็กคนต่อคน แต่หากเด็กที่มีผู้ปกครองสองคนติดเชื้อจะให้แยกไปอยู่ ร.พ.สนามหนึ่งคน
สำหรับเจ้าหน้าที่ของเทศบาลตำบลแม่คือ ทุกแผนกงาน รวมทั้งคุณครู ร่วมมือกันทำ ความสะอาด พ่นฆ่าเชื้อ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ตลอดช่วงเช้าวันที่ 23 เม.ย.
ทั้งนี้การแพร่เชื้อโควิด-19 ที่เกิดกับเด็กเล็กดังกล่าว เมื่อวันที่ 8 เม.ย. มีครูคนหนึ่งเข้ารับการฉีดวัคซีน แต่หลังจากนั้นเพียงหนึ่งวันเริ่มมีอาการไข้ จึงเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล กระทั่งวันที่ 18 เม.ย. ผลตรวจพบติดเชื้อโควิด จึงตรวจค้นหาเชื้อเชิงรุกในกลุ่มผู้สัมผัส จนพบ เด็ก 16 คน ครูพี่เลี้ยง 3 คน และนักการภารโรง อีก 1 คนติดเชื้อ นอกจากนี้ยังมีผู้สัมผัสใกล้ชิด อีก 120 คนที่เข้ารับการตรวจ
ส.ส.โควิด – ภาพกลุ่มบุคคลร่วมรับประทานอาหารและรดน้ำดำหัวนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ที่จ.สุโขทัยช่วงวันสงกรานต์ที่ผ่านมา ล่าสุดนายชูศักดิ์ คีรีมาศทอง ส.ส.สุโขทัย (คนแรกซ้ายมือ) เปิดเผยว่าติดโควิด-19 จากงานดังกล่าว เมื่อวันที่ 23 เม.ย.
ร่วมดำหัว‘สมศักดิ์’-ตายแล้ว 1
สำนักงานสาธารณสุข จ.สุโขทัย รายงานว่า พบผู้ที่ไปร่วมรับประทานอาหารและรดน้ำดำหัวเนื่องในวันสงกรานต์กับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ติดเชื้อเพิ่ม 6 ราย หนึ่งในนั้นคือนายชูศักดิ์ คีรีมาศทอง ส.ส.เขต 2 สุโขทัย พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมสังสรรค์รับประทานอาหารที่ร้าน อาหารคาเฟ่เดอทรี ทำให้กลุ่มนี้ติดเชื้อแล้ว กว่า 10 ราย เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลต่างๆ ของสุโขทัย และมีผู้เสียชีวิต 1 รายที่กทม. เป็นหญิงสูงวัย
ส.ส.พปชร.ติดโควิด
ด้านนายชูศักดิ์ คีรีมาศทอง ส.ส.สุโขทัย พปชร. กล่าวถึงกรณีมีการเปิดเผยไทม์ไลน์พบส.ส.สุโขทัยติดเชื้อโควิด-19 จากการรับประทานอาหารที่ร้านคาเฟ่ เดอ ทรี จ.สุโขทัย ที่มีรมว.ยุติธรรมไปร่วมรับประทานอาหารด้วยว่า หลังทราบว่ากลุ่มคนสนิทที่ตนไปรับประทานอาหารด้วยมีผู้ติดเชื้อ จึงไปตรวจ ผลเป็นบวก จึงเข้ารับรักษาในโรงพยาบาล ต้องขอโทษกับเหตุที่เกิดขึ้นและไม่ทราบว่าในงานจะมีผู้ติดเชื้อ และป้องกันตัวเองอย่างดี ยืนยันว่าภายในงานไม่มีการแสดงดนตรี ไม่ได้เป็นการไปเที่ยวเตร่ หรือการ์ดตก จนได้รับเชื้อ
“ต้องขอโทษทุกคน ซึ่งผู้ร่วมงานมีการป้องกันอย่างดีแล้ว จากนี้ต้องรักษาตัวให้หายดี จะได้รีบลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนต่อไป พร้อมฝากเตือนประชาชนทุกคน ร่วมมือป้องกันโควิด-19 เพราะโรคนี้ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ดังนั้น เราต้องช่วยกันป้องกันตัวเอง ด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และทำตามมาตรการของรัฐบาล”
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร. กล่าวว่า ได้รับทราบรายงานแล้วว่านายชูศักดิ์ คีรีมาศทอง ส.ส.สุโขทัย พรรคพลังประชารัฐ ติดเชื้อ โควิด-19 หลังร่วมงานเดียวกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ซึ่งคงไม่ต้องกำชับส.ส. เพราะเขารู้ตัวอยู่แล้ว
ตรัง-ปัตตานีป่วยโควิดเพิ่ม
นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าฯ ตรัง แถลงว่า พบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มอีก 14 ราย รวมผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ 45 ราย โดยผู้ติดเชื้อใหม่อยู่อ.เมืองตรัง 6 ราย อ.กันตัง 4 ราย อ.นาโยง 3 ราย และอ.ห้วยยอด 1 ราย เกิดจากกลุ่มที่ไปสัมผัสเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อก่อนหน้านี้ 31 ราย โดย 12 รายเป็นผู้ที่สัมผัสเสี่ยงสูงซึ่งแยกไปกักตัวที่ LQ เมื่อนำมาตรวจซ้ำใหม่ จึงพบเชื้อ ขณะนี้นำผู้ป่วยทั้ง 14 ราย เข้า โรงพยาบาลสนาม ที่ร.พ.ตรัง
ส่วนที่จ.ปัตตานีพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 11 ราย รวมยอดสะสม 18 ราย สอบสวนโรคทราบว่ารายที่ 8-10 ติดมาจากญาติที่กลับมาจากพื้นที่สงขลามาเยี่ยมบ้านทำให้ติดทั้งครอบครัว รายที่ 11 เป็นพนักงานเสิร์ฟร้านติดลม ติดจากพนักงานที่ติดเชื้อมาก่อนภายในร้าน รายที่ 12-13 สามีภรรยา เป็นพนักงานธนาคาร ติดเชื้อจากการเข้าร่วมประชุมที่มีผู้ติดเชื้อเข้าร่วมประชุมในจ.สงขลา รายที่ 14 พนักงานเก็บเงิน ร้านอาหารติดลม ติดเชื้อจากพนักงานภายในร้าน รายที่ 15-16 สามีภรรยาติดเชื้อจากการไปเยี่ยมญาติที่ป่วยในต่างจังหวัด รายที่ 17 พนักงานสำนักงานที่ดินปัตตานี อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค รายที่ 18 พนักงาน ธนาคารอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค
พระราชทานรถตรวจเชื้อโคราช
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สนามหน้าศาลากลาง จังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าฯนครราชสีมา ตรวจติดตามความเรียบร้อย การตรวจคัดกรองเชิงรุกการให้บริการประชาชน กลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ เขตอ.เมืองนครราชสีมา ที่เดินทางมาตรวจหาเชื้อโควิด-19 หลังจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานรถเก็บตัวอย่าง ชีวนิรภัยให้จ.นครราชสีมานำมาให้บริการตรวจคัดกรองเชิงรุกหาเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงในเขตพื้นที่อำเภอเมืองนครราชสีมาและพื้นที่ใกล้เคียง 3 คัน โดยสามารถตรวจหาเชื้อจากประชาชนกลุ่มเสี่ยงได้วันละ1,500 คน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่เวลา 09.00 น ในวันที่ 23 เม.ย. จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
โคราชป่วยเพิ่ม 31-ตายรายแรก
วันเดียวกัน นายวิเชียร พร้อมนพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา แถลงสถานการณ์โควิด ว่าพบผู้ป่วยระลอกใหม่ 31 ราย อยู่ในพื้นที่อ.เมือง 16 ราย อ.ปักธงชัย 1 ราย อ.สีคิ้ว 1 ราย อ.สูงเนิน 2 ราย อ.เสิงสาง 1 ราย อ.บัวใหญ่ 2 ราย อ.โนนสูง 1 ราย อ.ประทาย 5 ราย อ.ห้วยแถลง 1 ราย และ อ.หนองบุญมาก 1 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 384 ราย เสียชีวิต 1 ราย และรักษาหาย 15 ราย ขณะนี้มีการติดเชื้อในพื้นที่ 25 อำเภอ เหลือ 7 อำเภอยังไม่มีผู้ติดเชื้อ
สำหรับไทม์ไลน์ผู้เสียชีวิตรายแรกของจังหวัด เป็นผู้ป่วยรายที่ 179 ชายอายุ 34 ปี ชาว อ.ปากช่อง มีน้ำหนักตัวกว่า 140 ก.ก. ติดเชื้อจากการเดินทางไปเที่ยวเกาะล้านกับครอบครัว รวม 4 คน ในวันที่ 7-9 เม.ย. วันที่ 14 เม.ย. มีอาการป่วย จึงรีบมาตรวจที่ ร.พ.ปากช่องนานา ทราบผลติดเชื้อและเข้ารับการรักษาตามกระบวนการต่อมามีอาการปอดอักเสบ จึงย้ายมารักษาที่ร.พ.มหาราชนครราชสีมา ให้การรักษาโดยใส่ท่อช่วยหายใจและยาต้านไวรัส วันที่ 21 เม.ย. อาการทรุดลง จึงระดมให้ยาทุกขนานและเพิ่มปริมาณ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตและเสียชีวิตในช่วงเย็นวันที่ 22 เม.ย. ส่วนครอบครัวที่เดินไปเที่ยวติดเชื้อทุกคน ขณะที่กลุ่มเสี่ยงต่ำได้ตรวจคัดกรองแล้ว ยังไม่ พบการติดเชื้อ
นายวิเชียรกล่าวว่า สำหรับรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทานจะตรวจหาเชื้อวิด-19 ให้กับประชาชนในพื้นที่เขตอ.เมืองนครราชสีมา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 23-25 เม.ย.ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา หลังจากนั้น จะย้ายรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทานไปในพื้นที่อำเภอที่พบผู้ป่วย เช่น อ.ด่านขุนทด อ.ปากช่อง อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน และ อ.ประทาย ตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย. – 2 พ.ค. เพื่อตรวจหาเชื้อเชิงรุกในพื้นที่ต่างๆ ต่อไป
“วันนี้พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่ม 31 ราย รวม มียอดผู้ป่วยสะสม 384 ราย รักษาหาย 25 ราย ยังรักษาอยู่ 258 ราย แต่มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายอายุ 35 ปี ทำงานอยู่ที่โรงแรม พลูวิลล่า รีสอร์ต อ.ปากช่อง ติดเชื้อตั้งแต่ วันที่ 14 เม.ย. รักษาตัวที่ร.พ.ปากช่อง ก่อนส่งตัว มารักษาที่ร.พ.มหาราชนครราชสีมา ในวันที่ 15 เม.ย. ซึ่งชายดังกล่าวเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง เนื่องจากมีน้ำหนักมากถึง 140 ก.ก. เจ้าหน้าที่พยายามรักษาอย่างเต็มที่ ก่อนเสียชีวิตเมื่อเย็นวันที่ 22 เม.ย.”
น.พ.นรินทร์รัชต์ กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีการแชร์และส่งต่อข้อความระบุมัคนายกของวัดสุทธจินดาวรวิหาร (พระอารามหลวง) ติดเชื้อโควิด-19 สร้างความตื่นตระหนกให้กับพุทธศาสนิกชน สอบสวนไทม์ไลน์ ผู้ป่วยรายที่ 296 ชาวญี่ปุ่น ผู้บริหารโรงงานแห่งหนึ่ง ติดเชื้อจากคลัสเตอร์ชาวญี่ปุ่นรวม 6 คนที่มาเที่ยวร้านคาราโอเกะกลางเมืองโคราช เมื่อวันที่ 9 เม.ย. แพร่เชื้อให้ผู้ป่วยรายที่ 376 หญิงไทยทำงานเป็นล่ามซึ่งสัมผัสกับสามี ผู้ป่วยรายที่ 352 ทำหน้าที่จิตอาสาที่สำนักสงฆ์พระสาสนโสภณ ต.ไชยมงคล อ.เมือง และขับรถรับส่งพระ-เณร วันที่ 19 เม.ย.มาร่วมพิธีสงฆ์ ขอชี้แจง ว่าผู้ป่วยรายที่ 352 มิใช่มัคนายกของวัด แต่มีความใกล้ชิดพระผู้ใหญ่ รวมทั้งสามเณรและญาติธรรมที่ร่วมกิจกรรม
ตรวจยกวัด – จนท.ตรวจคัดกรองพระ-เณร กว่า 50 รูป หลังพบล่ามหญิงติดเชื้อโควิดจากชาวญี่ปุ่นผู้บริหารโรงงานในพื้นที่มาเป็นจิตอาสา ที่วัดสุทธจินดาวรวิหาร อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อ วันที่ 23 เม.ย.
กักตัวพระ-เณรวัดดังโคราช
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาลงพื้นที่ตรวจเชิงรุกกลุ่มผู้ใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำกว่า 100 คนที่วัดสุทธจินดาฯ มีทั้งพระ สามเณร และฆราวาสซึ่งมีเสี่ยงสูง 4 คน ส่งไปตรวจหาเชื้ออย่างละเอียดที่ร.พ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี สุรนารี ส่วนเสี่ยงต่ำให้ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทานที่เปิดให้ บริการบริเวณสนามศาลากลางจังหวัด
สำหรับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเขตอำเภอเมืองนครราชสีมา ผลการตรวจกลุ่มเสี่ยงสูง 2 รอบยังไม่พบผู้ติดเชื้อ ส่วนกลุ่มเสี่ยงต่ำ ก็ไม่พบว่าติดเชื้อเช่นกัน ทั้งหมดจะต้องกักตัวเองอยู่ภายในวัด 14 วันเพื่อสังเกตอาการ โดยจะจัดอาหารเป็นชุดให้พระเณรแต่ละรูปไปฉันในกุฏิแยกกัน ไม่ใช้อุปกรณ์ร่วม สวมหน้ากากอนามัย และปฏิบัติตามมาตรการที่สาธารณสุขกำหนด ที่สำคัญคือ ช่วงนี้ต้องงดรับกิจนิมนต์ แต่ทางวัดยังไม่ได้ปิดพื้นที่ ญาติโยมยังสามารถเข้าไปทำบุญได้ตามปกติ แต่จะต้องคัดกรอง ใส่แมสก์ ล้างเจลแอลกอฮอล์ และจะต้องเว้นระยะห่างตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ซึ่งบรรยากาศภายในวัดวันนี้ค่อนข้างเงียบเหงา ประชาชนยังคงตื่นกลัวกับกระแสการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 ที่ระบาดอย่างรวดเร็วและรุนแรง ทำให้หลายคนไม่กล้าเดินทางเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงที่ระบุในไทม์ไลน์
นอกจากนี้ระดมทำความสะอาดทั่วเขตพื้นที่อภัยทานและประกาศงดทุกกิจกรรมรวมทั้งกักตัวกลุ่มเสี่ยงตั้งแต่บัดนี้เป็นเวลา 14 วัน
ทั้งนี้พระ-เณรและญาติธรรมประมาณ 50 รายทยอยมาตรวจคัดกรองตรวจหาเชื้อโควิดกับรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย
36 จว.สั่งใส่หน้ากากออกนอกบ้าน
ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) รายงานจังหวัดที่มี คำสั่งกำหนดมาตรการให้ประชาชนใส่หน้ากาก อนามัย/หน้ากากผ้า เมื่ออยู่นอกเคหสถาน รวม 36 จังหวัดทั่วประเทศ ประกอบด้วย ภาคกลางและภาคตะวันออก 9 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี นครปฐม (ไม่มีบทลงโทษ) ปราจีนบุรี เพชรบุรี ระยอง สมุทรสาคร สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา และอ่างทอง
ภาคเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ตาก พิษณุโลก (ไม่มีบทลงโทษ) เพชรบูรณ์ แพร่ (ไม่มีบทลงโทษ) ลำพูน (ไม่มีบทลงโทษ) สุโขทัย และอุตรดิตถ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ศรีสะเกษ สุรินทร์ หนองคาย อุดรธานี และอุบลราชธานี และ ภาคใต้ 10 จังหวัด ได้แก่ ตรัง นราธิวาส ปัตตานี พังงา พัทลุง ภูเก็ต ยะลา (ไม่มีบทลงโทษ) ระนอง สตูล และ สุราษฎร์ธานี
‘อนุทิน’ยันยังคุมสถานการณ์ได้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงยอดผู้ป่วย ที่เพิ่มขึ้นมาถึง 2 พันคนในวันนี้จะควบคุมสถานการณ์ได้อยู่หรือไม่ว่า ภายใต้สถานการณ์ ที่ใช้อยู่เราก็ควบคุม ซึ่งคำว่าควบคุมได้คือ ไม่ให้แพร่ระบาดไปเกินระดับที่เขาตั้งเกณฑ์เอาไว้ ซึ่งขณะนี้ถือว่านิ่งมาอาทิตย์กว่าๆ ตัวเลข พันเจ็ด พันสี่ขึ้นมาสองพันอะไรแบบนี้ หากนำ มาเฉลี่ยก็ยังอยู่ใกล้เคียงกัน ซึ่งยังอยู่ในจุดที่คาดหวังไว้ เชื่อว่าเป็นผลจากการใช้มาตรการเพราะหากไม่มีการควบคุมก็อาจทำให้มากกว่านี้ ตอนนี้จึงหวังว่าจากนี้ไป 2 สัปดาห์ทุกอย่างจะค่อยๆ ลงมา
เมื่อถามว่าขณะนี้กังวลอะไรมากที่สุด นายอนุทินกล่าวว่า สิ่งที่กังวลคือความร่วมมือของคน ถ้าคนให้ความร่วมมือเต็มที่ อยู่บ้านเท่าที่สุดที่จะทำได้หรือเวิร์กฟรอมโฮม และหลีกเลี่ยงการพบปะการรวมกลุ่มกันเยอะๆ สิ่งนี้ช่วยได้เยอะจริงๆ อยากย้ำว่าการรวมกลุ่มในทุกประเภทขอให้งด เพราะเกิดกรณีไม่ไปสังสรรค์ แต่ไปปฏิบัติธรรมนั่นก็คือการ รวมกลุ่มกันอยู่ดี หรือกรณีเจ้าของโรงงานไปดูงานมอเตอร์โชว์มา ไม่รู้ไปติดมาจากไหน เอามาติดทั้งโรงงานแบบนี้คือสิ่งที่ตนกังวลมากที่สุด
เมื่อถามว่ามีข่าวกรณีไฮโซเดินทางข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้านแล้วกลับมาจนนำเชื้อมาแพร่กระจายนั้นมีการสอบสวนโรคและเปิดเผย มาหรือยัง นายอนุทินกล่าวว่า เรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องของตำรวจและเจ้าหน้าที่บ้านเมือง สาธารณสุขมีหน้าที่คอยรักษา จะให้สาธารณสุข ไปถือปืนยืนเฝ้าคนไม่ให้เข้าผับเข้าบาร์เป็นไปไม่ได้
เมื่อถามย้ำว่าก่อนหน้านี้คณะแพทย์เคยมีข้อเสนอว่าควรมีกฎหมายบังคับอย่างจริงจัง แต่รัฐบาลบอกให้พบกันครึ่งทาง นายอนุทินกล่าวว่า ทุกคนมีเงื่อนไข มีความกังวลทางแพทย์ ก็ต้องบอกว่าดีที่สุดคือการล็อกทุกอย่างไม่ต้องทำอะไรเลย แต่ในมุมเศรษฐกิจถ้าทำแบบนี้เศรษฐกิจพังก็ต้องหาจุดที่มันลงตัวซึ่งกันและกัน เราก็พยายามประคับประคองทุกมิติของกลไกการบริหารประเทศให้เดินหน้าไปได้
“ถ้าสาธารณสุขบอกว่าดีที่สุดคือ การล็อกดาวน์ มันทำได้หรือไม่ สาธารณสุขอยากจะล็อกดาวน์ แต่พอเสนอมาพอมีการชี้แจงของฝั่งเศรษฐกิจ เราก็ต้องฟังหรือไม่ฟังและบอกไม่สนแล้วครับ มันก็ไม่เป็นรัฐบาล ผมพูดแล้ว ผมเตือนอย่างนี้แล้ว ถ้าไม่เป็นไปตามนี้ ผมไม่ รับผิดชอบ ผมพูดได้ไหม และใครจะรับผิดชอบ ตัวนายกฯ ต้องรับผิดชอบ ถ้านายกฯอยู่ไม่ได้ รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้ วันนี้จึงไม่ใช่วันที่จะไปชี้ว่าใครผิดใครถูก มันเป็นวันที่ต้องร่วมมือกันอย่างเต็มที่และมีความอดทนอย่างสูง”
ผู้ว่าฯให้กำลังใจ‘น้าค่อม-เศรษฐา’
นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผวจ.สมุทรสาคร ซึ่งหายป่วยโควิดแล้วโพสต์ให้กำลังใจน้าค่อม ชวนชื่น ตลกชื่อดังที่ป่วยโควิดว่า “จากที่ผมติดตามข่าวและทราบว่าการระบาดรอบนี้ค่อนข้างรุนแรง มีผู้ป่วยโควิดจำนวนมากที่อาการเข้าขั้นวิกฤต ซึ่งมีกรณีของคนวงการบันเทิงอย่าง “อาต้อย เศรษฐา” และ “น้าค่อม” โดยเมื่อวานข่าวรายงานว่าน้าค่อมอาการทรุดลง บางท่านบอกว่าอาการคล้ายกับผมตอนที่ป่วยหนัก
ทั้งยังทราบว่ามีผู้ป่วยที่อาการหนักกว่า น้าค่อม หรือหนักกว่าผม และผู้ป่วยสูงอายุอีกจำนวนหลายราย จึงขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ทั้งอาต้อย น้าค่อม และผู้ป่วยทุกท่าน ตลอดจน ครอบครัวของผู้ป่วย ขอให้อาการของทุกท่านดีขึ้นในเร็ววัน ให้ท่านได้ตื่นขึ้นมารับรู้ถึงความรัก ความห่วงใย จากคนในครอบครัว จากคนใกล้ชิด ที่รอคอยการกลับมาของท่านอยู่ทุกวินาที ได้มาเห็นถึงกำลังใจจากคนไทยอีกหลายคน ที่เอาใจช่วยและส่งความปรารถนาดี ผ่านช่องทางต่างๆ
รวมทั้งขอขอบคุณทีมแพทย์ พยาบาล บุคลากร จากทุกโรงพยาบาล ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ โดยเฉพาะแพทย์วิกฤต แพทย์โรคปอดและโรคทางเดินหายใจที่กำลังทำงานหนัก เพื่อรักษาชีวิตของผู้ป่วยทุกคนอยู่ในเวลานี้ สำหรับในส่วนของจ.สมุทรสาคร ผมจะคอยสนับสนุนทั้งการทำงานและปัจจัยอื่นเพื่อช่วยเสริมขวัญกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ อย่างเต็มความสามารถครับ”
โพสต์ให้กำลังใจ‘น้าค่อม’
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. เพจ เฟซบุ๊กสนับสนุนรัฐบาล “ลุงตู่ตูน” ขึ้นข้อความ ให้กำลังใจ “น้าค่อม” นายอาคม ปรีดากุล นักแสดงตลกชื่อดังที่เข้ารับการรักษาตัวด้วยโรคโควิด-19 ว่า ล่าสุดย้ายเข้ารับการรักษา ที่โรงพยาบาลรามาจักรีนฤบดินทร์ ซึ่งเป็น โรงพยาบาลที่มีศักยภาพสูง นายกลุงตู่ให้กำลังใจ “ค่อม ชวนชื่น”
