ศักดิ์สยามยัวะ
แจ้งจับ‘เต้-สื่อ’
กล่าวหาไปผับ

‘จุรินทร์’ ชี้สัญญาณดี ส.ว.หนุนแก้รธน.มาตรา 272 ปิดสวิตช์ส.ว. โหวตนายกฯ ‘ศักดิ์สยาม’ ส่งทนายพบตร.บุรีรัมย์ แจ้งจับ‘เต้-มงคลกิตติ์’ กับสื่อค่ายดัง กล่าวหา เที่ยวคลับทองหล่อ คลัสเตอร์ต้นตอแพร่ โควิดระลอก 3 ‘ส.ส.เต้’ สวนทันควันรอหมายอยู่ ‘กนก วงษ์ตระหง่าน’ แนะ ‘ชวน’ ประชุมออนไลน์ ให้ส.ส.ที่เป็นหมอ ร่วมถกทางออกแก้โควิด ปชป.โวยอีกคำสั่งนายกฯ จัดโซนรัฐมนตรีคุมบางพื้นที่ไม่เหมาะสม ดักคอ อย่าแฝงนัยยะการเมือง ฝ่ายค้านห่วงแบ่งเค้ก 4.5 หมื่นล้านแจกฐานเสียงรัฐมนตรี

‘บิ๊กตู่’เร่งปฏิรูปกองทัพให้ทันสมัย

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 23 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานประชุมสภากลาโหม ครั้งที่ 4/2564 ไปยังห้องประชุมต่างๆ ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวง กลาโหม เปิดเผยหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้พิจารณาให้ความเห็นชอบเรื่องแผน แม่บทการพัฒนากิจการกำลังพลสำรองของกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2560-2565 โดยเห็นชอบขยายระยะเวลาของแผนแม่บทการพัฒนากิจการกำลังพลสำรองของกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2560-2564 ออกไปอีก 1 ปี (พ.ศ.2565) และแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำร่างแผนแม่บทการพัฒนากิจการกำลังพลสำรองของกระทรวงกลาโหมในระยะเวลา ต่อไป พ.ศ.2566-2570 เพื่อให้สอดคล้องกับห้วงเวลาของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ

โดยแผนแม่บทฉบับดังกล่าวกำหนดเป็นแนวทางการบริหารและพัฒนากิจการกำลังสำรองของชาติ เพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาภัยคุกคามด้านความมั่นคงของประเทศ ตามแนวคิดทางยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศของกระทรวงกลาโหม ทั้ง 3 ด้าน คือ การสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคง การผนึกกำลังป้องกันประเทศ และการป้องกันเชิงรุก

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้กำชับให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ ให้ความสำคัญกับการพัฒนางานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางทหารที่เปลี่ยนแปลงไป โดยให้ติดตามเร่งขับเคลื่อนการปฏิรูปกองทัพให้มีความทันสมัย สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ตลอดจนสภาพแวดล้อมภัยคุกคามด้านความมั่นคง เพื่อรองรับการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ด้านความมั่นคงและการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบปฏิบัติการของกองทัพ ในอนาคต และรองรับการปรับลดกำลังพลและโครงสร้างกองทัพที่มีขนาดเหมาะสมและคล่องตัวกับการรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบต่างๆ

‘ศักดิ์สยาม’ฟ้อง‘เต้’ปมทองหล่อ








Advertisement

เวลา 09.00 น. ที่สภ.เมืองบุรีรัมย์ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มอบอำนาจให้นายทิวา การกระสัง ทนายความ มาแจ้งความ ดำเนินคดีกับนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือเต้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กรณีเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 17 เม.ย. ระบุว่า นายศักดิ์สยามไปเที่ยวผับในย่านทองหล่อ เมื่อปลายเดือนมี.ค. ทําให้เกิดคลัสเตอร์ทองหล่อ มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประมาณหมื่นกว่าคน ทำให้นายศักดิ์สยามได้รับความเสียหาย เป็นความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) และมาตรา 16

นายศักดิ์สยามยังฟ้องเอาผิดกับกลุ่มบริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จํากัด รวมถึง ระดับผู้บริหารอย่างประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร และ 2 พิธีกรจัดรายการชื่อ “เนชั่นทันข่าวค่ำ” ที่เผยแพร่ทางสื่อโทรทัศน์ของเนชั่นทีวี และเว็บไซต์ยูทูบ ช่อง NationTV22 เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ว่า เป็นการนำข้อความอันเป็นเท็จมาว่านายศักดิ์สยาม ไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านทองหล่อ ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาดังกล่าวทำให้นายศักดิ์สยามได้รับความเสียหาย เป็นความผิดตามพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) มาตรา 16 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328 ประกอบมาตรา 83, 90 และ 91

‘มงคลกิตติ์’สวนรอหมายอยู่

เวลา 10.30 น. นายมงคลกิตติ์ โพสต์ เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ขอบคุณที่ฟ้องตน ต่างคนต่างทำหน้าที่ ตนรอหมายอยู่ ออกหมายเร็วๆ ตนจะได้อาศัยอำนาจศาลเรียกพยาน ทั้งบุคคล เจ้าของเครือข่ายมือถือ ตรวจสอบไทม์ไลน์ ทุกคนที่ใกล้ชิดตำรวจทองหล่อทั้งสน. รวมทั้งนายศักดิ์สยาม และรัฐมนตรีทุกคนในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในช่วง 1-28 ก.พ.,1-31 มี.ค. และ 1-5 เม.ย. ใครไปแถวทองหล่อบ้าง รวมทั้งรายละเอียดสนทนากันผ่านมือถือในช่วงดังกล่าวด้วย ว่าคุยกันเรื่องใดบ้าง

“เห็นว่าพี่ฟ้องผมที่อ.เมืองจ.บุรีรัมย์ หมายออกให้ไปเมื่อใด ผมจะไปมอบตัว พร้อมพาเพื่อนส.ส.ฝ่ายค้านทุกพรรคไปเยี่ยมดูที่ดินรถไฟเขากระโดง ด้วยว่ามีสภาพหินรถไฟเหลือมากน้อยเพียงใด” นายมงคลกิตติ์ ระบุ

‘จุรินทร์’ตีปี๊บมีส.ว.หนุนแก้ม.272

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ยกร่างแก้ไขเสร็จแล้ว 6 ฉบับ และจะนำไปพิจารณาร่วมกับพรรคภูมิใจไทยและพรรคชาติไทยพัฒนา ดังนั้น สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้ ยังไม่ถึงขั้นส่งผลกระทบกับการเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ เพราะต้องรอพิจารณาเมื่อเปิดการประชุมสภาสมัยสามัญ ในเดือนพ.ค.แล้ว

นอกจากนี้ ยังมีสัญญาณที่ดีจากกรณี มี ส.ว.จำนวนหนึ่งเห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 272 ที่จะให้ส.ว.มีหน้าที่เฉพาะการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน แต่ไม่จำเป็นต้องมีอำนาจร่วมลงมติเลือกนายกฯ เพราะการลงมติเลือกนายกฯ ควรเป็นหน้าที่ของ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนเท่านั้นมากกว่า และการที่ส.ว. จำนวนหนึ่งเห็นด้วยก็เป็นไปได้ที่จะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จได้ นอกจากต้องใช้เสียง สมาชิกเกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุมร่วมรัฐสภา คือ ส.ส.และ ส.ว. รวมกันแล้ว ต้องมีเสียงส.ว.ไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 และต้องมีเสียง ส.ส. ฝ่ายค้านไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 มาประกอบด้วย ฉะนั้น ถ้าได้เสียงส.ว.เกินกว่า 1 ใน 3 เห็นชอบด้วย จะทำให้การแก้รัฐธรรมนูญสำเร็จได้

‘กนก’แนะ‘ชวน’ประชุมออนไลน์

นายกนก วงษ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ส่งข้อความผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ประชุมออนไลน์กับส.ส.ที่เป็นแพทย์ เพื่อร่วมเสนอแนวทางแก้ปัญหาจำนวนเตียงไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ขอให้ส.ส.ที่เป็นแพทย์ที่เข้าใจสภาพการระบาดในพื้นที่ ให้คำแนะนำ ว่า 1.ประชาชนควรและไม่ควรทำอะไรบ้าง 2.การช่วยสื่อสารกับประชาชนในพื้นที่เพื่อการร่วมมือหยุดการระบาดควรทำอะไรและอย่างไร และ3.ส.ส.มีบทบาทช่วยลดการแพร่ระบาดในพื้นที่ได้อย่างไรบ้าง

“ผมคิดว่าเมื่อได้คำตอบทั้ง 3 ประเด็นแล้ว ประธานอาจเชิญส.ส.จากทุกภูมิภาคและ ทุกพรรค 50 คนประชุมหารือออนไลน์ต่อไป จากนั้นอาจสรุปแนวทางปฏิบัติเสนอกับรัฐบาล และแจ้งให้ส.ส.ทุกท่านได้ทราบเพื่อจะได้นำไป ปฏิบัติต่อไป” นายกนกระบุ

‘ราเมศ’ติงจัดโซนรมต.คุมพื้นที่

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงคำสั่งนายกฯ ที่ 85/2564 มอบหมายให้รัฐมนตรีรับผิดชอบงาน ภายใต้แนวคิดการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับพื้นที่จังหวัด เพื่อให้การพัฒนา และแก้ไขปัญหาระดับจังหวัดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ว่า นายกฯ มีอำนาจมอบหมาย ตามความเหมาะสม ซึ่งมีรัฐมนตรีหลายคน ที่การมอบหมายถือว่าเหมาะสม

“มีอีกหลายคนที่ดูแล้วอาจจะไม่มีความสอดคล้องกับพื้นที่เพื่อให้เกิดความเหมาะสม เพราะหากได้รับมอบหมายให้ดูแลจังหวัดที่เข้าใจ เข้าถึงแล้ว ย่อมมีประสิทธิภาพเกิดประโยชน์ในการพัฒนามากยิ่งขึ้น แต่ท้ายที่สุดหากรัฐมนตรีไปดูแลจังหวัดนั้นๆ โดยมีจุดมุ่งหมายนัยยะอย่างอื่น ผลจากการกระทำจะเป็นคำตอบ ดังนั้น การทำหน้าที่ควรยึดประโยชน์ของประชาชนและประเทศ จะเป็นส่วนสำคัญที่สุด” นายราเมศกล่าว

พท.ห่วงกระจายงบไม่เป็นธรรม

ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีกระทรวงมหาดไทยทำหนังสือแจ้งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ ให้จัดทำคำขอเพื่อทำโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชนบนพื้นฐานของโอกาสและศักยภาพของท้องถิ่นระดับพื้นที่ วงเงิน 4.5 หมื่นล้านบาท พร้อมกับ มีมติ ครม.รับทราบคำสั่งสำนักนายกฯ ที่ 85/2564 เรื่องมอบหมายให้รัฐมนตรีรับผิดชอบ แนวคิดการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับพื้นที่จังหวัดด้วยว่า เม็ดเงินในโครงการนี้ คิดว่าต้องใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และมีประสิทธิภาพท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่หนักหน่วงนี้ ต้องระมัดระวังอย่าให้มีการทุจริตเกิดขึ้น อีกประการหนึ่งคือ ห่วงว่า การกระจายงบประมาณลงไปในแต่ละพื้นที่ แม้จะให้ทุกจังหวัดแต่ต้องเป็นธรรม

อยากให้เขียนรายละเอียด และลักษณะของโครงการให้ชัดเจนกว่านี้ เพราะเท่าที่อ่านดูข้อที่จะสามารถทำให้มีการทุจริตได้ เช่น โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ที่ท่านระบุไว้ เช่น การทำถนนในหมู่บ้าน หรือการจัดหาแหล่งน้ำขนาดเล็ก ตรงนี้จะไปซ้ำซ้อนกับงบที่ท้องถิ่นดำเนินการอยู่หรือไม่ นอกจากนี้ การใช้งบประมาณยังจะต้องผ่านคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด ซึ่งต้องประสานงานกับรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลแต่ละจังหวัด ให้รับผิดชอบงบนี้ร่วมกันด้วย จึงเกรงว่าจะมีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง

ก.ก.ซัดลักหลับแบ่งเค้ก 4.5 หมื่นล.

นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวว่า ขอคัดค้านคำสั่งนายกฯ ที่ 85/2564 ที่มีการแบ่งพื้นที่ให้รัฐมนตรี เป็นผู้ขับเคลื่อนงบประมาณโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก กรอบงบประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท คิดว่าเป็นเรื่องน่าผิดหวังอย่างยิ่ง ในช่วงที่เกิดวิกฤตประเทศ ครม.ลักหลับออกคำสั่งแบ่งเค้กประเทศในครั้งนี้ออกมา คำสั่งนี้เป็นการบริหารงานที่หวังผลทางการเมือง ไม่ได้คำนึงถึง ประสิทธิภาพและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง

การมอบหมายจังหวัดที่รัฐมนตรีรับผิดชอบ นั้น ไม่ได้แบ่งตามเหตุผลความจำเป็นของประชาชน แต่แบ่งพื้นที่ตามฐานเสียงที่รัฐมนตรีคนนั้นๆ เป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ซึ่งนอกจากรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐแล้ว พรรคร่วมรัฐบาลอื่นก็ได้ดูการใช้งบในจังหวัดตัวเองเช่นกัน

ที่น่าจับตาคือ ภาคใต้ ที่รัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์ได้ดูแลเพียง 2 คน คือ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ และ นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ซึ่ง นายนิพนธ์ ไม่ได้ดูจ.สงขลา แต่เป็นร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) มาดูหลายจังหวัดที่สำคัญของภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็นสงขลา นครศรีธรรมราชและภูเก็ต แล้วให้น.ส.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน ขึ้นไปดูจังหวัดในโซนภาคเหนือของตัวเองแทน ต้องจับตาความขัดแย้งภายในรัฐบาลตรงนี้

งบโครงการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันก้อนนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ภายใต้ พ.ร.ก. เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท จึงอยากเสนอให้รัฐบาลนำมาใช้เป็นงบเยียวยาประชาชนสำหรับโควิดระลอก 3 แทน เวลานี้ รัฐบาลควรบริหารจัดการงบอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ไม่ใช่นำงบมากระจายตามฐานเสียง ตอกย้ำกระแสข่าวลือเรื่องการยุบสภาว่าอาจเกิดขึ้นจริง

ล่าชื่อรื้อตู่ – เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี จัดกิจกรรม #ขอคนละชื่อ รื้อระบอบประยุทธ์!! ตั้งโต๊ะล่าขอรายชื่อผู้สนับสนุนขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากนายกรัฐมนตรี บริเวณทางเท้าใกล้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 23 เม.ย.

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน