แม่โกนหัว-ขอประกัน
นัดไต่สวนคำร้อง6พค.
อธิบดีศาลอาญาชี้ม็อบ
กดดันท่านเปา-ละเมิด
สั่งดำเนินคดี-ไม่มีเว้น

ส่ง ‘เพนกวิน’ รักษาตัวด่วนที่ร.พ. รามาฯ แล้ว หลังอดอาหารกว่า 45 วัน ราชทัณฑ์หวั่นถึงวิกฤตขั้นมีอาการช็อก ด้านแม่สุรีย์รัตน์ยื่นประกันอีกครั้ง พร้อมโกนหัวเรียกร้องความเป็นธรรมให้ลูกชาย ศาลนัดไต่สวนวันที่ 6 พ.ค. อธิบดี ผู้พิพากษาศาลอาญาสั่งดำเนินคดีม็อบที่บุกเข้าไปในบริเวณที่ทำการศาล ชี้กดดันผู้พิพากษา-ละเมิดอำนาจศาล โต้ทนายอย่าสร้างกระแสกดดัน ระบุยื่นเงื่อนไขขอประกัน 7 แกนนำราษฎรต่างจากชุดไผ่ ดาวดิน ชี้ในคำร้องไม่ระบุเงื่อนไขว่าจะไม่กระทำซ้ำ แต่จะให้ศาลออกคำสั่งเอง

โกนหัว – นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ แม่ ‘เพนกวิน’ พริษฐ์ แกนนำน.ศ. ร่ำไห้กอด‘พอยท์’ พลอยวรินทร์ ลูกสาวคนเล็ก หลังโกนหัวตัวเองเพื่อแสดงสัญลักษณ์ ก่อนยื่นขอประกันตัว ลูกชายอีกครั้ง ที่หน้าศาลอาญา เมื่อวันที่ 30 เม.ย.

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 30 เม.ย. ที่ศาลอาญารัชดา นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ พร้อมด้วยทนายความ เดินทางไปยื่นประกันตัวเพนกวิน-นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ลูกชายอีกครั้ง เพื่อให้เพนกวินที่อดอาหารประท้วงมาเป็นเวลากว่า 46 วัน ได้ฟื้นฟูร่างกาย เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอย่างเหมาะสม

นางสุรีย์รัตน์ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวก่อนเข้ารับฟังคำสั่งศาล ว่าวันนี้ได้ยื่นประกันเพนกวินอีกครั้ง เพราะรู้ว่าลูกไม่ไหวแล้ว อยากเรียกร้องความยุติธรรม อย่าได้ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ไม่ว่าวันนี้จะได้ประกันตัวหรือไม่ก็ตาม ก็อยากจะให้กำลังใจลูก และที่ใส่เสื้อรูปเพนกวินมาก็อยากให้รู้ว่าแม่อยู่กับลูกตลอดเวลา และขอให้ทุกคนจำภาพแม่ในวันนี้ไว้

จากนั้นนางสุรีย์รัตน์ตัดผมและโกนหัว ท่ามกลางสายฝนตกลงมาอย่างหนัก ก่อนเดินทางเข้าห้องพิจารณาเพื่อฟังคำสั่งศาลเรื่องการประกันตัวต่อไป

นางสุรีย์รัตน์หลั่งน้ำตาระหว่างถูกปัต ตะเลี่ยนไถเส้นผม โดยกล่าวว่า “ผมคืออีกสิ่งที่สวยที่สุดของผู้หญิง แม่โกนผมในวันนี้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าลูกชายยังไม่ได้ความยุติธรรม การตัดผมต้องการให้ทุกคนเห็นว่าประเทศยังไม่มีความยุติธรรม คนที่ออกมาเรียกร้องประชา ธิปไตย ยังไม่มีการตัดสินแต่ถูกจับกุมคุมขัง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ตนเองสิ้นหวังต่อกระบวนการยุติ ธรรม การโกนผมครั้งนี้เป็นเพียงการแสดงออกที่เล็กน้อยเมื่อเทียบกับการเรียกร้องประชา ธิปไตยของลูก เพื่อนๆ และคนหนุ่มสาว”

นางสุรีย์รัตน์เปิดเผยว่า เมื่อช่วงที่ได้ไป เยี่ยมบุตรชายที่เรือนจำ และก็เห็นรถพยาบาลขับออกมา ทำให้กังวลใจเป็นอย่างมากว่าคนไข้ในรถจะเป็นเพนกวินหรือไม่ แต่โชคดีที่ไม่ใช่ จึงยื่นขอประกันตัวบุตรชายโดยเร็วที่สุด เพราะเกรงว่าจะมีอันตรายถึงชีวิต ซึ่งทุกครั้งที่ยื่นประกันก็มีความหวังเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน แต่หากไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนเองก็จะแสดงออกถึงความไม่ยุติธรรม เช่นเดียวกับเพนกวินที่อดอาหารอยู่ภายในเรือนจำ โดยตนพร้อมจะสละสิ่งสำคัญสำหรับผู้หญิงคือความสวย ด้วยการโกนศีรษะ เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้น เช่นกัน

ที่กรมราชทัณฑ์ ถนนนนทบุรี ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี นางสุริยา สิทธิจิรวัฒนกุล มารดาของ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง น.ศ.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดีการเมือง เดินทางมายังกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วยตัวแทน เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) เพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ขอให้ส่งตัวนายพริษฐ์ไปรักษาตัวในโรงพยาบาลนอกเรือนจำที่ได้มาตรฐาน

ด้านนางสุริยาเปิดเผยว่าตนพร้อมกับนักวิชาการได้นำจดหมายมายื่นกับอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพื่อขอให้นำตัวเพนกวินออกจากเรือนจำไปรักษาตัวข้างนอกก่อน ซึ่งมีตัวแทนมามารับจดหมายไป แม้ว่าวันนี้จะยังไม่ได้คำตอบก็ตาม ในวันจันทร์จะเดินทางมารอคำตอบอีกครั้ง ซึ่งก็หวังว่าทางกรมราชทัณฑ์จะให้ความเมตตากับเด็กๆ ส่วนอาการของรุ้งในตอนนี้มีอาการมือชา เท้าชา และตัวชา ทำกิจกรรมไม่ไหวแล้ว ตนเป็นห่วงเด็กทั้งสองคนสุดๆ ในตอนนี้ เพราะอยู่ในสภาพที่แออัด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก หวังว่าสักวันคงได้รับความเมตตาให้กับเด็กๆ ทั้งสองคน

ร่วมด้วย – กลุ่มแนวร่วมเกือบ 20 คน พร้อมใจโกนศีรษะแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ตามแม่ ‘เพนกวิน’ พริษฐ์ แกนนำน.ศ. ระหว่างชุมนุมเรียกร้องสิทธิประกันตัวผู้ต้องขังคดีการเมือง ที่หน้าศาลอาญา เมื่อค่ำวันที่ 30 เม.ย.

นอกจากนี้ กลุ่มศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จำนวนมากกว่า 3,000 คน ได้ออกมาร่วมลงนามในแถลงการณ์ เรียกร้องให้ปล่อยตัวนายพริษฐ์ ซึ่งเป็นสมาชิกสิงห์แดงรุ่น 69 นอกจากเป็นสิงห์แดง 69 แล้ว ยังเป็นลูกของแม่สุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ และพี่ชายของน้องสาวที่กำลังร่ำไห้ เพราะพี่ชายของเขากำลังต่อสู้เพื่ออนาคตของทุกคน

เราในฐานะศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน คณะรัฐศาสตร์ ขอประณามความอยุติธรรม ทุกประการที่เกิดขึ้นกับพริษฐ์ ชิวารักษ์ และ นักกิจกรรมทางการเมืองทุกๆ คน

วันเดียวกัน นายสิทธิโชติ อินทรวิเศษ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวถึงเหตุการณ์การชุมนุมบริเวณบันไดศาลอาญาเพื่อเรียกร้องกดดันให้ปล่อยเเกนนำคณะราษฎร เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ว่า ทางศาลอาญากำลังตรวจสอบข้อมูลจากกล้องวงจรปิดและรายละเอียดทั้งหมดอยู่ให้ละเอียดชัดเจน ถ้าหากมีการกระทำที่มีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ทางศาลอาญาก็จะดำเนินการเอง ในส่วนข้อหาอื่นที่เป็นในภาพรวม เช่น ความผิดฐานดูหมิ่นศาล หรือความผิดลักษณะนี้ ก็จะขอให้สำนักงานศาลยุติธรรมดูข้อมูลจากคลิปเพื่อดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อไป

“พฤติการณ์ที่มากันเป็นม็อบเเละมาตะโกนด่าเเละเเสดงออกตามที่เห็นในคลิปมันเป็นการข่มขู่ศาล ข่มขู่ผู้พิพากษา และไม่คำนึงถึงหลักกฎหมายที่ควรจะเป็น ไม่มีประเทศไหนในโลกที่เข้ามาขู่ศาลถึงหน้าศาลแบบศาลอาญาประเทศไทย ถ้าเป็นประเทศอื่นเขาจับกันไปหมดแล้ว ขนาดเราปล่อยให้ใช้สิทธิเสรีภาพได้อย่างเต็มที่ในยุคนี้ก็ยังถูกกล่าวหาว่าทำศาลให้เป็นเรือนจำ ซึ่งเป็นคำพูดของกลุ่มทนายมาหลายครั้งหลายครา ซึ่งมันไม่ตรงกับข้อเท็จจริง สังเกตจากเมื่อวานเราก็ไม่ได้คัดกรองอะไรเข้มจนเกินปกติ เเต่กลุ่มนี้กลับมาใช้ปฏิกิริยากดดันศาลด่าทอหยาบคาย อันนี้ไม่ใช่การใช้สิทธิ แต่เป็นการก้าวร้าวไม่เคารพกฎหมายมากกว่า” นายสิทธิโชติระบุ

นายสิทธิโชติกล่าวถึงหลักเกณฑ์การปล่อยชั่วคราวกรณียกคำร้องเเกนนำม็อบราษฎรหลายครั้งว่า การปล่อยชั่วคราวตามสิทธิสามารถกระทำได้ตลอด แต่ต้องดูป.วิอาญาเกี่ยวกับเรื่องการอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวว่าก่อนหน้านี้ที่ศาลไม่ให้ประกันเป็นเพราะอะไร เพราะที่ศาลมีคำสั่งให้ประกันก่อนหน้านี้เพราะพิจารณาตามลักษณะภาพและการกระทำของจำเลยแต่ละคนในคดีที่ถูกฟ้องว่าได้กระทำอะไรบ้างจึงไม่อนุญาต โดยอาศัยหลักตามมาตรา 108/1 ที่ว่าหากให้ประกันแล้วเกรงว่าจะไปก่อเหตุภยันตรายประการอื่น

“ซึ่งเหตุนี้มีความหมายว่าเป็นเรื่องที่กระทำมาแล้ว แล้วจะกลับไปกระทำอีก ส่วนผิดหรือไม่ผิดเอาไว้อีกที ในเมื่อเขาฟ้องมาเเล้วว่าคุณทำอย่างนี้ ปล่อยคุณไปก็ไปกระทำอีก อันนี้ก็เป็นเหตุอันตรายประการอื่นก็ได้ หรือเป็นเหตุอันตรายประการอื่นที่ไม่เกี่ยวกับคดีนี้ คือไปก่อเรื่องอื่นที่ผิดกฎหมายเรื่องอื่นอันนี้ก็อยู่ในของเขตคำนี้ ศาลก็พิจารณาถึงข้อนี้จึงไม่อนุญาตไป” อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาระบุ

นายสิทธิโชติระบุต่อว่า การขอประกันครั้งต่อไปจึงต้องดูว่าสิ่งที่ศาลไม่อนุญาตเพราะเหตุใด และจำเลยหรือผู้ต้องหาจะสามารถแก้ไขเหตุนั้นหรือทำให้เหตุนั้นมันเปลี่ยนเเปลงไปเเล้วเหมือนกรณีของนายสมยศ, นายจตุภัทร์ เเละนายปติวัฒน์ ที่ทั้งสามได้แถลงต่อศาลเองว่าจะไม่กระทำเเบบเดิม เเละศาลก็รับเงื่อนไข ซึ่งทั้งสามนั้นในช่วงที่ถูกควบคุมตัวอาจจะไปนั่งคิด พิจารณาขึ้นมาได้ว่าสิ่งที่ทำลงไปไม่ควรจะทำและเข้าใจในคำสั่งศาลว่าคำว่าไปก่อเหตุภยันตรายประกันอื่นซ้ำในสิ่งที่ถูกฟ้องมาจึงได้มาแถลงต่อศาลเองว่าจะไม่กระทำเเบบเดิม จึงเป็นเหตุที่ถูกเเก้ไข

เมื่อถามว่าทนายความอ้างว่าได้ยื่นคำร้องประกันโดยใช้เงื่อนไขเดียวกับ 3 คนก่อนหน้านี้ นายสิทธิโชติตอบว่า ไม่ใช่ ในคำร้องที่ยื่นมาเมื่อวันที่ 29 เม.ย.แตกต่างกับ 3 คนที่ ได้ประกันตัว ในหลายประเด็นของ 3 คนนั้น ตัวจำเลยเองเป็นคนลงชื่อในคำร้องเเละยืนยันต่อศาลขอให้ศาลไต่สวน และแถลงต่อศาลด้วยตนเองว่าจะไม่กระทำลักษณะที่ถูกฟ้องและจะไม่ก่อเหตุร้ายประการอื่น ส่วนข้อกำหนดอื่นก็ให้ศาลสั่ง ซึ่งศาลเองก็ไม่สามารถสั่งอย่างอื่นได้ ต้องสั่งตามป.วิอาญา มาตรา 108/1 ที่ว่าจะไม่ก่อเหตุร้ายประการอื่น ศาลก็จะอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เพราะจำเลยเป็นคนเสนอเงื่อนไขเองและจำเลยก็เป็นคนแถลงเอง ไม่ใช่ทนายความเป็นคนแถลงแต่ฝ่ายเดียว มันแตกต่างกัน

“ส่วนที่ทนายความยื่นคำร้องเมื่อวาน ทนายยื่นเอง ในเนื้อหาก็ไม่ได้พูดถึงเลย พูดเพียงแต่ว่าให้ศาลกำหนดเงื่อนไขเอา ซึ่งศาลจะไปบังคับเขาก็ไม่ได้ ศาลจะไม่บังคับใคร แต่ว่าหากตัวจำเลยเห็นว่าสิ่งที่ศาลสั่งว่าเกรงจะไปก่อเหตุภยันตรายประการอื่นที่ศาลก็บอกแล้วว่าที่ไม่ให้ประกันเกรงจะไปกระทำซ้ำในความผิดที่ฟ้อง เเละจำเลยตัดสินใจจะไม่กระทำเเบบ นั้นอีก พร้อมยอมรับในกระบวนการยุติธรรมอีก ศาลก็จะพิจารณา” นายสิทธิโชติระบุ

เมื่อเวลา 15.00 น. นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดี และโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่นายพริษฐ์ สมัครใจอดอาหาร ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.จนถึงปัจจุบัน จนทำให้น้ำหนักตัวลดลงจาก 107 กิโลกรัม เหลือ 94.5 กิโลกรัม แม้ว่าที่ผ่านมาจะยังไม่มีอาการบ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะวิกฤตตามที่กรมราชทัณฑ์ได้ชี้แจงไปแล้ว แต่เนื่องจากนายพริษฐ์อดอาหารเป็นเวลานาน จนร่างกายไม่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ อีกทั้งในวันเดียวกันนี้ นายพริษฐ์เริ่มดื่มน้ำเกลือแร่ได้น้อยลง และมีอาการปวดบริเวณที่ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ จึงต้องถอดสายน้ำเกลือไว้ก่อน แพทย์และพยาบาลมีความกังวลว่าอาจเกิดภาวะช็อกได้ จึงมีความเห็นว่าควรส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลภายนอกเรือนจำ เพื่อรับการรักษาจากแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ

นายธวัชชัยกล่าวต่อว่า ขณะนี้จึงได้ส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยมี รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี รับมอบผู้ป่วยเข้ารักษา ภายใต้การควบคุมดูแลของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์อย่างเคร่งครัด หากนายพริษฐ์ได้รับการรักษาจนอาการดีขึ้นแล้ว จะดำเนินการส่งตัวกลับเข้ารับการรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ต่อไป

ขณะที่นายประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มธ. ทวีตว่าสาเหตุที่ต้องส่งตัวเพนกวินไปรักษาตัวด่วนที่ร.พ.รามาธิบดีนั้น เนื่องจากถ่ายออกมาเป็นเลือด และต้องให้สารอาหารทางหลอดเลือด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีมารดาของนายพริษฐ์ ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว นายพริษฐ์ จำเลยที่ 1 คดีหมายเลขดำ อ.287/2564 (คดีฟ้องร่วมแกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎร รวม 22 คน) กับคดีหมายเลขดำ อ.286/2564 (คดีม็อบเฟส) และที่มารดาของ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง แกนนำกลุ่มราษฎร ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว น.ส.ปนัสยา จำเลยที่ 5 คดีหมายเลขดำ อ.287/2564 โดยวางหลักทรัพย์ประกันจำเลยคนละ 200,000 บาทนั้น ศาลอาญากำหนดนัดไต่สวนคำร้องดังกล่าวในวันพฤหัสบดีที่ 6 พ.ค.นี้ เวลา 10.00 น. พร้อมมีคำสั่งให้เบิกตัวจำเลยที่ 1 และที่ 5 มาใน วันไต่สวน และให้แจ้งอัยการโจทก์ทราบด้วย

ต่อมาเวลา 18.00 น. นางสุรีย์รัตน์ พร้อมทนายได้ออกจากศาลมาให้สัมภาษณ์ว่าศาลได้นัดไต่สวนในวันที่ 6 พ.ค. 64 เวลา 10.00 น. ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี หลังจากได้ยื่นไปแล้วกว่า 10 ครั้ง ซึ่งเราก็หวังว่าผลจะออกมาเหมือนไผ่กับสมยศที่หลังไต่สวนแล้วได้ประกันตัว ช่วงที่อยู่ในศาลได้รับข่าวว่าทางเรือนจำได้นำตัวเพนกวินไปรักตัวที่ร.พ.รามาฯ ซึ่งต้องขอให้ทุกคนช่วยเช็กข่าว แต่ไม่อยากให้ไปติดตามที่ร.พ.เพราะจะเป็นการรบกวนหมอที่จะได้รักษาอย่างเต็มที่ และยังเป็นช่วงโควิด ขอให้รอรับข่าวสารก็พอและรักษาดูแลตัวเองให้ดี เพื่อจะมาร่วมฟังผลกันในวันที่ 6 พ.ค.นี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน