ให้ได้สิทธิประกันตัว
‘นิด้า’สอบอจ.ยุ 6ตุลา

นิสิตจุฬาฯ ฮือยกคำผู้ก่อตั้งคณะครุศาสตร์ติงพฤติกรรม อจ.โพสต์เสียดสีปม ‘เพนกวิน’ อดอาหาร ‘นิด้า’ สั่งสอบอจ.หนุนรัฐประหารยุใช้กำลังปราบเหมือนเหตุ 6 ตุลา คณบดีมธ. ยืนยันจรรยาบรรณอาจารย์ประกันตัวลูกศิษย์ จวกกลับมหาวิทยาลัยไม่ปกป้องนักศึกษา ยธ.-กรมคุกแจงยิบโต้ปม‘กวิ้น’ถ่ายเป็นเลือด ชี้อาการคนอดอาหารนาน

ยืนหยุดขัง – กลุ่มมวลชนพีเพิล โก เน็ตเวิร์ค ประมาณกว่า 100 คน นัดรวมตัวทำกิจกรรม ยืน หยุด ขัง ที่หน้าศาลอาญา ถนนรัชดาฯ เป็นเวลา 1 ชั่วโมง 12 นาที พร้อมชู 3 นิ้ว เรียกร้องสิทธิการประกันตัวแกนนำราษฎร เมื่อวันที่ 1 พ.ค.

ยธ.แจงปมหามกวิ้นส่งรามาฯ

เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรมว.ยุติธรรม เผยว่า ขอชี้แจงอีกครั้งเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดจึงต้องทำความเข้าใจให้ตรงกันว่า กรณีการส่งตัว นายพริษฐ์ หรือ เพนกวิน ชิวารักษ์ แกนนำกลุ่มราษฎรไปยังร.พ.รามาธิบดี กรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่า นายพริษฐ์ถ่ายเป็นเลือดอาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน ไม่ได้มีพยาบาลตรวจพบ แต่นายพริษฐ์แจ้งกับพยาบาลเองว่าอ่อนเพลียและขับถ่ายปนเลือดออก พยาบาลจึงแจ้งกับแพทย์ร.พ.ราชทัณฑ์ แพทย์ 2 คนของโรงพยาบาลจึงลงความเห็นว่าต้องส่งตัวไปตรวจกับแพทย์เฉพาะทาง เพื่อส่องกล้องว่ามีแผลในกระเพาะอาหารจนขับถ่ายออกมาเป็นเลือดหรือไม่

เรือนจำจึงนำตัวส่งร.พ.รามาฯ เพราะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านระบบทางเดินอาหาร เพราะต้องมีการส่องกล้องดูกระเพาะอาหารว่ามีแผลหรือไม่ รวมทั้งยังต้องมีการให้สารอาหารทางหลอดเลือดให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว เพราะมีอาการอ่อนเพลียซึ่งเกิดจากการอดอาหารมาหลายวัน ทั้งนี้ การรักษาอยู่ที่ดุลพินิจของแพทย์ร.พ.รามาฯ ว่าจะต้องรักษาตัวอย่างไรและใช้เวลากี่วัน

กรมคุกยันไม่พบถ่ายเป็นเลือด

วันเดียวกัน กรมราชทัณฑ์ ชี้แจงว่า การนำตัวนายพริษฐ์เข้ารับการรักษาที่ร.พ.รามาฯ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 เม.ย. เวลาประมาณ 07.30 นาฬิกา เจ้าหน้าที่พยาบาลเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ตรวจอาการประจำวัน ของนายพริษฐ์ พบว่าอาการทั่วไปปกติมีอาการอ่อนเพลียเล็กน้อย แต่เริ่มดื่มน้ำเกลือแร่ได้น้อยลงและมีอาการปวดบริเวณที่ให้ สารน้ำทางหลอดเลือดดำต้องถอดสายน้ำเกลือออก และประสานแพทย์และพยาบาล จากทัณฑสถาน ร.พ.ราชทัณฑ์ ตรวจอาการเพิ่มเติม

พบนายพริษฐ์รู้สึกอ่อนเพลียและเรี่ยวแรงลดลงริมฝีปากแห้งเล็กน้อย มีอาการปวดแสบท้องเป็นบางครั้ง และเจ้าตัวให้ข้อมูลกับแพทย์ที่เข้าตรวจว่ามีลักษณะของอุจจาระที่ผิดปกติเหมือนมีเลือดปน จำนวน 1 ครั้ง เมื่อ 4 วันก่อน หลังจากนั้นยังไม่ได้ถ่ายอุจจาระอีก โดยเจ้าตัวปฏิเสธการตรวจทางทวารหนัก เพิ่มเติม เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถาน ร.พ.ราชทัณฑ์ จึงยังไม่มีการตรวจ และยืนยันว่า ยังไม่พบว่ามีการถ่ายอุจจาระเป็นเลือดแต่อย่างใด

ชี้อาการคนอดอาหาร

แพทย์ที่เข้าทำการตรวจรักษาวินิจฉัยเบื้องต้นว่า ภาวะอ่อนเพลียและเรี่ยวแรงลดลงของนายพริษฐ์ เกิดจากการอดอาหารเป็นเวลานาน และอาการปวดท้องร่วมกับข้อมูลที่แจ้ง เกี่ยวกับการถ่ายอุจจาระผิดปกติอาจเกิดจากกระเพาะอาหารอักเสบ ซึ่งแพทย์ได้ให้การรักษาเบื้องต้น โดยให้น้ำเกลือแร่ชนิดรับประทาน เนื่องจากนายพริษฐ์ปฏิเสธที่จะเปิดเส้นเลือดให้น้ำเกลือ รวมทั้งให้ยาเคลือบกระเพาะ รวมทั้งยาลดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารเพื่อบรรเทาอาการ และแพทย์ได้ให้ความเห็นว่าควรส่งตัวเข้าตรวจรักษา ต่อในโรงพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อพิจารณาให้สารอาหารและวิตามินทางเส้นเลือดดำ และตรวจวินิจฉัยทางเดินอาหารเพิ่มเติมให้ได้ผลการวินิจฉัยสุดท้าย ให้ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อผู้ต้องขังมากที่สุด

กรมราชทัณฑ์ โดยทัณฑสถานร.พ. ราชทัณฑ์ จึงดำเนินการส่งตัวนายพริษฐ์เข้ารับการรักษาที่ร.พ.รามาฯ ตามที่ได้มีการชี้แจงไปแล้วดังกล่าว จึงอยากให้ญาติและสังคมคลายความกังวลต่ออาการป่วยของนายพริษฐ์ว่าเป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้ในผู้ป่วยที่อดอาหารหรือไม่ได้รับประทานอาหารเป็นเวลานาน และเป็นการส่งต่อการรักษาเพื่อตรวจอาการโดยละเอียด ภายใต้การดูแลของแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเท่านั้น ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าของอาการนายพริษฐ์เพิ่มเติม กรมราชทัณฑ์จะนำเสนอให้สังคมได้รับทราบต่อไป

นักวิชาการให้กำลังใจแม่กวิ้น

ด้านนายสุรพศ ทวีศักดิ์ นักวิชาการด้านปรัชญาและศาสนา โพสต์ข้อเขียนเรื่อง โกนหัวประท้วงกับแม่เพนกวิน เผยแพร่ผ่าน เฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า ผมเป็นคนรักลูกมากที่สุด ลูกเหมือนศาสนาของผม เขาทำให้ผมรู้สึกได้ถึง “ความสุขมากที่สุด” ตั้งแต่รู้ว่าเขาเริ่มปฏิสนธิในครรภ์ของแม่ เมื่อเขาลืมตาดูโลกจนถึงวันนี้เราร่วมสุขร่วมทุกข์มาด้วยกัน ด้วยเหตุนี้ ผมจึงเห็นพลังแห่งความรักที่งดงามอย่างที่สุดในการยืนหยัดต่อสู้เคียงข้างลูกของแม่เพนกวิน ผมรู้สึกได้ถึงความคับแค้นใจเหลือประมาณที่ลูกต้องเผชิญความอยุติธรรมเช่นนั้น หากเป็นผมไม่แน่ใจเลยว่าผมจะเข้มแข็งได้เท่าครึ่งหนึ่งของเธอ

แม่เพนกวินยืนยันครั้งแล้วครั้งเล่าว่า “ลูกไม่ได้ทำอะไรผิด” ใช่ที่สุดเลย เพนกวินไม่เคยทำอะไรผิดหลักเสรีภาพในการแสดงออกในสังคมประชาธิปไตย นอกจากไม่เคยทำอะไรผิดแล้ว เขายังทำถูกต้องอย่างที่สุดคือต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง การประกาศเจตนารมณ์อดอาหารประท้วงชัดเจนอย่างยิ่งแล้วว่า เขาเดิมพันด้วยชีวิตเพื่อเราทุกคน! ผมอยากให้เราอ่านข้อความของ Timothy Snyder ในหนังสือ “On Tyranny” แปลโดยเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล และชยางกูร ธรรมอัน ที่ว่า “หากไม่มีใครพร้อมตายเพื่ออิสรภาพ เรา ทุกคนคงตายใต้ระบอบทรราชเป็นแน่”

ย้ำไม่สุดโต่ง-เกินเลย

ใช่ นักศึกษาและประชาชนของประเทศนี้ตายมามากเกินพอแล้ว ต้องไม่มีใครตายอีก แต่เพนกวินเขาสู้เพื่อพวกเราอย่างพร้อมจะสละชีวิตเพื่ออิสรภาพ เราไม่ได้เชียร์ให้เขาสละชีวิต แต่เราเคารพนับถือเขาและกราบหัวใจเขา เราต้องไม่ปล่อยให้เขาโดดเดี่ยว ความสำคัญของข้อความข้างบนอยู่ที่ประโยคหลังด้วย คือ “เราทุกคนคงต้องตายใต้ระบอบทรราชเป็นแน่” เชื่อว่าเราทุกคนไม่ต้องการแบบนั้น

การต่อสู้ของเพนกวินไม่ได้ “สุดโต่ง” เพราะเป็นการต่อสู้ตามครรลองประชาธิปไตยอย่างสันติวิธี เป็นการยืนยัน “ทางสายกลาง” คือยืนยันว่าประเทศนี้ต้องมี “กติกาที่ฟรีและแฟร์” ให้ทุกฝ่ายที่เห็นต่างได้พูดคุยต่อรองกันอย่างคนเท่ากัน เอา “ความเป็นมนุษย์” ของทุกฝ่าย คือมโนธรรม เหตุผล มาพูดคุยกัน โดยที่ทุกคนทุกฝ่ายยืดตัวตรงเสมอกัน ไม่ว่าใครจะคิดจะเชื่ออย่างไรก็ตาม

อจ.แจงปมยื่นประกัน112

วันเดียวกัน รศ.ดร.อนุสรณ์ อุณโณ อาจารย์คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เขียนข้อความชี้แจง กรณีเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษาฯ ได้ทำหนังสือที่ อว 0100/72 ถึงอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยมหิดล (มม.) จำนวน 8 คน ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่าจะสอบจรรยาบรรณคณาจารย์ที่ปกป้อง-ยื่นขอประกันตัวกลุ่มนักศึกษาที่ถูกฟ้องร้องคดี 112 และ 116 ได้หรือไม่

รศ.ดร.อนุสรณ์ระบุว่า ด้วยความที่เป็นหนึ่งในผู้ถูกร้องเรียนให้สอบจรรยาบรรณขอชี้แจงล่วงหน้าดังนี้ การใช้ตำแหน่งอาจารย์ในการประกันตัวนักศึกษาเป็นไปตามระเบียบที่กำหนดไว้ ไม่ได้เป็นการทำผิดกฎหมาย อีกทั้งยังเป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัยว่าด้วยจรรยาบรรณอาจารย์ โดยเฉพาะการยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้องและเป็นที่พึ่งนักศึกษายามพวกเขาประสบปัญหา

เพราะเป็นการช่วยเหลือพวกเขาในการใช้สิทธิผู้ต้องหาที่ได้รับการรับรองทั้งในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา รัฐธรรมนูญ และกติการะหว่างประเทศ และยิ่งพวกเขาถูกปฏิเสธสิทธิดังกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างขัดกับหลักกระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นข้อที่ว่าพวกเขาเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาว่าผิด หรือเงื่อนไขในการควบคุมตัวพวกเขาระหว่างการพิจารณาคดี ยิ่งจำเป็นที่ผู้เป็นอาจารย์จะต้องให้ความช่วยเหลือพวกเขา ไม่เฉพาะแต่การใช้ตำแหน่งในการประกันตัว หากแต่ยังรวมถึงการรณรงค์เคลื่อนไหวในด้านอื่นด้วย

จวกมหาวิทยาลัยไม่ปกป้องนศ.

ในทางกลับกัน ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยยังไม่ได้ปกป้องสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของนักศึกษาอย่างหนักแน่นมั่นคงพอ มหาวิทยาลัยพร่ำบอกนักศึกษาว่ามีคุณูปการต่อประชาธิปไตยโดยอาศัยบุญเก่าหรือเรื่องเล่าในประวัติศาสตร์ ทว่าในการเผชิญปัญหาความขัดแย้งการเมืองร่วมสมัย คนมีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยจำนวนมากกลับเข้าร่วมหรือสนับสนุนฝ่ายทำลายประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่ในรูปกลุ่มเคลื่อนไหว คณะรัฐประหาร หรือรัฐบาลที่กลายร่างมา โดยมีรัฐมนตรีกระทรวงการอุดมศึกษาเป็นกรณีล่าสุด ไม่ว่าจะเป็นเพราะความที่เขาเคยอยู่ในมหาวิทยาลัย ความที่เขาเป็นผู้บังคับบัญชา หรือว่าเพื่อประโยชน์ของมหาวิทยาลัย แต่ทำให้มหาวิทยาลัยกลายเป็นสถาบันที่พูดอย่างทำอย่าง

ฉะนั้น มหาวิทยาลัยจะต้องปกป้องสิทธิและเสรีภาพของนักศึกษาให้หนักแน่นมั่นคงมากกว่านี้ โดยเฉพาะในห้วงเวลาที่พวกเขา คือ “เพนกวิน” และ “รุ้ง” อดอาหารประท้วงการไม่ได้รับสิทธิการประกันตัวมากว่าหนึ่งเดือน และ “เพนกวิน” นั้นสภาพร่างกายอยู่ในขั้นวิกฤตแล้ว ก่อนที่พวกเขาจะเป็นอะไรไป ซึ่งจะสร้างรอยด่างพร้อยให้มหาวิทยาลัยจนไม่สามารถอาศัยบุญเก่าในการเล่าเรื่องให้นักศึกษาฟังได้อีก

ด้าน นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวถือเป็นขั้นตอนปกติ เมื่อมีคนร้องเข้ามา ตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการอว. ก็ทำหนังสือไปสอบถามทางมหาวิทยาลัย เพื่อให้ดำเนินการตรวจ สอบมูล ไม่ได้สั่งให้ไปสอบวินัยหรือแทรกแซงอาจารย์ในเรื่องใดทั้งสิ้น โดยขณะนี้ อธิบดีมธ. และมม. ยังไม่ได้มีหนังสืออะไรตอบกลับมา ซึ่งทางอว.เองไม่ได้มีกรอบเวลาใดทั้งสิ้น เข้าใจว่า เรื่องนี้ต้องใช้เวลา กรณีนี้เป็นการตรวจสอบตามขั้นตอนปกติ หากใครไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายไม่ต้องไปกลัว ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน เมื่อมีคนร้องเข้ามาก็สอบถามมหาวิทยาลัยไปตามขั้นตอนเท่านั้น

คณะจุฬาฯจี้สอบอจ.

วันเดียวกัน คณะจุฬาฯ ออกจดหมายเปิดผนึก ถึงคณบดีคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่วนหนึ่งว่า จากกรณีที่ …… อาจารย์จากคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แสดงความคิดเห็นในข่าว อาทิ “ยิ่งอดยิ่งอ้วนเหมือนหมูตอน เหนือกว่าพระเยซูตรงไหน ….” รวมถึงคอมเมนต์ ในข่าวของ อ.เคท ครั้งพิบูลย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่า “เป็นอาจารย์หรือกุ๊ยสถุนข้างถนน”

พวกเราในฐานะนิสิต และประชาชน มีความสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่า การให้อาจารย์คนดังกล่าวผู้เป็นบุคลากรทางการศึกษา ที่มีพฤติกรรมการแสดงความคิดเห็นที่หยาบคาย มีแนวคิดลดทอนคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น ยังคงปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติอยู่ในคณะซึ่งมีวิสัยทัศน์ที่ต้องการเป็น สถาบันผลิตครูและนักการศึกษาชั้นนำของภูมิภาคที่สร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมการศึกษา ขับเคลื่อนสังคมการศึกษาไทยสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน จะทำให้คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สามารถดำเนินการได้ตามวิสัยทัศน์ของตนเองได้อย่างไร

หากคณะครุศาสตร์ จุฬาฯ รวมถึงคณาจารย์ทั้งหลายของคณะยังคงนิ่งเฉย และไม่ดำเนินการใดๆ ต่อพฤติกรรมและแนวคิดของอาจารย์คนดังกล่าว เท่ากับคณะและคณาจารย์ทั้งหลายยอมรับใช่หรือไม่ว่า อาจารย์ที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการเป็นผู้ผลิตครูและนักการศึกษา เพื่อขับเคลื่อนสังคมการศึกษาไทย สามารถมีพฤติกรรมและแนวคิดเช่นนี้ได้ ไม่ผิดปกติแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ยังได้โพสต์ข้อความว่า ในการนี้ พวกเราขออนุญาตหยิบยกคำกล่าวของศาสตราจารย์ ท่านผู้หญิงพูนทรัพย์ นพวงศ์ ณ อยุธยา ผู้ก่อตั้งคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้เคยกล่าวว่า การประกอบกิจที่ขาดศรัทธาและอุดมการณ์ การเป็นผู้นำที่ขาดความกล้าอันชอบด้วยหลักการ เป็นอุปสรรคต่อความสำเร็จและการยกย่องของสังคม…” เพื่อเตือนใจคณะครุศาสตร์ จุฬาฯ และคณาจารย์ทั้งหลายของคณะว่า หากเพิกเฉยกับพฤติกรรมอันต่ำช้าและแนวคิดที่ไม่เห็นคุณค่าของเพื่อนมนุษย์ด้วยกันของบุคลากรร่วมคณะ พวกคุณทั้งหลายคงไม่สามารถที่จะเป็นผู้นำในการสร้างบุคลากรทางการศึกษาที่มีคุณภาพให้กับสังคมได้แต่อย่างใด

นิด้าสั่งสอบอจ.เชียร์ปราบปชช.

รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีประชาชนมีการล่ารายชื่อเรียกร้องให้สอบผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำ คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์หนุนรัฐประหาร หนุนใช้ความรุนแรงปราบปรามการชุมนุมทางการเมืองเหมือนเหตุการณ์ 6 ต.ค.2519 นั้น เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา นิด้าออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าวว่า ศ.ดร.กำพล ปัญญาโกเมศ อธิการบดีนิด้า พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสถาบันได้รับทราบข้อมูล รวมถึงข้อกังวล ความห่วงใย ตลอดจนความคิดเห็นต่างๆ ที่ได้สะท้อนกลับมายังสถาบัน คณะผู้บริหารสั่งการให้มีการดำเนินการตั้งคณะกรรมการแสวงหาข้อเท็จจริง เพื่อพิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบ ข้อบังคับ และจรรยาบรรณของบุคลากรสถาบันต่อไป

อธิการบดีและสถาบันขอเน้นย้ำจุดยืนที่จะยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยสนับสนุนการให้เสรีภาพทางวิชาการ ในการแสดงความคิดเห็นภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ และกฎหมายของประเทศไทย และส่งเสริมความคิดเห็นที่สร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยจะไม่ส่งเสริมหรือสนับสนุนความคิดเห็นใดๆ ที่จะนำไปสู่ความแตกแยกของกลุ่มคนในสังคมและประเทศชาติ

คณะราษฎรกรุงเก่า ยืน หยุด ขัง

วันเดียวกัน บริเวณด้านหน้าศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวพระนคศรีอยุธยา หรืออาคารศาลากลางจังหวัดหลังเก่า ริมถนนศรีสรรเพชญ์ ตัดถนนปรีดีพนมยงค์ อ.พระนคร ศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา กลุ่มคณะราษฎรอยุธยาร่วมกันจัดกิจกรรม ยืน หยุด ขัง 112 นาที เป็นการจัดกิจกรรมครั้งที่ 2 เพื่อเป็นการออกแสดงเชิงสัญลักษณ์ เรียกร้องให้ปล่อยตัวหรือให้ประกันตัว กลุ่มผู้ต้องหา ในคดีม.112 ด้วยการยืนหันหน้าไปทางสะพานปรีดีธำรง ถือแผ่นป้าย มีการเขียนข้อความ พร้อมกับภาพของภาพบุคคลที่ยังถูกคุมขังตามความผิด ม.112 ที่ยังถูกขังในเรือนจำ โดยทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรม ผ่านการคัดกรอง ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ในการยืนร่วมกิจกรรม จัดการยืนให้เว้นระยะห่าง

นอกจากนี้ตั้งโต๊ะลงรายชื่อ “ขอคนละชื่อรื้อระบอบประยุทธ์” ล่ารายชื่อประชาชน 1 ล้านรายชื่อ เพื่อแก้รัฐธรรมนูญเปิดทางสู่ประชาธิปไตย ระหว่างการจัดกิจกรรม มีรถยนต์ที่สัญจรไปมาได้ลดกระจกรถ และ ชูสามนิ้วเพื่อเป็นการให้กำลังใจกับกลุ่มคณะราษฎรอยุธยา จนถึงเวลา 18.22 น. กลุ่มคณะราษฎรอยุธยา ยุติการจัดกิจกรรม ระหว่างการจัดกิจกรรมมีกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจจาก สภ.พระนครศรีอยุธยา ดูแลความปลอดภัย นอกจากนี้ยังพบว่ามีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบร่วมสังเกตการณ์ พร้อมกับมีการบันทึกภาพด้วย

เช่นเดียวกับที่หน้าศาลอาญา ถนนรัชดาฯ กลุ่มมวลชนพีเพิล โก เน็ตเวิร์ค ประมาณกว่า 100 คนได้นัดรวมตัวทำกิจกรรมยืน หยุด ขัง คัดค้าน ม.112 เป็นเวลา 1 ชั่วโมง 12 นาที พร้อมชู 3 นิ้ว โดยนำรูปภาพเพนกวิน ทนายอานนท์ รุ้ง ไมค์ จัสติน แอมมี่ ตี้พะเยาว์ วีโว่ พร้อมนำแผ่นป้ายเขียนตัวเลข 1-47 ซึ่งเป็นจำนวนวันที่แกนนำกลุ่มราษฎรถูกคุมขังอยู่ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

ขณะที่คณะราษมัมนำโดยนางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของ ‘เพนกวิน’ พริษฐ์ แม่ของทนายอานนท์ แม่ของไมค์ แม่ของนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์ และแม่ของ ‘รุ้ง’ ปนัสยา ไปร่วมกิจกรรมยืน หยุด ขัง 1 ชั่วโมง 12 นาที หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อเรียกร้องให้ลูกทุกคนได้รับสิทธิประกันตัว

รายงานข่าวแจ้งว่าแม่ของแอมมี่ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวลูกชายโดยได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 200,000 บาท โดยศาลอาญากำหนดนัดไต่สวนคำร้องดังกล่าวในวันที่ 6 พ.ค. วันเดียวกับที่นัดไต่สวนคำร้องขอประกันตัว ‘เพนกวิน’ พริษฐ์ และ ‘รุ้ง’ ปนัสยา ศาลมีคำสั่งให้เบิกตัวนายไชยอมรจาก เรือนจำมาในนัดไต่สวนดังกล่าวด้วย และ ให้แจ้งอัยการโจทก์กับพนักงานสอบสวนทราบด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน