ปปช.ชี้ธรรมนัส
มีคดีก่อนนั่งสส.
ไม่ผิดจริยธรรม

‘บิ๊กตู่’ส่งทนายแจ้งความเอาผิดเลขาฯพรรคก้าวไกล กับแอดมินเพจพรรค หลังโพสต์ภาพ‘ประยุทธ์-ธรรมนัส’ พร้อมข้อความกล่าวหารุนแรง รมว.ดีอีเอสชี้เข้าข่ายหมิ่นประมาท ผิดพ.ร.บ.คอมพ์ ก้าวไกลไม่หวั่น เดินหน้ายื่นป.ป.ช.-สภาสอบจริยธรรม รมช.เกษตรฯ ด้านโฆษกป.ป.ช.ฟันธงไม่ผิดจริยธรรม เพราะเหตุเกิดก่อนเป็นส.ส.หรือรัฐมนตรี โยนกกต.สอบเรื่องคุณสมบัติ ส.ส.ปชป.เอือม จี้พรรคถอนตัวจากรัฐบาล ทบ.ระบุ กรรมาธิการป.ป.ช. จะบุกค่ายทหาร ตรวจสอบบ้านพักนายกฯ ต้องขออนุญาตสำนักพระราชวังก่อน เพราะทางเข้า-ออกเป็นเขตพระราชฐาน

กมธ.ดูบ้านนายกฯ ต้องขอ‘พว.’

เมื่อวันที่ 7 พ.ค. รายงานข่าว เปิดเผยว่า จากกรณีที่คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร จะตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมกรณี การอยู่บ้านพักรับรองในค่ายทหารของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตามที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ยื่นให้กมธ.ตรวจสอบตามความผิดฝ่าฝืนพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 128 ที่รับผลประโยชน์อื่นใดที่มีมูลค่าเกิน 3,000 บาท โดยพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ใน ฐานะประธานกมธ.จะลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตัวเองนั้น

การเดินทางไปยังบ้านพักรับรองพล.อ.ประยุทธ์ต้องใช้ทางผ่านเข้า-ออก กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นเขตพระราชฐานและเป็นพื้นที่ปิด ต้องทำหนังสือขออนุญาตไปยังสำนักพระราชวัง (พว.) เพื่อขอผ่านทาง ส่วนรายละเอียดการเข้าพักบ้านหลวง ของพล.อ.ประยุทธ์ รวมถึงค่าน้ำ-ค่าไฟ กองทัพบก (ทบ.)เคยส่งข้อมูลไปยังศาลรัฐธรรมนูญ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก่อนหน้านั้นแล้ว

‘บิ๊กตู่’ส่งทนายแจ้งจับก้าวไกล

ส่วนกระแสวิจารณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพส.ส.และความเป็น รัฐมนตรีของร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบ 160 (6) มาตรา 98 (10) และมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (10) หลังเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลแขวงรัฐนิวเซาท์เวลส์ เครือรัฐออสเตรเลีย ความผิดคดียาเสพติด เมื่อปี 2536 เหตุไม่เคยต้องคำพิพากษาศาลไทย จึงไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ

เวลา 14.00 น. ที่สน.นางเลิ้ง นายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ในฐานะทนายความของพล.อ. ประยุทธ์ เดินทางเข้าแจ้งความกับพ.ต.ท. อธิชย์ ดอนนันทัย รองผกก. (สอบสวน) สน.นางเลิ้ง ให้ดำเนินคดีนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กับแอดมินเพจพรรคก้าวไกล ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากกรณีโพสต์ภาพพล.อ.ประยุทธ์และร.อ.ธรรมนัส ขึ้นข้อความต่อว่า (โจรอุ้มโจร) แสดงความไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ความเป็นส.ส.และรัฐมนตรีของร.อ.ธรรมนัสไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญผ่านเฟซบุ๊กเพจพรรคก้าวไกล – Move Forward Party

นายอภิวัฒน์กล่าวว่า นายกฯ ไม่ได้กำชับสั่งการอะไรเป็นพิเศษ เพราะตนมาทำตามหน้าที่อยู่แล้ว หากมีกรณีอื่นๆ ที่มีการกล่าว หาบิดเบือนเรื่องวัคซีนหรือสถาบันจะตรวจสอบและดำเนินคดีดังเช่นที่ผ่านมา ส่วนที่ตนรับมอบอำนาจมาแจ้งความนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามกฎหมายอาญามาตรา 112 เรื่องวัคซีนพระราชทานนั้น ทราบว่านายธนาธรได้ยื่นขอเพิ่มพยาน ซึ่งเป็นดุลพินิจที่พนักงานสอบสวนจะพิจารณา

‘ชัยวุฒิ’ชี้ผิดชัดโจมตี‘โจรอุ้มโจร’

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ว่า การวิจารณ์คดีนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เนื่องจากคำตัดสิน อาจถูกใจหรือไม่ถูกใจใครก็ได้ แต่เมื่อศาลวินิจฉัยแล้ว ย่อมถือเป็นที่สิ้นสุด ตนไม่ขัดข้องหากการวิจารณ์ตั้งอยู่บนพื้นฐานของเหตุและผล หรืออยู่บนพื้นฐานทางวิชาการ โดยไม่สร้างผลกระทบหรือก่อให้เกิดความเสียหาย ไม่ว่ากับตัวบุคคลหรือสถาบันใดในสังคม แต่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในโซเชี่ยล มีการวิจารณ์ถึงกรณีดังกล่าวโดยไม่ได้อยู่บนพื้นฐานเหตุผล แต่ใช้อารมณ์และความรู้สึกมากกว่า จึงสุ่มเสี่ยงทำผิดกฎหมาย

อย่างกรณีเพจเฟซบุ๊กของพรรคก้าวไกล ที่โพสต์ข้อความหลังทราบคำตัดสินของศาล ด้วยการโจมตีรัฐบาลที่นำโดยพล.อ.ประยุทธ์ ว่าเป็น “โจรอุ้มโจร” พร้อมภาพคู่ระหว่าง นายกฯ และร.อ.ธรรมนัส โดยอ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ของนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกลนั้น ตนได้มอบหมายฝ่ายกฎหมายให้ตรวจสอบโพสต์ดังกล่าวแล้ว พบว่ามีความผิดชัดเจน เข้าข่ายหมิ่นประมาท ทำให้นายกฯและรัฐบาล ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ผ่านข้อความในโซเชี่ยล ซึ่งไม่ใช่ข้อเท็จจริง และผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้แจ้งความเอาผิดฐานหมิ่นประมาท และอาจเข้าข่ายความผิดพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ด้วย

“ผมไม่เป็นห่วงฝ่ายการเมือง เพราะถือว่ามีวุฒิภาวะ รู้ผิดชอบชั่วดี และพร้อมรับผลที่จะเกิดขึ้นจากการกระทำ แต่สิ่งที่ห่วงคือประชาชน ที่อาจได้รับข้อมูลข่าวสารไม่ครบถ้วน จนแสดงความคิดเห็นที่ผิดไปจากข้อเท็จจริง รวมถึงการแชร์เฟกนิวส์ นอกจากจะยิ่งสร้างความไม่เข้าใจในสังคมแล้ว ยังอาจถูกดำเนินคดีอีกด้วย ที่ผ่านมามีหลายกรณีเกิดขึ้นให้เห็นเป็นบทเรียนแล้ว” นายชัยวุฒิกล่าว

‘สิระ’ป้อง‘ธรรมนัส’เป็นรมต.น้ำดี

ด้านนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ทุกคนต้องยอมรับรัฐธรรมนูญ โดยไม่ใช้ความรู้สึกมาตัดสิน ต่างคนต่างความคิด อย่างกรณีนายทักษิณ ชินวัตร มีความผิดทางกฎหมายชัดเจน แต่ทำไมยังมีคนนิยมชมชอบ ดังนั้น เรื่องของบ้านเมือง จะใช้ความรู้สึกมาตัดสินไม่ได้ และรัฐธรรมนูญระบุชัดว่า ความผิดที่เกิดขึ้นที่ต่างประเทศจึงไม่สามารถบังคับใช้ได้

ส่วนที่พรรคก้าวไกล และพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เตรียมยื่นป.ป.ช.สอบจริยธรรม ร.อ.ธรรมนัสนั้น ใครจะยื่นก็ได้ ไม่จำกัดสิทธิ์ แต่เรื่องจริยธรรมกับกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นคนละเรื่องกัน นักการเมืองที่ออกมาโวยวายเรื่องนี้ ให้ย้อนดูว่าแต่ละคนลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจให้กับร.อ.ธรรมนัส อย่างไร อย่างผู้เฒ่าคนหนึ่งหรือหัวหน้าพรรคบางพรรคก็ลงมติงดออกเสียง หากร.อ.ธรรมนัสไม่ดีก็ต้องลงมติไม่ไว้วางใจ เรื่องนี้เป็นเรื่องแหกตาชาวบ้าน มีอะไรซับซ้อนอีกมาก และขอตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมไม่ยื่นเรื่องนี้มาตั้งนานแล้ว เวลาจะวิจารณ์ใคร ต้องย้อนกลับไปดูหัวหน้าพรรคบางคน ที่มีลูกพรรคค้ายาเสพติด ไม่เห็นกล้าออกมาพูดว่าจะรับผิดชอบอย่างไร

ส่วนที่เรียกร้องให้นายกฯ รับผิดชอบที่แต่งตั้งร.อ.ธรรมนัส นั้น นายสิระกล่าวว่า คดีนี้เกิดขึ้นในอดีต ไม่ได้เกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ ทุกคนควรได้รับโอกาส อย่าเอาอดีตมาบูลลี่กัน ระหว่างที่อยู่ในตำแหน่ง ร.อ.ธรรมนัส ไม่เคยมีพฤติกรรมทุจริตประพฤติมิชอบ

ก้าวไกลเดินหน้าบี้ทุกช่องทาง

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กว่า พวกเราจะเดินหน้าต่อเรื่องร.อ.ธรรมนัส ด้วยการยื่น ป.ป.ช. สอบจริยธรรมร้ายแรงต่อไป คาดว่าจะยื่นเรื่องนี้ได้ก่อนเปิดประชุมสภาสมัยสามัญ ในช่วงปลายเดือนพ.ค. รวมถึงจะใช้กลไกสภาผ่าน กมธ.ป.ป.ช. ตรวจสอบด้วย

การยื่น ป.ป.ช.หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ไม่ใช่ว่าที่ผ่านมายื่นผิดช่องทาง แต่ที่ยื่นศาลรัฐธรรมนูญก่อน เพราะยืนยันว่าข้อเท็จจริง เรื่องคำพิพากษาของศาลออสเตรเลียจะต้องถูกพิจารณาเป็นลักษณะต้องห้ามได้ ซึ่งมีกรณีที่เทียบเคียงได้จากความเห็นของกฤษฎีกาต่อกรณียาเสพติด ทั้งในปี 2525 และล่าสุดคือ ต.ค.2563 ซึ่งรัฐมีการรับผลคำพิพากษาศาลต่างประเทศมาใช้ในฐานะข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณา ไม่เกี่ยวกับการสูญเสียอำนาจอธิปไตยหรือสูญเสียความเป็นอิสระของตุลาการไทยเลย เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญคือ ทำผิดที่ไหนควรต้องห้ามทั้งสิ้น

ตอนนี้สังคมไทยเหมือนกอดระเบิดเวลาไว้ หรือเป็นวิกฤตคู่ ด้านหนึ่งคือวิกฤตองค์กรอิสระและตุลาการ อีกด้านหนึ่งคือวิกฤตทางการเมืองเรื่องความชอบธรรมของรัฐบาล เรื่องนี้จะเป็นเรื่องของรัฐบาล ไม่ใช่ศาลแล้ว เพราะสุดท้าย พล.อ.ประยุทธ์ต้องตอบคำถามสำคัญว่า ตกลงแล้วจะสร้างบรรทัดฐานการเมืองแบบใหม่ให้กับสังคมไทยหรือไม่ ด้วยการยอมรับบุคคลที่เคยโดนคดียาเสพติดมาดำรงแหน่งสำคัญในรัฐบาล

ป.ป.ช.ฟันธงไม่ผิดจริยธรรม

นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการป.ป.ช. ในฐานะโฆษกป.ป.ช. กล่าวว่า การที่พรรคก้าวไกลและพรรคเสรีรวมไทยจะยื่นตรวจสอบการทำผิดจริยธรรมร้ายแรงของร.อ.ธรรมนัส ต้องขอรอดูคำร้องก่อนว่าจะร้องการผิดจริยธรรมในแง่มุมใด แต่ก่อนหน้านี้เคยมีผู้ยื่นร้องสอบจริยธรรม ร.อ.ธรรมนัส กรณีต้องคำพิพากษาจำคุกที่ประเทศออสเตรเลียมาแล้ว หากฝ่ายค้านยื่นคำร้องในลักษณะเดียวกันเข้ามาเพิ่ม คงนำไปรวมเป็นสำนวนเดียวกันแล้วรายงานให้ที่ประชุมป.ป.ช.ชุดใหญ่รับทราบว่าจะพิจารณาดำเนินการอย่างไรต่อไป

การร้องเรียนเรื่องการทำผิดจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีร.อ.ธรรมนัส ถ้าจะร้องเรียนเรื่องเคยติดคุกที่ประเทศออสเตรเลียแล้วมาเป็นรัฐมนตรี ไม่น่าจะเข้าข่ายทำผิดจริยธรรม เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนมาเป็นส.ส.หรือรัฐมนตรี ถ้าจะผิดก็เป็นเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของการดำรงตำแหน่ง ซึ่งเรื่องการปกปิดลักษณะต้องห้ามไม่ใช่หน้าที่ป.ป.ช.ตรวจสอบ แต่เป็นเรื่องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

ส่วนการเทียบเคียงกับคดีน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกป.ป.ช.ชี้มูลความผิดจริยธรรมร้ายแรง กรณีการบุกรุกพื้นที่ป่านั้น กรณีน.ส.ปารีณาชัดเจนเรื่องการทำผิดจริยธรรม เพราะเป็นการทำผิดระหว่างปฏิบัติหน้าที่ส.ส. แม้จะครอบครองที่ดินมาก่อนเป็นส.ส. แต่เมื่อหน่วยงานรัฐขอให้คืนพื้นที่ที่บุกรุก แต่น.ส.ปารีณาไม่ยอมคืน ในช่วงนั้น น.ส.ปารีณามีสถานะเป็นส.ส.แล้ว จึงเข้าเงื่อนไขผิดจริยธรรม ดังนั้น อย่าเพิ่งนำกรณีร.อ.ธรรมนัสกับน.ส.ปารีณามาเทียบเคียงกัน ต้องขอดูรายละเอียดคำร้องให้ชัดเจนก่อน

‘อันวาร์’จี้ปชป.ถอนตัวจากรัฐบาล

วันเดียวกัน นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ทำหนังสือถึงประธาน คณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) และสมาชิกพรรคทั่วประเทศ เสนอขอให้พรรคถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหาของชาติ จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ร.อ.ธรรมนัส ไม่พ้นสภาพส.ส. ตนไม่โทษศาล และไม่โทษ ร.อ.ธรรมนัส แต่จะโทษพล.อ.ประยุทธ์ เพราะปัญหาทั้งหมดเกิดจากนายกฯ ที่รู้อยู่แก่ใจว่า เบื้องหลัง ร.อ.ธรรมนัส เป็นอย่างไร แต่ไม่สนใจ กลับแต่งตั้ง มาเป็นรัฐมนตรี การกระทําเช่นนั้นเท่ากับดูแคลนคนไทยทั้งประเทศ

ตนเคยเสนอว่า ต้องร่วมรัฐบาลด้วยความจริงใจ ปัญหาจะแก้ไขได้ อย่าเห็นแก่การร่วมรัฐบาล ต้องเห็นแก่ประชาชนและประเทศชาติ วันนี้รัฐบาลมีปัญหามาก ปัญหาต่างๆ รุมเร้า และยังไม่มีแนวทางชัดเจนแก้ไข การที่ฝ่ายค้านเรียกร้องให้นายกฯลาออก คงเป็นไปไม่ได้ เพราะท่านคิดว่าท่านไม่ผิด คิดว่าวิกฤตทั้งหมดเกิดจากวิกฤตโลก โดยเฉพาะโควิด แต่คงไม่มีใครกล้าเตือนว่าปัญหาทั้งหมด เกิดจากตัวผู้นํา ทั้งที่ตัวอย่างก็มีให้เห็นแล้วที่สหรัฐ ผู้นําเปลี่ยน วิกฤตเปลี่ยน ดังนั้น ขอเสนอสิ่งที่เคยเสนอ เอาไว้หลายครั้งว่า พรรคประชาธิปัตย์ควรใช้โอกาสนี้แก้ไขปัญหาของประเทศ ด้วยการถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล เพื่อเปิดโอกาสให้มี การเปลี่ยนแปลงตามกลไกของระบอบประชาธิปไตย

3พรรคจ่อนัดคุยแก้รธน.

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า พรรคได้ยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว แต่ยังไม่ได้หยิบยกขึ้นมาเพื่อพูดคุยกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) คาดว่านายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรี ธรรมราช และรองประธานวิปรัฐบาล ของพรรคประชาธิปัตย์ จะประสานเพื่อร่วมหารือกันต่อไป ขณะที่นายถวิล ไพรสณฑ์ ประธานคณะกรรมการกฎหมายของพรรค ได้นัดประชุมออนไลน์ฝ่ายกฎหมายในวันที่ 12 พ.ค. เวลา 13.00 น เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยของร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญทั้ง 6 ฉบับ

ทั้งนี้ มีบางฉบับได้แก้ไขรายละเอียดเล็กน้อย ในร่างที่เกี่ยวกับระบบเลือกตั้ง จะให้เป็นไปเช่นเดิมคือ บุคคลที่พรรคสนับสนุนให้เป็นนายกฯ ไม่เกิน 3 รายชื่อ โดยพรรคการเมืองจะไม่เสนอรายชื่อบุคคลดังกล่าวก็ได้ เพื่อเปิดให้สิทธิพรรคดำเนินการตามที่เหมาะสม แต่บุคคลที่จะเป็นนายกฯ ร่างที่ยกร่างไว้นั้น ต้องมาจากบัญชีพรรคหรือ ส.ส.เท่านั้น ส่วนประเด็นอื่นๆ ทั้ง 6 ร่างยังเป็นเช่นเดิม พร้อมนำเสนอให้ทั้งสองพรรคร่วมพิจารณา ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ชัดเจนว่าพร้อมผลักดันการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญรายมาตราอย่างเต็มที่ จึงเตรียมความพร้อมไว้ เมื่อเปิดประชุมสภา ก็ดำเนินการได้ทันที

วิปรัฐบาลหนุนประชุมสภาปกติ

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ว่า หากมีการเรียกประชุมวิปรัฐบาล ตนจะเสนอให้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 22 พ.ค. ตามปกติ ตามแนวทางที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภา ให้ไว้ เนื่องจากมีกฎหมายสำคัญที่รอพิจารณา โดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเกี่ยวข้องกับการบริหารงานของรัฐบาลและมีผลกระทบต่อประชาชน

ส่วนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นั้น อยากเรียกร้องให้ ส.ส.ทุกคนได้เตรียมตัวป้องกันโควิด เพื่อให้งานของสภาไม่ได้รับผลกระทบ เพราะการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของประเทศต้องมีกลไกของสภาเข้าไปช่วยรัฐบาลด้วย เพื่อให้งานบริหารราชการแผ่นดินราบรื่น โดยการเริ่มเข้าไปรับการฉีดวัคซีนตั้งแต่ช่วงนี้ เพื่อจะได้ฉีดเข็มที่ 2 ในอีก 3 สัปดาห์ ซึ่งจะทันกับช่วงเวลาเปิดสมัยประชุมพอดี และเท่าที่ตรวจสอบ ทราบว่าบุคลากรทางการแพทย์ได้ฉีดวัคซีนไปเกือบครบแล้ว ดังนั้น ข้อกังวลว่าการฉีดวัคซีนจะกระทบกับบุคลากรทางการแพทย์ ขณะนี้ไม่มีแล้ว

ทำเนียบขยายเวลางดสื่อเข้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักโฆษกสำนักเลขาธิการ นายกฯและที่ปรึกษานายกฯ ฝ่ายข้าราชการประจำด้านประสานกิจการภายในประเทศ ได้แจ้งสื่อมวลชนผ่านไลน์กลุ่มผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาลว่า เนื่องจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ยังน่าเป็นห่วงและมีบุคลากรในทำเนียบติดเชื้อนั้น เพื่อความปลอดภัย และเป็นไปตามมาตรการของศบค. สำนักเลขาธิการนายกฯ จึงจำเป็นต้องขยายเวลา งดสื่อมวลชนเข้ามาปฏิบัติงานภายในทำเนียบไปจนถึงวันที่ 21 พ.ค. และขอให้ทุกคนดูแลตนเองและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้ออย่างเข้มงวด ซึ่งเป็นการขยายเวลาจากเดิม 30 เม.ย.-7 พ.ค.

ขณะที่กองทัพบก โดยสำนักงานเลขานุการกองทัพบก ได้แจ้งกับสื่อมวลชน เพื่อขอความร่วมมืองดเข้ามาปฏิบัติงานและใช้ห้องสื่อมวลชนภายในกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถนนราชดำเนิน จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จะคลี่คลายดีขึ้น โดยขอขยายเวลาต่อไปจนถึง วันที่ 21 พ.ค.เช่นเดียวกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน