กระตุ้นอารมณ์เพศ
ฤทธิ์รุนแรง-ถึงตาย

เตือนอันตรายถึงทำให้ตายได้ ยาปลุกเซ็กซ์ ‘น้ำยาป๊อปเปอร์’ ใช้ดมกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ เพื่อผ่อนคลายและเคลิบเคลิ้ม กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจพบสารระเหย ‘ไอโซบิวทิลไนไตรต์’ ส่งผลคลายกล้ามเนื้อเรียบ ขยายหลอดเลือด เสี่ยงหายใจไม่ออก ระบบทางเดินหายใจผิดปกติ ขาดออกซิเจน โลหิตจาง รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ย้ำเป็นสารที่ต้องขออนุญาตนำเข้า

วันที่ 12 พ.ค. นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 7 ขอนแก่น ได้ตรวจพิสูจน์ตัวอย่างของกลางที่ส่งโดยสถานีตำรวจในพื้นที่จ.มหาสารคาม เพื่อหาสารเสพติดและตัวยาอื่นๆ ประกอบด้วย ยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศผู้ชาย (ไวอากร้า) มีลักษณะเป็นเม็ดสีน้ำตาล พิมพ์ตัวเลข “800” ทั้งสองด้าน อยู่ในแผงบรรจุละ 6 เม็ด บนแผงพิมพ์รูปสุนัขสีแดง ข้อความภาษาจีน จำนวน 3 ตัวอย่าง ตรวจพบซิลเดนาฟิล (Sildenafil) ซึ่งเป็นยาในกลุ่มเสริมสมรรถภาพทางเพศทุกตัวอย่าง และน้ำยาป๊อปเปอร์ (Poppers) มีลักษณะเป็นของเหลวใสสีเหลืองอ่อน มีกลิ่นฉุน บรรจุในขวดสีชา ปิดฝาเกลียว ชื่อการค้าและฉลากเป็นภาษาต่างประเทศ ขนาดบรรจุประมาณ 9-10 มิลลิลิตร จำนวน 20 ตัวอย่าง ตรวจพบไอโซบิวทิลไนไตรต์ (Isobutyl nitrite) ทุกตัวอย่าง

อันตราย – ตัวอย่างยาป๊อปเปอร์ที่มีบางกลุ่มนำมาสูดดมกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจพบสาร ‘ไอโซบิวทิลไนไตรต์’ มีฤทธิ์คลายตัวของหลอดเลือด หากใช้ร่วมกับยาไวอากร้าชนิดเม็ดมีอันตรายถึงชีวิต

“ป๊อปเปอร์เป็นสารระเหยถูกนำมาใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ในบางกลุ่ม ใช้สูดดมเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ให้เคลิบเคลิ้ม เพิ่มความสุข หรือใช้ในการช่วยกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ โดยเฉพาะกลุ่มนักเที่ยวกลางคืน ผับ บาร์ และสถานบันเทิง รวมถึงกลุ่มชายรักชาย สำหรับไอโซบิวทิลไนไตรต์จัดอยู่ในกลุ่มสารระเหยไนไตรต์ (Volatile Nitrite) ออกฤทธิ์ทำให้เกิดการคลายตัวของหลอดเลือด การคลายตัวของกล้ามเนื้อเรียบ และก่อให้เกิดความผิดปกติต่อร่างกายทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง หากสูดดมต่อเนื่องในช่วงระยะเวลาหนึ่งจะมีอาการเล็กน้อยถึงปานกลางจากฤทธิ์ขยายหลอดเลือด ได้แก่ ปวดศีรษะ หน้ามืด เป็นลม วูบวาบตามตัว ใจสั่น หรือบางรายส่งผลต่อระบบสายตา ทำให้มีการมองเห็นไม่ชัดเจน และอาจสูญเสียการได้ยิน” นพ.ศุภกิจกล่าว

นพ.ศุภกิจกล่าวว่า ส่วนอาการรุนแรง ได้แก่ หายใจไม่ออก กล้ามเนื้ออ่อนแรง และหากสูดดมต่อเนื่องเป็นเวลานานจะทำให้ระบบทางเดินหายใจผิดปกติ เซลล์ขาดออกซิเจน นอกจากนี้ ยังพบอาการบริเวณที่สัมผัส เช่น ขอบจมูกอาจมีรอยไหม้แดง หากหกรดโดนผิวหนังหรือกระเด็นเข้าตาก็อาจเกิดอาการแสบร้อนหรือไหม้ได้ และความเป็นพิษระยะยาวนั้นมีรายงานว่าไอโซบิวทิลไนไตรต์อาจก่อให้เกิดมะเร็งได้ โดยมีการศึกษาในสัตว์ทดลองและมนุษย์พบว่าทำให้ปอดอักเสบ ภาวะซีด ลูคีเมีย พิษต่อตับ การกดไขกระดูก มีผลต่อภาวะซึมเศร้า และหากใช้ร่วมกับยากลุ่มฟอสโฟไดเอสเทอเรส-5 (พีดีอี-5) ซึ่งเป็นยารักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศจะทำให้เกิดการเสริมฤทธิ์ขยายหลอดเลือดอย่างมาก เกิดความดันเลือดต่ำอย่างรุนแรงและอาจเสียชีวิตได้

“ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์กำหนดให้ไอโซบิวทิลไนไตรต์เป็นสารที่ต้องมีการขออนุญาตในการนำเข้า การตรวจพบไอโซบิวทิลไนไตรต์ร่วมกับยาในกลุ่มเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ (ไวอากร้า) ในเขตพื้นที่ภาคอีสาน และพบว่ามีการนำมาใช้กับกลุ่มนักศึกษา นักเที่ยวผับ สถานบันเทิงต่างๆ และมีการซื้อขายได้อย่างแพร่หลายในสังคมออนไลน์อาจก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพ สังคม ขอให้ร่วมกันเป็นหูเป็นตาเฝ้าระวัง” นพ.ศุภกิจกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน