ปิดเขาลูกไฟ ล่ากระชั้นบังฟิต-พี่

ข่าวชี้หนีกบดาน-อาวุธครบมือ
กระจาย3ชุดบุกถึงบ้านพ่อด้วย
จ่อหมายเพิ่ม‘บังหนี’ร่วมอุ้มฆ่า

จ่อหมายจับเพิ่มอีก ‘บังหนี’ร่วมแก๊งบังฟิต อุ้มฆ่าเสี่ยเจ้าของร้าน อาหารและฟิชชิ่งหวังล้างหนี้ หลังน้องคนเล็กบังฟิตเข้ามอบตัวพร้อมให้การเพิ่มเติมขณะที่เจ้าหน้าที่แบ่งกำลัง 3 ชุดปิดล้อมเขาลูกไฟ หลังมีเบาะแสคนร้ายหนีไปกบดานอยู่ในเขา พร้อมตรวจสอบค้นบ้านยึดรถ-กล้องวงจรปิดตรวจสอบ ขณะที่พ่อบังฟิต เชื่อลูกเป็นคนดี ขอให้มามอบตัวพิสูจน์ความบริสุทธิ์

เมื่อวันที่ 16 พ.ค. พนักงานสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับคดีสังหารโหดนายสุชาติ ขาวล้วน อายุ 54 ปี เจ้าของร้านอาหารและฟิชชิ่ง ใน อ.ลำทับ จ.กระบี่ ประกอบด้วยพนักงานสอบสวน สภ.ลำทับ สภ.อ่าวนาง และพนักสอบสวน ภ.จว.กระบี่ เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเตรียมออกหมายจับ ผู้ต้องหาเกี่ยวกับคดีอีก 1 คนคือ นายบังหนี (ยังไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) ภายหลังจากนายสุวิทย์ เริงสมุทร อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82/1 ม.1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ 1 ในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ เข้ามอบตัว และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำชี้จุดเกิดเหตุเมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา

โดยนายสุวิทย์ให้การว่า ร่วมผู้ก่อเหตุ 3 คนคือ บังฟิต นายกิบหลี และบังหนี พาตัวนายสุชาตินั่งไปกับรถกระบะของบังฟิต ที่สวนยางใกล้จุดฝังศพ ในพื้นที่ ม.1 บ้านหนอง ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ จากนั้นบังฟิตใช้อาวุธปืนที่เตรียมมาจ่อยิงนายสุชาติ 3 นัดจนเสียชีวิต ก่อนช่วยกันนำศพไปฝัง นำรถเก๋ง ผู้ตายไปเผา โดยจ้างรถแบ๊กโฮที่กำลังปรับพื้นที่สวนยางใกล้ๆ จุดเกิดเหตุ มาขุดเปิดปากหลุม และใช้รถแบ๊กโฮดันรถเก๋งผู้ตายลงไปแล้วจุดไฟเผา ก่อนฝังกลบโดยเอาทางปาล์มปิดทับด้านบน

นายสุวิทย์บอกอีกว่า สาเหตุที่ต้องร่วม ก่อเหตุด้วยนั้น เพราะบังฟิตชวนไปและกลัวบังฟิตมาก ไม่กล้าปฏิเสธ หลังทราบว่าถูกออกหมายจึงเดินทางมามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์

ขณะที่บริเวณร้านอาหารขาวล้วน โภชนา ม.5 ต.ลำทับ อ.ลำทับ จ.กระบี่ ญาติ จัดเตรียมสถานที่ตั้งศพบำเพ็ญกุศล นายสุชาติ ภายหลังนำศพกลับจากสถาบันนิติเวช ร.พ.สุราษฎร์ธานี โดยจะตั้งบำเพ็ญกุศล ตั้งแต่วันที่ 16-17 พ.ค. 64 ส่วนพิธีฌาปนกิจนั้น ยังไม่มีกำหนด โดยทางญาติระบุว่าต้องรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างเป็นทางการก่อนจึงจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

โดยผลชันสูตรศพอย่างไม่เป็นทางการ ระบุว่า ที่ศพผู้ตายมีรอยกระสุนทั้งหมด 3 รู แต่ไม่พบหัวกระสุนในตัวผู้ตาย ซึ่งขณะ จนท.ตรวจสอบจุดเกิดเหตุตอนแรกพบปลอกกระสุน 2 ปลอกเท่านั้น จึงลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้ง ปรากฏว่าพบปลอกกระสุนขนาด 9 ม.ม.เพิ่มอีก 1 ปลอกฝังดินในจุดเกิดเหตุ คาดว่ากระสุนทั้ง 3 นัดยิงทะลุร่างผู้ตาย

ปิดเขาล่า – กองปราบฯ และตร.ภาค 8 ปิดล้อมเขาลูกไฟ รอยต่อหมู่ 1 และหมู่ 4 ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ไล่ล่า ‘บังฟิต’ นายสุริยา เริงสมุทร และพี่ชาย ผู้ต้องหาคดีฆ่านายสุชาติ ขาวล้วน แล้วนำศพกับรถยนต์ไปฝังดิน

ขณะที่ตำรวจกองปราบปราม ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 สภ.อ่าวนาง สืบสวน ภ.จว.กระบี่ และหน่วยปฏิบัติการพิเศษ นำกำลังเกือบ 100 นาย พร้อมอาวุธปืนออกปฏิบัติการปิดล้อมเขาลูกไฟ ในพื้นที่รอยต่อ ม.4 และ ม.1 ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ หลังพบเบาะแสว่านายสุริยา หรือ บังฟิต เริงสมุทร อายุ 32 ปี และพี่ชายคือนาย สุรชัย หรือบังกิบหลี เริงสมุทร อายุ 38 ปี หลบหนีไปอยู่ในถ้ำ ที่เขาลูกดังกล่าว เจ้าหน้าที่แบ่งเป็น 3 ชุด เข้าปิดล้อมภูเขาลูก ดังกล่าว เพื่อหาเส้นทางที่จะขึ้นไปตามเนินเขาที่เป็นถ้ำ ตามที่มีพยานระบุว่าเป็นถ้ำขนาดใหญ่ และมีคนขับรถ จยย.นำสิ่งของขึ้นไปบนเขาเกือบทุกวันในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา

โดยเจ้าหน้าที่ทุกนายต้องสวมเสื้อเกราะเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากทราบว่าผู้ต้องหามีอาวุธปืนติดตัว ก่อนจะถึงภูเขาพบบ้านหลังหนึ่งปลูกในสวนยาง เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นไม่มีคนอยู่ จากนั้นกระจายกำลังปิดล้อมรอบภูเขาเพื่อติดตามผู้ต้องหา โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง แต่ไม่พบตัวผู้ต้องหาแต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้ จนท.ตรวจค้นบ้านของนาย สุรชัย หรือกิบหลี พี่ชายของบังฟิต ในหมู่ที่ 1 ต.หนองทะเล เป็นบ้านหลังใหญ่ไม่มีเลขที่ และกระท่อมข้างบ้าน ไม่พบคนที่อาศัยอยู่ในบ้าน จึงเชิญตัวนายสุจิน เริงสมุทร พ่อของ นายกิบหลีและบังฟิต ให้มาเป็นพยานเข้าค้นบ้านหลังดังกล่าวทั้ง 2 โดยได้ไปเอากุญแจบ้านที่ฝากไว้ที่บ้านของนายสุจินต์ เบื้องต้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย แต่ได้ยึดสิ่งของหลายรายการ เช่น กล้องวงจรปิดรอบบ้าน เสื้อผ้าบางส่วน และผ้าลายพรางแบบทหารที่ใช้ในการกั้นกันแดดที่มีรอยเปื้อนดิน จึงยึดไปตรวจสอบ

นอกจากนี้ยังค้นบ้านเพื่อนสนิทกับนาย กิบหลี พบรถกระบะสีส้ม สี่ประตู ที่เป็นรถของนายกิบหลี จอดอยู่หน้าบ้าน จึงตรวจยึดไปไว้ที่ สภ.อ่าวนาง และพบรถปิกอัพสีขาวอีก 1 คัน จอดอยู่ที่หน้าบ้านอีกหลังหนึ่ง จึงตรวจยึดไว้ และพบรถจักรยานยานยนต์วิบากที่จอดอยู่หน้าบ้านอีก 1 คันด้วย โดยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเก็บดีเอ็นเอไปตรวจสอบ

นายสุจิน เริงสมุทร พ่อของบังฟิต และ นายกิบหลี กล่าวถึงกรณีที่ลูกชายถูกออกหมายจับว่า ตามที่เห็นข่าวทางสื่อว่าลูกชายทั้ง 2 คนเป็นกลุ่มอิทธิพล และค้ายาเสพติดในพื้นที่ ยืนยันว่าลูกของตนไม่ได้เป็นผู้มีอิทธิพล หรือยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยปกติบังฟิตจะเป็นคนมีนิสัยดี ชอบช่วยเหลือชาวบ้านในหมู่บ้าน เวลามีงานทำบุญก็มักจะไปร่วมทำบุญกับชาวบ้านอยู่เสมอ ส่วนที่ถูกออกหมายจับกล่าวหาว่าเป็นทีมสังหารนายสุชาตินั้น โดยส่วนตัวตนไม่เชื่อว่าลูกชายจะเป็นคนลงมือทำ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้หากลูกชายติดตามข่าว ก็อยากให้เข้ามอบตัวกับตำรวจทั้ง 2 คน เพื่อมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ แต่หากลูกเป็นคนลงมือทำจริง ตนในฐานะพ่อก็ต้องขอโทษไปยังญาติของผู้เสียชีวิตด้วย