ช่วยเมียเหยื่อ บึ้มอิสราเอล

บุรีรัมย์เยียวยา
วอนนำศพกลับ

ภรรยาช็อก สามีหนุ่มบุรีรัมย์แรงงานไทยวัย 23 ปี เหยื่อสู้รบสังเวยชีวิตที่อิสราเอล เพิ่งเริ่มงานได้ 3 วันหลังจากกักตัวครบ 14 วัน เผยนาทีเศร้าเย็นวันเกิดเหตุ สามีวิดีโอคอลมาคุยถามสารทุกข์สุกดิบ จู่ๆ มีเสียงระเบิด ได้ยินเสียงวิ่งหนีก่อนล้มลงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ วินาทีนั้นแทบขาดใจได้ยินเสียงคนเข้าไปช่วยบอกว่าสามีโดนระเบิดถูกพาตัวส่งร.พ. ด้านแรงงานจังหวัดบุรีรัมย์รุดเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวที่บ้าน อ.ลำปลายมาศ รมว.สุชาติ เผยนายกฯ แสดงความเสียใจ กำชับให้ความช่วยเหลือเยียวยาเต็มที่ เผยมีหนุ่มเพชรบูรณ์วัย 44 ปีเสียชีวิตอีกคน บาดเจ็บ 8 คน อาการสาหัส 1 เร่งประสานนำศพ 2 แรงงานไทยกลับมาทำพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด ส่วนบัวแก้ว เผยทูตไทยในอิสราเอลรายงานว่า ทางการอิสราเอล โดยรมว.เกษตร ได้โทร.มาแสดงความเสียใจ ยืนยันดูแลความปลอดภัยคนไทยเหมือนกับชาวอิสราเอล

จากกรณีแรงงานไทยในประเทศอิสราเอลเสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 8 ราย จากเหตุระเบิดการโจมตีด้วยจรวดของกลุ่มฮามาสที่นิคมเกษตรกรรม (โมชาฟ) โอฮัด เมืองเอชโคล อยู่ห่างจากฉนวนกาซ่า 14 กิโลเมตร เมื่อ วันที่ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา ถือเป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อแรงงานไทยมากที่สุด นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 19 พ.ค. นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวถึงความ คืบหน้าการดูแลคนไทยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ได้รับรายงานจาก น.ส.พรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทล อาวีฟว่า สถานทูต โดยฝ่ายแรงงานประจำ สถานทูตได้ประสานกับแรงงานจังหวัดในประเทศไทย เพื่อแจ้งครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บแล้ว โดยทางสถานทูตจะประสานเรื่องข้อมูลผู้เสียชีวิต กระบวนการส่งศพ ตลอดจนติดตามสิทธิประโยชน์รวมทั้งเงินชดเชยที่ผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บพึงได้รับจากสถาบันประกันแห่งชาติของอิสราเอล

นายธานีกล่าวว่า สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บนั้น มีอาการสาหัส 2 คน และได้รับบาดเจ็บ เล็กน้อย 6 คน โดยได้รับการรักษาที่ร.พ.โซโรกา เมืองเบียร์ เชวา บางส่วนอาการดีขึ้นมาก จึงได้รับการอนุญาตให้เดินทางกลับที่พักแล้ว ทั้งนี้ น.ส.พรรณนภา ทูตไทย ได้โทรศัพท์หาผู้บาดเจ็บ และสามีของผู้บาดเจ็บ โดยแสดงความเสียใจ และอวยพรให้ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บโดยเร็ว พร้อมขอให้มีขวัญและกำลังใจเพื่อผ่านอุปสรรคในครั้งนี้

นายธานีกล่าวด้วยว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ค. นายอาลอน ชุสเตอร์ รมว.เกษตรอิสราเอล รวมถึง นายยีลาด โคเฮน รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล ได้โทรศัพท์ถึงสถานทูต เพื่อแสดงความเสียใจกับการ เสียชีวิตและบาดเจ็บของแรงงานไทย โดยทางการอิสราเอลพร้อมช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมย้ำว่าใช้มาตรฐานในการรักษาความปลอดภัยแก่คนต่างชาติเช่นเดียวกับชาวอิสราเอล

ด้านนางลัดดา อุปสินธุ์ แรงงานจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นางณคประภา บำรุงสุข จัดหางานจังหวัด, นายประธาน ถาวร ประกันสังคมจังหวัด, น.ส.นงลักษณ์ วาทหงษ์ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด, นายสิทธิชัย สุดสวาท ผอ.สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน และนายนนทวัฒน์ ประภาลัย ปลัดอำเภอลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่ เยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวของนายสิขรินทร์ สงำรัมย์ หรือลิป อายุ 23 ปี ที่บ้านกระทิง ต.หินโคน อ.ลำปลายมาศ ซึ่งเป็นหนึ่งในแรงงานที่ถูกระเบิดเสียชีวิตจากเหตุการณ์สู้รบกันครั้งนี้ พร้อมชี้แจงเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่จะได้รับการเยียวยาช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ เนื่องจากผู้เสียชีวิตเดินทางไปทำงานที่อิสราเอลอย่างถูกต้องตามกฎหมายผ่านระบบรัฐจัดส่ง

นางลัดดากล่าวว่า เบื้องต้นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานได้ร่วมกันมาเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวของแรงงานที่เสียชีวิต พร้อมทั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ เป็นค่าจัดการงานศพ 40,000 บาท และได้ค่าทำศพจากประกันสังคมอีก 50,000 บาท บวกกับเงินสะสมอีกจำนวนหนึ่ง ส่วนสิทธิประโยชน์ และเงินจากกองทุนผู้ประสบภัยสงครามของทางฝั่งประเทศ อิสราเอลจะติดต่อประสานเพื่อขอรับการช่วยเหลือด้วยเช่นกัน ส่วนกรณีที่ทางครอบครัวต้องการอยากให้รัฐช่วยเหลือเรื่องการนำศพกลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด โดยไม่อยากได้แค่กระดูกกลับมานั้น ทางหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจะติดต่อประสานกับทางกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตามที่ครอบครัวร้องขออย่างเต็มที่

ขณะที่ทางครอบครัวต่างรู้สึกช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะนายสิขรินทร์เพิ่งจะไปทำงานต่างประเทศเป็นครั้งแรก และหลังจากเดินทางไปถึงกักตัวครบ 14 วัน ก็เพิ่งเริ่มทำงานได้แค่ 3 วัน ก็ต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดและจากไป โดยเฉพาะน.ส.อรทัย กองมะเริง อายุ 21 ปี ภรรยานายสิขรินทร์ ยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียสามีไปแบบกะทันหัน ซึ่งก็มีญาติพี่น้องมาคอยปลอบใจ

น.ส.อรทัยยังได้เล่าถึงนาทีบีบหัวใจด้วยว่า เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 18 พ.ค. ตามเวลาในไทย ส่วนเวลาที่อิสราเอลประมาณ 14.00 น. สามีได้โทรวิดีโอคอลมาหา ก็ถามถึงสารทุกข์สุกดิบกันตามประสา จู่ๆ ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นก็ถามสามีว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่ยินเสียงตอบ มีแค่เสียงเหมือนกับสามีถือโทรศัพท์ วิ่งหนี จากนั้นไม่นานได้ยินเหมือนสามีล้มลงแล้วตะโกนขอความช่วยเหลือ ตนตกใจมากก็พยายามถามสามีผ่านวิดีโอคอลว่าเกิดอะไรขึ้นเป็นยังไงบ้าง แต่ไม่มีเสียงตอบกลับ ผ่านไปสักพักได้ยินเหมือนคนที่เข้าไปช่วยตอบกลับมาว่าสามีโดนระเบิดกำลังจะพาส่งร.พ. ตอนนั้นรู้สึกช็อกทำอะไรไม่ถูก เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ทั้งที่สามีเพิ่งทำงานได้แค่ 3 วัน เสียใจมากที่สามีจากไปเร็วแบบนี้ หากย้อนเวลากลับไปได้จะไม่ให้สามีไปทำงานที่ต่างประเทศ ยอมทำงานหากินอยู่ที่บ้าน แม้จะลำบากก็ไม่ต้องเสียสามีไปแบบนี้ และหากสามีรับรู้ก็อยากบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงจะดูแลลูกเอง

ที่กระทรวงแรงงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของแรงงานไทยที่เสียชีวิตและห่วงใยผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด โดยสั่งการให้กระทรวงแรงงาน เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความช่วยเหลือ ผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต รวมทั้งลงพื้นที่แจ้งความช่วยเหลือด้านสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายให้ญาติพี่น้องและครอบครัวของแรงงานไทยที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บทราบในทันที จากรายงานของฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้รับแจ้งข้อมูลจากนายเอล ไซโซ รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลว่า มีคนไทยเสียชีวิตจำนวน 2 ราย คือ 1.นายวีรวัฒน์ การันบริรักษ์ อายุ 44 ปี มีภูมิลำเนา จ.เพชรบูรณ์ และ 2.นายสิขรินทร์ สงำรัมย์ ภูมิลำเนาอยู่จ.บุรีรัมย์

ส่วนแรงงานไทยได้รับบาดเจ็บสาหัสเข้ารับการผ่าตัดรักษาตัวในโรงพยาบาล 1 ราย คือ นายอัตรชัย ธรรมแก้ว อายุ 28 ปี มีภูมิลำเนา จ.อุบลราชธานี ขณะที่ผู้ได้รับ บาดเจ็บอีก 7 รายคือ 1.นายปรีชา แซ่ลี้ อายุ 32 ปี อยู่จ.เชียงราย 2.นายสมศักดิ์ จันทร์ภักดี อายุ 26 ปี อยู่จ.สุรินทร์ 3.น.ส.จรัสศรี กล้าแข็ง อายุ 39 ปี อยู่จ.หนองคาย 4.นายจักรี รัตพลที อายุ 31 ปี อยู่จ.หนองบัวลำภู 5.นายณรงค์ศักดิ์ รอดชมพู อายุ 32 ปี 6.นายเชษฐา ผลาพรม อายุ 40 ปี และ 7.นายธนดล ขันธชัย อายุ 26 ปี อยู่จ.อุดรธานี ทั้ง 3 คน

ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวแรงงานไทยที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ซึ่งนายกฯ ได้แสดงความเสียใจไปแล้ว โดยกระทรวงแรงงานจะรับเรื่องเพื่อไปดำเนินการทั้งหมด รวมทั้งประสานช่วยเหลือนำร่างผู้เสียชีวิตกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่ประเทศไทย

เยียวยา – เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานรุดช่วยเหลือครอบครัวนายสิขรินทร์ สงำรัมย์ อายุ 23 ปี (ภาพเล็ก) แรงงานไทยเสียชีวิตจากเหตุสู้รบในประเทศอิสราเอล ที่บ้านกระทิง ต.หินโคน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 19 พ.ค.