ส่งฝากขัง‘บังฟิต’
เพิ่มข้อหา-เอ็ม16

มอบตัวอีก 2 พี่น้อง ‘เริงสมุทร’ อุ้มฆ่าเสี่ยกระบี่ฝังดินทั้งรถทั้งศพครบ 5 คนตามหมายจับ แต่ขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ส่วน ‘บังฟิต’ ตัวการใหญ่ พร้อมลูกน้องส่งฝากขังศาลกระบี่ ตร.มั่นใจหลักฐานมัดตัวดิ้นไม่หลุด

มอบตัว – นายสุรชัยหรือกิบหลี เริงสมุทร และนายสุริยันต์ หรือกอหนี เริงสมุทร สองพี่น้องผู้ต้องหา ที่ถูกออกหมายจับในคดีอุ้มฆ่าฝังดิน เข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.ตานิตย์ รามดิษฐ์ รองผบก.ภ.กระบี่ ที่สภ.อ่าวนาง เมื่อวันที่ 24 พ.ค.

จากคดีสังหารโหดนายสุชาติ ขาวล้วน เจ้าของร้านอาหารและฟิชชิ่งใน อ.ลำทับ จ.กระบี่ โดยกลุ่มคนร้ายเอาศพไปฝังดินและเอารถไปเผาและฝังทำลายหลักฐาน เหตุเกิดเมื่อต้นเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา โดยในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาคนสำคัญ 5 คน โดยหนึ่งในนั้นคือ นายสุริยา หรือ บังฟิต เริงสมุทร อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาคนสำคัญที่เข้ามอบตัวเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ให้การรับสารภาพกับพล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบ.ตร. ว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุจริง

แต่ในชั้นพนักงานสอบสวนกลับคำให้การปฏิเสธ และขอให้การในชั้นศาล ขณะที่ ผู้ต้องหาที่จับกุมตัวได้ 1 คน คือ นายอาลิพ หรือบังลิพ ช่างเรือ รับสารภาพว่าขณะเกิดเหตุนายสุริยาและพี่ชายคือนายสุรชัย หรือกิบหลี เริงสมุทร ผู้ต้องหาที่ยังหลับหนีอยู่เป็นคนลงมือยิงนายสุชาติ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพไปแล้วเมื่อวันที่ 23 พ.ค.

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 พ.ค. พ.ต.อ. ตานิตย์ รามดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จว.กระบี่ เผยความคืบหน้าคดีสังหารโหดนายสุชาติ ขาวล้วน เจ้าของร้านอาหารและฟิชชิ่งใน อ.ลำทับ จ.กระบี่ คนร้ายนำศพไปฝังดิน และเอารถไปเผาและฝังทำลายหลักฐานว่า เจ้าหน้าที่พฐ. รวบรวมของกลางที่ตรวจยึดได้หลายรายการ จากการตรวจค้นบ้านของนายสุริยาและนายสุรชัย รวมถึงผู้ต้องหารายอื่น อาทิ ผ้าปูพื้นรถยนต์ ผ้าลายพราง กระเป๋า รองเท้า จอบ มีด โทรศัพท์มือถือ ตรวจสอบลงบันทึกรายการ ก่อนส่งไปตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยา ศาสตร์ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับคดี

พ.ต.อ.ตานิตย์กล่าวว่า หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ตำรวจเก็บได้มากกว่า 100 ชิ้น มีผลการตรวจยืนยันมัดตัวกลุ่มก่อเหตุได้ทั้งหมด แต่ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ว่ามีทั้งหมด กี่คนแน่ เพราะคดียังไม่จบ ยังต้องติดตามตัว ผู้ที่ยังหลบหนี และสอบสวนเพิ่มว่ายังมีใครเกี่ยวข้องอีก รวมถึงอาจจะสอบไปถึงเครือข่ายของนายสุริยาที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับยา เสพติด อาจจะขยายผลไปถึงการยึดทรัพย์ ในอนาคต

“ขณะนี้ จนท.เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับนายสุริยากับพวกอีก 2-3 ข้อหา หลังจนท.ตรวจยึดอาวุธสงคราม เป็นอาวุธปืนเอ็ม-16 และเครื่องกระสุนจำนวนมาก โดยพยานนำไปตรวจยึดจากบริเวณเชิงเขาใกล้กับจุดฝังศพนายสุชาติเมื่อวานนี้ โดยวันนี้จะส่งตัว ผู้ต้องหาที่มอบตัวและจับกุมได้ไปขออำนาจศาลฝากขัง ทางพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัวไว้ก่อน ดำเนินคดีในข้อหาที่มีโทษสูงสุด นอกจากนี้ ทราบว่าทางญาตินายสุชาติผู้เสียชีวิตเตรียมยื่นคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาลด้วย” รอง ผบก.ภ.จว.กระบี่กล่าว








Advertisement

ต่อมาเวลา 12.30 น. นายสุมิตร รักโอ๋ กำนันตำบลหนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ นำตัวนายสุรชัย หรือกิบหลี และนายสุริยันต์ หรือกอหนี เริงสมุทร สองพี่น้องผู้ต้องหาในคดีอุ้มฆ่าเสี่ยสุชาติเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.ตานิตย์ รามดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จว.กระบี่ หลัง ผู้ต้องหาทั้งสองคนประสานขอเข้ามอบตัวกับจนท.เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยนัดแนะมาพบกัน ที่หน้าสภ.อ่าวนาง โดยมีพ.ต.อ.อภิชาติ จินาเพ็ญ ผกก.สภ.อ่าวนาง พ.ต.อ.พิษณุ พ่วงพร้อม ผกก.ปพ.กด.สส.ภ.8 และพ.ต.อ. เสกสรร แก้วสว่าง ผกก.สภ.ลำทับ ร่วมรับมอบตัว เบื้องต้นผู้ต้องหาขอให้การในชั้นศาล

19 เครือข่าย 39 จุดตามเป้าหมาย ยึดทรัพย์ 448 ล้าน รวม 3 ไตรมาสปีนี้ ยึดได้แล้ว 4,549 ล้าน ตำรวจภาค 5 โชว์รวบ 5 หนุ่มตาก แก๊งขนยาภาคเหนือ ยึดยาบ้า 5 ล้านเม็ด สภ.แม่พริก ลำปาง ตั้งจุดสกัด ขับรถตามประกบ คนร้ายขับรถกระบะ 3 คัน ให้ 2 คันขับนำทางลวงตบตาเจ้าหน้าที่ หลบหนีเข้า เส้นทางลัดเลาะหมู่บ้าน สุดท้ายจนมุมคาป่าละเมาะ จอดรถทิ้งไว้จนถูกรวบตัว สารภาพขนยาบ้าจากเหนือส่งกระจายภาคกลาง

เวลา 11.00 น. วันที่ 24 พ.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยา เสพติด (ป.ป.ส.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เป็นประธานเปิดปฏิบัติการ “ยุทธการพิทักษ์ไทย ยึดทรัพย์ ตัดวงจรยาเสพติด” ครั้งที่ 2/2564 พร้อมด้วย นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส.

นายสมศักดิ์กล่าวว่า แม้ช่วงที่ผ่านมา จะมีสถานการณ์โควิด-19 แต่ทางป.ป.ส. และคณะทำงานปฏิบัติการพาลีปราบยา ยังบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้ากันต่อ เมื่อเปรียบตัวเลขการยึดทรัพย์ของปีที่แล้ว 3 ไตรมาสยึดได้ 1,069 ล้านบาท แต่ในปีงบประมาณ 2564 ผ่านไป 3 ไตรมาสจนถึงวันนี้ยึดได้แล้ว 4,549 ล้านบาท ซึ่ง ยังเหลืออีก 1 ไตรมาส จึงเป็นตัวเลขที่ทำ ให้มั่นใจว่าเราจะทำได้ตามเป้าหมาย 6,000 ล้านบาท

นายสมศักดิ์กล่าวต่อว่า ปฏิบัติการใน วันนี้เป็นการลงพื้นที่ 21 จังหวัด ติดตาม 19 เครือข่าย 39 จุดตามเป้าหมาย โดยยึดทรัพย์สินเพิ่มเติม เช่น ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ บัญชีเงินฝาก รวมทรัพย์สินอายัดได้ 448.29 ล้านบาท โดยมีเครือข่ายใหญ่ อาทิ ป.ป.ส. ภาค 7 เครือข่ายนายวิฑูร ยึดได้ 296 ล้านบาท และเครือข่าย จ.พิษณุโลก ยึดได้ 11.69 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลงานที่น่าพอใจเป็นไปตาม เป้าหมายที่เราได้วางไว้ ซึ่งการดำเนินงานที่ผ่านมาในการยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดเฉลี่ยไตรมาสละ 1,500 ล้านบาท

จากนั้นเป็นการรายงานของชุดปฏิบัติการ 4 ชุด คือ 1.จ.แม่ฮ่องสอน จากการสืบสวนคดีเมื่อปี 2563 มาขยายผลเพิ่ม โดยยึดทรัพย์เพิ่มได้ 24 ล้านบาท 2.ป.ป.ส. ภาค 5 จ.ลำปาง ขยายผลจากคดีปี 2563 เปิดปฏิบัติการเพิ่มเติม 3 จุด ยึดทรัพย์รวม 36.6 ล้านบาท 3.ป.ป.ส. กทม. ขยายผลจับกุม 2 เครือข่ายนักค้ายาชาวไต้หวันและคนไทย มีทั้ง คอนโดมิเนียม และเงินรวมมูลค่า 9.8 ล้านบาท และ 4.จ.ปทุมธานี ขยายผลจากการจับกุมกลุ่ม เครือข่ายจาก จ.น่าน

ด้านพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกอบจ.ปทุมธานี เป็นผู้รายงานผลการจับกุมยึดทรัพย์ได้มูลค่า 12 ล้านบาท และทางอบจ.ปทุมธานี พร้อมช่วยสนับสนุนการทำงานด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างเต็มที่ โดยนายสมศักดิ์กล่าวขอบคุณ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ที่ช่วยสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ซึ่งหวังว่า จ.ปทุมธานี จะเป็นต้นแบบจังหวัดนำร่อง ไม่มีคนติดยาเสพติด ตนมั่นใจฝีมือของท่านว่าจะทำให้จ.ปทุมธานี ไม่มียาเสพติด ภายใน 4 ปีนี้

ก่อนหน้านี้ เวลา 10.30 น. วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง พล.ต.ท. ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (ผบช.ภ.5) นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผวจ.ลำปาง พล.ต.ต.นัทวิทย์ เทียมบุญธง ผบก.ตร.ภ.จว.ลำปาง ร่วมแถลงข่าวผลการตรวจยึดยาบ้าจำนวน 5 ล้านเม็ด จับผู้ต้องหา รวม 5 ราย คือ นายภานุวัฒน์ ธาดาศิริกุลชัย อายุ 24 ปี นายใจ แซ่ว่าง อายุ 28 ปี นายนู้ แซ่ลี อายุ 31 ปี นายเฉลิม อนันต์คีรี อายุ 28 ปี และนายเจริญพร แซ่ว่าง อายุ 24 ปี ทั้งหมดเป็นชาวจ.ตาก พร้อมยึดรถยนต์กระบะจำนวน 3 คัน โดยเป็นผลงานตำรวจ สภ.แม่พริก จ.ลำปาง

ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่พริก จ.ลำปาง สืบทราบจะมีกลุ่มขบวนการลักลอบขนยาเสพติดจากจังหวัดภาคเหนือตอนบนไปยังจังหวัดทางภาคกลาง โดยใช้เส้นทางสายรองเพื่อหลบเลี่ยงด่านตรวจ ต่อมาวันที่ 21 พ.ค. เจ้าหน้าที่จึงตั้งจุดตรวจจุดสกัดตามเส้นทางบริเวณบ้านแม่ตั๋ง-บ้านพระบาทวังตวง หมู่ 5 ต.พระบาทวังตวง กระทั่งพบรถกระบะโตโยต้า สีดำ ป้ายแดง ทะเบียน ก-2748 เชียงใหม่ เลี้ยวเข้าไปในหมู่บ้าน จากนั้นมีรถกระบะมิตซูบิชิ แค็บ สีดำ ทะเบียน ยจ-4926 เชียงใหม่ ด้านกระบะหลังบรรทุกสิ่งของขับติดตามกันมาด้วยความเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขับรถติดตามอย่างกระชั้นชิด พร้อมแจ้งวิทยุให้สกัดจับ

ต่อมาพบรถกระบะโตโยต้า สีเทา 4 ประตู ทะเบียน ก-2748 พระนครศรีอยุธยา ที่จุดกลับรถ ก.ม.ที่ 593-594 ถนนพหลโยธิน จึงให้สัญญาณจอดรถเพื่อตรวจค้น พบนายนู้ เป็นคนขับ และนายเฉลิม นั่งมาด้วย ไม่พบของผิดกฎหมาย ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนขับรถนำทางให้กับรถยนต์กระบะ ทะเบียน ยจ-4926 เชียงใหม่ ซึ่งบรรทุกยาเสพติดให้ขับหลบหนีไปอีกทางหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงแยกกำลังติดตามไปอีกเส้นทาง กระทั่งพบรถคันที่บรรทุกยาเสพติดจอดทิ้งไว้ในป่าละเมาะท้ายหมู่บ้านแม่ตั๋ง หมู่ 3 ต.พระบาทวังตวง ห่างจากถนนหลักประมาณ 2 ก.ม. ตรวจสอบ ไม่พบคนขับรถ แต่พบว่าด้านหลังบรรทุกกระสอบบรรจุยาบ้า รวมจำนวน 5 ล้านเม็ด เจ้าหน้าที่ได้ติดตามหาตัวคนขับ จนพบนายใจ และนายภานุวัฒน์ เดินออกมาจากป่าบริเวณบ้านแม่เชียงรายบน จึงคุมตัวมาสอบถาม ทั้งสองยอมรับสารภาพว่าหลบหนีการจับกุม โดยทิ้งรถที่ขนยาเสพติดไว้ในป่าละเมาะ

จากนั้นวันที่ 23 พ.ค. เจ้าหน้าที่ด่านตรวจแม่พริก ได้พบรถยนต์กระบะโตโยต้า สีเทา ทะเบียน บน-4431 น่าน ขับผ่านด่านตรวจ พบคนขับทราบชื่อ นายเจริญพร อยู่บ้านเลขที่ 136/1 หมู่ 2 ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จ.ตาก ซึ่งเป็นญาติกับนายใจ ที่ถูกจับก่อนหน้า สืบสวนพบว่ามีส่วนร่วมกับขบวนการลักลอบขนยาเสพติดดังกล่าว จึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน โดยทั้ง 5 คนให้การรับสารภาพว่าร่วมกันลักลอบขนยาบ้า 5 ล้านเม็ด จาก จ.เชียงราย เพื่อไปส่งที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จนถูกจับกุมตัวในที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน