เด็กบิ๊กตู่แจ้งจับ
ชายพิการสมอง

ขึ้นศาลอาญาสอบให้ การคดีเผาป้าย-พระบรม ฉายาลักษณ์หน้าเรือนจำคลองเปรม ‘แอมมี่’ เปิดใจแม้ได้อิสรภาพประกันตัวออกมา แต่ก็สุขแค่ครึ่งเดียว เพราะยังมีเพื่อนที่ถูกขังอยู่ในคุก ขณะที่ ‘โตโต้’ รุดรับทราบข้อหามาตรา 112 ที่ปอท. ระบุเป็นคดีที่ 2 รองจากที่กาฬสินธุ์ ด้านทนายความ-ตัวแทนนายกฯแจ้งจับชาย ผู้บกพร่องทางสติปัญญาโพสต์หมิ่นประมาท บิ๊กตู่ เจ้าตัวยอมรับผิดขอโทษ ไทยไม่ทนรุกอีก ยื่นหนังสือถึงบิ๊กบี้หยุดค้ำเก้าอี้ประยุทธ์ ด้วยการลาออกจากส.ว.ทำหน้าที่คุมกองทัพอย่างเดียว

เมื่อเวลา 09.00 น วันที่ 27 พ.ค. ที่ห้องเวรชี้ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดสอบคำให้การจำเลย คดีหมายเลขดำ อ.1199/2564 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ฟ้อง นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ เดอะ บอททอม บลูส์ อายุ 32 ปี แนวร่วมกลุ่มราษฎร เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ, ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, 217 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 กรณีเผาพระบรมฉายาลักษณ์

ขึ้นศาล – ‘แอมมี่’ ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ แนวร่วมกลุ่มราษฎร และแม่ เดินทางมาศาลอาญา ตามที่ศาลนัดสอบคำให้การจำเลยคดีมาตรา 112 ร่วมวางเพลิง และพ.ร.บ.คอมพ์ กรณีเผาป้ายหน้า เรือนจำ เมื่อ 27 พ.ค.

วันเดียวกันนี้ นายไชยอมรซึ่งได้รับการประกันตัวแล้ว เดินทางมาศาลพร้อมกับนางอรวรรณ แก้ววิบูลย์พันธุ์ มารดา และน.ส. ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

น.ส.ศศินันท์เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันนัดรายงานตัวหลัง และครบรอบการฝากขังเมื่อวันที่ 25 พ.ค. ซึ่งอัยการได้ยื่นฟ้องแอมมี่ในข้อหาที่ปรากฏตามข่าว ขั้นตอนเบื้องต้นคือการนำตัวแอมมี่ไปห้องเวรชี้เพื่อฟังการอ่านคำฟ้อง เนื่องจากทนายและจำเลยยังไม่ได้เห็นคำฟ้องว่ามีเนื้อหาอย่างไรบ้าง แต่ตามหลักหลังจากมีการอ่านคำฟ้อง ศาลจะสอบถามจำเลยว่าจะให้การอย่างไร ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้

ด้านนายไชยอมรเปิดเผยว่า หลังจากได้รับอิสรภาพรู้สึกมีความสุขเพียงครึ่งเดียว เพราะนักโทษคดีทางการเมืองคนอื่นๆ ยังคงถูกคุมขังอยู่ เช่น นายอานนท์ นําภา, นายภาณุพงศ์ จาดนอก และคนอื่นที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่สื่อ ส่วนกรณีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเรือนจำนั้น นายไชยอมรเปิดเผยว่า สิ่งที่กำลังต่อสู้ไม่ใช่การต่อสู้กับระบบราชทัณฑ์ แต่เป็นเรื่องของปัญหาเชิงโครงสร้าง จะมองว่ากรมราชทัณฑ์เป็นแพะในเรื่องนี้อย่างเดียวไม่ได้ เนื่องจากคลัสเตอร์เรือนจำ เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความล้มเหลวในการบริหารงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

ต่อมาศาลได้สอบคำให้การโดยอ่านและอธิบายฟ้องให้นายไชยอมร ฟังแล้วสอบถามจะให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธ ปรากฏว่า นายไชยอมรแถลงให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี และจัดเตรียมทนายความไว้พร้อมแล้ว ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 28 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น. จากนั้น แอมมี่ มารดา และทนายความเดินทางกลับทันที

ที่ บก.ปอท. นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ หัวหน้าการ์ด วี โวลันเทียร์ หรือวีโว่ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประดิษฐ์ เปการี รอง ผบก.ปอท.เพื่อรับทราบข้อหาความผิดกฎหมายอาญา มาตรา 112 ตามหมายเรียกที่ บก.ปอท.ออกเมื่อ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ให้มาพบในเวลา 13.00 น. วันที่ 26 พ.ค. แต่เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ ก่อนจะเลื่อนนัดมาพบในวันเวลานี้แทน คดีนี้มีนายนพดล พรหมภาสิต รองประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย เป็นผู้แจ้งความผู้ร้องทุกข์กล่าวหาให้ดำเนินคดี

นายปิยรัฐเปิดเผยว่า หมายเรียกตนมารับทราบข้อหาดังกล่าววานนี้ แต่เป็นวันหยุด จึงเลื่อนมาพบวันนี้แทน เดินทางมาพร้อมทนายความ อยากรู้เหมือนกันว่าคนแจ้งความตนจากความผิดเรื่องอะไร ถ้าเป็นคดี ม.112 ก็ถือว่าเป็นคดีที่สองของตนต่อจากคดีที่สภ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์

วันเดียวกัน ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ค. นายวีระชาติพงศ์ (สงวนนามสกุล) ผู้มีความบกพร่องทางสติปัญญา, พี่สาวผู้ไว้วางใจ พร้อมทนายความเครือข่ายของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา “หมิ่นประมาทโดยโฆษณา” ที่สน.นางเลิ้ง หลังถูกตัวแทนพล.อ.ประยุทธ์แจ้งความให้ดำเนินคดี จากกรณีโพสต์ข้อความด่าทอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บนเฟซบุ๊กส่วนตัว

ก่อนหน้านี้ นายวีระชาติพงศ์ได้รับหมายเรียกของ สน.นางเลิ้ง ลงวันที่ 5 พ.ค. 64 ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา “ดูหมิ่นโดยการโฆษณา” โดยคดีมี นายอภิวัฒน์ ขันทอง เป็นผู้กล่าวหา แต่ไม่สะดวกเดินทางไปในวันที่หมายเรียกระบุ จึงได้ประสานงานขอเลื่อนการรับทราบข้อกล่าวหาเป็นในวันนี้

พ.ต.ท.อธิชย์ ดอนนันชัย รอง ผกก.(สอบสวน) ได้แจ้งพฤติการณ์คดีว่า นาย อภิวัฒน์ ขันทอง ประธานคณะกรรมการตรวจสอบและดําเนินคดีแก่ผู้เผยแพร่ข้อความ อันเป็นเท็จเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีผ่านโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ก (คตส.) ตามคําสั่งของนายกรัฐมนตรีที่ 32/2563 ลงวันที่ 21 ก.ย. 63 ตรวจสอบ พบว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 64 เวลา 18.40 น. นายวีระชาติพงศ์ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัวเป็นโพสต์สาธารณะ บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ โดยเป็นถ้อยคำด่าทอ และมีภาพของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกอบ

บันทึกแจ้งข้อกล่าวหาระบุว่า จากการโพสต์ข้อความดังกล่าวเป็นการดูหมิ่นนายกรัฐมนตรีโดยการโฆษณา ทำให้นายกฯ ได้รับความเสียหาย เป็นการดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังได้

พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการดูหมิ่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393 นายวีระชาติพงศ์ให้การรับสารภาพว่าได้โพสต์ข้อความดังกล่าวจริงและจะไม่กระทำเช่นนั้นอีก และกล่าวขอโทษนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งจะประพฤติเป็นคนดีของสังคม

จากนั้น พนักงานสอบสวนเปรียบเทียบปรับเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท คดีจึงสิ้นสุดลง ทางกองทุนราษฎรประสงค์ได้ให้ความช่วยเหลือจ่ายเงินค่าปรับ เนื่องจากฐานความผิดดังกล่าวเกี่ยวกับการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และตัวผู้ต้องหาเป็น ผู้มีความบกพร่องทางสติปัญญา และทางครอบครัวก็ไม่มีกำลังทรัพย์พอ

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่หน้าบก.ทบ. กลุ่มไทยไม่ทน “คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย” นำโดย นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์, นายจตุพร พรหมพันธ์ุ, นายวีระ สมความคิด, นายเมธา มาสขาว, นายไทกร พลสุวรรณ, นางพะเยาว์ อัคฮาด, ส.อ.ณรงค์ชัย, นายนันทพงษ์ ปานมาศ ฯลฯ เดินทางไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ให้ลาออกจากการเป็น ส.ว.โดยตำแหน่ง และหยุดการรับใช้ระบอบประยุทธ์ เพื่อกดดันให้ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ เพื่อแก้วิกฤตชาติบ้านเมือง

นายจตุพรกล่าวว่า ข้อเรียกร้องดังกล่าวเปิดทางให้ ผบ.ทบ. ได้ใช้เวลาทั้งหมดทำหน้าที่หลักในการควบคุมดูแลบังคับบัญชากำลังพลของกองทัพบกในการป้องกันรักษาความมั่นคงของประเทศ หากอยู่ในตำแหน่ง ผบ.ทบ.พร้อมกับสมาชิกภาพวุฒิสภาที่ประชุมสัปดาห์ละ 2 วัน ก็จะเบียดเบียนเวลาปฏิบัติหน้าที่ราชการทหาร อีกทั้งในยามเชื้อโรคร้ายโควิด-19 ระบาดรุนแรง ประชาชนทั่วหัวระแหงยังคอยรับความช่วยเหลืออยู่

คณะสามัคคีประชาชนฯ เชื่อมั่นว่า ผบ.เหล่าทัพสามารถลาออกจากสมาชิกวุฒิสภาโดยตำแหน่งได้ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 111 (3) ซึ่งมีผลบังคับใช้อย่างสมบูรณ์ รวมทั้งจะไม่ตกเป็นที่ครหาทางการเมือง ในการใช้กองทัพไปค้ำบัลลังก์อำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งมีที่มาทางการเมืองไม่ชอบธรรม ขัดหลักจริยธรรมการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นการลาออก ดังกล่าว ย่อมแสดงถึงจุดยืนอันมั่นคงตามหลักประชาธิปไตย และมุ่งรับใช้ประชาชนมากกว่าไปคุ้มครองผลประโยชน์ส่วนตัวของพล.อ.ประยุทธ์

ทั้งนี้ มีร.ต.บุญโชค นามศรี นายทหารเวร ประจำสำนักงานเลขานุการกองทัพบก ออกมารับหนังสือดังกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน