เมื่อวันที่ 30 พ.ค. พ.อ.สุวัฒน์ ทองใบ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี รับรายงานจากชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ กองร้อย ร.2521 หน่วย ฉก.ร.25 เพื่อสกัดกั้นการลักลอบขนสินค้าการเกษตรไม่ผ่านด่านศุลกากร รวมทั้งการกระทำผิดกฎหมาย อื่นๆ ตามแนวชายแดนแม่น้ำกระบุรี ว่าพบการเคลื่อนไหว มีเรือหางยาวบรรทุกยางพาราแล่นข้ามชายแดนจากฝั่งประเทศเมียนมา ตรงมาที่บริเวณบ้านรังนก ท่าน้ำพระศุกร์ ม.2 บ้านมะมุ ต.มะมุ อ.กระบุรี จ.ระนอง จึงสั่งการให้ตรวจสอบและจับกุมเป้าหมายทันที
ยางเถื่อน – เจ้าหน้าที่บุกจับนายเซียง ซุ่ยกิ้ม นายทุนดัดแปลงบ้านรังนกนางแอ่นริมแม่น้ำกระบุรี อ.กระบุรี จ.ระนอง ลักลอบรับซื้อยางพาราเถื่อนราคาถูกจากประเทศเพื่อนบ้าน แล้วนำไปขายต่อทำกำไร เมื่อวันที่ 30 พ.ค.
เจ้าหน้าที่แสดงตัวบุกเข้าไปในบ้านรังนกนางแอ่น ซึ่งมีบริเวณติดกับแม่น้ำกระบุรี พบเรือหางยาวที่ขนยางพาราข้ามแดนได้เร่งเครื่องหนีข้ามไปประเทศเพื่อนบ้านทันที ภายในอาคารดัดแปลงเป็นโกดังเก็บรวบรวมแผ่นยางพาราดิบจำนวนมาก และพบยางพาราดิบบนท้ายรถกระบะตอนครึ่งติดรั้วเหล็ก สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บฉ 9984 ชหพ. รวมยางพายาดิบทั้งสิ้นประมาณ 6,000 ก.ก. ด้านหลังของบ้านรังนกมีการเจาะช่องทำบันไดและท่าเทียบเรือภายใต้อาคาร เพื่อให้เรือหางยาวที่ขนยางพาราดิบจากประเทศเพื่อนบ้าน สามารถเข้าจอดเทียบท่าใต้อาคารบ้านรังนกและขนถ่ายแผ่นยางพาราขึ้นรถกระบะได้ทันที นายเซียง หรือ เช็ก ซุ่ยกิ้ม อายุ 60 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของยางพาราแผ่นพาราดิบทั้งหมด รับสารภาพว่าเป็นนายทุนรับซื้อแผ่นยางพาราดิบ ในราคาก.ก.ละ 37 บาท และลักลอบขนสินค้าไม่ผ่านด่านศุลกากร โดยใช้เรือหางยาวลำเลียงเข้ามาส่งยังโกดังใต้บ้านรังนกนางแอ่น เพื่อขายต่อร้านรับซื้อยางในพื้นที่จ.ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ในราคากลางอยู่ที่ ประมาณก.ก.ละ 60 บาท นอกจากนี้นำไปจำหน่ายให้นายทุนในอ.กระบุรี อีกทอดหนึ่ง หากได้ยางพาราดิบจำนวนมากจะใส่รถบรรทุก 18 ล้อ ติดพ่วงลาก ขนไปจำหน่ายยังต่างจังหวัดต่อไป เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาลักลอบนำสินค้าทางการเกษตรเข้ามาในประเทศไทยโดยไม่ผ่านกระบวนการทางศุลกากร
