ภท.พ้อ-สธ.ถูกหั่นงบ
ปชป.ฉะหนี้ท่วม21ลล.
พท.-ก้าวไกลรับไม่ได้
จัดสรรสวนทางโควิด
ตู่อ้างโปร่งใส-ไม่โกง

ฝ่ายค้านรุมยำ หั่นงบ ‘สาธารณสุข-ศึกษาฯ’ ไม่สอดรับวิกฤตโควิด เพื่อไทยอัดรัฐบาลอ่อนด้อยไร้วิสัยทัศน์ ทุ่มงบให้กองทัพมากกว่าสธ. เหมือนอยู่คนละโลกกับประชาชน ‘สมพงษ์’ ชี้ 4 เหตุผล ไม่ให้ผ่าน ก้าวไกลจัดหนักไล่ ลาออก เฉ่งจัดงบฯ แบบไร้สามัญสำนึก พรรคร่วมรัฐบาลเอาด้วย ปชป.ชี้ไม่ตอบโจทย์วิกฤต หนี้ท่วมรายได้ 81 ปีถึงจะใช้หมด ส.ส.ภูมิใจไทยพ้อโดนตัดงบกระทรวง สธ. แนะ ‘อนุทิน’ กลับบ้านเราเถอะ นายกฯ ร่ายยาวชั่วโมงครึ่ง ขอผ่านงบ 65 ยันใช้งบโปร่งใส พร้อมให้ตรวจสอบ โต้ไม่จริงจัดงบกองทัพมากกว่าสธ. ‘บิ๊กช้าง’อ้างไทยอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ต้องพร้อมรับสถานการณ์ตลอด

ตู่พร้อม-สภาถกงบวันแรก

วันที่ 31 พ.ค. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ รายจ่ายประจำปี 2565 เป็นวันแรก มีการควบคุมด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันโควิด-19

เวลา 08.40 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มาร่วมประชุมด้วยสีหน้าปกติ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าพร้อมชี้แจงหรือไม่ก็พยักหน้า กล่าวว่าพร้อม

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงฝ่ายค้านจะล้มร่างร่างพ.ร.บ.งบปี 65 ตั้งแต่วาระแรกว่า ไม่มีปัญหา ขึ้นอยู่กับการโหวตในที่ประชุม อยู่ที่รัฐบาลต้องรักษาเสียงของตัวเองให้ดี ให้ชนะ ถ้าไม่ผ่านก็จะมีปัญหาเพราะเป็นกฎหมายสำคัญ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นกฎหมายการเงินแต่หมายถึงกฎหมายสำคัญต่างๆ ของรัฐบาล ถ้าไม่ผ่านรัฐบาลต้องยุบสภาหรือลาออก มี 2 ทางเลือกเท่านั้น

ฝ่ายค้านยันไม่รับวาระแรก

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.เพื่อไทย (พท.) ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่าการอภิปรายกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะเป็นไฮไลต์ ต่อด้วยกระทรวงกลาโหม (กห.) ที่เป็นคู่เทียบ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม และกระทรวงพลังงานที่มีงบจำนวนมาก ในส่วน สธ.ต้องเจาะลึกว่าเหมาะหรือไม่ และจะเพิ่มความเข้มแข็งในการรับมือโควิดได้จริงหรือไม่กับงบที่นำไปเติมให้ และหนีไม่พ้นอภิปรายพาดพิงไปถึงพ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท

ส่วนการลงมติจะแตกต่างจากทุกปี ทุกปีอะลุ้มอล่วยแม้รู้ว่าผิดแต่ให้โอกาส ให้โอกาสมาแล้ว 2 ปีไม่เคยแก้ไข ปีนี้ต้องยกระดับให้สัมพันธ์กับความรู้สึกของประชาชนและปัญหาที่เขาสร้างขึ้น เชื่อว่าเราไม่รับรัฐบาลก็คงผ่านไปจนได้ ดังนั้นมติของเราจะชี้ถูกชี้ผิด ซึ่งเป็นระดับที่เข้มข้นขึ้น หวังผลว่าจะได้รับการแก้ไขในชั้นกมธ. และวาระ 2-3 ย้ำว่ามติที่ไม่รับสอดคล้องกันของทุกพรรคฝ่ายค้าน และตนได้ฟังจากส.ส.รัฐบาลหลายพรรคก็ไม่เห็นด้วย อึดอัดกับการแจกงบ แต่จะถึงขั้นที่เขาจะคว่ำงบด้วยหรือเปล่า ก็อยู่ที่จะเลือกมารยาทหรือเลือกประชาชน

กก.ซัดไม่เห็นหัวปชช.-บี้ตู่ออก

นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคมีมติไม่เห็นชอบให้ผ่าน หลายคนกังวลถ้าพ.ร.บ.งบประมาณ ไม่ผ่านจะไม่มีงบใช้นั้นไม่ต้องกังวล รัฐบาลสามารถใช้เงินล่วงหน้าได้เหมือนปี 63 ที่ออก พ.ร.บ.งบเดือนก.พ. ใช้เวลา 5 เดือน ระหว่างนั้นรัฐบาลก็มีเงินใช้ ส่วนที่บอกงบกระทรวงที่ปรับลดไปอยู่ในพ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านอยู่แล้วนั้น รับไม่ได้ ไม่มีรายละเอียดนำเงินไปใช้อย่างไร เป็นการลักหลับไม่ให้ตรวจสอบ เขียนกว้างๆ ว่าจะใช้เงินอย่างไรก็ได้ใน 3 โครงการ แย่กว่าตอนพ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ถึงเวลาแล้วจำเป็นต้องมีผู้นำคนใหม่ มีรัฐบาลที่จัดสรรงบอย่างเห็นหัวประชาชนมากกว่านี้ โดยเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก หากลาออกและมีรัฐบาลใหม่ สามารถถอนพ.ร.ก.กู้เงินไปออกพ.ร.บ.งบกลางปี เป็นการกู้เงินเหมือนกัน แต่มีแผนการจัดการที่ชัดเจนตอบโจทย์ประชาชนได้มากกว่านี้

ตู่แจงชม.ครึ่ง-ยันใช้งบโปร่งใส

เวลา 09.30 น. นายชวน หลีกภัย ประธานสภา เป็นประธานการประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 65 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท วาระแรก โดย พล.อ.ประยุทธ์ใช้เวลาอ่านเอกสารชี้แจงกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที ระบุถึงหลักการและเหตุผลการเสนอร่าง พ.ร.บ.งบฯ ว่า ได้ดำเนินการให้สอดคล้องสภาวะทางเศรษฐกิจในประเทศและผลกระทบจากภายนอก รวมทั้งสถานการณ์โควิด คาดเศรษฐกิจไทยปี 2564 ขยายตัวร้อยละ 2.5-3.5 แต่ด้วยข้อจำกัดและความเสี่ยง ได้แก่ ความไม่แน่นอนของโควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศที่รุนแรงและยืดเยื้อมากกว่าที่คาดการณ์ แนวโน้มความล่าช้าการฟื้นตัวภาคท่องเที่ยว ตลาดแรงงานและกิจกรรมทางธุรกิจยังไม่ฟื้นตัว เต็มที่ และความผันผวนของเศรษฐกิจและการเงินโลก คาดเงินเฟ้ออยู่ร้อยละ 1.0-2.0

ส่วนปี 2565 คาดขยายตัวร้อยละ 4.0-5.0 เสถียรภาพเศรษฐกิจแนวโน้มอยู่ในเกณฑ์ดี คาดเงินเฟ้อร้อยละ 0.7-1.7 หนี้สาธารณะ คงค้าง ณ 31 มี.ค.64 มี 8,472,187.0 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 54.3 ของจีดีพี ซึ่งอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง ที่ร้อยละ 60 ปัจจุบันฐานะเงินคงคลัง ณ 30 เม.ย.2564 มี 372,784.3 ล้านบาท รัฐบาลจะบริหารเงินคงคลังให้อยู่ระดับเหมาะสม บริหารรายรับรายจ่ายให้มีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุด ยืนยันรัฐบาลได้กลั่นกรองการใช้งบอย่างรอบคอบ จะเข้มงวดกวดขันป้องกันทุจริตการใช้งบ พร้อมให้องค์กรอิสระตรวจสอบ จะใช้งบอย่างสร้างสรรค์ โปร่งใส หวังว่า ส.ส.จะพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ขอใช้เวลา 3 วันอย่างคุ้มค่า สร้างสรรค์ เพื่อวันนี้และอนาคตของลูกหลาน ยันอ่านงบทุกหน้า ฟังทุกข้อมูล ถึงวันนี้ยืนยันยังไม่มีเรื่องทุจริตเกิดในรัฐบาลตน

ฝ่ายค้านชี้เหตุผล4ข้อไม่ให้ผ่าน

เวลา 11.30 น. นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้นำฝ่ายค้าน อภิปรายว่า งบที่รัฐบาลนำเสนอเหมือนอยู่คนละโลกกับประชาชน วันนี้ประชาชนลำบาก แต่รัฐบาลวางแผนจัดงบราวอยู่ในสถานการณ์ปกติ การรับมือโควิดช่วงต้นปี 63 รัฐบาลปลาบปลื้มความสำเร็จในการควบคุมโรค แต่มองไม่เห็นความเดือดร้อนจากภาคธุรกิจ ไม่ใส่ใจฟังเสียงขอความช่วยเหลือ แก้ปัญหาล่าช้าจนเกิดการระบาดระลอก 2 และ 3 ความไม่พร้อมในการวางแผนจัดเตรียมวัคซีน สะท้อนการไร้ศักยภาพ การบริหารจัดการของผู้นำที่ขาดวิสัยทัศน์ การบริหารเศรษฐกิจล้มเหลวไม่เป็นท่า เสียหายกว่า 1 ล้านล้านบาท และมีแนวโน้มจมดิ่งต่อไป

ไม่อาจยอมรับให้ร่าง พ.ร.บ.งบฯ ผ่านใน 4 ประเด็น 1.เป็นแผนที่ไม่จัดลำดับความสำคัญของปัญหา ไม่ตรงเป้า ชัดเจนคือจัดงบให้ กห.มากกว่า สธ.เกือบ 5 หมื่นล้านบาท งบปี 65 สธ.ถูกปรับลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี ถึงกว่า 4 พันล้านบาท 2.ไม่คำนึงถึงทุกข์ร้อนของประชาชน ไม่ได้วางแผนให้เหมาะสมวิกฤต 3.ไม่มีวิสัยทัศน์ ขาดการวางแผนงบในการวางโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเตรียมตัวออกจากวิกฤต 4.สะท้อนความอ่อนด้อยด้านการบริหารจัดการแบบมืออาชีพ จัดงบแบบชนเพดานทุกมิติ กระดิกตัวไม่ได้ กู้ชดเชยขาดดุลเพิ่มก็ไม่ได้อีกแล้ว การจัดงบด้วยวิธีคิดที่ขาดยุทธศาสตร์จะทำให้จีดีพีตกต่ำลง การจัดเก็บภาษีปี 65 จะพลาดเป้ารุนแรงเป็นปีที่ 3 ต่อเนื่อง เรื้อรังถึงปี 66 จนไม่มีทางแก้ นอกจากออก พ.ร.ก.กู้เงินจำนวนมากอยู่ร่ำไป ภาวะดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นจนงบในอนาคตติดกับดัก ไม่มีทางออก

ตู่โต้ทันควัน-งบกห.มากกว่าสธ.

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงทันทีว่า งบ กห.ไม่ได้มากกว่า สธ. ตลอด 2 ปีปรับลดงบ กห. 1 หมื่นล้านบาทต่อปี งบปี 65 กห.มีค่าใช้จ่ายบุคลากร ภารกิจประจำและการพัฒนากองทัพ วันนี้สิ่งที่เป็นข้อผูกพันจำเป็นต้องดำเนินการต่อ ที่บอกว่างบปี 65 กห.ได้มากกว่า สธ.ไม่ใช่ข้อเท็จจริง งบ สธ.นอกจากงบของหน่วยงานแล้วยังมีกองทุนอีก 3 กองทุน เมื่อรวมกันงบ สธ.จะมี 2.95 แสนล้านบาท เทียบกับงบปี 64 ปรับลดลงเพียงร้อยละ 1.7 ต้องดูกองทุนต่างๆ ประกอบด้วย จะเห็นว่าภาพรวมงบ กห.น้อยกว่า สธ. เรื่องวัคซีนยืนยัน มิ.ย.วัคซีนจะเข้ามาเพียงพอ “การบริหารงบเป็นเรื่องที่เราพิจารณาเข้มงวดรัดกุม ผมอ่านงบทุกหน้า ไม่ได้หยุดนิ่ง ฟังทุกข้อมูล และนำมาแก้ปัญหาด้วยตัวเอง โดยมอบหมายแต่ละหน่วยงานเข้าไปแก้ไข ยืนยันวันนี้ยังไม่มีเรื่องทุจริตเกิดขึ้นในรัฐบาลผม ย้ำว่าในรัฐบาลผม”

พท.ไล่ตู่-ไม่ให้อยู่บริหารงบ

เวลา 11.57 น. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการ พท. อภิปรายว่า การใช้งบช่วง 7 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ระบบราชการมีขนาดใหญ่เกินจำเป็น ตั้งไว้ 2.3 ล้านล้านบาท จากงบยอดรวม 3.1 ล้านล้านบาท หรือร้อยละ 76.15 งบลงทุนตั้งไว้ร้อยละ 20 คิดเป็นเงิน 624,000 ล้านบาท ส่วนหนึ่งอยู่ใน กห. เพื่อจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ มีข้อสังเกต 5 ข้อ 1.การจัดงบไม่สะท้อนการแก้ปัญหาประเทศ ยุทธศาสตร์ 6 ด้าน ไม่ได้กล่าวถึงยุทธศาสตร์ด้านโควิดทั้งการแก้ปัญหาและฟื้นฟู 2.การไร้ประสิทธิภาพในการใช้งบประมาณ ตลอด 7 ปี พล.อ.ประยุทธ์ใช้วงเงินงบ 20.8 ล้านล้านบาท จะใช้ปี 65 อีก 3.1 ล้านล้านบาท แต่ไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจโตได้

3.ตัดงบสำคัญหลายจุด งบสธ.ลดลงมากถึง 4.3 พันล้านบาท หน่วยงานที่เกี่ยวกับการควบคุมโรคล้วนถูกตัดงบ กห.งบ 64 ร้อยละ 6.5 งบปี 65 ร้อยละ 6.6 ขณะที่ประเทศเผชิญโควิดกองทัพนำเงินไปซื้อยุทโธปกรณ์ 3 เหล่าทัพเป็นเงินมากกว่า 8,274 ล้านบาท ยังไม่รวมงบผูกพันข้ามปี 65-68 จำนวน 88,969 ล้านบาท เป็นของกองทัพเรือ 37,849 ล้านบาทในการจัดซื้อเรือดำน้ำแบบจีทูจีกับรัฐบาลจีน, 4.กระจายงบไม่เป็นธรรม เอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้อง เห็นชัดจากการกระจายวัคซีนแบบไร้ยุทธศาสตร์ 7 มิ.ย.การฉีดวัคซีน แอสตร้าเซนเนก้าแบบปูพรมจะดำเนินการได้หรือไม่ หากวัคซีนไม่มา พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผอ.ศบค.ต้องรับผิดชอบด้วยการ ลาออกและ 5.การจัดสรรงบไม่ให้ความสำคัญกับท้องถิ่น สิ่งที่เกิดวันนี้คือวิกฤตศรัทธา ในตัว พล.อ.ประยุทธ์ ประชาชนขาดความ เชื่อมั่น หากปล่อยให้บริหารเงินปี 65 จะพาประเทศพ้นวิกฤตได้อย่างไร

ชำแหละงบ – นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.พรรคก้าวไกล อภิปรายดุระบุรัฐจัด งบประมาณไร้สามัญสำนึก ไม่ถูกกาลเทศะ เปรียบลูกทรพีตื๊อซื้อของเล่น จี้ถามงบกองทัพมากกกว่าสาธารณสุข ทำไมไม่เอาไปแก้วิกฤตโควิด ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 31 พ.ค.

วิโรจน์ซัดจัดงบฯ แบบไร้สำนึก

เวลา 12.23 น. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ไทยพบผู้ติดเชื้อรายแรก 13 ม.ค.63 ถึงวันนี้รัฐบาลมีเวลาเตรียมรับมือโควิด 1 ปี 4 เดือน 18 วัน ผ่านมาถึง 2 ปีงบประมาณพร้อมเงินกู้ก้อนมหาศาลอีก 1 ล้านล้านบาท มีการกันงบไว้สำหรับด้านสาธารณสุข 45,000 ล้านบาท แต่เบิกจ่ายไปได้เพียง 7,103 ล้านบาท เครื่องช่วยหายใจที่ของบไว้ยังไม่ได้ซื้อ แค่การใช้เงินรัฐบาลชุดนี้ยังไม่มีสามัญสำนึก จัดลำดับความสำคัญไม่เป็น ไม่รู้ว่าอะไรควรเร่งด่วน อะไรควรชะลอ งบปีก่อนกว่าจะตัดงบเรือดำน้ำได้ยากเย็นแสนสาหัส ยานเกราะ ล้อยางสุดท้ายก็เอาจนได้ กางเกงใน ถุงเท้าราคาแพง 3 เท่าก็ยังดึงดันจะซื้อ เปรียบเหมือนบ้านที่พ่อแม่มาล้มป่วย ตกงาน แต่ลูกทรพีก็ยังจะตื๊อซื้อของเล่นให้ได้

7 ปีเห็นมีแต่คลองโอ่งอ่างกับบัตรคนจน การจัดงบปี 65 รัฐบาลแกล้งไปทำตัวเลขให้ภาพรวมลด แต่เจาะไส้ในกลับซุกซ่อนโครงการที่น่าละอายอยู่เต็มไปหมด กองทัพบก ปี 65 ภาพรวมปรับลดลง 6,603 ล้านบาท แต่เจาะรายละเอียด โครงการเสริมสร้างจัดหายุทโธปกรณ์ปี 64 มีงบ 3,132 ล้านบาท ปี 65 งอกเพิ่ม 1,805 ล้านบาท เป็น 4,937 ล้านบาท, กองทัพเรือ ปี 65 ปรับลด 1,130 ล้านบาท เจาะดูโครงการเสริมสร้างจัดหายุทโธปกรณ์ พฤติกรรมเดียวกัน ปี 64 มีงบ 533 ล้านบาท ปี 65 ปรับเพิ่มขึ้น 873 ล้านบาท งอกมาเป็น 1,406 ล้านบาท เมื่อรวมกันแล้วเพิ่มขึ้นถึง 2,678 ล้านบาท ถ้าเห็นแก่ประชาชนควรนำทั้งหมดไปซื้อวัคซีน

ย้ำรับไม่ได้-จี้เปลี่ยนม้ากลางศึก

เมื่อปรับลดลงแล้วถ้ายังมีที่ไม่ถูกกาลเทศะซุกซ่อนอยู่ ก็ต้องปรับลดลงอีก เห็นอยู่ว่าประชาชนขาดวัคซีน ขาดเตียง ขาดยา ขาดเครื่องช่วยหายใจ ไม่ได้ขาดปืนใหญ่ ขาดรถถัง ขาดรถยานเกราะ ขาดอาวุธสงคราม ถ้าไม่ซื้ออาวุธกันสักปีมันจะชักดิ้นชักงอกันหรืออย่างไร สธ.เป็นกลไกสำคัญควบคุมโควิด แต่กรมควบคุมโรคได้งบเพียง 3,565 ล้านบาท น้อยกว่าปี 62 ที่ยังไม่เจอโควิดถึง 470 ล้านบาท เป็นการจัดงบที่ไร้สามัญสำนึก ใช้เขาไปรบแต่ไปยึดอาวุธเขา

งบด้านการป้องกันประเทศถูกปรับลด 10,383 ล้านบาท หรือ 4.9% แต่งบสธ.และงบการศึกษาถูกปรับลดลงมากกว่า สธ.ปรับลดลงถึง 37,207 ล้านบาท คิดเป็น 10.8% งบการศึกษาถูกปรับลด 26,524 ล้านบาท คิดเป็น 5.5% “พรรคไม่อาจรับได้ และขอเรียกร้องรัฐบาลที่ไร้จิตสำนึกชุดนี้ลาออกไป อย่ามาอ้างว่าสถานการณ์ที่ถูกรุมเร้าด้วยปัญหา ไม่ควรเปลี่ยนม้ากลางศึก ลองก้มลงไปดูก่อนถ้ารู้แน่ๆ ว่าที่ขี่อยู่ไม่ใช่ม้า ถ้าเปลี่ยนเป็นม้าได้เมื่อไรก็คุ้ม”

‘ทวี’ซัดจัดงบเอื้อเจ้าสัว

เวลา 12.50 น. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขา ธิการพรรคประชาชาติ อภิปรายว่า ร่างพ.ร.บ.งบ 65 เกิดขึ้นในสถานการณ์ที่เกิดมหาวิปโยคที่คนไทยถูกโจมตีจากเชื้อโรคร้าย แต่นายกฯใจดำมาก เพราะจัดงบครั้งนี้ไม่มีนัยยะสำคัญที่ต้องการแก้ปัญหาให้คนไทยอยู่รอดพ้นวิกฤต ยังคงจัดงบแบบมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เพื่อความปลอดภัยของรัฐบาล ครม.และคนร่ำรวยกลุ่มหนึ่ง แล้วปล่อยให้ประชาชนอยู่ด้วยความทุกข์ยาก นายกฯ จัดงบแบบมีผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่ควรผ่านแต่ควรนำกลับไปทำใหม่ โดยเฉพาะงบผูกพัน 1 แสนกว่าล้านบาท ควรนำไปช่วยประชาชนในการฟื้นฟูเยียวยามากกว่า

ปชป.ร่วมถล่ม-ไม่ตอบโจทย์

เวลา 13.55 น. นายกนก วงษ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อภิปรายว่า สถานะการเงินประเทศ รัฐบาล ตั้งรายได้สุทธิปี 65 ไว้ที่ 2.4 ล้านล้านบาท แต่พบหนี้สาธารณะ 8.195 ล้านล้านบาท เพิ่มจากปี 64 ถึง 2.1 ล้านล้านบาท ทำให้รัฐบาลต้องตั้งงบชำระเงินกู้ 1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 64 ถึง 1,000 ล้านบาท แต่ปัจจุบันไทยมีหนี้ครัวเรือน 13 ล้านล้านบาท คิดเป็น 86.6% ของจีดีพี รวมหนี้รัฐบาลกับของประชาชนจะมีมากกว่า 21 ล้านล้านบาท มากกว่าจีดีพีประเทศ เรียกว่าหนี้ท่วมรายได้ โดยรัฐบาลมีหนี้สูงกว่ารายได้ มากถึง 3.3 เท่า และต้องใช้เวลา 81 ปี เพื่อชำระหนี้สิน

การจัดทำงบนี้ สำนักงบประมาณไม่สามารถจัดงบได้ตอบโจทย์ปัญหาประชาชนและประเทศ มีข้อเสนอแนะเพื่อทางรอดของเศรษฐกิจสำหรับการเพิ่มงบ คือการยกระดับผลิตภาพ การแข่งขัน มีนวัตกรรม ไม่ใช่เพิ่มรายได้จากการกู้ การจัดสรรงบต้องให้ท้องถิ่นเป็นผู้จัดการ ไม่ใช่กระจุกอยู่ที่สำนักงบฯ

กลับบ้านเรา – นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี อภิปรายในสภา แสดงความไม่พอใจ ที่กระทรวงสาธารณสุขถูกตัดงบประมาณเกี่ยวกับ โควิด พร้อมชวนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค กลับบ้านเราเถอะ เมื่อวันที่ 31 พ.ค.

ภท.พ้อ-ชวน‘เนวิน’กลับบ้าน

เวลา 15.05 น. นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย (ภท.) อภิปรายว่า การจัดทำงบครั้งนี้ไม่ให้เกียรติประชาชน เพราะในสถานการณ์โควิด-19 สำนักงบประมาณ ตัดงบ สธ.ลงแทบทุกกรมทุกส่วน ทั้งที่คนที่ดูแลประชาชนคือ สธ. ท่านบอกว่าจะไปใช้งบกลางก็ทำได้ลำบาก เปรียบเหมือนส่งทหารไปรบแต่ไม่ให้อาวุธ ไม่ให้สิ่งอำนวยความสะดวก แล้วคิดว่าศึกนี้จะชนะหรือ แบบนี้คือการจัดงบที่ไม่สนใจความรู้สึกประชาชน ไม่นึกถึงคนที่ทำงานว่าต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ มาก

งบสธ. 4 หมื่นล้านบาทถือว่าน้อยนิด สิ่งสำคัญคือเบี้ยเลี้ยงเสี่ยงภัยของแพทย์ 6 พันกว่าล้านบาท โควิดรอบแรกจนวันนี้ก็ยัง ไม่เบิกจ่ายให้เขา แบบนี้จะอยู่กันอย่างไร ท่านทำให้ประชาชน คนทำงานเจ็บปวด อยากให้สภาพัฒน์และสำนักงบฯ ไป ร.พ.รัฐบ้างว่ายังขาดแคลนอะไรบ้าง ในสถานการณ์โควิดตัดแม้แต่งบแพทย์ปฐมภูมิ ที่ต้องดูแลประชาชนโดยตรง ตัดตรงนี้ถือว่าใจดำมาก อยากให้สภาพัฒน์พิจารณาและดูบทบาทหน้าที่ตัวเองใหม่ แทนที่จะทำหน้าที่วิเคราะห์แนะนำรัฐบาล แต่กลับมาพิจารณางบเสียเอง

“หรือสำนักงบฯ คิดว่า พล.อ.ประยุทธ์จะไม่รักนายอนุทินเสียแล้ว ท่านถึงได้ตัดงบแบบนี้ ผมอยากบอกว่าหัวหน้าครับ ถ้าเขาไม่รักก็กลับบ้านเราเถอะ” นายชาดากล่าว

จี้นายกฯรับผิดชอบ-ลาออก

การอภิปรายช่วงบ่าย ส.ส.ฝ่ายค้านและ ฝ่ายรัฐบาล ยังสลับกันอภิปราย ส.ส.ฝ่ายค้านส่วนใหญ่ อาทิ นายไชยา พรหมา ส.ส.พท. นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย ยังคงพุ่งเป้าไปที่การตัดลดงบ สธ. การศึกษา สวัสดิการประชาชน ไม่มุ่งเน้นแก้ปัญหา โควิดและการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เป็นการจัดงบผิดฝาผิดตัว

เวลา 15.45 น. น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายว่า เราไม่จำเป็นต้องกู้อีก 5 แสนล้านบาท หากปรับโครงสร้างการจัดสรรงบในส่วนที่บิดเบี้ยวในยุทธศาสตร์ความมั่นคง งบปี 65 มีงบเพื่อจัดสวัสดิการข้าราชการเพิ่มขึ้นกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท หากไม่แก้ไขจะทำให้งบส่วนอื่นถูกเบียดบัง และพบมีงบหายไปรวมกว่า 3 แสนล้านบาท โดยงบด้านสวัสดิการสังคมเพื่อประชาชนถูกลดลงจำนวนมาก รัฐบาลอย่ากอดยุทธศาสตร์ชาติ เพราะไม่สอดคล้องวิกฤตประเทศ ขอให้รัฐบาลถอนร่าง พ.ร.บ.งบปี 65 และขอให้นายกฯ ลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ เพื่อให้รัฐบาลใหม่ออก พ.ร.ก.กู้เงินและออกงบกลางปี เพื่อชดเชยและฟื้นฟูประเทศ

ภท.โวยงบซื้อวัคซีนถูกหั่น

เวลา 16.25 น. นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง ภท. อภิปรายว่า ตนคาดหวังว่าการจัดสรรงบปี 65 จะเป็นไปตามสถานการณ์ของประเทศ ซึ่งปีนี้ไทยเผชิญมหาวิกฤตโควิด สิ่งที่คาดหวังคือการทุ่มสรรพกำลังลงไปยังหน่วยงานที่ดูแลเรื่องโควิด คือ สธ. แต่ตัวเลขไม่เป็นเช่นนั้น เพราะถูกตัดงบไปกว่า 4 พันล้านบาท อีกทั้งค่าตอบแทน อสม.สำนักงบประมาณก็โอนให้ไม่ครบ งบบัตรทองก็ถูกตัด

ปีที่ผ่านมากรมควบคุมโรคได้รับงบ 4 พันล้านบาท แต่ปีนี้เหลือเพียง 3.5 พันล้านบาท ทั้งที่มีภารกิจเพิ่มขึ้นมหาศาล ที่สำคัญกรมควบคุมโรคได้เสนองบ 1.2 หมื่นล้านบาท เพื่อจัดซื้อวัคซีน 70 ล้านโดส มาฉีดให้ประชาชนทั้งประเทศ แต่งบส่วนนี้ถูกตัดออก โดยอ้างเหตุผลว่าจะให้ใช้งบกลางหรืองบเงินกู้ นี่คือความผิดหวังจากการจัดสรรงบของสำนักงบประมาณ ที่ไม่เป็นไปตาม เป้าหมาย และไม่เป็นไปตามสถานการณ์ หวังว่าจะนำข้อเสนอแนะเหล่านี้ไปปรับแก้ในชั้น กมธ.ต่อไป

ตู่ชี้งบสธ.อย่ามองแค่ตัวเลข

เวลา 15.50 น. ที่เซ็นทรัลเวิลด์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ให้สัมภาษณ์หลังลงตรวจเยี่ยมหน่วยบริการฉีดวัคซีนโควิด ว่า วันนี้มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบ 65 ขอให้มั่นใจรัฐบาลเตรียมงบไว้เพียงพอ โดยเฉพาะด้านสธ. ขอร้องอย่ามองเพียงตัวเลขที่เป็นงบประจำ เรามีงบเงินกู้และเงินต่างๆ สธ.มีเพียงพอจัดหาวัคซีน อย่าไปกังวลแม้งบ สธ.จะลดลง ก็ลดในส่วนกระทรวง แต่ยังมีงบ สปสช.และงบกองทุน รวมกันมากกว่างบ กห.แน่นอน

รัฐบาลทำงบไม่ได้ทำเพื่อพวกพ้องแต่ทำเพื่อประชาชน ไม่มีงบไหนไม่ถูกปรับลด แต่รายได้ต่างๆ ลดลง ในเรื่องภาษีรายได้ ไม่ใช่เพราะใครบกพร่อง ปัญหาอยู่ที่เราต้องดูแลประชาชน มีการลดภาษีเยอะมาก ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ รายได้ของรัฐจึงต้องลดลงเป็นธรรมดา ขอร้องให้มองเป็นเหตุผล ฟังใครพูดให้คิดตามไปด้วยจะได้มีภูมิคุ้มกัน ไม่เช่นนั้นจะเกิดความไม่เข้าใจแล้วไปกันใหญ่”

ไม่สนฝ่ายค้านขู่คว่ำ

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ที่ฝ่ายค้านขู่จะคว่ำวาระแรก นายกฯ กล่าวว่า ก็เชิญ เป็นธรรมดาอยู่แล้วเขาคงไม่โหวตให้ตน ข้อสำคัญคิดถึงประชาชนกันบ้างเขารออะไรอยู่ งบปี 63 ก็ช้าไปหลายเดือน ในส่วน กห.บุคลากรก็มีมาก งบไปอยู่ตรงนั้น ซึ่งเราก็ลดยอดกำลังพลอยู่แล้ว การจัดซื้อสิ่งต่างๆ ทำเท่าที่จำเป็น เท่าที่มีพันธสัญญาที่มีการเจรจากันไปแล้ว สิ่งไหนเลื่อนได้เราก็เลื่อน ที่ผ่านมาก็เจรจาขอเลื่อน 2 ครั้งแล้ว ส่วนจะได้หรือไม่ได้อยู่ในชั้นกมธ. งบ สธ.มีตั้งกี่งบ ถ้าขาดเหลือรัฐบาลก็พร้อมหาให้อยู่แล้ว ให้ความสำคัญทุกอย่าง ไม่ใช่มาบอกว่าอะไรก็ไม่ได้

เย้ยทุ่มงบยามเฝ้าบ้าน

นายวรศิษฏ์ เลียงประสิทธิ์ ส.ส.สตูล ภท. อภิปรายในทิศทางดียวกับนายชาดา และนายภราดร ที่ไม่เห็นด้วยกับการปรับลดงบสธ. เนื่องจากเป็นหน่วยงานหลักที่ดูแลโควิด และเป็นการทำลายขวัญข้าราชการสธ.และบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานอย่างหนัก

เวลา 18.00 น. นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.ก้าวไกล อภิปรายว่า งบสธ.ภาพรวมทั้งหมดอยู่ที่ 3 แสนล้านบาท เทียบเป็น 10% ของทั้งหมด แต่งบป้องกันประเทศและการรักษาความสงบภายใน ตั้งไว้รวม 12.6% มากกว่างบสธ. ความมั่นคงทางกายภาพสำคัญในภาวะปกติ แต่ในภาวะที่คนในบ้านป่วย ตาย ต้องการเครื่องช่วยหายใจ กลับบริหารงบโดยเอาทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดไปใช้กับงบยามถึง 12.6% แต่สธ.ถูกปรับลดลงถึง 10.8% ใช้ไม่ได้ ภาวะแบบนี้กระทรวงที่ต้องเป็นพระเอก ต้องได้รับงบเต็มที่เพื่อแก้วิกฤตชาติ คือสธ. ขณะที่ กห.มีความสำคัญน้อยที่สุด

บิ๊กช้างแจงกองทัพจำเป็นใช้งบ

เวลา 19.00 น. พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ชี้แจงว่า งบ กห.ตั้งแต่ปี 63-65 ได้รับการจัดสรรงบลดลง ปี 63 ได้ 231,745 ล้านบาท ส่งคืนงบเพื่อเยียวยาโควิด 18,022 ล้านบาท ปี 64 ได้ 214,530 ล้านบาท ลดลง 17,215 ล้านบาท ปี 65 ได้ 203,281 ล้านบาท ลดลงอีก 11,249 ล้านบาท ส่วนใหญ่ลดลงทุกรายการ มีเพียงแผนงานบุคลากรภาครัฐที่เพิ่มขึ้น เรื่องของสิทธิกำลังพล บำเหน็จประจำปี โดยสัดส่วนปี 65 ทุกกองทัพถูกปรับลดงบลงหมด อาทิ สำนักงานปลัดกลาโหม ปรับลด 448 ล้านบาท กองบัญชาการกองทัพไทย 1,948 ล้านบาท กองทัพบก 6,603 ล้านบาท กองทัพเรือ 1,129 ล้านบาท กองทัพอากาศลดลง 688 ล้านบาท

“กองทัพมีหน้าที่เตรียมกำลังให้พร้อมรับสถานการณ์ ไทยตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เชื่อมต่อมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดีย มีเขตทางทะเลทั้งอ่าวไทยและอันดามัน 3.2 แสนตารางกิโลเมตร อาณาเขตทางทะเลยาว 3,193 ตารางกิโลเมตร ผลประโยชน์ทางทะเลปีละ 24 ล้านล้านบาท พื้นที่บางส่วนยังอ้างสิทธิทับกันอยู่ สถานการณ์ในทะเลจีนใต้ยังมีความขัดแย้ง เราต้องเตรียมปกป้องผลประโยชน์ของชาติ จำเป็นต้องเตรียมกำลังพลไว้บางส่วน แต่มิได้เตรียมกำลังไว้ทั้งหมด ส่วนยุทโธปกรณ์ใหม่เน้นจัดหาเพียง 1 ใน 3 ส่วนที่เหลือเน้นซ่อมบำรุง ยืดอายุการใช้งาน

‘ณัฏฐพล’ลาออกสส.

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. เผยว่า ได้ยื่นใบลาออกจาก ส.ส.แล้วในวันนี้ ใบลาออกลงวันที่ 29 พ.ค. ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของตน ส่วนเหตุที่ ลาออกเป็นเหตุผลส่วนตัว เนื่องจากคดีความที่ต้องต่อสู้ใช้เวลายาวนาน จึงไม่ต้องการกังวลเรื่องภาระหน้าที่ ซึ่งตนเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอยู่ระหว่างการหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งศาล จึงตัดสินใจลาออกเพื่อจะได้เลื่อนบุคคลที่อยู่ในลำดับถัดไปขึ้นมาทำหน้าที่ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ และเคยเป็น ส.ส.มาก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ส.ที่จะได้เลื่อนขึ้นมาแทนนายณัฏฐพลคือ นายยุทธนา โพธสุธน

ศักดิ์สยามปัดตอบสัมปทานบีทีเอส

ที่รัฐสภา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ถึงนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุให้จับตาการประชุมครม.วันที่ 1 มิ.ย. จะมีการเสนอเรื่องต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกไป 30 ปี เข้าเป็น วาระจร เพื่อขอความเห็นชอบจาก ครม.ว่า “ไม่ทราบ ผมไม่ใช่เลขาธิการ ครม.”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน