เอฟซีแห่ร่วมงานคึกคัก
ไม่โต้หญิงลีมีข้อสงสัย
‘ษิทรา’เตือนพยานเท็จ
จัดพิธีประชัน ชาวบ้านกกกอกทำพิธีเอิ้นขวัญพร้อมกัน 2 บ้าน ทั้งบ้านลุงพล และบ้านแม่น้องชมพู่แฟนคลับแห่ร่วม ขณะที่คนในหมู่บ้านหวั่นแตกแยกเป็น 2 ฝ่าย ลุงพลระบุเตรียมเข้าพบส.ส.สิระ เจนจาคะ หารือกรณีสอบการใช้อำนาจของตำรวจจับกุมทั้งที่ไปมอบตัว เผยสิระเตรียมลงพื้นที่วันที่ 12 มิ.ย.นี้ด้วย พร้อมขอให้สังคมอย่าด่วนตัดสิน หลังจากนี้ก็ใช้ชีวิตปกติ ทำนาเหมือนเดิม ขณะที่แม่น้องชมพู่ขอบคุณชาวบ้านอยู่เคียงข้าง ยันสู้ต่อเพื่อลูก ทนายตั้มโพสต์เตือนพยานเท็จ เตี๊ยมข้อมูลมาโกหก เจอกันบันเทิงแน่
จัดประชัน – ‘ลุงพล’ นายไชย์พล วิภา ‘ป้าแต๋น’ ภรรยา ทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ หรือเอิ้นขวัญ เช่นเดียวกับ นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ ที่ทำพิธีในวันเดียวกัน ที่บ้านพักบ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.
จากกรณีศาลมุกดาหารอนุมัติหมายจับ นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล 3 ข้อหา ในคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบที่พบเสียชีวิตบนเขาเหล็กไฟ ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ต่อมาศาลอนุญาตให้ประกันตัว ขณะที่ลุงพลยืนยันความบริสุทธิ์ ปฏิเสธทุกข้อหา
บายศรี – ‘ลุงพล’ นายไชย์พล วิภา พร้อม ‘ป้าแต๋น’ ภรรยา ทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ หรือเอิ้นขวัญ โดยมีคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้าน ร่วมผูกข้อไม้ข้อมือ ที่บ้านพักบ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เมื่อเช้าวันที่ 6 มิ.ย.
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 6 มิ.ย. ที่บ้านของนายไชย์พล หรือลุงพล หมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง มีการจัดพิธีเอิ้นขวัญให้ผู้ใหญ่ผูกข้อไม้ข้อมือ ให้กับนายไชย์พล และนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น โดยทั้งคู่สวมใส่ชุดสีขาว มียายอุ่น อวยวัง ผู้เฒ่าผู้แก่ของหมู่บ้านกกกอก และ นายชาญ หลาบโพธิ์ พ่อของป้าแต๋น และพ่อแม่ลุงพลร่วมทำพิธีด้วย โดยการพูดภาษาถิ่น และผูกข้อไม้ข้อมือให้ท่ามกลางญาติสนิท แฟนคลับ และยูทูบเบอร์มาร่วมพิธี พร้อมกับแจกพระพุทธชินราช เป็นที่ระลึกให้กับ ชาวบ้านที่มาร่วมพิธีด้วย
นายไชย์พลกล่าวว่า วันนี้หลังจากทำพิธีแล้วก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น เพราะเป็นพิธีที่สื่อถึงวัฒนธรรมความเชื่อของคนโบราณ โดยตอนที่พ่อชาญผูกข้อไม้ข้อมือให้ พ่อก็อวยพร ขอให้เรื่องร้ายๆ มันผ่านไป มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามา ส่วนที่วันนี้สวมชุดขาว ก็ต้องการสื่อถึงความบริสุทธิ์ และแจกพระพุทธชินราช เพื่อให้ทุกคนไปยึดเหนี่ยวจิตใจ
ส่วนกรณีของหญิงลี ศรีจุมพล นักร้องเพลงลูกทุ่งหมอลำซิ่งชื่อดังออกมาให้สัมภาษณ์ กรณีว่าลุงพลยืนยันพบน้องชมพู่ก่อนเสียชีวิต และให้การไม่ตรงกันนั้น ตนไม่ขอพูดและไม่อยากพูดถึงคนอื่น โดยวันอังคารที่ 8 มิ.ย.นี้ เตรียมจะเข้าไปพูดคุยกับนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ แล้ว แต่ในส่วนวันที่ 12 มิ.ย. ที่นายสิระจะลงพื้นที่มายังบ้านกกกอก ก็พอทราบข่าวบ้าง แต่ยังไม่คุยรายละเอียด พร้อมย้ำเหมือนเดิมว่าขอให้คนดูเสพสื่ออย่างรอบคอบ ไม่อยากให้ด่วนตัดสินตน ทั้งนี้ตนก็จะกลับไปทำเกษตร ทำนาเหมือนเดิม จึงเรียนเชิญสื่อไปดำนาด้วย
ด้านยายอุ่นกล่าวว่า ตอนนี้หมู่บ้านกกกอกแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ตนรู้สึกไม่สบายใจ ตนมาทำพิธีให้กับลุงพล เพราะลุงพลเชิญมา ไม่ทราบว่าแม่ของน้องชมพู่ก็ทำพิธีเช่นเดียวกัน ถ้าหากว่าบ้านแม่ของน้องชมพู่เชิญ ตนก็พร้อมจะไป เพราะไม่ได้อยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ด้านนายสมเกียรติ โรจนวรกมล ทนาย ความ เดินทางมาผูกข้อมือลุงพลด้วยเช่นกัน โดยบอกว่ามาร่วมพิธี และมอบวัตถุมงคลให้ลุงพล และได้บอกลุงพลว่า ให้เรื่องดีๆ เข้ามา ส่วนตัวดีใจที่ลุงพลได้ประกันตัวออกมา ขณะที่เรื่องคดีป่าไม้ของลุงพล ยังรอผลอยู่
ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 07.00 น. ที่บ้านของน้องชมพู่ ที่หมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ชาวบ้านกกกอกรวมตัวกันถือข้าวหม้อแกงหม้อ พร้อมทั้งพานบายศรีสู่ขวัญมาทำพิธี “เอิ้นขวัญ” หรือ เรียกขวัญกำลังใจให้กับครอบครัวของน้องชมพู่ ซึ่งเป็นพิธีตามความเชื่อของชาวอีสาน หลังเจอเรื่องร้ายๆ และเพื่อเป็นการให้กำลังใจให้กับครอบครัวของแม่น้องชมพู่
เอิ้นขวัญ – กลุ่มชาวบ้านร่วมพิธีบายศรีสู่ขวัญ หรือเอิ้นขวัญ ให้นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ที่บ้านพักในหมู่บ้านกกกอก จ.มุกดาหาร วันเดียวกับที่ลุงพล คู่กรณี ทำพิธีที่บ้านพักเช่นกัน เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.
โดยพิธีเริ่มต้น มียายยอนคำ เชื้อคนแข็ง อายุ 67 ปี หมอธรรมในหมู่บ้านยกพานบูชา และเป็นคนกล่าวเริ่มการทำพิธี ด้วยภาษา ท้องถิ่น จากนั้นนำด้ายสายสิญจน์มาผูกข้อมือ และให้พรกับนางสาวิตรี ศรีวงศ์ชา แม่ของน้องชมพู่ เป็นภาษาพื้นเมือง จับใจความได้ว่า “จากนี้ไปขอให้เจอแต่เรื่องดีๆ เรื่องเลวร้ายขอให้ออกไป ชาวบ้านพวกเราไม่เคยทิ้ง ยังอยู่กับครอบครัวของน้องชมพู่ตลอด ไม่ต้องกังวลว่าจะอยู่คนเดียว”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พูดจบประโยคนี้ นางสาวิตรี แม่ของชมพู่ก็ร้องไห้ ขณะที่ยายยอนคำ คนทำพิธีก็ร้องไห้ตามเนื่องจากซาบซึ้งน้ำใจของชาวบ้านที่ไม่เคยทิ้งให้ครอบครัวต้อง เดียวดาย และต่อสู้กับการเสียชีวิตตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา โดยหลังจากผูกข้อมือเสร็จ ก็เป็นการรดน้ำมนต์ปัดเป่าสิ่ง ชั่วร้าย พร้อมเรียกขวัญกำลังใจให้กลับคืนมา
ด้านนางสาวิตรี แม่ของน้องชมพู่ กล่าวว่า ขอบคุณชาวบ้านในวันนี้ โดยตนซึ้งใจมาก แม้วันนี้จะไม่มีคนในครอบครัวมา แต่ก็ยังมีชาวบ้านซึ่งการผูกข้อมือ ชาวบ้านบางคนก็ร้องไห้ คาดว่าเขาคงมีความรู้สึกเดียวกับแม่ และสิ่งที่ทำให้ตื้นตันที่สุด ชาวบ้านบอกว่าไม่ได้อยู่คนเดียว ชาวบ้านยังอยู่เคียงข้าง มีอะไรก็ให้บอก ยืนยันจะต่อสู้เพื่อลูกจนตัวตาย
ทั้งนี้ เมื่อทำพิธีเสร็จ บรรยากาศก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น ชาวบ้านก็ร่วมกันกินข้าวที่เตรียมมา
ด้านทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ทนายลุงพล โพสต์ข่าวที่แม่ชมพู่ให้สัมภาษณ์ชื่นชมทนายตั้มเป็นทนายที่เก่งมีฝีมือ โดยแม่ชมพู่เองเตรียมหาทนายมือดีมาสู้ พร้อมทั้งบอกว่ามีความหวาดกลัวเรื่องพยานหลังลุงพลได้ประกันตัว
โดย นายษิทราโพสต์ข้อความว่า ขอบคุณที่ชมนะครับ แต่พยานคนไหนที่พูดความจริงไม่จำเป็นต้องกลัวผมเลย ผมถามยังไงก็ไม่แตก แต่หากมีคนเตี๊ยมให้โกหก ผมรับรองความบันเทิงแน่นอน ลุงพลก็เหมือนกันถ้าทำผิดจริง ต่อให้มี 10 ษิทรา ก็ช่วยอะไรไม่ได้
ขณะที่มีคนเข้ามาคอมเมนต์ ขอให้มันจริงเหอะ อย่าโดนพลมันหลอกนะ ซึ่งทนายตั้มก็ตอบด้วยว่า ถ้าลุงพลหลอกผม ผลร้ายก็เกิดกับตัวเองครับ
โดยก่อนหน้านี้ ทนายตั้มยังโพสต์ถึงอธิบดีอัยการสำนักงานอาญาธนบุรี ด้วยว่า เห็นข้อเสนอแนะของ อาจารย์ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ที่ไปออกรายการ และโพสต์ถึงผม ขอบคุณที่สั่งสอนเรื่องการเป็นทนาย ที่ดีนะครับ ผมไม่ขอตอบโต้แค่อยากโพสต์ให้อาจารย์เห็นว่าผมทราบคำแนะนำแล้ว ขอบคุณอาจารย์มาก อาจารย์เป็นผู้ที่ผมรัก และให้ความเคารพเสมอมาครับ
ด้านลุงพล ให้สัมภาษณ์ถึงการตรวสอบหลักฐานวิทยาศาสตร์ของตำรวจ ว่า ไม่เคยเห็นเครื่องตรวจสอบที่ทางจนท.นำมาตรวจสอบพยานหลักฐานคดีนี้แต่อย่างใด เชื่อว่าหลักฐานต่างๆ ขึ้นอยู่กับตำรวจ ส่วนข้อครหาอาจจะมีสังคมบางกระแสที่มองตนในทิศทางลบตนก็พูดย้ำเสมอว่าเป็นไปในมุมมองแนวคิดของแต่ละบุคคล เราไม่ได้ไปพาดพิงเขา คนที่เขาดูข่าวก็มีการแสดงความคิดเห็นเป็นสิทธิของเขา เราก็ไม่ได้ไปพาดพิง
ขณะที่นางสาวิตรี แม่น้องชมพู่ กล่าวว่า ตอนนี้ตนมีทนายแล้ว แต่ยังไม่ได้เปิดตัว จะเปิดเร็วๆนี้ ฉะนั้นจะไม่ขอพูดอะไรเกี่ยวกับคดีที่เกี่ยวกับน้องชมพู่ จะพูดแต่เรื่องของครอบครัว การใช้ชีวิตประจำวัน ขายผ้าประจำวันอะไรอย่างนี้ ในส่วนของทนายจะเป็นคนละชุดกับที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ก็ไม่ใช้ทนายจากสกลนคร เป็นเรื่องรู้ไม่จริง พูดกันไปเองทั้งนั้น
