สังขละบุรีรอสงเพิ่ม
โคราช-นครศรีก็หมด
ตู่ขออภัย-เร่งกระจาย
อนุทินสั่งทุกรพ.ลุยต่อ
ป่วย2,662-ตายอีก28

คิกออฟฉีดวาระแห่งชาติวันที่สองเริ่มวุ่น หลายร.พ.เลื่อนคิว วัคซีนมีไม่พอ ‘บิ๊กตู่’ขอโทษยอมรับความไม่สะดวก แต่ยืนยันกระจายเพียงพอทั่วถึง ‘อนุทิน’ สั่งทุกร.พ.ลุยฉีดต่อ จัดสรรให้อย่างเป็นธรรมแล้ว ยอดคิกออฟวันแรก ฉีดได้ 4.16 แสนโดส รวมสะสมตั้งแต่ ก.พ. ฉีดแล้ว 4.63 ล้านโดส จาก 6.68 ล้านโดสที่จัดสรรให้ นายกฯย้ำเป้า ปีนี้ฉีด 100 ล้านโดส ทำสัญญากับแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตในไทยแล้ว 61 ล้านโดส มีสัญญากับซิโนแวค 6 ล้านโดส ซื้อเพิ่มอีก 8 ล้านโดส ไฟเซอร์และจอห์นสันแอนด์จอห์นสันอีก 25 ล้านโดส คาดปีหน้ามีวัคซีนคนไทยผลิต ควบคู่สมุนไพร สังขละบุรี กาญจนบุรี ทั้งอำเภอได้มาแค่ 1 ขวด 10 โดส ยอดป่วยเพิ่มอีก 2,662 ราย ตาย 28 เรือนจำยังพุ่ง 534 ราย ด้านคลังถอดแล้ว 3 ข้อลักไก่ แอพเป๋าตัง

ทั่วปท.ฉีดแล้ว 4.6 ล้านโดส

เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) กล่าวว่า ในที่ประชุม ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รายงานการคิกออฟฉีดวัคซีน โควิด-19 เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. จนถึงเวลา 18.00 น. ฉีดได้ 416,847 โดส เป็นเข็มที่ 1 จำนวน 388,872 โดส และเข็มที่ 2 รวม 27,975 โดส ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. รวม 4,634,941 โดส เป็นเข็มที่ 1 จำนวน 3,243,913 ราย และเข็มที่สอง รวม 1,391,028 ราย จากจำนวนวัคซีนที่จัดสรรรวม 6,686,413 โดส คิดเป็น 69.3% ของจำนวนวัคซีนที่จัดสรร

“แม้จะมีวัคซีน การดูแลสุขอนามัยส่วนตัว ส่วนรวม และครอบครัว ต้องทำควบคู่กันไปจนกว่าจะได้ภูมิคุ้มกันหมู่ คือ 50 ล้านคน เร็วๆ นี้ก็คงจะเห็นชัยชนะของประเทศไทยต่อการต่อสู้กับโควิด ขอให้ร่วมมือร่วมใจกันตั้งแต่บัดนี้” นพ.ทวีศิลป์กล่าว

ป่วย 2,662 เสียชีวิต 28

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า การแถลงสถานการณ์โควิดต่อไปจะเหลือเพียงวันจันทร์-ศุกร์จะเริ่มในสัปดาห์นี้เป็นต้นไป โดยวันนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,662 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,112 ราย เรือนจำ 534 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 16 ราย รักษาหาย 2,483 ราย เสียชีวิต 28 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 182,548 ราย หายสะสม 131,999 ราย เสียชีวิตสะสม 1,297 ราย ส่วนระลอกเม.ย.2564 เป็นต้นมา ติดเชื้อสะสม 153,685 ราย หายสะสม 104,573 ราย เสียชีวิตสะสม 1,203 ราย ยังรักษาอยู่ 49,252 ราย อยู่ใน ร.พ. 19,734 ราย ร.พ.สนาม 29,518 ราย อาการหนัก 1,281 ราย แนวโน้มใน กทม.และปริมณฑลเริ่มมากขึ้น และใส่เครื่องช่วยหายใจ 359 ราย ฉีดวัคซีนโควิดแล้ว 4,634,941 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 3,243,913 ราย และเข็มสอง 1,391,028 ราย

การเสียชีวิต 28 ราย มาจาก กทม. 23 ราย ฉะเชิงเทรา นครราชสีมา ปทุมธานี ราชบุรี และสุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 1 ราย โรคประจำตัวปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ยังเหมือนเดิม อายุ ค่ากลาง 66 ปี สูงสุด 92 ปี การนอนนานสุด 50 วัน เฉลี่ย 14 วัน








Advertisement

ส่วนตัวเลขราชทัณฑ์ 534 รายนั้น มาจากเรือนจำกลางบางขวาง 415 ราย เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา 115 ราย และเรือนจำกลางคลองเปรม 4 ราย ยอดสะสมรวม 3 หมื่นกว่าราย

เชื้อแพร่ใน 10 จว.

สำหรับผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ 16 ราย มาจากรัสเซีย อินโดนีเซีย สหรัฐอเมริกา คาซัคสถาน ตุรกี และอินโดนีเซีย ประเทศละ 1 ราย ฟิลิปปินส์ 3 ราย และกัมพูชา 8 ราย มาช่องทางธรรมชาติ 6 ราย ซึ่งรอบ 24 ชั่วโมงเจอ 238 ราย ผ่านทางกัมพูชา 133 คน เป็นต่างด้าวส่วนใหญ่ จึงต้องเอาเข้าที่กักกัน บางส่วนผลักดันออกไป ตอนนี้ต้องเพ่งดูที่บริเวณสระแก้ว จันทบุรี และตราด โดยได้รับรายงานจากกองกำลังบูรพาพบว่า เข้าไปตรวจประมาณ 52 ครั้ง จับได้ 338 คน ส่วนกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด จับได้บริเวณ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด 35 คนใน 16 ครั้ง และ อ.เขาสอยดาว จ.จันทบุรี 125 ครั้ง จับได้ 898 คน ข้อมูลโดยสถิติตั้งแต่ 1 เม.ย. – 6 มิ.ย. จับกุมผู้ลักลอบทุกด้านรอบประเทศ 8,985 คน เป็นพื้นที่ชายแดน 7,608 คน และพื้นที่ตอนใน 1,377 คน

ส่วนจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อใหม่สูงสุด 10 จังหวัดแรก ได้แก่ 1.กทม. 1,098 ราย สะสม 48,577 ราย 2.สมุทรปราการ 269 รายสะสม 9,029 ราย 3.ปทุมธานี 80 ราย สะสม 4,841 ราย 4.นนทบุรี 77 ราย สะสม 7,872 ราย 5.สมุทรสาคร 75 ราย สะสม 3,614 ราย 6.ชลบุรี 69 ราย สะสม 5,077 ราย 7.นครปฐม 58 ราย สะสม 1,596 ราย 8.ตรัง 55 ราย สะสม 1,238 ราย 9.เพชรบุรี 49 ราย สะสม 7,579 ราย และ 10.ฉะเชิงเทรา 39 ราย สะสม 1,136 ราย รูปแบบการติดเชื้ออยู่ในชุมชน ตลาด แคมป์ก่อสร้าง ยังคล้ายกันใน กทม.และปริมณฑล

ฉีดวัคซีน – พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. ตรวจเยี่ยมบริการฉีดวัคซีนนอกร.พ. ที่ห้างบิ๊กซี ร่มเกล้า ในวันที่สองของดีเดย์ฉีดวาระแห่งชาติ ขณะที่หลายพื้นที่ในต่างจังหวัดเกิดปัญหาวัคซีนขาด เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.

‘บิ๊กตู่’ขออภัยฉีดวุ่น

เวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ตนได้เปิดวาระแห่งชาติในการคิกออฟฉีดวัคซีนพร้อมกันทั่วประเทศ โดยมียอดรวมวันแรกมากกว่า 4 แสนโดสทั่วประเทศ และยอดสะสมกว่า 4 ล้านโดสทั่วประเทศ ซึ่งในฐานะผอ.ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้มอบหมายหลักการกระจายวัคซีนให้มีความเท่าเทียมให้มากที่สุด โดยย้ำว่าทุกจังหวัดต้องได้รับวัคซีนเพื่อให้เริ่มต้นได้พร้อมกัน ไม่มีจังหวัดใดถูกทอดทิ้ง ขณะที่จำนวนวัคซีนที่ได้รับจัดสรรตามจำนวนประชากร จำนวนผู้ติดเชื้อ จำนวนอาชีพกลุ่มเสี่ยง และการเป็นพื้นที่เฉพาะ เช่น พื้นที่ท่องเที่ยวหรือพื้นที่เศรษฐกิจ และคนที่จองคิวไว้แล้วจะต้องได้รับวัคซีน โดยยึดวันที่จองไว้เดิมให้ได้มากที่สุด

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องขออภัยประชาชนหากยังไม่ได้รับความสะดวกหรือเกิดการเปลี่ยนแปลงบ้าง ซึ่งได้เน้นย้ำในหลักการไว้แล้ว ยืนยันว่าจะเร่งแก้ไขปัญหาและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบให้เร็วที่สุด โดยยืนยันว่าจะจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมให้มากที่สุดโดยไม่รอวัคซีนที่ทำสัญญาไว้แล้วเท่านั้น เชื่อว่าในเดือนต่อไปจะได้รับวัคซีนเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ จนแต่ละจังหวัดสามารถบริหารจัดการได้สะดวกมากขึ้น เพราะไม่ต้องการให้ประชาชนคนไทยที่จองแล้วต้องถูกเลื่อนคิวอีก

ย้ำเป้าปีนี้ฉีด 100 ล้านโดส

“เป้าหมาย 100 ล้านโดสที่ตั้งไว้ยังไม่เปลี่ยนแปลง มีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยวันนี้ทำสัญญากับแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตโดยบริษัมสยามไบโอไซเอนซ์แล้ว 61 ล้านโดส อีกทั้งมีสัญญากับซิโนแวค 6 ล้านโดสและจัดซื้อเพิ่มอีก 8 ล้านโดส คาดว่าสามารถทำสัญญากับไฟเซอร์และจอห์นสันแอนด์จอห์นสันรวมแล้วอีก 25 ล้านโดส และยังมีอีกจำนวนหนึ่งที่ได้รับจากการเจรจาทางความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ และในปีหน้าคาดว่าจะมีวัคซีนที่ผลิตโดยคนไทยเองอีกด้วย ควบคู่การใช้พืชสมุนไพรต่างๆ ของเราเอง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ไฟเขียวจ้างหมื่นพนง.ราชการ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบให้มีการจ้างพนักงานราชการ เฉพาะกิจ 10,000 อัตราเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เป็นวงเงินจำนวนกว่า 2,200 ล้านบาท

โดยจะเปิดรับผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีที่จบใหม่ จัดสรรอัตราเข้าสู่หน่วยงานราชการที่มีภารกิจสำคัญ และเร่งด่วนทั่วประเทศโดยเฉพาะในส่วนภูมิภาค ซึ่งจะได้รับค่าตอบแทน 18,000 บาทต่อเดือน มีสัญญาการจ้างงานไม่เกินหนึ่งปี และได้รับสิทธิประโยชน์เทียบเท่าพนักงานราชการปกติ รวมถึงเงินประกันสังคมด้วย เรียกว่าได้เข้าเป็นพนักงานราชการเฉพาะกิจ

นอกจากนั้น ครม.รับทราบข้อเสนอจากที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ หรือศบศ. คือการเตรียมการเปิดพื้นที่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติของ 10 จังหวัดนำร่อง ในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ของปี 2564 โดยเริ่มจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ก่อน เพื่อเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนครบแล้ว 2 โดส ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.เป็นต้นไป

“จากสถานการณ์ในปัจจุบันจนถึงวันนี้ ภูเก็ตมีผู้ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็มแล้ว ประมาณ 400,000 คน มากกว่า 60% ของจำนวนประชากร โดยจะคัดกรองและติดตามนักท่องเที่ยวอย่างเข้มงวด ซึ่งนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาต้องมีใบรับรองการฉีดวัคซีนที่ฉีดครบโดสแล้วอย่างน้อย 14 วัน ก่อนการเดินทาง และมีใบอนุญาตเข้าประเทศอย่างถูกต้อง มีการตรวจโรคระบาด ในช่วงการพักอาศัยในพื้นที่ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์นั้น จะเป็นการประเมินผลและนำไปเป็นต้นแบบในพื้นที่อื่นๆ ด้วยในระยะต่อไป โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำไปปรับปรุงให้เกิดความเหมาะสมภายใต้ความสมดุลด้านความปลอดภัย ด้านการสาธารณสุข และการฟื้นฟูทางด้านเศรษฐกิจไปด้วย ก่อนจะนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ และกลับมาให้ ครม. พิจารณาอนุมัติรายละเอียดตามที่ได้แก้ไขต่อไป” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

สั่งคลังแจงปมแอพฯเป๋าตัง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. เริ่มโครงการจับคู่กู้เงิน ซึ่งเป็นผลมาจากมติ ครม.ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหาร และภัตตาคาร ที่มีอยู่กว่า 120,000 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้เข้าถึงมาตรการฟื้นฟูซอฟต์โลนที่ดำเนินการผ่านสถาบันการเงินได้ โดยให้ธนาคารปล่อยเงินกู้ในกรณีพิเศษ เช่น ดอกเบี้ยต่ำ เงื่อนไขพิเศษ และปลอดหลักทรัพย์ในบางกรณี เพื่อช่วยร้านอาหารต่างๆ ได้จริงในทางปฏิบัติ เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ โดยไม่ต้องปิดกิจการหรือปลดลูกจ้าง ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง ที่ได้ทำโครงการนี้

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในการประชุมครม.ได้อนุมัติเงินกู้ ตามพ.ร.ก.กู้เงิน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อใช้ตรวจคัดกรอง ดูแลผู้ป่วยโควิด -19 เช่น ชุดตรวจโควิดแบบพกพา เครื่องวัดปริมาณออกซิเจนในเลือด เครื่องช่วยหายใจ รถพยาบาล อุปกรณ์ช่วยเหลือชีวิตขั้นสูง ซึ่งมีการอนุมัติมาเป็นระยะ นับเป็นพระมหา กรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานอุปกรณ์หลายอย่างด้วยกันในปัจจุบัน ในขณะที่ภาคธุรกิจเอกชนก็ช่วยบริจาคมาด้วย รัฐบาลก็ใช้งบประมาณที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพให้เกิดผลให้มากที่สุด

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีที่ประชาชนแสดงความไม่พอใจกรณีที่แอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ที่มีข้อกำหนดให้แชร์ข้อมูลส่วนตัวไปให้กับบริษัทพันธมิตรได้ว่า ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ชี้แจงแล้ว โดยเฉพาะในส่วนที่มีการให้กดปุ่มยอมรับหรือไม่ยอมอะไรต่างๆ ซึ่งเรื่องนี้ต้องไปดูตรงนี้ให้รอบคอบ

ถอดแล้ว 3 ข้อลักไก่

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ผู้พัฒนาแอพฯ เป๋าตังคือ ธนาคารกรุงไทย และกระทรวงการคลัง ได้พิจารณาปรับและยกเลิกระบบการให้ความยินยอมการเปิดเผยข้อมูลทั้ง 3 ส่วนออกไปแล้ว โดยผู้ที่ให้ความยินยอมไปก่อนหน้านี้ ระบบจะยกเลิกโดยอัตโนมัติ

นายอนุชากล่าวว่า ในอนาคตในส่วนของธนาคารเองจะพัฒนาระบบและรูปแบบเพื่อให้ความยินยอมเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับเพื่อใช้ในการเข้าร่วมโครงการภาครัฐ เพื่อตรวจสอบการยืนยันตัวตนว่าเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ตามเกณฑ์ของภาครัฐหรือไม่ เพื่อที่จะป้องกันการสวมสิทธิ์การทุจริตในโครงการ และควบคู่ไปกับการอำนวยความสะดวก

นอกจากนี้พล.อ.ประยุทธ์ สั่งการในที่ ประชุมครม. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลชายแดน โดยให้ใช้เข้มงวดเรื่องการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาในประเทศ และการข้ามแดนไปมาระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อลักลอบเล่นการพนันหรือข้ามไปทำงาน หากพบการกระทำความผิด ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด

อนุมัติ 101 ล. พัฒนาบริการแพทย์

นายอนุชากล่าวต่อว่า ครม.อนุมัติโครงการยกระดับการให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชน เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินจากการระบาดของโควิด-19 วงเงิน 101,393,600 บาท ประกอบด้วย การจัดหาครุภัณฑ์ทางการแพทย์ 89,047,300 บาท และรายการก่อสร้าง 12,346,300 บาท อาทิ ปรับปรุงชุดหัวจ่ายระบบแก๊สทางการแพทย์ ปรับปรุงห้องแยกโรคผู้ป่วยแพร่เชื้อทางอากาศ คลินิกโรคระบบทางเดินหายใจ

นอกจากนี้ครม.อนุมัติ 128 ล้านบาท ยกระดับหน่วยบริการ กรมอนามัย รองรับการระบาดของโควิด-19 อาทิ ชุดตรวจเชื้อโควิด-19 แบบพกพา เครื่องวัดปริมาณออกซิเจนในเลือดปลายนิ้ว เครื่องช่วยหายใจ Hi Flow และอนุมัติงบ 54.9 ล้านบาท ในการจัดหาวัสดุครุภัณฑ์ทางการแพทย์ของกรมสุขภาพจิต เพื่อใช้ในการให้บริการตรวจคัดกรอง ดูแลผู้ป่วย ใน 4 สถาบัน ร.พ.ในเขตกทม. และ 16 สถาบัน ร.พ. ในส่วนภูมิภาค สังกัดกรมสุขภาพจิต

ตู่ถามอนุทินถึงยอดฉีด

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ในที่ประชุมครม. ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯและรมว.กลาโหม ได้สอบถามนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สธ.ว่าในเดือนมิ.ย.จะฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้กี่โดส ซึ่งนายอนุทินตอบว่า จะทำให้ยอดรวมของผู้ที่ได้รับวัคซีนในประเทศไทยในสิ้นเดือนมิ.ย. อยู่ที่ 7.5-8 ล้านโดส พร้อมระบุว่า รัฐบาลเตรียมทำสัญญาจองวัคซีนไฟเซอร์และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน รวมกัน 25 ล้านโดส เหมือนกับนายกฯ พูดเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้องแล้ว คาดว่าจะมีการ ลงนามภายในสัปดาห์นี้

ส.ส.พปชร.โต้ล็อกฉีด

ด้านพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผอ.ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 (ศปก.ศบค.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ว่า เรื่องนี้ยังไม่เข้าครม.ในสัปดาห์นี้ เพราะต้องนำเข้าศบค.พิจารณาก่อน คาดว่าจะหารือในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะหารือกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ก่อนในสัปดาห์นี้ ส่วนรายละเอียดที่จะพิจารณาคือบางกรณีที่สธ.ยังห่วงใยอยู่ เช่น การจัดวางเส้นทางเพื่อไม่ให้ประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้รับผล กระทบ โดยสธ. จำเป็นต้องมีมาตรการที่ดีที่สุดเพื่อให้ประชาชนปลอดภัยที่สุด

พล.อ.ณัฐพลกล่าวถึงกรณีนายกฯ ระบุได้ลงนามจัดซื้อวัคซีนยี่ห้อไฟเซอร์ และวัคซีนจอห์นสันแอนด์ จอห์นสัน จำนวน 25 ล้านโดสว่า วัคซีนจะเข้ามาช่วงไตรมาส 3 หรือไตรมาส 4 ยังไม่อยากบอกวันที่แน่ โดยหลักขณะนี้มีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 61 ล้านโดส ไฟเซอร์ 20 ล้านโดส จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน 5 ล้านโดส ซิโนแวค 8 ล้านโดส รวมประมาณ 100 ล้านโดส ที่กำลังเข้ามาตามแผน

น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. (เขตบางซื่อ-ดุสิต) พรรคพลังประชารัฐ กล่าวกรณีว่าที่ผู้สมัครส.ส.พรรคกล้า มีข้อสงสัยล็อกโควตาวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่ไปฉีดที่สถานีกลางบางซื่อว่า คงไปใช้อำนาจไม่ได้ และไม่มีรัฐมนตรี หรือนักการเมืองคนไหนสั่งการให้เป็นพิเศษ ไปข้ามขั้นตอนไม่ได้เพราะมีระบบอยู่ ซึ่งจุดฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ อยู่ภายใต้กำกับดูแลของกระทรวงคมนาคม และสธ. ซึ่งเจ้ากระทรวงไม่ใช่คนพรรคเดียวกัน ถ้าเป็นประเด็นเอื้อประโยชน์ทางการเมืองหรือมีโควตาให้พิเศษ คงเป็นไปไม่ได้

แนะเลี่ยงน้ำแข็งโม่-บด

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากกรณีมีการนำเสนอข่าวพบคลัสเตอร์คนงานโรงงานน้ำแข็งติด โควิด-19 ในพื้นที่จ.สมุทรปราการ และจ.ชลบุรีนั้นอาจทำให้ประชาชนเกิดความไม่มั่นใจในการเลือกซื้อน้ำแข็งเพื่อบริโภคจึงขอแนะนำว่าควรเลี่ยงการซื้อน้ำแข็งโม่หรือบดมา บริโภค เนื่องจากในกระบวนการผลิตตั้งแต่การถอดซองออกมาเป็นก้อนน้ำแข็ง การตัดเป็นก้อนเล็กๆ จนถึงการโม่ บด บรรจุใส่ถุงหรือกระสอบเพื่อส่งขาย มีโอกาสสัมผัสกับคนงาน สิ่งแวดล้อม ที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของน้ำแข็ง ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อน้ำแข็งหลอดบรรจุถุงปิดสนิท มีเลขสารบบอาหาร (อย.) ชัดเจนแทน รวมทั้งร้านขนมหวาน ร้านน้ำแข็งไส หรือร้านเครื่องดื่มด้วย

‘อนุทิน’แจงสอบร.พ.เลื่อนฉีด

ที่ สธ. นายอนุทิน รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สธ. พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดสธ. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) และ นพ.ฆนัท ครุฑกูล นายกสมาคมสมาพันธ์สถานประกอบการเพื่อสุขภาพผู้สูงอายุ ร่วมกันปล่อยคาราวานรถเคลื่อนที่ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ผู้สูงอายุและเจ้าหน้าที่ในสถานประกอบการดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงในกทม.

นพ.ธเรศกล่าวว่า ระยะแรกจะนำร่องฉีดวัคซีนโควิดให้ผู้สูงอายุ ผู้ดูแลและเจ้าหน้าที่ในสถานดูแลผู้สูงอายุในพื้นที่ กทม.ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงสูง 32 แห่ง จำนวน 1,200 คน ตั้งแต่วันที่ 8-10 มิ.ย. และจะขยายไปอีก 3 พันกว่าแห่งทั่วประเทศ รวมถึงการฉีดผู้สูงอายุในชุมชนที่มีความเสี่ยงสูงด้วย

ด้านนายอนุทินกล่าวถึงกรณีปลัดสธ. ตั้งคณะกรรมการสอบสวนโรงพยาบาลที่ประกาศเลื่อนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชนว่าเป็นการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงถึงสาเหตุการประกาศเลื่อนฉีดวัคซีนออกไป แต่ไม่ได้เพ่งโทษ เพียงแต่ต้องการรับทราบปัญหาเพื่อหาทางแก้ปัญหาร่วมกัน ทำความเข้าใจกัน เพื่อป้องกันปัญหาและลดภาระของร.พ.นั้นๆ ในอนาคต เนื่องจากต้องมีการฉีดในเข็มที่ 2 ใน 2 ยี่ห้อที่มีระยะเวลาห่างต่างกัน

ฉีดคุณทวด – นางซ่งเง็ก แซ่เต็ง อายุ103 ปี ชาวพะเยา เดินทางมาฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข็มแรก ที่ร.พ.เชียงคำ จ.พะเยาโดยไม่มีอาการข้างเคียงขณะที่บรรยากาศการฉีดวันที่สองเป็นไปอย่างคึกคัก เมื่อ 8 มิ.ย.

หนูโต้ล็อกวัคซีนให้ส.ส.รัฐ

นายอนุทินกล่าวถึงกรณีมีส.ส.พรรคฝ่ายค้านบางจังหวัด ระบุได้วัคซีนน้อยกว่าพรรครัฐบาลว่า ยืนยันว่าไม่มี เพราะการกระจายวัคซีนกระจายตามสูตรคณิตศาสตร์ โดยนำจำนวนวัคซีนที่คาดว่าจะมีมา หารกับจำนวนจังหวัด และเทียบกับจำนวนประชากรในแต่ละจังหวัด รวมถึงใช้ปัจจัยความเสี่ยงในการคำนวณยอดสุดท้ายออกมา ตนยืนยันว่าการกระจายวัคซีนมีความยุติธรรมที่สุดแล้ว และผู้ที่เกี่ยวข้องมาขออะไรเพิ่มเติมไม่ได้

ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์กรณีมีบุคคลปลอมแปลงเป็นวินมอเตอร์ไซค์ใส่เสื้อวิน เพื่อเข้ารับการ ฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อว่า ตนได้รับรายงานจากรองปลัดกระทรวงคมนาคมที่ไปดูแลที่สถานีกลางบางซื่อแล้ว เบื้องต้นรองปลัดประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟให้เข้ามาช่วยดูแล พร้อมมอบหมายให้รองปลัดสั่งการอธิบดีกรมการขนส่งทางบกเข้าไปดูเรื่องนี้หากพบว่ามีการนำเสื้อวินมาสวมไม่ตรงกับเจ้าของเสื้อคงต้องแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งต้องดูว่าเสื้อวินที่นำมาสวมนั้นเป็นเสื้อวินจริงๆ หรือแค่คล้าย

ขู่ฟันซื้อขายบัตรคิวฉีด

นายอนุทินกล่าวถึงกรณีการซื้อบัตรฉีดวัคซีนที่ดินแดงว่า เรื่องนี้ต้องให้ฝ่ายปกครองดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ตนยังเคยเจอรายงานขายเสื้อวินมอเตอร์ไซค์เข้าไปฉีดที่สถานีกลางบางซื่อ ใส่ชุดอย่างดีแต่ใส่เสื้อวินมอเตอร์ไซค์แล้วบอกขับวิน ซึ่งยังไม่ได้ดำเนินคดี ถ้าเจออีกต้องดำเนินคดี และยึดเสื้อวิน มีเบอร์อยู่ ขอยืนยันว่าวัคซีนมีพร้อมสำหรับประชาชนทุกคนไม่ต้องซื้อขาย ทุกคนได้คิวฉีดแน่นอน ต่อให้ได้คิวท้ายๆ แต่ความเสี่ยงลดลงทุกวัน ทุกวันที่ฉีดคน 3-4 แสนคน เท่ากับว่าความเสี่ยงในการติดเชื้อหายไปจากคน 4 แสนคน ยิ่งถ้าผ่านไป 2-3 เดือน ฉีดขึ้นมา 20-30 ล้านคน โอกาสติดเชื้อน้อยลงไป ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ ประเทศไทยมีประชากร 70 ล้านคน ตอนนี้คิดถึงขนาดจะครอบคลุมกลุ่มอายุให้มากที่สุดเท่าที่ผู้ผลิตวัคซีนอนุญาตทำได้ แต่การฉีดจำนวนมาก 50-60 ล้านคนในเดือนเดียวไม่มีทางได้ ต้องทยอยฉีด

ปรับ 3 ระดับไม่สวมแมสก์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ระเบียบคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์การเปรียบเทียบความผิดกรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของ เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 34 (6) แห่งพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ในสถานการณ์โรคโควิด-19 พ.ศ.2564 โดยระบุถึงมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ที่สำคัญคือ การให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ และป้องกันมิให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ และจำกัดวงในการระบาดของโรคโควิด-19 โดยบัญชีอัตราการเปรียบเทียบแนบท้ายระเบียบคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์การเปรียบเทียบความผิด กรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 34 (6) แห่งพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคโควิด-19 แพร่ออกไป ระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท

ทั้งนี้ อัตราค่าปรับที่กำหนดให้เปรียบเทียบ (บาท) ครั้งที่ 1 ไม่เกิน 1,000 บาท ครั้งที่ 2 มากกว่า 1,000 บาท แต่ไม่เกิน 10,000 บาท ครั้งที่ 3 เป็นต้นไป มากกว่า 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 20,000 บาท

โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. เป็นต้นไป

ร.พ.ทน.นครศรีฯแจ้งงดฉีด

ด้านนายสมพงษ์ มากมณี รองผวจ.นครศรีธรรมราช ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและประชาชนผู้รับบริการฉีดวัคซีน ที่ร.พ.ปากพนัง ร.พ. เชียรใหญ่ และร.พ.เฉลิมพระเกียรติ โดยจังหวัดมีผู้ลงทะเบียนฉีดวัคซีน 67,000 คน แต่ได้รับวัคซีนเพียง 49,000 โดส ซึ่งฉีดได้เพียง 3 วันคือ 7-9 มิ.ย.เท่านั้น โดยต้องรอวัคซีนต่อไป ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่เข้าใจปัญหา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.พ.เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ออกประกาศ ระบุผู้ที่ลงทะเบียนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของร.พ. ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. เป็นต้นไป ทางร.พ.ขอเลื่อนการรับบริการฉีด เนื่องจากปริมาณวัคซีนที่ได้รับการจัดสรรไม่เพียงพอ

2 ร.พ.โคราชก็เลื่อนฉีด

ด้านร.พ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และร.พ.ค่ายสุรนารี โพสต์เพจเฟซบุ๊กของร.พ.ว่า ขอแจ้งเลื่อนการบริการฉีดวัคซีนในวันที่ 8 มิ.ย. ไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากวัคซีนที่ได้รับการจัดสรรมาได้ฉีดให้กับประชาชนอายุ 60 ปี ขึ้นไป และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรังไปหมดแล้วเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.

มทส.ได้แค่ 600 กว่าโดส

ด้านรองศาสตราจารย์ ร.อ.ดร.กนต์ธร ชำนิประศาสน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและพัฒนาความเป็นสากล เปิดเผยว่า การประกาศแจ้งเลื่อนการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วไป ที่ลงทะเบียนไว้ ตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย. ออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนดนั้น เนื่องจากได้รับการจัดสรรวัคซีนมาในปริมาณน้อย ซึ่งล็อตวันที่ 7 มิ.ย.ได้รับมาเพียง 600 กว่าโดสเท่านั้น และฉีดให้กับประชาชนไปแล้ว 300 โดส ส่วนที่เหลือจะนัดมาฉีดอีกครั้งในวันที่ 14 มิ.ย.

ส่วนกรณีที่สธ.จะตั้งคณะกรรมการสอบเรื่องการเลื่อนการฉีดวัคซีนนั้น ทางร.พ.พร้อมชี้แจงเหตุผล เชื่อว่ารัฐบาลคงเข้าใจ

ตร.ระยองเข้าข่ายได้เยียวยา

จากกรณี ดาบตำรวจสิทธิชัย คล้ายพันธุ์ ผบ.หมู่ป้องกันปราบปราม สภ.เขาชะเมา ระยอง ที่เกิดอาการ อาเจียน ท้องเสีย เจ็บหน้าอก และเกิดอาการร่างกายซีกขวาชาไปทั้งแถบ จนไม่สามารถเดินได้ ต้องใช้ไม้เท้าพยุงเดิน หลังไปฉีดวัคซีนซิโนแวค เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. เพียงไม่กี่ชั่วโมงก็เกิดอาการ จนต้องเข้ารับการรักษาตัวที่ ร.พ.ระยอง

นายจักริน ประโมงเขต เจ้าหน้าที่ สปสช. เขต6 กล่าวว่า กรณีของดาบตำรวจสิทธิชัย จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าอาการเกิดจากผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนจริง นับเป็นเคสที่ 5 ของระยอง โดยจะเร่งสรุปหลังรับเรื่องผลการตรวจรักษาจากร.พ.ระยอง เพื่อจ่ายเงินเยียวยา ให้โดยเร็วที่สุด

ด้านด.ต.สิทธิชัยกล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้า หากได้มาก็จะนำมาใช้รักษาตัวต่อไป

สังขละบุรีได้ 1 ขวด 10 โดส

จากรณีนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ เปิดเผยว่า พบว่าในพื้นที่ จ.เลย จ.ราชบุรี และพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ถูกเลื่อนการฉีดวัคซีนออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยมีรายงานข่าวว่าที่อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ได้รับการจัดสรรฉีดวัคซีนเพียง 8 โดสเท่านั้น

เจ้าหน้าที่หน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง เผยว่า เบื้องต้นในอ.สังขละบุรี ได้รับการจัดสรรฉีดวัคซีนมาทั้งสิ้น 10 โดส หรือ 1 ขวดเท่านั้น โดยคาดว่าหลังจากนี้จะได้รับวัคซีนมาฉีดให้ชาวบ้านเพิ่มเติม

ผอ.รพ.แจงเหตุได้แค่นี้

นพ.กฤษดา วุธยากร ผอ.ร.พ.สังขละบุรี กล่าวว่า ภาพรวมการฉีดวัคซีนของ อ.สังขละบุรี เรียบร้อย เนื่องจากได้รับวัคซีนไดม่มาก ทำให้ประชาชนไม่พลุกพล่าน ส่วนสาเหตุที่ได้รับการจัดสรรมาเพียงเท่านี้ คาดว่าน่าจะเป็นเพราะประชาชนในื้นที่ห่างไกลของอำเภอยังไม่มีความพร้อมเรื่องการลงทะเบียนในระบบหมอพร้อม เพราะบางแห่งไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต ทำให้การลงทะเบียนในช่วงแรกน้อย แต่ได้ให้อสม.ลงพื้นที่เก็บข้อมูลผู้ที่ประสงค์จะฉีดวัคซีนแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะได้รับการจัดสรรในล็อตต่อไป

กาญจน์หญิง 82 ปีป่วย

ด้านสสจ.กาญจนบุรี รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่ 1 ราย รวมสะสม 343 ราย รักษาหาย 2 ราย รักษาหายสะสม 299 ราย รักษาตัวอยู่ร.พ. จำนวน 40 ราย และเสียชีวิตสะสม 4 ราย

สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ คือรายที่ 343 เป็นหญิงชรา อายุ 82 ปี ชาวต.ดอนแสลบ อ.ห้วยกระเจา ตรวจพบติดเชื้อวันที่ 6 มิ.ย. จากการสัมผัสผู้ป่วยรายที่ 320 รักษาตัวอยู่ ร.พ.ห้วยกระเจา

อยุธยาติดอีก 33-ดับ 1

ด้านนพ.พีระ อารีรัตน์ นพ.สสจ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ 33 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 1,084 ราย มีผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย อายุ 74 ปี อยู่อ.ผักไห่ เป็นรายที่ 10 ของจังหวัด มีโรคประจำตัว ไขมัน เบาหวาน ความดันโลหิตในเลือดสูง เข้ารักษาตัววันที่ 29 พ.ค.

ราชกิจจาฯให้ท้องถิ่นซื้อวัคซีนได้

ค่ำวันเดียวกัน ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เรื่อง แนวทางการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ดังนี้ 1.ให้มีการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่มีคุณภาพและมีจำนวนเพียงพอแก่ประชาชนโดยอย่างน้อยให้ครอบคลุมร้อยละ 70 ของจำนวนประชากร (ไม่น้อยกว่าจำนวนประชากรห้าสิบล้านคน) 2.ให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ประสานงาน ส่งเสริม และสนับสนุนผู้ผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในการดำเนินการขึ้นทะเบียนวัคซีนให้เป็นไปอย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ

3.ให้กรมควบคุมโรค องค์การเภสัชกรรม สถาบันวัคซีนแห่งชาติ สภากาชาดไทย ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ หรือหน่วยงานของรัฐ ที่มีหน้าที่และอำนาจในการให้บริการทางการแพทย์หรือสาธารณสุข แก่ประชาชน ร่วมมือกันในการดำเนินการจัดหา สั่ง หรือนำเข้าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเร่งด่วน เพื่อให้ประชาชนได้รับวัคซีนที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพอย่างรวดเร็วและทั่วถึง ภายใต้กฎหมาย กฎ หรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง หรือตามหลักเกณฑ์ที่หน่วยงานนั้นๆ กำหนด

4.เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้มากขึ้น สถานพยาบาลเอกชนและภาคเอกชนอาจจัดหาหรือขอรับการสนับสนุนวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากหน่วยงานตามข้อ 3 ภายใต้กฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาให้บริการประชาชนหรือบุคลากรในความดูแลได้ตามความเหมาะสม โดยวัคซีนดังกล่าวต้องเป็นวัคซีนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยยา และต้องพิจารณากำหนดราคาวัคซีนและการให้บริการที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสมและพื่อเป็นประโยชน์แก่ประชาชน

5.โดยที่ในปัจจุบันวัคซีนป้องกันโรค โควิด-19 ที่ผลิตหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรยังมีจำนวนจำกัด หากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)จะจัดหาวัคซีนป้องกันโรค โควิด-19 มาให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่ ให้จัดหาจากหน่วยงานตามข้อ 3 และต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ หรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงหลักเกณฑ์หรือแผนการใช้จ่ายงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และต้องสอดคล้องกับแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินตามที่ศบค.หรือนายกรัฐมนตรีกำหนด

6.ให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนทุกภาคส่วนเชื่อมโยงและบูรณาการข้อมูลกับระบบแพลตฟอร์มหมอพร้อมของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของประชาชนที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และเพื่อให้การบริหารจัดการข้อมูลเป็นไปอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน