แอมมี่ได้ประกัน
เพลง12345หมิ่น

‘วรเจตน์ ภาคีรัตน์’ อาจารย์ มธ.-กลุ่มนิติราษฎร์ ชนะคดีคสช. หลังต่อสู้มานานถึง 7 ปี ศาลแขวงดุสิตพิพากษายกฟ้องความผิดฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กรณีไม่ไปรายงานตัวเมื่อปี 2557 ระบุคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ตัดสินว่าคำสั่งคสช. ที่ใช้ในคดีนี้ขัดกับรัฐธรรมนูญ ทำให้ไม่สามารถบังคับใช้ได้ ขณะที่ไบรท์-ชินวัตรถูกจำคุก 4 เดือนไม่รออาญาฐานมีพฤติกรรมละเมิดศาล ส่วนแอมมี่ขึ้นศาลอีกครั้ง อัยการธัญบุรีสั่งฟ้องมาตรา 112 จากเพลงดังประจำตัว 12345 ไอเลิฟยู

เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ที่ศาลแขวงดุสิต ซอย สีคาม ถ.นครไชยศรี ศาลนัดฟังคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ศ.ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ นักวิชาการกฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ถูกฟ้องเป็นจำเลยในความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 5/2557 และ 57/2557 ไม่ไปรายงานตัว ที่ค่ายทหารตามคำสั่ง

ต่อมาคดีถูกโอนมายังศาลเเขวงดุสิต ซึ่งฝ่ายจำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าบทกฎหมายที่ใช้บังคับแก่คดี ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ฉบับลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 เเละต่อมาศาล รธน.มีคำวินิจฉัยประกาศ คสช.ดังกล่าวกำหนดโทษคนไม่รายงานตัวขัดรัฐธรรมนูญ

โดยในวันเดียวกันนี้ ศ.ดร.วรเจตน์เดินทางมาศาล พร้อมด้วยนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ

ศ.ดร.วรเจตน์กล่าวว่า คดีนี้ตนมายื่นคำร้องหน้าศาลรัฐธรรมนูญในช่วงท้ายๆ คดีของการสืบพยานที่ศาลแขวงดุสิต ตนยื่นคำร้องต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดใหม่ว่าประกาศของ คสช.ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ตามช่องทางมาตรา 212 เพราะถ้าตนไปยื่นเร็ว ก็ต้องไปพบกับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดก่อน ก็ไม่แน่ว่าจะมีคำวินิจฉัยออกมาอย่างไร เพราะที่ผ่านมามีความพยายามที่นำคดีเข้าสู่การวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในประเด็นคล้ายๆ กันตลอดมา ซึ่งแนวเดิมนั้นยังไม่เคยมีการตรวจสอบคำสั่งต่างๆ ของ คสช.เลย เพราะศาลรัฐธรรมนูญชุดก่อนๆ จะบอกว่าคำสั่งของ คสช.ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เพราะมีการรับรองไว้แล้วหรือมีการรับรองความชอบของคำสั่งนั้นๆ ไว้แล้ว แต่ครั้งหลังนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีการตรวจสอบคำสั่งแล้ว แม้ผลจะออกมาตรงกับที่ตนขอไปก็จริง แต่ว่าก็ยังไม่ครบ เพราะมีบางประเด็นที่ตนร้องเข้าไป แต่ศาลก็ยังไม่มีคำพูดออกมาว่าคำสั่งของ คสช.ออกมาโดยชอบหรือไม่ เเละมีวิธีการจะเข้าไปตรวจสอบอำนาจของคสช.ในการออกคำสั่งได้อย่างไร หากมีคำวินิจฉัยออกมาชัดเจนในคราวเดียวทั้งหมด ก็จะเป็นประโยชน์ ต่อผู้อื่นๆ ด้วย

ชนะคดีคสช. – ศ.ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เดินทางมาฟังคำพิพากษาคดีฝ่าฝืนคำสั่งคสช.ให้ไปรายงานตัว เมื่อปี 2557 โดยศาลยกฟ้อง ระบุคำสั่งคสช.ขัดรัฐธรรมนูญ ที่ศาลแขวงดุสิต เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.

สำหรับคดีของตนที่ร้องต่อศาลนั้น มีการวินิจฉัยว่าประกาศของคสช.ขัดรัฐธรรมนูญ เพราะกำหนดโทษเกินกว่าเหตุและประกาศของ คสช.มีผลย้อนหลัง จึงขัดต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจาก คสช.เขาเรียกตนเข้าไปรายงานตัวตอนเช้า ตอนบ่ายก็จะสั่งกำหนดโทษ

ด้านนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ เปิดเผยหลังฟังคำพิพากษาว่า วันนี้ศาลเเขวงดุสิตมีคำพิพากษาสั้นๆ ว่าประกาศ คสช. ซึ่งมีโทษทางอาญาทั้ง 2 ฉบับนั้นขัดรัฐธรรมนูญ การดำเนินคดีในความผิดลักษณะนี้ในทางอาญาโดยอาศัยประกาศดังกล่าวเป็นหลักในการลงโทษ จำเลยจึงไม่มีความผิดตามประกาศดังกล่าว

นายวิญญัติกล่าวว่า ทั้งคำพิพากษาในวันนี้เเละคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่มีผลผูกพันทุกองค์กร ย่อมหมายความว่า บุคคลที่ยังไม่ได้มารายงานตัวเเล้วเกรงว่าจะมีความผิดฐานนี้ให้ไม่เป็นความผิด

ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มไทยไม่ทน “คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย” นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 2535 นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน นางพะเยาว์ อัคฮาด นายจอมพล รุ่งเรืองชูเลิศ คณะปราบโกงชาติ นายไทกร พลสุวรรณ เลขาธิการแนวร่วมอีสานกู้ชาติ มายื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม และ ครม. เพื่อขอให้ลาออก

นายจตุพรกล่าวว่า ประเด็นที่มียื่นในวันนี้เพื่อชี้ให้เห็นข้อผิดพลาดการบริหารงานของรัฐบาล ซึ่งผูกขาดเศรษฐกิจและการเมือง ฉ้อฉลอำนาจเพื่อประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง หลังสนับสนุนให้กลุ่มทุนต่างๆ อาทิ กลุ่มทุนพลังงาน กลุ่มทุนค้าปลีก กลุ่มทุนอสังหาริมทรัพย์ ยึดครองประเทศปล่อยให้มีอำนาจเหนือรัฐบาล และรัฐสภากำลังจะมีอำนาจเหนือระบอบการปกครอง อย่างไรก็ตาม วันนี้ระบอบประยุทธ์เลวร้ายอยู่แล้ว กลับปล่อยให้กลุ่มทุนผูกขาดมีอำนาจเหนือการปกครองอีก อยากถามพล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผู้นำประเทศจะไม่ทราบเลยหรือ “วันนี้ยิ่งกว่าคำว่าทุนสามานย์เสียอีก ในเมื่อ พล.อ. ประยุทธ์ไม่สามารถรักษาผลประโยชน์ของประเทศ ก็ควรลาออกไป”

นายจตุพรกล่าวต่อว่า ในวันที่ 9 มิ.ย. เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา จะไปยื่นหนังสือผ่านนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน เพื่อขอให้ ส.ส.ฝ่ายค้านทั้งหมดลาออกเพราะไม่สามารถตรวจสอบรัฐบาลและปกป้องผลประโยชน์ประเทศชาติได้

ไล่ซ้ำตู่ – กลุ่มไทยไม่ทน คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม และรัฐมนตรี เรียกร้องให้ลาออก เหตุบริหารประเทศเอื้อกลุ่มทุนใหญ่ ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่งไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล ลศ 7/2564 (กรณีชุมนุมหน้าศาล) ที่ ผอ.สำนักอำนวยการประจำศาลอาญา ตั้งเรื่องกล่าวหาว่า นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบรท์ อายุ 28 ปี แกนนำกลุ่มราษฎรนนทบุรี จำเลยที่ 10 ในคดีหมายเลขดำที่ อ.287/2564 ที่พนักงานอัยการพิเศษคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้องนายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ชิวารักษ์ กับพวกรวม 22 คน เป็นจำเลย กรณีชุมนุม 19-20 ก.ย. 2563 ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์-สนามหลวง ในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 31(1), 33 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15

กรณีสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้ ร่วมชุมนุมและกล่าวถ้อยคำปราศรัยด่าว่าศาลอย่างรุนแรง ที่ด้านหน้าบันไดอาคารศาลอาญา และประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล และกระทำการฝ่าฝืนข้อกำหนดของศาลอาญา ว่าด้วยการรักษาความสงบเรียบร้อยในบริเวณศาลอาญา พ.ศ.2564

โดยในช่วงเช้านายชินวัตรเดินทางมาศาลเพื่อเบิกความไต่สวน พร้อมทนายความและบุคคลใกล้ชิด

ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่าการที่นาย ชินวัตร ผู้ถูกกล่าวหา มาร่วมชุมนุมและกล่าวปราศรัยดังกล่าว เป็นถ้อยคำที่ใส่ความอย่างไม่เป็นความจริง เพื่อให้ผู้พิพากษาปฏิบัติตามความต้องการของตนเอง ซึ่งไม่เป็นไปตามกฎหมาย และก้าวร้าวอย่างรุนแรง ถึงขนาดที่สามารถจะดำเนินคดีเป็นความผิดได้ จึงเป็น การกระทำโดยไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมาย เป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล พิพากษาจำคุกเป็นเวลา 4 เดือนไม่รอลงอาญา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชินวัตรยื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดมูลค่า 1 หมื่นบาท ขอประกันตัว ซึ่งศาลพิจารณาเเล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ประกัน ขณะนี้ระหว่างทำเรื่องยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น

ที่สำนักงานอัยการจังหวัดธัญบุรี นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ เดอะ บอททอม บลูส์ พร้อมมารดา เดินทางมาที่สำนักงานอัยการจังหวัดธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อรับทราบกรณีเพลง 12345 I LOVE YOU เข้าข่ายผิดมาตรา 112 ฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ซึ่งเป็นเพลงป๊อปเพลงแรกที่ถูกดำเนินคดีตามมาตรานี้ โดยสำนักงาน อัยการจังหวัดธัญบุรีมีความเห็นสั่งฟ้องต่อศาลจังหวัดธัญบุรี

คดี 112 – นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ เดินทางมารายงานตัว หลังโดนคดี ม.112 กรณีเผยแพร่เพลง 12345 I LOVE YOU ทางเพจเฟซบุ๊ก The Bottom Blues ที่สำนักงานอัยการจังหวัดธัญบุรี จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.

นายไชยอมรกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่านักวิชาการฝ่ายนายกฯ แม้แต่ พล.อ.ประยุทธ์เอง หรือใครก็ตามเขามองไปในแนวทางเดียวกันว่าเป็นการหมิ่น เวลาพวกเขาประเมิน ก็ใช้นักวิชาการฝ่ายเขาค่อนข้างขวาจัด จากสถานการณ์ในปัจจุบันนี้แอมมี่มองว่าเขาอาจจะปรานีตัวเราเองหรือเปล่า ที่ไม่ประหัตประหาร ก็ยังไม่โดนอุ้มหาย

ต่อมา ศาลจังหวัดธัญบุรีมีคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราวตามคำร้องขอประกันตัว แอมมี่-นายไชยอมร ด้วยหลักประกันเงินสด 3 แสนบาท พร้อมให้เขียนคำรับรองว่าจะไม่หลบหนี ไปยุ่งกับพยานหลักฐาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน