บิ๊กตู่นัดศบค.ถกเปิดปท.
ปลดล็อกกรุง-5กิจการ
รพ.เอกชนแห่ เลื่อนนัด
อ้างรัฐบาลไม่ส่งวัคซีนให้
ปากน้ำป่วย313ตายอีก3

รมว.แรงงานยันวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า สำหรับผู้ประกันตน ไม่ขาด ลุยฉีดต่อวันจันทร์นี้ ‘บิ๊กตู่’ เตรียมถกเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวยืนยันทุกจังหวัดได้วัคซีนแน่ ล่าสุดฉีดให้ประชาชนแล้วกว่า 6 ล้านราย ‘อนุทิน’ย้ำคุณภาพซิโนแวค-แอสตร้าฯ ‘ฮู’ รับรอง ยอดติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 3,277 ราย เสียชีวิต อีก 29 ราย ปากน้ำยังลามติดเชื้ออีกกว่า 300 ตร.จับผับทองหล่อเปิดให้ก๊งเหล้าไม่สนโควิด

เผย‘บิ๊กตู่’ย้ำทุกจว.ได้วัคซีนแน่

เมื่อเวลา 07.40 น. วันที่ 12 มิ.ย. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน มีผู้ป่วยรายใหม่ 3,277 ราย จำแนกเป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 2,385 ราย, ติดเชื้อใน เรือนจำ/ที่ต้องขัง 892 ราย หายป่วยกลับบ้าน 5,273 ราย หายป่วยสะสม 122,845 ราย ยอดผู้ป่วยสะสมระลอกเดือนเม.ย. จำนวน 164,242 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 29 ราย

วันเดียวกัน นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ รัฐบาลเล่าเรื่อง โดยนารีสโมสร ผ่าน “ไทย คู่ฟ้า PODCAST” กรณีการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วประเทศ ที่ได้เริ่มฉีดปูพรมทั่วประเทศเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศบค. ยืนยัน ทุกจังหวัดจะได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามแผนที่วางไว้อย่างทั่วถึงสอดคล้องกับสถานการณ์การระบาดในพื้นที่

ในช่วงระยะเวลาสัปดาห์ที่ผ่านมาการฉีดวัคซีนให้ประชาชน 3-4 แสนคนต่อวัน ดังนั้นในช่วง 5 วันที่ผ่านมา ฉีดให้กับคนไทยได้มากกว่า 2 ล้านคน ตอนนี้ตัวเลขที่สะสมอยู่ที่มากกว่า 6 ล้านคน ดังนั้นเรื่องการฉีดวัคซีนจะทำอย่างต่อเนื่อง และวัคซีนได้ทยอยเข้ามามากขึ้น

นอกจากนั้น กระทรวงแรงงานเริ่มฉีดให้กับคนทำงานในระบบประกันสังคม ในกรุงเทพฯ มีทั้งสิ้น 45 จุด และจะขยายไปตามต่างจังหวัดมากขึ้น สำหรับส่วนที่เกี่ยวข้องกับกรุงเทพฯ มีการฉีดทั้งในโรงพยาบาลและนอกสถานที่โรงพยาบาลอีกมากกว่า 150 แห่ง สำหรับต่างจังหวัดตอนนี้มีการกระจายไปทั่ว 76 จังหวัด มากกว่า 1,500 แห่ง ประชาชนจะได้ฉีดวัคซีนได้อย่างสะดวกตามนัด

จ่อถกเปิดปท.รับนักท่องเที่ยว

นายอนุชากล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลปรับเรื่องการจัดส่งวัคซีนจากเดิมที่เคยมีการวางแผนกันไว้ว่าจะส่งเป็นลักษณะรายเดือนแต่ตอนนี้ปรับให้มีการส่งมอบในลักษณะเป็นรายสัปดาห์ เพื่อส่งให้แต่ละหน่วยงานและจะได้ทันต่อสถานการณ์การเปลี่ยนแปลง

สำหรับเรื่องการจัดหาวัคซีน นายกฯ มี เป้าหมายจัดหาวัคซีน 100 ล้านโดส เบื้องต้นจะแบ่งเป็นยี่ห้อต่างๆ เช่น แอสตร้าเซนเนก้า 61 ล้านโดส, ซิโนแวค 14 ล้านโดส, ไฟเซอร์ 20 ล้านโดส, จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน 5 ล้านโดส แต่จะขยายเป้าหมายวัคซีนเพิ่มเติม จากเดิมที่ 100 ล้านโดส เตรียมมาเพื่อฉีดให้กับประชากรไม่ต่ำกว่า 50 ล้านคน ล่าสุด นายกฯ ปรับเปลี่ยนจัดหาวัคซีนให้เพิ่มขึ้นเป็น150 ล้านโดส อยากให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า นายกฯ และรัฐบาล จะทำอย่างเต็มที่ในการ ที่จะทำให้ทุกคนได้เข้าถึงวัคซีนที่มีอยู่และจะเพิ่มเติมให้มากที่สุดทั้งในปีนี้และ ปีหน้า

“ในวันศุกร์ที่ 18 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะผอ.ศบค. จะเป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อพิจารณาเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์โควิด-19 เช่น ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ การเตรียมการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

รมว.แรงงานยันแอสตร้าฯมีพอ

ด้าน นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานประกันสังคมประกาศเลื่อนการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่กรุงเทพฯ 45 จุด ออกไป เรื่องดังกล่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ มีความเป็นห่วงผู้ประกันตนและเข้าใจดีว่าผู้ประกันตนประสงค์อยากจะฉีดวัคซีนโดยเร็ว จึงให้ตนปรับปรุงจุดบกพร่องอย่างเร่งด่วน กรณีสถานที่บาง แห่งที่ไม่เอื้ออำนวย เนื่องจากไม่มีแอร์ อากาศร้อน จะยกเลิกสถานที่ดังกล่าว โดยจะยุบ รวมมาอยู่ในสถานที่ที่มีความพร้อม และมีแอร์คอนดิชั่น

กรณีเรื่องข้อมูลของผู้ประกันตนที่ฝ่ายบุคคลของสถานประกอบการส่งมาให้เกิดความสับสนไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงจากเหตุผลหลายประการ เช่น ลงทะเบียนซ้ำซ้อนหลายแห่ง การไปฉีดวัคซีนจากที่อื่นมาก่อนแล้ว ผู้ประกันตนไม่พร้อมมาฉีดตามวันเวลา ที่กำหนด แต่ฝ่ายบุคคลไม่ได้แจ้งกลับมา

กรณีที่ผู้ประกันตนมีสภาพร่างกายที่ไม่พร้อมจะฉีด ทางสำนักงานประกันสังคมประสานไปยังสถานประกอบการต่างๆ เพื่อเร่งดำเนินการปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้ได้ข้อมูลของผู้ประกันตนที่ประสงค์จะฉีดวัคซีนอย่างแท้จริง หากว่าสถานประกอบการใดยังไม่พร้อมให้รอไปก่อน จะดำเนินการฉีดให้สถานประกอบการที่มีความพร้อมไปก่อน โดยจะเริ่มดำเนินการฉีดอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 14 มิ.ย.นี้

“ผมขอย้ำว่าวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า สำหรับผู้ประกันตนไม่ขาด ผมกับรองนายกฯ อนุทิน ทำงานกันอย่างใกล้ชิดและปรึกษาหารือกันมาโดยตลอด เพื่อให้การฉีดวัคซีนซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ สามารถควบคุมการ แพร่ระบาด เกิดประโยชน์สอดคล้องตามวัตถุประสงค์ มีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่า โดยกระทรวงแรงงานจะเร่งดำเนินการเปิดศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครให้เร็วที่สุด ซึ่งคาดว่าจะสามารถกลับมาเปิดบริการฉีดได้ใหม่ในวันจันทร์ที่ 14 มิถุนายนที่จะถึงนี้” รมว.แรงงานกล่าว

‘อนุทิน’ย้ำคุณภาพวัคซีน

วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข (สธ.) พร้อมนพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย และพญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง และผู้อำนวยการศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ตรวจเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ

นายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ สามารถให้บริการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนได้วันละ 11,000 ราย ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2564 จนถึงขณะนี้ ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปแล้ว 209,234 ราย โดยวัคซีนทั้งของซิโนแวคและแอสตร้าเซนเนก้าที่นำมาฉีดให้ประชาชน มีประสิทธิภาพช่วยลดความรุนแรงและการเสียชีวิต องค์การอนามัยโลกให้การรับรอง

สธ.กระจายวัคซีนตามจำนวนที่ได้รับแจ้งจากหน่วยงานและจังหวัดตามรอบการจัดส่ง ส่วนเรื่องการบริหารการฉีดเป็นเรื่องของแต่ละหน่วยงานให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง สำหรับการปูพรมฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรครูเป็นการร้องขอของกระทรวงศึกษาธิการ โดย กทม.และปริมณฑล เริ่มฉีดมาตั้งวันที่ 8 มิ.ย. จะเร่งฉีดให้เสร็จภายในสัปดาห์นี้ จำนวน 45,000 คน เพื่อให้เปิดเรียนได้ตามกำหนด ส่วนต่างจังหวัดสามารถไปรับการฉีดได้ตามระบบของการขึ้นทะเบียนที่ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกำหนด

ด้านนพ.โอภาสกล่าวถึงการที่ร่างกายเกิดปฏิกิริยาหลังได้รับวัคซีนว่า อาจทำให้มีอาการปวดเมื่อย มีไข้ บางรายอาจท้องเสีย อ่อนเพลีย ถือเป็นเรื่องที่พบได้ หากอาการไม่ดีขึ้นขอให้ไปพบแพทย์ แต่อาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดกับทุกคนขอให้ประชาชนคลายความวิตกกังวล

ร.พ.เอกชนเลื่อน-ไร้วัคซีน

รายงานข่าวแจ้งว่า วันเดียวกันโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่ง ออกแถลงการณ์เลื่อนฉีดวัคซีนผู้ที่ลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อม ตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย. เป็นต้นไป โดยให้เหตุผลว่า ยังไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนจากภาครัฐ หากได้รับการจัดสรรวัคซีนแล้ว จะแจ้งกำหนดการให้ทราบอีกครั้ง เช่น ร.พ.พระราม 9, ร.พ.ราษฎร์บูรณะ, สถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์, ร.พ.เปาโล เกษตร และร.พ.พญาไท เป็นต้น

ปากน้ำลามอีก 313

กลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ อัพเดตสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ โดยวันนี้พบผู้ป่วยเพิ่มอีก 313 ราย ในพื้นที่ จำนวน 250 ราย แบ่งเป็น อ.เมือง 100 ราย อ.พระประแดง 17 ราย อ.บางพลี 62 ราย อ.พระสมุทรเจดีย์ 1 ราย อ.บางเสาธง 38 ราย และอ.บางบ่อ 32 ราย ส่วนอีก 63 ราย รับมารักษาต่อใน จ.สมุทรปราการ

วันนี้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย รายแรกเป็น หญิงไทย อายุ 79 ปี ประวัติเสี่ยง สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน โรคประจำตัว เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ที่อยู่ขณะป่วย ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ รายที่ 2 เป็นชายไทย อายุ 79 ปี ประวัติเสี่ยง สัมผัสผู้ป่วย ยืนยัน โรคประจำตัวเบาหวาน ที่อยู่ขณะป่วย ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และรายที่ 3 เป็นชายไทย อายุ 76 ปี ประวัติเสี่ยง สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน โรคประจำตัว เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ที่อยู่ขณะป่วย ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ

ส่วนที่ ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 นนทบุรี รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มทั้งหมด 106 ราย สาเหตุติดเชื้อที่สำคัญ ตลาด สถานที่ทำงาน แคมป์คนงาน ในครอบครัว โดยเป็นเพศหญิง 59 ราย เพศชาย 47 ราย ต่างชาติ 6 ราย (พม่า 1 ราย กัมพูชา 5 ราย) ภูมิลำเนา อำเภอเมือง 34 ราย อำเภอปากเกร็ด 28 ราย อำเภอบางบัวทอง 24 ราย อำเภอบางใหญ่ 8 ราย อำเภอไทรน้อย 6 ราย อำเภอบางกรวย 6 ราย มีอาการ 44 ราย คิดเป็น 41.5% ไม่มีอาการ 62 ราย คิดเป็น 58.5%

กห.จัดวัคซีนให้ทหารใหม่

ส่วนที่กระทรวงกลาโหม (กห.) พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กห. และพล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกห. ประชุมร่วมกับ กอ.รมน. หน่วยขึ้นตรง กห. เหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เพื่อติดตามการสนับสนุนรัฐบาลในการขับเคลื่อนแก้ปัญหาโควิด-19 และการช่วยเหลือประชาชน ทั้งนี้ภาพรวม ตั้งแต่การแพร่ระบาด กห. โดยทุกเหล่าทัพยังคงทำงานร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และหน่วยงานต่างๆ อย่างใกล้ชิด สนับสนุนการแก้ปัญหาเร่งด่วนและขับเคลื่อนบริหารจัดการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ รมช.กลาโหม ได้ย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ขอบคุณกำลังพลทุกเหล่าทัพที่สนับสนุนส่วนราชการต่างๆ และเข้าไปดูแลช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ขอให้ดำรงความต่อเนื่องไปจนกว่าสถานการณ์จะปกติ พร้อมแสดงความห่วงใยทหารที่จะเข้าประจำการพร้อมกันทุกเหล่าทัพใน 1 ก.ค. โดยขอให้มีมาตรการควบคุมโรคในการฝึกและประสาน สธ.จัดหาวัคซีนรองรับทหารที่เข้าใหม่และ ครูฝึก ให้เพียงพอสำหรับเกิดภูมิคุ้มกันเป็นส่วนรวมในการปฏิบัติงานร่วมกัน

นอกจากนี้ พล.อ.ชัยชาญ ยังได้กำชับ ขอให้ทุกเหล่าทัพและตำรวจ เสริมกำลังเข้าไปสนับสนุน กรุงเทพมหานคร (กทม.) ตามที่ร้องขอ ในการควบคุมการแพร่ระบาดเป็นพื้นที่ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ยังพบกระจายในหลายคลัสเตอร์ โดยเฉพาะแคมป์คนงานที่มีกว่า 400 แห่ง ที่จำเป็นต้องจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน ควบคุมการปฏิบัติเข้มในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด เพื่อจำกัดการเคลื่อนย้ายแรงงานเข้า-ออก และนำเข้าสู่การรักษาในระบบ พร้อมทั้งขอให้ดำรงความต่อเนื่องสนับสนุนการบริจาคโลหิตให้กับ โรงพยาบาลต่างๆ ที่ยังพบการขาดแคลน เพื่อช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วยรอการรักษาอีกจำนวนมาก

สตอ.ดับ-ญาติสงสัยวัคซีน

สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ตรวจสอบ เหตุส.ต.อ.ปิยะพงษ์ สุรินต๊ะ อายุ 36 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ (สส.) สภ.แม่โป่ง อ.ดอยสะเก็ด ช่วยราชการ บก.ภ.จว.เชียงใหม่ ภายในบ้านพักพื้นที่บ้านบวกค้าง ม.3 ต.แช่ช้าง อ.สันกำแพง พบนอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอนไม่มีร่องรอยถูกทำร้าย ภายในห้องไม่พบสิ่งผิดปกติ เบื้องต้นส่งศพให้แพทย์ร.พ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าชันสูตรหาสาเหตุที่แท้จริง

นายบุญมี สุรินต๊ะ อายุ 66 ปี บิดาของส.ต.อ.ปิยะพงษ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ลูกชายได้รับคำสั่งให้ไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด -19 ยี่ห้อซิโนแวค ลูกชายบ่นว่าไม่อยากฉีดเพราะกลัวมีผลข้างเคียง แต่เมื่อเป็นคำสั่งต้องปฏิบัติตาม โดยเข้าฉีดวัคซีนเข็มแรกเมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากฉีดวัคซีนได้ประมาณ 3 วัน มีผื่นแดงขึ้นที่หลัง แต่หลังจากนั้นหายไปเอง ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวและไปทำงานได้ตามปกติ

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ลูกชายมาหาที่บ้านตามปกติ ก่อนจะกลับไปบ้านของตัวเองที่อยู่กับภรรยาในหมู่บ้านใกล้เคียงประมาณ 3 ทุ่ม หลังจากนั้นอาบน้ำประมาณ 5 ทุ่ม และมานั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ ในช่วงนั้นภรรยาและลูกสาวได้เข้านอนไปแล้ว ปรากฏว่าในช่วงเช้ามืดประมาณตี 5 ภรรยาออกมาพบว่าล้มไปนอนกับพื้นและเสียชีวิตไปแล้ว ลูกชายเป็นคนแข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ตรวจสุขภาพประจำปีทุกปี ไม่พบมีโรคประจำตัว เชื่อว่าไม่น่าจะมีสาเหตุอื่นที่ทำให้เสียชีวิตกะทันหันนอกจากผลจากการฉีดวัคซีน ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดและขอให้รับผิดชอบหากยืนยันผลการเสียชีวิตว่าเกิดจากวัคซีน

รายงานข่าวแจ้งว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง

ครูสาวประจวบฯติดโควิดดับสลด

นพ.สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่าสถาน การณ์การติดเชื้อโควิด-19 จ.ประจวบ คีรีขันธ์ ผู้เสียชีวิตรายล่าสุดนั้นเป็นผู้ป่วย รายที่ 1,608 เพศหญิง อายุ 30 ปี อาชีพรับราชการครู โรงเรียนบ้านหนองเสือ ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.เพชรบูรณ์ ส่วนสามีอยู่ที่บ้าน ม.5 ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จากการตรวจสอบไทม์ไลน์ พบประวัติอยู่ร่วมบ้านกับครอบครัวโดยไม่ใส่แมสก์ ประกอบด้วยพ่อ แม่ หลาน และสามี ที่ จ.สมุทรปราการ ระหว่างวันที่ 12-15 พ.ค. ก่อนเดินทางกลับมาที่โรงเรียนบ้านหนองเสือ ต่อมาทราบว่า สามีติดเชื้อโควิดจากเพื่อนร่วมงาน รักษาตัวร.พ.สมุทรปราการ พ่อ แม่ รวมทั้งหลานติดเชื้อด้วย รักษาตัวที่ร.พ.เพชรบูรณ์

ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต มีโรคประจำตัวเป็น โรคไต ต้องรักษาตัวต่อเนื่อง ตรวจหาเชื้อโควิด-19 หลังจากทราบว่าสามีติดเชื้อ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ผลตรวจไม่พบเชื้อ และตรวจซ้ำครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ผลตรวจพบเชื้อเข้ารักษาตัวที่ร.พ.ประจวบคีรีขันธ์ทันที และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ส่วนเพื่อนครูที่โรงเรียนที่กลายเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอยู่ในระบบการ เฝ้าระวังแล้ว

ขณะที่นายมังกรแก้ว ดรุณศิลป์ ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 เผยว่าที่ ผ่านมา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดมทำความสะอาดฆ่าเชื้อในโรงเรียนบ้านหนองเสือทันทีที่ทราบว่าครูผู้ช่วยติดเชื้อ พร้อมตรวจหาเชื้อผู้สัมผัสใกล้ชิดและกักตัวครูที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ขณะนี้โรงเรียนประกาศเลื่อนการเปิดภาคเรียนออกไปโดยไม่มีกำหนด สำหรับโรงเรียนแห่งนี้มีนักเรียนประมาณ 200 คน

ล็อกดาวน์ยะลา – เจ้าหน้าที่ตั้งด่านเข้ม หลังศบค.ยะลา ห้ามบุคคลเดินทางเข้า-ออกพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรการเฝ้าระวังป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาด โควิด-19 เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.

เมืองคอนวุ่นคลัสเตอร์รง.ทอง

ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรี ธรรมราช นพ.จรัสพงษ์ สุขกรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีฯ เปิดแถลงข่าวกรณีพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในพื้นที่อ.ทุ่งใหญ่ พัวพันการเล่นพนันในงานศพ 6 ราย และที่อ.ท่าศาลา จากแม่ค้าขายเครื่องแกงตามตลาดต่างๆ อีก 1 ราย และอีกคลัสเตอร์โรงงานทำทองคำเปลว ที่ ม.1 บ้านท่าแพ ต.ปากพูน อ.เมืองนครศรี ธรรมราช จำนวน 77 ราย โดยเป็นคนงานในโรงงานดังกล่าว

เจ้าหน้าที่สอบสวนโรคพบว่า มีคนงานเป็นผู้หญิงวัย 44 ปี ไปลักลอบเล่นการพนันที่ต.ปากพูน มีอาการไข้และได้ไปตรวจและพบติดเชื้อโควิด-19 เจ้าหน้าที่นำคนงานทั้งหมด 214 ราย ส่งตรวจที่ร.พ.ท่าศาลา พบติดเชื้อทั้งหมด 77 ราย ส่งรักษาที่ร.พ.สนามมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ล่าสุดสั่งปิดโรงงานดังกล่าวแล้ว และในวันพรุ่งนี้จะตรวจหาเชื้อเชิงรุกโดยจะเป็นกลุ่มชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงโรงงานจำนวน 500 ราย

วันเดียวกัน นพ.ตุลกานต์ มักคุ้น โฆษกศบค.ตรัง และพญ.ทิพย์ลดา บุญชัย รองโฆษกศบค.ตรัง ร่วมแถลงข่าวว่า วันนี้มีผู้ป่วย โควิด-19 รายใหม่ จำนวน 21 ราย เกี่ยวข้องกับคลัสเตอร์โรงงานถุงมือยาง 8 ราย เชื่อมโยงกับอำเภอควนขนุน 1 ราย จากคลัสเตอร์ พี่เลี้ยงเด็กอำเภอห้วยยอด เชื่อมโยงอำเภอปะเหลียน 5 ราย จากคลัสเตอร์ร้านกาแฟ ภาสินี 4 ราย จากคลัสเตอร์โรงงานไม้ยางพารานาเมืองเพชรพาราวู้ด 1 ราย เป็นพนักงานห้างโลตัสในอำเภอเมืองตรัง 1 ราย และผู้ต้องขัง 1 ราย

ปัจจุบันพบว่าแนวโน้มของการพบผู้ป่วยที่มีประวัติเคยไปในที่ชุมชนพลุกพล่าน หรือที่แออัด รวมทั้งการสัมผัสผู้ติดเชื้อในสถานที่ทำงานมีเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น จังหวัดตรังจึงต้องเน้นการสอบสวนและควบคุมโรคในแหล่ง ดังกล่าว พร้อมแยกผู้ป่วยเข้าสู่กระบวนการรักษา มีการค้นหาผู้สัมผัสให้ได้ครอบคลุม และแยกผู้สัมผัส รวมถึงการคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง เพื่อควบคุมการแพร่เชื้อให้อยู่ในวงจำกัด

กรุงเก่าปิดแคมป์ก่อสร้างห้าง

ที่ห้องประชุมอโยธยา ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายภานุ แย้มศรี ผวจ.พระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพระนคร ศรีอยุธยา โดยมีนายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รอง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา นพ.พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด คณะกรรมการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล สาธารณ สุขอำเภอ ตัวแทนภาคเอกชน และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้

ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อจากกลุ่มแรงงานก่อสร้างห้างสรรพสินค้า ต.คลองสวนพลู มีติดเชื้อรายใหม่จำนวน 26 ราย เป็นแรงานชาวไทย 13 คน และ ต่างด้าว 13 คน จากการตรวจเชิงรุก 924 คน ที่ประชุมมีการ หารือแนวทางในการบริหารจัดการแคมป์คนงานก่อสร้างโดยแบ่งแยกผู้ป่วยและผู้สัมผัสเสี่ยงสูงออกจากกัน โดยอาจต้องแยกผู้ป่วย ออกจากแคมป์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ลดลงและส่งต่อให้กับโรงพยาบาลบุษราคัม ต่อไป

ขณะนี้มีผู้ป่วยในแคมป์แห่งนี้ 178 ราย นำออกไปรักษาภายนอก 14 ราย ทั้งนี้มี กอ.รมน.พระนครศรีอยุธยา ตำรวจ สภ.พระนคร ศรีอยุธยา และ อบต.เกาะเรียน มาดูแลความปลอดภัย และทีมแพทย์มาดูแลด้านสุขภาพด้านหน้าแคมป์อีกด้วย ซึ่งหลังจากพบผู้ติดเชื้อจากไซต์งานก่อสร้างห้างสรรพสินค้า 26 ราย คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เสนอปิดไซต์ก่อสร้างห้างสรรพสินค้า 3 วัน เพื่อจัดระบบเสนอแผนการป้องกันการแพร่ระบาดในไซต์ก่อสร้าง ตั้งแต่วันที่ 13-15 มิ.ย.

นายภานุยังกล่าวว่า คณะกรรมการโรคติดต่อให้ศึกษาธิการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำรวจพบว่ามีความต้องการประมาณ 10,000 ราย ปัญหาคือวัคซีนกลุ่มของครู ซึ่งใกล้จะเปิดภาคเรียนการศึกษา ในวันที่ 1 ก.ค. ต้องร้องขอเพิ่มไปยังส่วนกลาง เพราะวัคซีนที่มีอยู่ขณะนี้ได้รับการจัดสรรมาจากรัฐบาล เพื่อให้บริการกับประชาชนที่ลงทะเบียนเอาไว้กับหมอพร้อม ลงทะเบียนไว้กับกลุ่ม กำนันผู้ใหญ่บ้าน อสม. ซึ่งได้รับมาในจำนวนจำนวนจำกัด เราต้องบริหารให้ทั่วถึง ทางคณะกรรมการโรคติดต่อได้ทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอรับวัคซีนเป็นกรณีพิเศษ รอผลการพิจารณา

เร่งเยียวยาสาวศธ.ดับ

ส่วนกรณี น.ส.ชนัญชิดา กาญจนลักษณ์ อายุ 36 ปี ข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ ฉีดวัคซีนซิโนแวคเมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่จัตุรัสจามจุรี กรุงเทพฯ จากนั้นมีอาการปวดเมื่อย แต่ยังสามารถขับรถกลับบ้านที่พระนคร ศรีอยุธยา ต่อมาวันที่ 7 มิ.ย. มีอาการเพลีย ปวดเมื่อย มีไข้ ไม่มีแรง จึงไปหาหมอ ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยแพทย์ ระบุว่า หัวใจเต้นผิดจังหวะ เส้นเลือดหัวใจตายเฉียบพลัน แต่ต้องรอผลพิสูจน์ยืนยันอีกครั้ง เนื่องจากญาติเชื่อว่ามาจากผลข้างเคียงของการฉีดวัคซีน

ความคืบหน้าล่าสุด ที่วัดโพธิ์เผือก ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา น.ส.ชลดา บุญเกษม หัวหน้าศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุข โดยนายประกิจ โพธิอาศน์ หัวหน้ากลุ่มงานประกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรี อยุธยา เข้าพบกับนางอนันต์ กาญจนลักษณ์ อายุ 58 ปี แม่ผู้เสียชีวิตครอบครัว เพื่อทำความเข้าใจและเตรียมหาทางเยียวยาช่วยเหลือ ซึ่งเบื้องต้นจะประสานเพื่อชันสูตรหาสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิตให้เร็วที่สุด

แฉวัคซีนไม่พอ

ชมรมแพทย์ชนบทเผยแพร่บทความเรื่อง ลับลวงพราง วัคซีนโควิด ตอน 10 ระบุว่า ความจริงของสัปดาห์หน้า แอสตร้าฯ จะมาช้า ซิโนแวคมีไม่พอ คิกออฟวัคซีน ภาพรวมไปได้สวย 7 มิ.ย. ฉีดได้ 416,847 โดส 8 มิ.ย.ได้ 472,128 โดส 9 มิ.ย.ได้ 336,674 โดส 10 มิ.ย.ได้ 223,315 โดส และ 11 มิ.ย.ได้ 308,012 โดส ที่แผ่วลงไปไม่ใช่เพราะแรงตก แต่เพราะวัคซีนหมด สัปดาห์ที่ 14-20 มิ.ย.นี้ จะเป็นสัปดาห์แห่งความโกลาหลในการแก้ปัญหาหน้างานเช่นเดิม เพราะวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 1.5 ล้านโดส ที่รับปากว่าจะมาให้ทันฉีดในวันจันทร์ที่ 14 มิ.ย.นั้น ส่งมอบไม่ทัน กำหนดส่งเป็น 16-18 มิ.ย. ทางศบค.กำลังเจรจาขอให้ส่งเร็วขึ้นเป็น 15 หรือ 16 มิ.ย.เร็วขึ้น 1 วันก็ยังดี

แอสตร้าฯ 1.5 ล้านโดสนี้ ต้องใช้สำหรับ 2 สัปดาห์อีกต่างหาก เพราะล็อตอีก 1.5 ล้านโดสสุดท้ายของเดือนมิ.ย. กำหนดส่งมอบไกลไปถึงวันจันทร์ที่ 28 มิ.ย.กว่าจะมาก็ สิ้นเดือน จึงกลายเป็นสองสัปดาห์ที่ประชาชนหวังแต่มีวัคซีนให้ฉีดไม่พอมือ

ไกลๆ นั้นยังมีความไม่แน่นอนสูง ใกล้ๆ นี่คือของจริง เมื่อแอสตร้าฯ มาช้ากว่าซิโนแวคจึงต้องรับบทหนัก มาเป็นวัคซีนขัดตาทัพเช่นเดิม นำเข้ามาได้อีก 1 ล้านโดส แต่รอบนี้จะสาหัสกว่าเก่า เพราะข้อเสียเปรียบของซิโนแวค เมื่อเทียบกับแอสตร้าฯคือ ซิโนแวคต้องนัดเข็ม 2 ห่างไป 3 สัปดาห์ ไม่ใช่ 16 สัปดาห์เหมือนแอสตร้าฯ ทำให้ซิโนแวคที่ได้มาไม่สามารถเอามาฉีดให้ผู้จองวัคซีนรายใหม่ได้ทั้งหมด จึงต้องเก็บไว้ปิดเข็มสองด้วย

ติงรัฐไม่แถลงความจริง

โดยสรุป สัปดาห์ที่ 14-20 มิ.ย. บางจังหวัดจะมีวัคซีนเพียงพอ เพราะมีเหลือมาจากสัปดาห์แรกมาสมทบ บางจังหวัดที่ยอดจองหมอพร้อมน้อยจะได้วัคซีนมาปริ่มๆ พอกับยอดจอง แต่หลายจังหวัดที่ยอดจองหมอพร้อมมีมากจะได้วัคซีนไม่พอ พอจัดสรรลงระดับอำเภอก็ยิ่งโกลาหล การแจ้งเลื่อนการฉีดวัคซีนจึงจะมีให้เห็นทั่วไป ซึ่งคาดว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุขจะทำใจได้บ้างแล้ว

ปรากฏการณ์ชัดๆ ที่สะท้อนว่าวัคซีนไม่มี ก็คือ การประกาศปิดชั่วคราวเพื่อปรับปรุงศูนย์ฉีดวัคซีนโควิดเพื่อผู้ประกันตนมาตรา 33 ของสำนักงานประกันสังคม โดยกำหนดเปิดอีกครั้ง 28 มิ.ย. แท้จริงที่ปิดเพราะไม่มีวัคซีนจะฉีดให้ ส่วนที่จะเปิด 28 มิ.ย.นั้น ตรงกับการเข้ามาของแอสตร้าฯ ล็อตสุดท้ายของเดือนนี้พอดีเลย บัดนี้สำนักงานประกันสังคมก็ติดเชื้อรัฐบาล พูดความจริงไม่เป็นแล้ว เช่นกัน

ผู้ใหญ่ในรัฐบาลควรจะแถลงยอมรับ ความจริง สร้างความเข้าใจกับประชาชน และเอื้อให้หน้างาน บริหารจัดการวัคซีนได้โดยไม่ต้องเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่องดังเช่นที่ผ่านมา อาทิ ขอให้ฉีดช้าๆ เพื่อให้ได้ฉีด ทุกวัน หรือห้ามประกาศเลื่อนโฉ่งฉ่างแต่ถ้าเลื่อนก็ให้เงียบๆ รวมทั้งการห้ามพูดห้าม ให้ข่าว ออกสื่อ เป็นต้น

สมาชิกชมรมแพทย์ชนบทเราคุยกัน ด้วยก็มีความงงอยู่ประการสำคัญคือ ทำไมรัฐบาลหรือ ศบค.ไม่แถลงความจริง ซึ่งก็ไม่ได้ เสียหายอะไรมากมายเลย มิเช่นนั้น ชมรมแพทย์ชนบทก็จะทำหน้าที่ ศบค.เงา แถลงแจ้งข่าวบอกเล่าความจริงต่อสาธารณะแทนไปก่อน จนกว่า ศบค.จะทำหน้าที่นี้ก็แล้วกัน

จับผับทองหล่อไม่สนโควิด

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น., พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5 พ.ต.อ.กัมปนาท อรุณคีรีโรจน์ รรท.ผกก.สน.ทองหล่อ และ พ.ต.ท.ธนาธิป ชมภูนิช สวป.สน.ทองหล่อ รรท.รอง ผกก.ป.สน.ทองหล่อ จับกุมร้านแบล็คคลับ ทองหล่อ ซ.7 เปิดบริการในช่วงเวลา 01.00 น. พบกลุ่มคนกำลังมั่วสุมดื่มสุราและเปิดเพลงเสียงดังภายในร้านดังกล่าว เป็น ชาย 18 คน หญิง 13 คน รวม 31 คน จึงได้จับกุมในข้อหา “ร่วมกันชุมนุม, ทำกิจกรรม หรือมั่วสุมกันในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค” พร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามกฎหมาย และนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ต่อมาภายหลังพนักงานอัยการนำตัว 31 นักเที่ยวชาย-หญิงมั่วสุมดื่มเหล้าผับย่านทองหล่อ ยื่นฟ้องด้วยวาจาต่อศาลเเขวงพระนครใต้เเล้ว จำเลยทั้งหมดให้การรับสารภาพ ศาลพิพากษาจำคุก คนละ 1 เดือน ปรับคนละ 1 หมื่นบาท จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยคนละ 15 วัน ปรับคนละ 5 พันบาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี

คลายล็อก 5 กิจการกทม.

ช่วงค่ำวันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ โพสต์ข้อความฝนเฟซบุ๊ก “ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha” ระบุว่า ในฐานะนายกฯ และผอ.ศบค. หน้าที่สำคัญของคือการสั่งการและวางนโยบายเพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดให้ดีที่สุด แต่ต้องดำเนินการไปด้วยความสมดุลกับความเป็นอยู่ของประชาชน และการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน ซึ่งตนได้ติดตามสถานการณ์และปรึกษากับผู้เกี่ยวข้องต่างๆ ตลอดเวลา เพื่อตัดสินใจที่จะเกิดประโยชน์ที่สุดกับประเทศส่วนรวม ดังนั้น ในวันนี้ตนจึงมี 2 เรื่องสำคัญที่จะมาแจ้งดังนี้

1.หลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบร่วมกับทุกฝ่าย ทั้งกรุงเทพมหานคร กระทรวงสาธารณสุข และ ศบค. ในฐานะผอ.ศบค.จึงเห็นว่าข้อเสนอของกรุงเทพฯ ขอผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคสำหรับสถานที่ 5 ประเภทในเขตกรุงเทพฯ ที่เคยขอมาก่อนนั้น ให้มีการผ่อนคลายได้ตามเงื่อนไขที่ขอมา เนื่องจากการแพร่ระบาดอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ประกอบกับที่มีประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ เริ่มได้รับการฉีดวัคซีนเป็นจำนวนพอสมควร โดยเฉพาะผู้ประกอบอาชีพในกิจการดังกล่าวข้างต้น ซึ่งสถานที่ทั้ง 5 ประเภทนั้นประกอบด้วย 1.พิพิธภัณฑ์ และโบราณสถานต่างๆ 2.สวนสาธารณะ สวนพฤกษศาสตร์ต่างๆ 3.คลินิกเสริมความงาม 4.สถานประกอบการนวดเพื่อสุขภาพ (อนุญาตเฉพาะนวดฝ่าเท้า) และ5.ร้านทำเล็บและร้านสัก

โดยการผ่อนคลายนี้จะมีผลตั้งแต่วันจันทร์ที่ 14 มิ.ย.นี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ซึ่งทางกรุงเทพมหานคร จะออกประกาศแนบท้ายซึ่งเป็นมาตรการป้องกันโรค เพื่อให้สถานที่ทั้ง 5 ประเภทนี้ได้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และอาจถูกสั่งปิดได้หากไม่ปฏิบัติตาม

2.โครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” เป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากข้อสั่งการของตน ในการหาหนทางทดลองเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเข้ามาโดยไม่ต้องกักตัว เพื่อฟื้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เป็นรายได้หลักของประเทศมาตลอด โดยพื้นที่ที่เหมาะสมที่สุดนั่นคือจังหวัดภูเก็ต ที่เป็นทั้งแหล่ง ท่องเที่ยวและเป็นเกาะที่สามารถควบคุมการเข้าออกได้ ดังนั้นเราจึงมีการเตรียมความพร้อมด้วยการระดมฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในภูเก็ต ซึ่งในวันนี้ฉีดไปมากกว่า 70% ของประชากรทั้งจังหวัดแล้ว โดยเฉพาะพี่น้องในภาคการท่องเที่ยวที่เราจะฉีดให้ครบ 100% ซึ่งจะเปิดรับเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ และต้องพักอาศัยในภูเก็ตอย่างน้อย 14 วันก่อนจะไปท่องเที่ยวในพื้นที่อื่นต่อได้ และจะมีระบบตรวจโรคและติดตามตัวอย่างเข้มงวดด้วย

โดยโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” นี้ได้ผ่านการพิจารณาจากศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) และคณะรัฐมนตรีได้รับทราบเบื้องต้นแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการปรับปรุงรายละเอียดเพื่อให้ ศบค. และ ครม.อนุมัติอย่างเป็นทางการ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มได้ในวันที่ 1 กรกฎาคม นี้ และจะเป็นต้นแบบให้กับพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ต่อไป

สำหรับส่วนกิจการอื่นๆ เช่น ร้านอาหาร หรือพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่ยังมีเงื่อนไขการปิดสถานที่ หรือมีข้อจำกัดต่างๆ ผมและศบค. มีการประเมินสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา โดยคำนึงถึงทั้งความปลอดภัยทางสาธารณสุขและการดำเนินชีวิตของพี่น้องประชาชน และจะประกาศให้ทราบทันทีที่มีมติในการเปลี่ยนแปลงครับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน