1.6โลซุกไปรษณีย์
สกัดได้ที่สุวรรณภูมิ

ยึดเฮโรอีน 1.65 ก.ก. ป.ป.ส.จับคาสนามบินสุวรรณภูมิ ซุกกล่องพัสดุส่งไปออสเตรเลีย ขยายผลสกัดส่งนอกได้มากถึง 19 คดี รัฐบาลชูผลงานช่วงต.ค. 2563 – มิ.ย. 2564 ยึดยาบ้า 344 ล้านเม็ด ไอซ์ 20,662 ก.ก. เฮโรอีน 2,760 ก.ก. ยาอี 2.8 แสนเม็ด จับเตรียมส่งต่างประเทศรวม 84 คดี เป็นยาบ้า 3.9 หมื่นเม็ด ไอซ์ 72 ก.ก. เฮโรอีน 286 ก.ก. ยาอีเกือบ 2 พันเม็ด ยึดทรัพย์ ช่วงสามไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 64 กว่า 4.5 พันล้านบาท เตรียมถก 6 ชาติลุ่มน้ำโขง ร่วมแก้ปัญหา 5 ก.ค.นี้

สกัดทัน – ชุดสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าอากาศยาน ตรวจยึดพัสดุไปรษณีย์ต้องสงสัย ภายในบรรจุเฮโรอีนหนัก 1,650 กรัม ซุกซ่อนไว้ในปกสมุดบันทึก 9 เล่ม ที่จะส่งไปประเทศออสเตรเลีย ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.

เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม ยาเสพติด (ป.ป.ส.) เปิดเผยว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ให้เร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ข้ามชาติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและขยายผลถึงต้นตอ ใช้มาตรการริบทรัพย์สินดำเนินการตามกฎหมายตามนโยบายของรัฐบาล

โดยวันที่ 12 มิ.ย. ชุดปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าอากาศยาน (Airport interdiction task force) ประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ร่วมกับ บช.ปส. ศุลกากร และศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย สืบสวนทราบว่าจะมีการลักลอบส่งยาเสพติดไปประเทศออสเตรเลีย กระทั่งตรวจยึดเฮโรอีน 1,650 กรัม ที่ซุกซ่อนอยู่ในปกสมุดบันทึก จำนวน 9 เล่ม ซึ่งเป็นกล่องไปรษณีย์พัสดุด่วนพิเศษระหว่างประเทศ (อีเอ็มเอส) จำนวน 2 กล่อง ระบุชื่อที่อยู่ผู้ส่งคนเดียวกัน ส่งมาจากไปรษณีย์สมุทรปราการและสำโรงใต้ ก่อนส่งต่อไปประเทศออสเตรเลีย เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดของกลางเพื่อดำเนินคดีต่อไป

ทั้งนี้ สถิติการตรวจยึดพัสดุไปรษณีย์ที่จะส่งออกไปต่างประเทศ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ถึงปัจจุบัน พบว่ามีพัสดุที่ตรวจยึดก่อนส่งไปออสเตรเลีย 19 คดี เช่น คดียาเสพติด ยาไอซ์ จำนวน 24.70 กิโลกรัม เฮโรอีน 61.04 กิโลกรัม สำหรับคดีนี้เป็นคดีล่าสุดที่ชุดสืบสวน ขยายผลไปยังกลุ่มผู้ส่ง โดยอยู่ระหว่างประสาน ข้อมูลกับตำรวจออสเตรเลียให้ดำเนินการ ในส่วนของผู้รับปลายทางด้วย

วันเดียวกัน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษก ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าในช่วงที่ผ่านมามีการรายงานข่าวการจับกุมผู้ต้องหาขบวนการค้ายาเสพติดเครือข่ายข้ามพรมแดนและข้ามชาติในหลายกรณี แสดงให้เห็นถึงการดำเนินการด้านการป้องกันและปราบปราม ยาเสพติดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นการทำงานร่วมกันของหลายภาคส่วน

ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองทัพไทย ตำรวจปรามปรามยาเสพติด กรมศุลกากร เครือข่ายภาคประชาชน และหน่วยงานต่างประเทศ เป็นต้น สถิติการตรวจยึด นับตั้งแต่ปี 2562 มีปริมาณมากขึ้น โดยเฉพาะยาไอซ์และเฮโรอีนที่นำเข้าเพื่อส่งผ่านไปยังต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฮ่องกง ถือเป็นปัญหาร่วมกันของประเทศ ในภูมิภาค

รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวต่อว่ารัฐบาลโดยสำนักงาน ป.ป.ส. ประสานความร่วมมือกับประเทศลุ่มน้ำโขง 6 ประเทศ คือ จีน เมียนมา ลาว กัมพูชา เวียดนาม และไทย และสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรม แห่งสหประชาชาติ (UNODC) เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาในวันที่ 5 ก.ค.นี้ สำหรับสถิติการจับกุมยาเสพติดในประเทศไทยตั้งแต่เดือน ต.ค. 2563 – มิ.ย. 2564 ยึดยาบ้า 344 ล้านเม็ด ไอซ์ 20,662 ก.ก. เฮโรอีน 2,760 ก.ก. และยาอี 279,868 เม็ด รวมทั้งจับกุมยาเสพติดที่เตรียมส่งออกไปยังต่างประเทศ รวม 84 คดี

เป็นยาบ้า 39,002 เม็ด ไอซ์ 72.08 ก.ก. เฮโรอีน 285.69 ก.ก. ยาอี 1,922 เม็ด นอกจากดำเนินการจับกุมแล้ว กระทรวงยุติธรรมยังทำงานเชิงรุกเรื่องการขยายผลการยึดทรัพย์ผู้กระทำผิดคดียาเสพติด ส่งผลให้ตัวเลขการยึดทรัพย์ในสามไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2564 มีมูลค่า 4,549 ล้านบาท มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วถึง 3,480 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงยุติธรรมตั้งเป้ายึดทรัพย์ให้ได้ทั้งปี 6,000 ล้านบาท

น.ส.รัชดากล่าวว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้ความสำคัญ ในการปราบปรามปัญหายาเสพติด ถือเป็นนโยบายเร่งด่วนและวาระแห่งชาติ สนับสนุนงบประมาณสำหรับยกระดับเครื่องมืออุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการเอาผิดยึดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้อง พร้อมปรับปรุงกฎหมาย โดยครม. ผ่านร่างกฎหมาย 3 ฉบับ

ขณะนี้รอการเห็นชอบจากรัฐสภา ประกอบด้วย ร่างพ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด ร่างพ.ร.บ.ประมวลกฎหมายคดียาเสพติด และร่างพ.ร.บ.คดี ยาเสพติด มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการกำหนดอัตราโทษใหม่ที่เหมาะสม การขยายผลการ ยึดทรัพย์ ส่งผลทำให้การตัดวงจรและทำลายเครือข่ายยาเสพติดสะดวกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน