อธิบดีสรรพสามิตสั่งย้ายด่วน 6 เจ้าหน้าที่เซ่นล่อจับแม่ค้าน้ำส้ม 500 ขวด ตั้งกรรมการสอบ 15 วันรู้ผล โฆษกกรมแจงยังไม่ชี้ว่าผิด ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย หากผลสอบมีมูลจะฟันวินัยด้วย สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นป.ป.ช. ไต่สวนวินิจฉัยปมล่อซื้อล่อจับ อาจเข้าข่ายทุจริต ตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Ni Pornnipa ได้โพสต์เผยแพร่เรื่องราว หลังถูกล่อซื้อน้ำส้มจำนวน 500 ขวด ก่อนที่จะโดนถามหาใบอนุญาต พร้อมปรับเงิน 12,000 บาท ต่อมานายณัฐกร อุเทนสุต โฆษกกรมสรรพสามิตแถลงว่าไม่มีการเรียกรับเงิน เป็นเพียงการแนะนำแม่ค้าให้เข้ามาอยู่ในระบบภาษี ตามข่าวที่เสนอมานั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. รายงานข่าว แจ้งว่า นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต ได้เซ็นคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ จำนวน 5 นาย จากสรรพสามิตเขต 5 และคนรถ 1 นาย รวมทั้งหมดเป็น 6 นาย มาปฏิบัติงานที่สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 10 พร้อมตั้ง คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าวแล้ว
นายณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต กล่าวว่า กรมสรรพสามิตได้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนหาข้อเท็จจริง กรอบระยะเวลาการสืบสวน 15 วัน เพื่อสรุปกรณีดังกล่าว หากพบว่ามีความผิด ไม่ได้ปฏิบัติตามระเบียบราชการจริง จะตั้งคณะกรรมการสอบทางวินัยต่อไป โดยระหว่างนี้ให้เจ้าหน้าที่สรรพสามิตทั้ง 6 ราย มาปฏิบัติหน้าที่สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 10 เพื่อสร้างความเป็นธรรมของทั้ง 2 ฝ่าย โดยจะยึดหลักความถูกต้องและข้อเท็จจริงทั้งหมด ซึ่งการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในชั้นนี้ เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ยังไม่ได้มีการยืนยันความผิด ซึ่งเมื่อครบ 15 วัน กรมจะชี้แจงผลการสืบสวนต่อสาธารณชนอีกครั้ง
รายงานข่าวจากกรมสรรพสามิต ระบุว่า การให้ 6 เจ้าหน้าที่มาปฏิบัติหน้าที่ที่สรรพสามิตภาค 10 เป็นกรณีชั่วคราว หากผลการสอบสวนพบว่า ไม่มีความผิด หรือ ขัดต่อระเบียบราชการ ก็กลับไปทำงานปกติที่สรรพสามิตเขต 5 ได้ ยืนยันว่า คำสั่ง ไม่ได้เป็นการเด้งพ้นจากตำแหน่ง หรือคำสั่งย้ายแต่อย่างใด
ที่สำนักงานป.ป.ช. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตทั้ง 5 ว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเคยมีแนวทางการพิจารณาคดีของศาลปรากฏมาแล้วว่า การล่อซื้อที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายจะถือว่าผู้ถูกจับไม่ได้กระทำความผิดกฎหมาย ซึ่งศาลตีความว่า เป็นการกระทำผิดเพราะกลอุบายของเจ้าหน้าที่รัฐ หรือผู้ที่อ้างตนว่าเป็นผู้เสียหาย ล่อลวงให้ผู้ถูกจับกระทำผิดกฎหมาย ตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4301/2543 ที่4077/2549 และที่ 9600/2554
นายศรีสุวรรณกล่าวว่า สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงนำความมาร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา234(2) ประกอบ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 มาตรา28(2) เพื่อไต่สวนและวินิจฉัยว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เพื่อดำเนินการต่อไป ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
