คาร์ม็อบนัดอีก วันเสารไล่‘ตู่’

ตร.จ่อตั้งข้อหา
ยื่นถอนประกัน

ตร.จ่อตั้ง 4 ข้อหา แกนนำ 3 ม็อบไล่รัฐบาล สน.นางเลิ้งเตรียมออกหมายเรียก ‘จตุพร- ทนายนกเขา’รับทราบ 2 ข้อกล่าวหาคดีชุมนุม พร้อมยื่นถอนประกัน 5 แกนนำกลุ่มราษฎร ผิดเงื่อนไขศาล บ.ก.ลายจุดนัดอีก ‘คาร์ม็อบ’ เสาร์ที่ 10 ก.ค. ชี้ไทยมีเชื้อโรค 2 ตัวคือ โควิด-ประยุทธ์ ที่ต้องเร่งจำกัด กลุ่มโมกหลวงริมน้ำจัดกิจกรรม กลางสะพานชมัยมรุเชฐ ครบ 1 ปี 1 เดือน อุ้มหาย ‘วันเฉลิม’

วันที่ 4 ก.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนคร บาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษก บช.น. กล่าวถึงการชุมนุมของมวลชน 3 กลุ่ม เพื่อขับไล่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า ภาพรวมการชุมนุมของมวลชนทุกกลุ่มอยู่ในเกณฑ์ ดี แต่พนักงานสอบสวนยังต้องสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ถอดเทปคำปราศรัย และดูพฤติกรรมของมวลชนทั้ง 3 กลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มของนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย กลุ่มของนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มไทยไม่ทน และกลุ่มของนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุด ที่จัดกิจกรรม “แฟลชม็อบ สมบัติทัวร์” แยกขบวนจากกลุ่มไทยไม่ทน ไปชุมนุมต่อที่แยกราชประสงค์

โฆษกบช.น. กล่าวว่า เบื้องต้นแกนนำทุกกลุ่มเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.ควบคุมโรค พ.ร.บ.ความสะอาด และพ.ร.บ.จราจรทางบก เป็น 4 ข้อหาหลักอยู่แล้ว แต่พนักงานสอบสวนกำลังพิจารณาว่า พฤติกรรมและการปราศรัยของแกนนำจะเข้าข่ายข้อหาอื่นๆ เพิ่มเติมอีกหรือไม่ ใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานก่อนออกหมายเรียก เนื่องจากพนักงานสอบสวนต้องการแจ้งข้อหาทั้งหมดในคราวเดียว เพื่อไม่ต้องการให้เกิดเป็นประเด็นว่าเป็นเกมการเมือง เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสน.นางเลิ้ง เตรียมออกหมายเรียกทนายนกเขากับพวก และนายจตุพรกับพวก เข้ารับทราบข้อกล่าวหาคดีการชุมนุมเมื่อวันที่ 24 และ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา คนละ 2 ข้อหา ภายในสัปดาห์หน้า

“ส่วนกระแสข่าวว่าตำรวจยื่นเพิกถอนการประกันตัวแกนนำกลุ่มราษฎร ที่ได้รับการประกันตัวออกมา โดยติดเงื่อนไขศาลที่ต้องไม่ทำกิจกรรมที่กระทบความเสื่อมเสียต่อสถาบัน และไม่ร่วมการชุมนุมที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง พล.ต.ต. สุคุณ พรหมายน รองผบช.น. ได้พิจารณาพฤติกรรมของแกนนำที่ได้รับการประกันตัวโดยติดเงื่อนไขศาลแล้วพบว่า มีแกนนำที่ฝ่าฝืนเงื่อนไข 5 คน ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการร่วมชุมนุมในลักษณะมั่วสุม หรือการปราศรัยพาดพิง เข้าข่ายละเมิดเงื่อนไขศาล ซึ่งตำรวจได้เตือนผ่านทุกช่องทาง แต่ยังมีการฝ่าฝืน ละเมิดเงื่อนไขที่ศาลตั้งไว้ ดังนั้น พนักงานสอบสวนจึงยื่นคำขอเพิกถอนประกันแกนนำ โดยส่งให้พนักงานอัยการเรียบร้อยแล้ว และอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการของพนักงานอัยการ ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดว่ามีใครบ้าง” พล.ต.ต.ปิยะกล่าว

มีรายงานว่า สำหรับแกนนำกลุ่มราษฎรที่ได้รับการประกันตัวและติดเงื่อนไข ได้แก่ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธ์ หรือแอมมี่ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นายอานนท์ นำภา นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือหมอลำแบงค์ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข น.ส. ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือน้องมายด์ ทั้งหมดถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 และ 116

ขณะที่นายสมบัติ บุญงามอนงค์ แกนนอนกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง โพสต์เฟซบุ๊กหลังจัดกิจกรรม “คาร์ม็อบ” เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา มีรถยนต์เข้าร่วมกว่า 500 คัน โดยประกาศจะจัดอีกครั้งในวันเสาร์ที่ 10 ก.ค. โควิดแม้จะน่ากลัว แต่ความสามารถในการบริหารของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ น่ากลัวไม่น้อยกว่า ความหายนะที่บังเกิดขึ้นต่อเบื้องหน้าของพวกเรายามนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากหลายปัจจัย ล้วนเชื่อมโยงถึงพล.อ.ประยุทธ์ เพราะนอกจากเป็นผู้นำประเทศที่ไร้ความสามารถแล้ว ยังกระทำตนเป็นอุปสรรคต่อการจัดการปัญหาด้วย

“ประหนึ่งประเทศชาติตอนนี้ มีเชื้อโรคที่ต้องกำจัดถึง 2 ตัวด้วยกัน โควิดและประยุทธ์ โควิดนั้นแทรกตัวเป็นส่วนหนึ่งของเซลล์ แต่ประยุทธ์แทรกตัวเป็นส่วนหนึ่งของอำนาจทางการเมืองและยึดกุมอำนาจรัฐ ขอให้ประชาชนร่วมใจกันกำจัดโควิดและขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ออกจากอำนาจ เพื่อประเทศชาติจะหลุดจากความตกต่ำอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเยี่ยงนี้ พบกันเสาร์ที่ 10 ก.ค.64 นัดใหญ่คาร์ม็อบ” นายสมบัติระบุ

ทวงอุ้มหาย – กลุ่ม ‘โมกหลวงริมน้ำ’ จัดกิจกรรม ‘คืน-ยุติธรรม’ เนื่องในวาระครบ 1 ปี 1 เดือนการอุ้มหายนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักเคลื่อนไหวซึ่งลี้ภัยอยู่ที่ประเทศกัมพูชา ที่บริเวณถนนพระรามที่ 5 ข้างทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 4 ก.ค.

เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ถนนพระรามที่ 5 ข้างทำเนียบรัฐบาล กลุ่มโมกหลวงริมน้ำจัดกิจกรรม ‘คืน-ยุติธรรม’ เนื่องในวาระครบ 1 ปี 1 เดือนการอุ้มหายนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักเคลื่อนไหวซึ่งลี้ภัยอยู่ที่ประเทศกัมพูชา โดยนำป้ายผ้ามีข้อความต่างๆ ผูกริมกำแพงมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร อาทิ รัฐล้มเหลว, ประชาธิปไตยจอมปลอม, ประยุทธ์ออกไป เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้ร่วมกิจกรรมบางส่วนนำป้ายแขวนคอ มีข้อความวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล อาทิ ไหนว่า 120 วันจะเปิดประเทศ ล็อกดาวน์ทำ…? และประยุทธ์ออกไป นะจ๊ะ

ทั้งนี้ บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐมีการขึงป้ายผ้ามีข้อความว่า ไม่ควรมีใครถูกคุกคาม เพียงเพราะความเห็นต่าง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสน.นางเลิ้งมายืนสังเกตการณ์

ต่อมาเวลา 18.00 น. ผู้ร่วมกิจกรรมยืนชู 3 นิ้วร้องเพลงชาติหันหน้าสู่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนอ่านประวัตินักต่อสู้ในอดีตที่ถูกคุกคามโดยรัฐ อาทิ นายเตียง ศิริขันธ์, นายทนง โพธิ์อ่าน, นายสมชาย นีละไพจิตร และนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ เป็นต้น จากนั้นอ่านรายชื่อและเรื่องราวของบุคคลที่ถูกอุ้มหายในช่วงรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ อาทิ นายเด่น คำแหล้, นายอิทธิพล สุขแป้น หรือดีเจซุนโฮ ซึ่งลี้ภัยอยู่ที่ สปป.ลาว และนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นมีการเสวนาเกี่ยวกับเหตุการณ์ถูกข่มขู่คุกคามในรูปแบบต่างๆ และยุติลงในเวลา 21.30 น.