ปิดชุมชนบางบัวทอง ติดแล้ว22 พ่อค้าส้มตำทั้งบ้าน

รอเตียง4คน-ใกล้โคม่า
10จว.วิกฤต-วันละกว่า200
ผ่อน4ก่อสร้าง-ย้ายแรงงาน
ภูเก็ตเจอจุดเสี่ยงร้านดัง

บิ๊กตู่คลายล็อกก่อสร้าง 4 ประเภท เคลื่อนย้ายแรงงานได้ตามความจำเป็นในจุดที่ต้องสร้างต่อ ป้องกันโครงสร้างดินถล่ม ศบค.แถลง 10 จังหวัดวิกฤตหนัก วันเดียวยอดติดโควิดพุ่งเกิน 200 ราย ยอดป่วยพุ่ง 5,916 ราย อยู่ร.พ.เกือบ 6 หมื่น 5 จังหวัดเจอคลัสเตอร์ใหม่ กทม.-ตาก-มหาชัย-นนทบุรี-กระบี่ พ่อค้าส้มตำบางบัวทอง นนทบุรี ร้องขอความช่วยเหลือ ติดโควิดยกบ้าน 4 คน แต่เตียงเต็ม อาการเริ่มหนักขึ้นทุกที ห่วงพ่อกับลูก 2 ขวบที่ป่วยด้วย ด้านชาวพิมลราชตั้งด่านคัดกรองคนเข้า-ออก หลังคนในชุมชน 22 รายติด โควิด ต้องกักตัวอีก 30 คนเสี่ยงสูงอยู่บ้าน ขณะที่เมืองชลบุรีปิดเพิ่มอีกตลาดบุรีบริบาล สกัดเป็นคลัสเตอร์ใหม่ พบพ่อค้าแม่ค้า ติดเชื้อแล้ว 10 ราย อนุทินแจงเปิด ร.พ.บุษราคัม เฟส 3 อีก 1,500 เตียง รองรับป่วยหนักรออยู่บ้าน จ่อให้ประสานส่งต่อ ผู้ป่วยเข้ามาจัดรถไปรับที่บ้าน แต่ไม่รับวอล์กอิน สะเทือนปราสาททราย ภูเก็ตเจอ จุดเสี่ยงร้านกาแฟดัง-เที่ยวบิน สั่งตรวจ เชื้อด่วน

ป่วย 5,916-ตาย 44

เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ โควิด-19 ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อใหม่ 5,916 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 5,871 ราย เรือนจำ 39 ราย จากต่างประเทศ 6 ราย รักษาหายเพิ่ม 3,404 ราย เสียชีวิต 44 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 283,067 ราย หายป่วย 220,903 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 59,938 ราย อยู่ในร.พ. 30,145 ราย ร.พ.สนาม 29,793 ราย อาการหนัก 2,147 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 616 ราย

ผู้เสียชีวิต 44 ราย มาจากกทม. 30 ราย สมุทรปราการ 3 ราย ยะลา นครปฐม จังหวัดละ 2 ราย ขอนแก่น ฉะเชิงเทรา ปทุมธานี นราธิวาส ประจวบคีรีขันธ์ พระนครศรีอยุธยา และนครศรีธรรมราช จังหวัดละ 1 ราย เป็นชาย 24 ราย หญิง 20 ราย อายุต่ำสุด 34 ปี สูงสุด 91 ปี อายุกลาง 66.5 ปี โรคประจำตัวหลักคือความดันโลหิตสูง เบาหวาน และไขมันในเลือดสูง ติดเชื้อจากคนในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน ผู้ดูแล ไปในพื้นที่ระบาด

ส่วนการติดเชื้อมาจากต่างประเทศ 6 ราย มาจากคูเวต 2 ราย และกัมพูชา 4 ราย เข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ 1 ราย เป็นหญิงไทยอายุ 27 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป

10 จว.ติดเชื้อพุ่ง 200 วันแรก

สำหรับการติดเชื้อสูงสุด 10 จังหวัดวันนี้มีสถิติเกิน 200 รายทั้งหมดเป็นวันแรก ได้แก่ 1.กทม. 1,498 ราย สะสม 80,515 ราย 2.ปทุมธานี 458 ราย สะสม 9,403 ราย 3.สมุทรปราการ 412 ราย สะสม 18,850 ราย 4.สมุทรสาคร 395 ราย สะสม 9,222 ราย 5.ชลบุรี 275 ราย สะสม 9,476 ราย 6.นนทบุรี 267 ราย สะสม 12,339 ราย 7.สงขลา 232 ราย สะสม 5,288 ราย 8.นครปฐม 230 ราย สะสม 4,992 ราย 9.ปัตตานี 213 ราย สะสม 2,949 ราย และ 10.ยะลา 205 ราย สะสม 2,540 ราย

เชิงรุก – เจ้าหน้าที่สาธารณสุขตรวจหาเชื้อโควิดเชิงรุกกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้า 499 รายทั้งในตลาดสดและตั้งขายถนน ริมน้ำ ที่ลานจอดรถใต้ศาลาประชาคม ริมแม่น้ำแม่กลอง เทศบาลเมืองบ้านโป่ง จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 4 ก.ค.

5 จว.เจอคลัสเตอร์ใหม่

คลัสเตอร์ใหม่ที่รายงานวันนี้ ได้แก่ 1.สมุทรสาคร บริษัทเครื่องใช้ในครัวเรือน อ.เมือง ติดเชื้อ 15 ราย 2.ชลบุรี บริษัทพิมพ์บรรจุภัณฑ์ อ.พานทอง ติดเชื้อ 16 ราย 3.นนทบุรี แคมป์ก่อสร้าง อ.ไทรน้อย ติดเชื้อ 28 ราย 4.ตาก โรงงานเสื้อผ้า อ.แม่สอด ติดเชื้อ 153 ราย 5.กระบี่ โรงเรียน อ.คลองท่อม ติดเชื้อ 14 ราย

ยอดฉีดวัคซีน 10.6 ล้านโดส

สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 วันที่ 3 ก.ค. ฉีดแล้ว 98,605 โดส ยอดสะสมรวม 10,670,897 โดส เป็นเข็มแรก 7,721,150 ราย คิดเป็น 10.72% ของประชากร และ เข็มสอง 2,949,747 ราย คิดเป็น 4.09% ของประชากร ส่วน กทม.ฉีดเข็มแรก 33.98% ของประชากร

ขณะที่การติดเชื้อทั่วโลกสะสม 184,233,949 ราย เพิ่มขึ้น 379,777 ราย เสียชีวิตสะสม 3,987,322 ราย เพิ่มขึ้น 7,166 ราย โดยสหรัฐอเมริกาติดเชื้อสะสมสูงสุด 34,588,176 ราย อินเดียอันดับสอง 30,544,485 ราย ติดเชื้อรายใหม่สูง 43,296 ราย ส่วนบราซิลติดรายใหม่สูงสุด 54,556 ราย เสียชีวิตสูงสุด 1,631 ราย

อีกล้านโดส – ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้รับวัคซีนซิโนฟาร์มอีก 1 ล้านโดส โดยการบินไทย เที่ยวบินขนส่งสินค้า ทีจี 675 เส้นทางปักกิ่ง-กรุงเทพฯ ลำเลียงจากสาธารณรัฐประชาชนจีนมา ถึงไทย เมื่อวันที่ 4 ก.ค.

ซิโนฟาร์มมาอีกล้านโดส

วันเดียวกัน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยฝ่ายการพาณิชย์สินค้าและไปรษณียภัณฑ์ ร่วมกับฝ่ายบริการคลังสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ ได้ขนส่งวัคซีนซิโนฟาร์ม จำนวน 1 ล้านโดส น้ำหนักรวม 25.6 ตัน ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จากสาธารณรัฐประชาชนจีนมายังประเทศไทย ด้วยเที่ยวบินขนส่งสินค้า เที่ยวบินที่ ทีจี 675 เส้นทางปักกิ่ง-กรุงเทพฯ บินด้วยเครื่องบินแบบโบอิ้ง 777-300ER ออกเดินทางจากจีน เมื่อวันที่ 4 ก.ค. เวลา 06.36 น. (เวลา ท้องถิ่น) ถึงกรุงเทพฯ เวลา 10.10 น.

ตู่ไฟเขียวคลายล็อก 4 ก่อสร้าง

จากกรณีที่มีรายงานข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศบค. ลงนาม อนุมัติในหลักการการอนุญาตให้การก่อสร้าง โครงการก่อสร้างบางประเภท และเคลื่อนย้ายแรงงานในกรณีที่มีความจำเป็น โดยให้มีการผ่อนคลายข้อกำหนดฉบับที่ 25 ซึ่งโครงการก่อสร้างบางประเภทนั้น ได้แก่ 1.โครงการก่อสร้างซึ่งหากหยุดก่อสร้างในทันที หรือการดำเนินการล่าช้าอาจก่อให้เกิดความเสียหายเชิงโครงสร้างด้านวิศวกรรมจนยากต่อการแก้ไข หรือเกิดอันตรายแก่ประชาชนที่สัญจรไปมา หรือชุมชนโดยรอบโครงการก่อสร้างนั้น เช่น โครงการก่อสร้างใต้ดินที่มีความลึก การก่อสร้างชั้นใต้ดินที่ยังไม่ได้เทปูนปิดล้อม

2.การก่อสร้างชั่วคราวซึ่งหยุดการก่อสร้างในทันที หรือดำเนินการล่าช้าจะได้รับความเสียหายจนเกิดอันตรายแก่ประชาชนที่สัญจรไปมา หรือชุมชนโดยรอบโครงการดังกล่าว เช่น นั่งร้าน และแบบรอการเทปูน โดยเฉพาะแผ่นพื้นที่

3.การก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยด้านการจราจร เช่น ไฟสัญญาณจราจร แบริเออร์กั้นช่องจราจร แผ่นเหล็กปิดงานก่อสร้างบนผิวจราจร

และ 4.การก่อสร้างในสถานที่ก่อสร้างที่มีความเกี่ยวข้องกับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ด้านสาธารณสุข เช่น โรงพยาบาลสนาม โรงพยาบาล สถานพยาบาล หรือสถานที่ก่อสร้างอื่นๆ ที่ใช้เพื่อประโยชน์ในการควบคุมโรค

พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผอ.ศปก.ศบค. เปิดเผยเพียงสั้นๆ ว่า เรื่องผ่อนคลายมาตรการบางประเภทก่อสร้าง เป็นจริงตามนั้น ซึ่งอยู่ระหว่างที่ทางกรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑลเร่งออกประกาศ

ผู้ว่าฯต้องออกประกาศเองด้วย

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ตามขั้นตอนหลังจากนายกฯ ในฐานะผอ.ศบค.อนุมัติแล้ว ทางจังหวัดแต่ละจังหวัดจะต้องไปออกประกาศของตัวเองอีกครั้ง หากจังหวัดยังไม่ออกประกาศก็ยังไม่มีผลบังคับใช้ ทั้งนี้ การคลายล็อกดังกล่าวเป็นแค่ชั่วคราว ไม่ใช่ถาวร และเฉพาะบางงานที่ทำให้เกิดอันตรายหากทิ้งไว้ ส่วนการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากข้อกำหนดฉบับที่ 25 นั้น ยังมีการเยียวยาอยู่เหมือนเดิม

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสมช. ในฐานะผอ.ศปก.ศบค. มอบหมายให้นายสรพงศ์ ศรียานงค์ ผู้ช่วยเลขาธิการสมช. ในฐานะกรรมการและเลขานุการ ศปก.ศบค. ทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผวจ. และผู้ว่าฯ กทม. และอีกฉบับหนึ่งถึงผู้ว่าฯกทม.โดยตรง เพื่อแจ้งให้ทราบว่านายกฯ เห็นชอบข้อเสนอ ศปก.ศบค. โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. เป็นต้นไป

เสริมเตียง – เจ้าหน้าที่เร่งขยายศักยภาพโรงพยาบาลบุษราคัม อิมแพค ชาเลนเจอร์ จัดตั้งเตียงสนามเพิ่มขึ้นอีก เพื่อรองรับผู้ป่วยให้ได้มากที่สุดสามารถรองรับได้ถึง 3,700 เตียง หลังโควิดระบาดหนักในพื้นที่กทม.-ปริมณฑล เมื่อวันที่ 4 ก.ค.

‘บุษราคัม’เฟส 3 อีก 1.5 พันเตียง

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมการขยายศักยภาพ ร.พ.บุษราคัม อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ว่า สธ.มีความต้องการที่จะช่วยเหลือสถานการณ์เตียงของ กทม. แบ่งเบาผู้ป่วยจาก กทม. มาที่ ร.พ.บุษราคัม ให้มากที่สุด จึงมาตรวจเยี่ยมความพร้อมการขยายเตียงฮอลล์กลางอีก 1,500 เตียง จากที่ผ่านมาเปิดไปแล้ว 2 ฮอลล์ จำนวน 2,161 เตียง ทำให้เพิ่มศักยภาพรวมประมาณ 3,700 เตียง โดยขณะนี้มีผู้ป่วยสะสม 5,000 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้วกว่า 3,000 ราย มีรักษาอยู่ประมาณ 2,000 ราย และยังมีเตียงสำหรับ ผู้ป่วยสีแดงอีก 12 เตียง

นายอนุทินกล่าวว่า วันนี้ กทม. และปริมณฑลจะมีเตียงเพิ่มขึ้นอีก 1,500 เตียง รวมกับที่เพิ่งเปิด ร.พ.สนามมณฑลทหารบกที่ 11 อีก 180 เตียง ซึ่งมีเตียงไอซียูประมาณ 58 เตียง และบริหารศักยภาพ ร.พ.สนาม ทุกแห่งให้ดีที่สุด ดังนั้น หากประชาชนที่ป่วยอยู่ที่บ้านขอให้ติดต่อมาที่ ร.พ.บุษราคัม เพื่อรอการประสานเรื่องเตียง หากกทม. ได้รับแจ้ง ผู้ป่วยจาก 1669 ก็ไม่ต้องปฏิเสธ ขอให้ประสาน สธ. ที่มีเครือข่ายแพทย์ฉุกเฉินเพื่อจัดรถไปรับผู้ป่วยมาที่นี่ได้ เราต้องพร้อมรับเต็มที่เพื่อไม่ให้มีภาพผู้ป่วยเจ็บอยู่ที่บ้าน

นายอนุทินกล่าวว่า ส่วนผู้ป่วยกลุ่ม สีเขียวที่ยังไม่มีอาการ ทางกรมการแพทย์ได้ออกแนวทางแยกกักตัวเองที่บ้าน เพื่อบริหารสถานการณ์ให้มีความคล่องตัวมากที่สุด ขณะที่กรณีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เราได้เพิ่มตามทรัพยากรที่มีอยู่อย่างเต็มที่ ส่วนของกทม.ต้องฝากสำนักอนามัย (สนอ.) กเพิ่มจุดตรวจให้มากที่สุด สธ.พร้อมสนับสนุนเต็มที่ ขณะนี้จะพบว่าปัญหายังอยู่ที่ กทม.และปริมณฑล ต้องเน้นให้จุดนี้มีการทำงานร่วมมือกันให้มากที่สุด

โต้ให้ 3 หมอเลือกวัคซีน

นายอนุทินกล่าวถึงกรณีที่มีการระบุอ้างคำสัมภาษณ์ว่า อาจารย์แพทย์ 3 ท่าน ได้แก่ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ และ นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ เป็นผู้ประชุมตัดสินใจซื้อวัคซีนโควิด-19 ให้ประเทศไทยจนทั้ง 3 ท่านออกมาปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อว่า เหตุจากผู้สื่อข่าวนำเสนอข่าวไม่ถูกต้อง เพราะอาจารย์ทั้ง 3 ท่านดูแลเรื่องวิชาการ ความปลอดภัยด้านการใช้วัคซีนว่าจะฉีดอย่างไร ใช้อย่างไร ฉีดห่างกันแค่ไหน ใช้ได้ในอายุเท่าไรในแต่ละยี่ห้อ ก็ต้องขอคำแนะนำ ดังนั้น ท่านทั้งหมดไม่ได้เป็นผู้จัดซื้อวัคซีน ไม่ได้เป็นคนสั่งให้ สธ.จัดซื้อ แต่บอกว่าตัวไหนเป็นอย่างไร สถานการณ์แบบนี้ต้องใช้อย่างไรให้เหมาะสม เพราะ สธ.เป็นผู้เสนอเข้าคณะรัฐมนตรี ว่าวัคซีนที่จะมาใช้เป็นอย่างไร จะสั่งเมื่อไร ได้เมื่อไร มีความเหมาะสมอย่างไรที่สั่งซื้อเข้ามา

เมื่อถามถึงนักวิชาการกังวลว่าประเทศ ไทยเข้าสู่การระบาดระลอกที่ 4 นายอนุทินกล่าวว่า เราตั้งรับกับทุกสถานการณ์ พร้อมรับมือตลอดเวลา ไม่ได้ดูว่าระบาดระลอก 1 2 3 หรือ 4 ทุกวันนี้พยายามหาเตียงให้มากที่สุด ผู้บริหารก็ประชุมสร้างความพร้อมทั่วประเทศให้มากที่สุด จัดซื้อเวชาภัณฑ์ วัคซีนป้องกันโรคให้เพียงพอและเร่งฉีดให้ประชาชนมากที่สุด

จวก‘หมอบุญ’ปมวัคซีน

นายอนุทินกล่าวถึงกรณีการสั่งซื้อวัคซีนโควิดทางเลือกว่า เป็นวัคซีนที่ ร.พ.เอกชนจะซื้อมาเพื่อให้ประชาชนที่มีความต้องการจะซื้อ แต่ผู้ผลิตวัคซีนต้องการขายผ่านรัฐบาลเท่านั้น เอกชนจึงไปร้องเรียนนายกฯ จึงเกิดคณะกรรมการจัดหาวัคซีนทางเลือก มี นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร เป็นประธาน สธ.พยายามอำนวยความสะดวก คือ ขึ้นทะเบียนวัคซีนซึ่งดำเนินการแล้ว และองค์การเภสัชกรรม (อภ.) มารองรับเป็นตัวแทน เมื่อผู้ซื้อและผู้ขายตัวจริง คือ ผู้ผลิตวัคซีนและร.พ.เอกชนต้องตกลงเงื่อนไขต่างๆ ให้ได้ก่อน อภ.ก็จะเป็นตัวกลางในนิติกรรมจัดซื้อจัดหามาให้ แต่อภ.ต้องไม่รับความเสี่ยงใดๆ โดยเฉพาะความเสี่ยงด้านการเงิน

โดยผู้จะซื้อต้องตกลงกับผู้จะขายให้ได้แล้วนำเงินที่ได้รับจองวัคซีนมาให้ อภ. เปิดออร์เดอร์สั่งซื้อวัคซีน แต่ไม่ใช่การซื้อมาขายต่อ

เราพยายามอำนวยความสะดวกให้ มาโทษ สธ. หรือ อภ. ไม่ได้เลย ถ้าตัวเองอยากซื้อ อยากทำกำไร นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์ แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จะทำกำไร จะซื้อ ก็ไปเจรจาให้เรียบร้อย แล้วมาบอกว่า มันติดตรงนี้แล้วว่า อภ.ต้องเปิดออร์เดอร์ เรายินดีจะทำให้ แต่อย่ามามือเปล่า ผมให้กรอบนโยบายกับปลัดสธ. ในฐานะประธานบอร์ดอภ. แล้วว่าต้องอำนวยความสะดวกให้มากที่สุด แต่เรื่องรับความเสี่ยง ขึ้นอยู่ กับดุลพินิจของคณะกรรมการ ซึ่งรัฐบาลสั่งการไม่ได้ ตัวนพ.บุญ เป็นหนึ่งในคณะกรรมการวัคซีนทางเลือก อยู่ในคณะเดียวกับ นพ.ปิยะสกล อยู่แล้ว คุยกันตรงนั้น บอกกันตรงนั้น ทำอย่างไรเราก็ทำให้หมด ผมไม่ได้ดื้อ ผมว่านอนสอนง่าย” นายอนุทินกล่าว

ยังไม่รับวอล์กอิน

ด้าน นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ ผอ.ร.พ. บุษราคัม กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดให้วอล์กอินเข้ามา เพราะมีประเด็นเรื่องการคัดกรองผู้ป่วย เนื่องจากบางรายมีการใช้ชุดตรวจเร็ว หาแอนติเจน ซึ่งไม่ได้เป็นมาตรฐาน เจ้าหน้าที่จึงต้องตรวจด้วยวิธี อาร์ที-พีซีอาร์ อีกรอบ เมื่อมาถึงจะคัดกรองอีกครั้ง เพราะเจ้าหน้าที่มีจำกัด ดังนั้นการบริหารจัดการในแต่ละฮอลล์ก็ต่างกัน หากไม่มีระบบที่ชัดเจน และถ้าทุกคนเดินเข้ามาก็จะเกิดความวุ่นวาย ทั้งนี้ กทม.ร่วมกับ ร.พ.ต่างๆ พยายามขยายเตียงอยู่ ดังนั้น การบริหารผ่านกลุ่มเขตจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด

นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าวว่า ข้อมูลวันที่ 3 ก.ค. พบ ผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่เพียง 39 ราย รักษาหายเพิ่ม 552 ราย รวมมีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 1,690 ราย ภาพรวมของสถานการณ์ในวันนี้ มีเรือนจำสีขาวที่ไม่พบการแพร่ระบาด 123 แห่ง ลดลง 1 แห่ง จากเรือนจำพิเศษมีนบุรีที่พบผู้ติดเชื้อจากแดนในของเรือนจำ

วันเดียวกัน พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตมได้เดินทางมายังด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อมอบสิ่งของบำรุงขวัญและเยี่ยมให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ 7 หน่วยงานหลัก ที่ปฏิบัติหน้าที่ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก รวมไปถึงปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนและช่องทางข้ามธรรมชาติ ที่ทุกหน่วยงานหลักมีความเสียสละ ในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด 19 โดยเฉพาะสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ที่ตรวจพบว่ามีการแพร่ระบาดจากพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน จากบุคคลที่ลักลอบข้ามแดนจากช่องทางธรรมชาติ

ปัตตานีพุ่ง 215-ผวาเบตาบุกซ้ำ

ที่จ.ปัตตานี มีรายงานผู้ป่วยใหม่ 215 คน รวมสะสม 2,938 คน รักษาหายแล้ว 1,390 คน และใน 2 วัน เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 15 คนแล้ว และจากการสำรวจเชิงรุกพบว่ามีกลุ่มผู้เสี่ยงสูง ส่งตรวจสว็อบ กว่า 8,000 คน ทั้งนี้ผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย ปัจจุบัน กักตัว 104 คน และต้องจับตาคือ ผู้ที่กำลังจะเดินทางกลับอีกในช่วงเทศกาลวันฮารีรายอ อีดิ้ลอัฎฮา ที่จะถึงในวันที่ 20 ก.ค. ซึ่งอาจนำเชื้อสายพันธุ์เบตาเข้ามาอีก สำหรับสาเหตุที่พบกลุ่มผู้ติดเชื้อสูงอย่างต่อเนื่อง ยังเป็นกลุ่มที่กลับจากกลุ่มมัรกัสยะลา แต่ไม่มารายงานตัว ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะนี้จังหวัดได้กำหนด 9 อำเภอเป็นพื้นที่สีแดง ประกอบด้วย อ.เมือง อ.โคกโพธิ์ อ.ยะหริ่ง อ.ปะนาเระ อ.ทุ่งยางแดง อ.มายอ อ.แม่ลาน อ.กะพ้อ อ.ไม้แก่น สั่งปิดสถานที่เสี่ยง 16 ตำบล, 26 หมู่บ้าน และ 24 มัสยิด และมัสยิดเล็กไม่มีทะเบียน 20 แห่ง ซึ่งยังมีอีกหลายหมู่บ้านที่ตัดสินใจจะปิด โดยผู้นำชุมชนแต่ละหมู่บ้าน ในอำเภอต่างๆ ได้ประชุมร่วมกับประชาชน เนื่องจากจังหวัดมีแผนที่จะปิดหมู่บ้านอีก เนื่องจากมีคนป่วยที่ไม่แสดงอาการอยู่ในหลายหมู่บ้าน ทำให้ทุกคนไม่กล้าออกจากบ้าน ได้เริ่มซื้อของตุนไว้ที่บ้านแล้ว

เสริมเตียง – เจ้าหน้าที่เร่งจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม 100 เตียง ที่อาคารชาติชายฮอลล์ ภายในสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา เพื่อรองรับสถานการณ์โรงพยาบาลมหาราชมีผู้ป่วยล้นเตียง เมื่อวันที่ 4 ก.ค.

โคราชจ่อเปิดร.พ.สนามเพิ่ม

ด้านนพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นพ.สสจ. นครราชสีมา ชี้แจงว่า พบผู้ป่วยใหม่ 77 ราย อยู่ในพื้นที่ อ.เมือง 16 ราย อ.ปากช่อง 13 ราย อ.โนนสูง 7 ราย อ.บัวใหญ่ 7 ราย อ.โชคชัย 6 ราย อ.สีคิ้ว 6 ราย อ.ประทาย 5 ราย อ.โนนไทย 3 ราย อ.คง 2 ราย อ.ครบุรี 2 ราย อ.ด่านขุนทด 2 ราย อ.พระทองคำ 2 ราย อ.ขามทะเลสอ 1 ราย อ.ขามสะแกแสง 1 ราย อ.เฉลิมพระเกียรติ 1 ราย อ.ชุมพวง 1 ราย อ.ปักธงชัย 1 ราย และ อ.พิมาย 1 ราย รวมยอดสะสม 1,435 ราย รักษาหาย 999 ราย ยังรักษาตัวอยู่ 418 ราย และเสียชีวิต 17 ราย

จากการสอบสวนโรคเบื้องต้นมีประวัติสัมผัสผู้ป่วย 33 ราย เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงกรุงเทพมหานคร 23 ราย จ.สมุทรปราการ 10 ราย จ.ปทุมธานี 3 ราย จ.นนทบุรี 2 ราย จ.นครปฐม 1 ราย จ.ตราด 1 ราย จ.ระยอง 1 ราย จ.สระบุรี 1 ราย และอยู่ระหว่างการสอบสวน 2 ราย

นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผอ.ภารกิจด้านอำนวยการ ร.พ.มหาราช นครราชสีมา กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้การรักษาผู้ป่วย 365 ราย โดยมีจำนวน 75 ราย ภูมิลำเนาเป็นชาวโคราชที่ทำงานในพื้นที่เสี่ยงและมีผลยืนยันติดเชื้อขอเข้ามารับการรักษาตัว โดยบุคลากรได้ช่วยกันปรับพื้นที่หอผู้ป่วยอายุรกรรม ชั้น 7-8-9 อาคารกฟภ. ขยายเตียงผู้ป่วยเพิ่ม 24 เตียง แต่ยังมีผู้ป่วยทยอยเดินทางมาและโรงพยาบาลประจำอำเภอได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบเข้ามารักษาต่อ เนื่องจากมีแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางและเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย ล่าสุดเหลือจำนวน 18 เตียง

กรณีผู้ป่วยเต็มพื้นที่ได้ประสาน ร.พ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) นครราชสีมา และ ร.พ.เทพรัตน์นครราชสีมา พิจารณาให้ใช้พื้นที่อาคารชาติชายฮอลล์ ภายในสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา นครราชสีมา จัดตั้งเป็นร.พ.สนาม 200 เตียงได้

ปิดแคมป์แห่งที่ 3-กัก 60 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในแคมป์คนงานก่อสร้าง ของบริษัทซีวิล มาสเตอร์ คอนสตัคชั่น จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนตัดใหม่สุรนารี 2 ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ได้นำเชือกกั้นไว้โดยรอบแคมป์ เพื่อจำกัดพื้นที่ไม่ให้ใครเข้า ออก ภายหลังจากเมื่อวันที่ 3 ก.ค. ตรวจพบ 17 คนงานติดเชื้อ พร้อมกักตัว 60 คนงาน 14 วัน จากการสอบสวนโรค พบว่ามีความเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์แคมป์คนงานที่กทม. เนื่องจากช่วงปิดแคมป์ก่อสร้าง ได้มีคนงานชาย 1 รายตระเวนหางานในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ต่อมาหัวหน้าคนงานมีอาการป่วย จึงเข้ารับการตรวจหาเชื้อ ผลยืนยันว่าติดเชื้อ ถือเป็นแคมป์คนงาน แห่งที่ 3 ของจังหวัดที่ปิดตามแคมป์ ถนนช้างเผือกซอย 3 ต.ในเมือง และแคมป์กฟภ. อ.เสิงสาง

ภายหลังการประชุมเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา โดยมีนายศตพรรษ เพ็งแจ่มศรี ปลัดอำเภอเมืองนครราชสีมา เป็นประธาน ได้ลงพื้นที่ไปตรวจหอพักแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่บริเวณใกล้แคมป์คนงานก่อสร้างแห่งนี้ เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อ 2 ราย เชื่อมโยงมาจากแคมป์คนงาน มีห้องพักให้เช่าอยู่ 30 ห้อง มีผู้เช่าอยู่กว่า 100 คน เจ้าหน้าที่ สาธารณสุขทต.ปรุใหญ่ ร่วมกับหน่วยกู้ภัยฮุก 31 นำอุปกรณ์ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค มาฉีดพ่นทั่วบริเวณของหอพัก

ตรวจเด็ก – เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าตรวจเชื้อโควิดให้เด็กเล็ก 47 รายและ ผู้ปกครองอีก 80 ราย ภายในศูนย์พัฒนา เด็กเล็ก ต.บ้านเพชร อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ หลังพบมีเด็กในศูนย์ 2 ราย วัย 3 ขวบและ 4 ขวบ ติด โควิดจากผู้ปกครอง เมื่อวันที่ 4 ก.ค.

2 หนูน้อยชัยภูมิป่วย

นพ.วชิระ บถพิบูลย์ นพ.สสจ.ชัยภูมิ โฆษกคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชัยภูมิ แถลงว่า พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 20 ราย จาก.อ.เกษตรสมบูรณ์ 2 ราย อ.คอนสาร 2 ราย อ.ซับใหญ่ 2 ราย อ.เทพสถิต 3 ราย อ.หนองบัวแดง 1 ราย อ.แก้งคร้อ 1 ราย อ.หนองบัวระเหว 1 ราย อ.เมือง 4 ราย อ.บำเหน็จณรงค์ 3 ราย และ อ.ภูเขียว 1 ราย มาจากคลัสเตอร์ปิดแคมป์คนงานก่อสร้างในกรุงเทพฯ ติดต่อกลับมาทางสายด่วนคอลเซ็นเตอร์ 09-8135-2870, 09-8135-2907 จ.ชัยภูมิ โดยหน่วยงานต่างๆ ได้จัดรถไปรับที่กรุงเทพฯ และบางรายขับรถมาเอง 15 ราย และอีก 5 ราย ในจ.ชัยภูมิ ติดจากญาติคลัสเตอร์ปิดแคมป์ โดยได้ทยอยส่งเข้ารักษาตัวที่ร.พ.สนาม ภายในอาคารโรงยิมเนเซียมสิริวัณวรี สนามกีฬากลางจังหวัด ซึ่งรองรับได้จำนวน 80 เตียง ในผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว

ด้านเขตพื้นที่อ.บำเหน็จณรงค์ ที่พบเด็กเล็กวัย 3 ขวบ และ 4 ขวบ ติดโควิด-19 จากผู้ปกครองที่เดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ นายอำเภอบำเหน็จณรงค์ได้นำเด็กทั้ง 2 คนเข้ารักษาป่ในร.พ.แล้ว ได้ให้เด็กในศูนย์พัฒนาเทศบาลตำบลบ้านเพชร ที่เหลืออีก 47 คน เข้ารับการตรวจหาเชื้อ รวมทั้งพ่อแม่ ผู้ปกครองเด็กทั้งหมดรวมแล้ว 80 คน และถูกกักตัวที่ศูนย์แรกรับ 14 วัน

หมอกาฬสินธุ์สมทบบุษราคัม

ที่ลานหน้าอาคารฉุกเฉิน (หลังเก่า) ร.พ.กาฬสินธุ์ นายแพทย์ประมวล ไทยงามศิลป์ ผอ.ร.พ.กาฬสินธุ์ นางอภิวันทน์ ไทยงามศิลป์ ประธานชมรมแม่บ้านสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ พร้อมคณะผู้บริหาร และ เจ้าหน้าที่ นำทีมนักรบชุดขาว ประกอบด้วยแพทย์ พยาบาลวิชาชีพ และพนักงานขับรถ รวม 7 คน โดยมีแพทย์หญิงแสงอุษา เสียงใส นายแพทย์ชำนาญการ ร.พ.กาฬสินธุ์ เป็นหัวหน้าทีม ร่วมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และศาลปู่ดำ เพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมมอบดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจ ก่อนเดินทางไปปฏิบัติภารกิจในการดูแลผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ร.พ.บุษราคัม ระหว่างวันที่ 5-18 ก.ค.

ส่วนจ.กาฬสินธุ์พบผู้ป่วยใหม่ 26 ราย จากกทม. 19 ราย จ.ชลบุรี 3 ราย จ.สมุทรปราการ 1 ราย และในจังหวัดสัมผัสใกล้ชิดผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 3 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อของ จ.กาฬสินธุ์สะสมรวม 295 ราย กำลังรักษาอยู่ 141 ราย รักษาหายแล้ว 150 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 4 ราย

ระยองหญิงระยองดับ 3

นพ.สุนทร เหรียญภูมิการกิจ นพ.สสจ.ระยอง กล่าวว่า พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 คน เป็นผู้หญิงทั้งหมด อายุ 61 ปี ทำงานรับจ้างอยู่ที่ ต.เพ อ.เมือง อายุ 83 ปี ป่วยติดเตียง มีโรคประจำตัว เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันสูง และ ไตวาย และอายุ 71 ปี นำส่งมาจากสมุทรปราการ ส่วนผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มอีก 47 คน รวมยอดสะสม 1,849 คน เสียชีวิตรวม 13 ราย

ชลบุรีก็ตาย 3-ปิดตลาดอีก

ด้านสสจ.ชลบุรีรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 275 ราย รวมยอดสะสม 9,478 ราย รักษาตัวอยู่ 3,567 ราย หายป่วย 5,861 ราย มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ยอดสะสมผู้เสียชีวิตเป็น 50 ราย ยังพบผู้ติดเชื้อกระจายอยู่ 9 อำเภอ พบมากที่สุดที่อ.เมือง 89 ราย ศรีราชา 51 ราย บางละมุง 48 พนัสนิคม 12 ราย หนองใหญ่ 3 ราย พานทอง 37 ราย บ้านบึง 10 ราย สัตหีบ 5 ราย เกาะจันทร์ 2 ราย

จ.ชลบุรีพบเพิ่มอีก 1 คลัสเตอร์ นำรถชีวนิรภัยพระราชทานตรวจที่บริเวณตลาดบุรีบริบาล (ตลาดล่าง) ต.บางปลาสร้อย อ.เมืองชลบุรี พบพ่อค้าแม่ค้าติดเชื้อถึง 10 ราย ทำให้นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผวจ.ชลบุรี สั่งปิดตลาดแล้วตั้งแต่วันที่ 3-16 ก.ค. ขณะที่การตรวจเฝ้าระวังที่ตลาดซอย 11 พบ 2 ราย เชื่อมโยงจากคลัสเตอร์ตลาดใหม่อีก 1 ราย ตลาดพระพรหม อ.ศรีราชา 1 รายจากบริษัท มารุนิกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด อ.ปลวกดง จ.ระยอง 1 ราย โดยค้นหาผู้ป่วยสัมผัสอีก 721 ราย ค้นหาเชิงรุกเบื้องต้น อีก 882 ราย และอยู่ระหว่างการรอผลสอบสวนโรค

นนท์-พ่อค้าส้มตำติดอยู่บ้าน4คน

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือมาจากครอบครัวหลังหนึ่งในหมู่บ้านบีทีเอ็น ย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรีว่า สมาชิกในบ้านประกอบไปด้วย พ่อ แม่ เด็กชายวัย 2 ขวบ และปู่อายุ 64 ปี ซึ่งล้มป่วยติดเชื้อ โควิดทั้งครอบครัว เนื่องจากพ่อและแม่ค้าขายส้มตำ ปลาหมึกย่างตามตลาดนัด ไปติดเชื้อจากเพื่อนพ่อค้าที่ขายอาหารอยู่ในตลาดนัดด้วยกันมา ส่งผลให้คนในครอบครัวที่เหลือคือ แม่ ลูกชายวัย 2 ขวบ และปู่ เริ่มมีอาการตามมา คือ ไอ จาม ลิ้นไม่รู้รส และเริ่มไม่ได้กลิ่น

พ่อค้าส้มตำเผยว่า ได้พยายามติดต่อขอความช่วยเหลือไปยังที่ต่างๆ หลายแห่ง แม้กระทั่งทางหมู่บ้านเอง ก็ได้รับคำตอบว่ากำลังประสานกับหน่วยงานอยู่ เป็นอย่างนี้มาสองวันแล้ว แต่ก็ยังไม่มีความช่วยเหลือมาถึง มีแต่เพื่อนบ้านที่ทราบข่าวช่วยซื้อ ยาพารากับฟ้าทะลายโจรมาแขวนไว้ให้ครอบครัวตนเองกินบรรเทาอาการเท่านั้น ซึ่งตอนนี้อาการตนเริ่มหนักมากขึ้นแล้ว จากที่ลิ้นไม่รู้รส จมูกไม่ได้กลิ่น ตอนนี้ เริ่มมีอาการแน่นหน้าอกมาเป็นระยะ ตนเป็นห่วงลูกชายวัย 2 ขวบกับพ่อที่อายุมากแล้ว ขอวิงวอนช่วยติดต่อขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐให้ อย่าปล่อยให้ครอบครัวตนรอคอยแบบไร้ความหวังหรือไม่ได้รับการรักษาแบบนี้เลย ทุกชีวิตมีค่าเท่ากัน

30คนกักตัวอยู่บ้าน

ที่ชุมชนซอยพัฒนาฝั่งใต้ หมู่ 7 ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย มีการตั้งจุดคัดกรอง ปิดทางเข้าเพื่อตรวจสอบบุคคลที่จะเข้า-ออก ภายในชุมชน โดยนายวัชรินทร์ แสงวิมาน ส.ท.เมืองพิมลราช กล่าวว่า การตั้งจุดตรวจโควิด-19 ของชุมชนขึ้นมานั้นก็เพื่อความปลอดภัยของคนในชุมชน หลังพบว่าคนในชุมชนติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 22 ราย และต้องกักตัวเพราะใกล้ชิดสูงอีก 30 ราย ส่วนการที่แชร์ข่าวออกไปว่าคนในชุมชนติดเชื้อโควิดจากการไปร่วมงานแต่งสูงถึง 300 คน นั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะเรามีคนพักอาศัยแบบครัวเรือนประมาณ 90 ครัวเรือน ประชากรอยู่อาศัยประมาณ 280 คน สามารถตรวจสอบได้จากทะเบียนราษฎร์ และเรื่องของงานแต่งงานก็ไม่ได้จัดขึ้นที่ชุมชน มีแต่เราฝั่งเจ้าบ่าวต้องออกไปแต่งงานที่บ้านฝ่ายหญิงซึ่งอยู่กันคนละพื้นที่ นอกจากนี้เวลาไปแต่งงานคนร่วมงานก็ไม่เกิน 20 คน ตามที่ทางการได้แจ้งไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ข่าวที่ออกไปทำให้คนในชุมชนรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก ซึ่งเราจะตั้ง จุดตรวจอย่างนี้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยคนในชุมชนจะผลัดเปลี่ยนกันมาคอยตรวจตรา

หนุ่ม 38 ปีอ่าวน้อยดับ

นพ.สุริยะ คูหะรัตน์ นพ.สสจ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า พบผู้ป่วยใหม่ 27 ราย ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 2,792 ราย รักษาหายแล้ว 2,289 ราย เหลือผู้ป่วยกำลังรักษา 503 ราย พบมีอาการรุนแรง 17 ราย และต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 4 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็นหนุ่มไทยวัย 38 ปี อาชีพพนักงานบริษัท ที่อยู่ ต.อ่าวน้อย อ.เมือง พบโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน และสูบบุหรี่จัด

จากการตรวจประวัติ พบว่าเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ ทำให้เสียชีวิตสะสม 7 ราย

สระแก้วเจออีก 40

นพ.ประภาส ผูกดวง นพ.สสจ.สระแก้ว กล่าวว่า พบผู้ป่วยใหม่ 37 ราย ติดเชื้อในจังหวัด 32 ราย และจากจังหวัดอื่น 5 ราย มาจากการตรวจเชิงรุกในชุมชน มาตรการเฝ้าระวังในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง LQ และ ผู้ที่ข้ามแดนจากประเทศกัมพูชา โดยที่อ.อรัญ ประเทศ พบผู้ป่วยยืนยัน 11 ราย ทั้งหมดติดจากภายในครอบครัวของผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า รายแรกเชื่อมโยงร้านสเต๊กห้องแถว หญิง 38 ปี น้องสะใภ้เจ้าของร้าน โดยก่อนหน้านี้สามีและลูกติดเชื้อไปแล้ว อีก 5 รายเป็นครอบครัวของแพทย์ ร.พ.อรัญประเทศ ที่ติดจากผู้ป่วยหญิง 60 ปีที่ไปรักษาที่คลินิก ได้แก่ ภรรยา ลูก 2 คน อายุ 2.7 ขวบและ 4 ขวบ รวมทั้งพี่เลี้ยงและแม่บ้าน ส่วนผู้ติดเชื้อจากนอกจังหวัดเข้ามา 3 ราย รายแรกเดินทางมาจาก กทม.เพื่อมาตรวจเชื้อ อีก 2 รายเป็นนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิควังน้ำเย็น ติดจากเพื่อนอยู่อ.สอยดาว จ.จันทบุรี

ด้านฝ่ายปกครองจังหวัดสระแก้ว รายงานว่า หลังการปิดแคมป์กทม.และปริมณฑล มีคนเดินทางกลับเข้ามาในจ.สระแก้วแล้ว 665 คน

ชัยนาทพร้อมรับกลับรักษา

วันเดียวกัน นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมาตรวจเยี่ยม ร.พ.สนามองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท ต.เขาพลอง อ.เมือง จ.ชัยนาท โดยนายอนุชาฝากถึงพี่น้องประชาชนชาวชัยนาท และจังหวัดใกล้เคียง ที่กำลังประสบกับความเดือดร้อนเรื่องเตียงรักษาผู้ป่วย อยากให้ติดต่อขอกลับมารักษาตัวในร.พ. สนามชัยนาท ที่โทร.06-2993-6162 หรือสสจ.ชัยนาท และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ยินดีต้อนรับ และดูแลเป็นอย่างดี ดั่งคนในครอบครัว

อยุธยาพุ่ง 223 คน

นพ.พีระ อารีรัตน์ นพ.สสจ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า มีผู้ป่วยเพิ่ม 223 ราย กระจายในหลายอำเภอ อ.ท่าเรือ 11 ราย อ.บางไทร 3 ราย อ.บางปะหัน 1 ราย อ.บางปะอิน 14 ราย อ.บ้านแพรก 1 ราย อ.พระนครศรีอยุธยา 5 ราย อ.ภาชี 6 ราย อ.วังน้อย 170 ราย อ.อุทัย 12 ราย รักษาตัวหายแล้ว 1,490 ราย ยังรักษาตัวอยู่ 1,089 ราย ขณะที่ร.พ.สนาม 2 ภายในเทศบาลเมืองลำตาเสา อ.วังน้อย จำนวน 200 เตียง เริ่มทอย นำผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษา สังเกตอาการแล้ว โดยจะเริ่มติดต่อไปหาผู้ป่วยที่ยังรอเตียงอยู่ที่บ้าน และมีผู้ป่วย 80 ราย เริ่มทอยรับเข้ามารักษาในระบบ พร้อมกันนี้คณะกรรมการโรคติดต่อ อยู่ระหว่างจัดเตรียมหาสถานที่ร.พ.แห่งที่ 3

สุพรรณฯป่วย100-ตาวัย80ดับ

ด้าานศบค.สุพรรณบุรี รายงานว่า พบ ผู้ติดเชื้อ รวมยอด 2 วัน จำนวน 102 คน เสียชีวิต 1 ราย เป็นรายที่ 16 เป็นชายไทย อายุ 80 ปี ต.บางปลาม้า อ.บางปลาม้า รวมผู้ป่วยยืนยันสะสม จำนวน 969 ราย รักษาอยู่ 405 ราย ขณะที่เตียงรักษาใน ร.พ. ใช้ไป 318 เตียงแล้ว ส่วนผู้ติดเชื้อบางส่วนได้เข้ารักษาที่ ร.พ.สนาม ศูนย์ห่วงใยคน สุพรรณฯ อ.เดิมบางนางบวช รองรับได้ 100 เตียง ใช้ไปแล้ว 88 เตียง ซึ่งทางจังหวัดเร่งจัดเตรียม ร.พ.สนามแห่งที่ 2 เพิ่มแล้ว หลังยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

กาญจน์ติดอีก 35-มีเด็ก 8 เดือน

สสจ.กาญจนบุรี รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ จำนวน 35 ราย มีเด็กชายวัย 8 เดือน 1 ราย อยู่ต.หนองลู อ.สังขละบุรี รักษาหาย 13 ราย ยอดสะสม 678 ราย หายป่วยแล้ว 387 ราย รักษาอยู่ร.พ. 283 ราย เสียชีวิตสะสม 8 ราย

ฝ่าพ.ร.ก. – ตำรวจเมืองขอนแก่น เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เข้าจับกุมร้านอาหารฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ลักลอบขายสุราและปล่อยให้ดื่มกินภายในร้าน ที่ร้านสนามเด็กเล่น ถนนเฉลิมพระเกียรติ เขตเทศบาลนครขอนแก่น เมื่อวันที่ 4 ก.ค.