14วัน-เริ่มจันทร์ที่ 12กค.
เรียนออนไลน์ทั่วปท.
หอการค้าชี้สูญแสนล.
แต่‘เจ็บแล้วต้องจบ’
ยืดฉุกเฉินยาวถึงกย.
ศบค.สั่งล็อกดาวน์ 10 จังหวัดสีแดงเข้ม กทม.-5 จังหวัดปริมณฑล และ 4 จังหวัดใต้ เริ่ม 12 ก.ค. ประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกจากบ้าน 3 ทุ่มถึงตี 4 เว้นเหตุฉุกเฉิน เฉพาะกทม.และปริมณฑล เพิ่มเปิด-ปิดกิจการ ร้านสะดวกซื้อให้ปิด 2 ทุ่มถึงตี 4 ส่วนห้างเปิดเฉพาะส่วน ร้านยา แบงก์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านอาหาร ถึง 2 ทุ่ม ปิดสปา-นวด-เสริมความงาม หยุดวิ่งขนส่งสาธารณะ 3 ทุ่ม ขอให้เวิร์กฟรอมโฮม ห้ามรวมกลุ่มเกิน 5 คน เพิ่มพื้นที่สีแดง จาก 5 เป็น 24 จังหวัด สีส้ม จาก 9 เป็น 25 จังหวัด จับตาคนมาจากพื้นที่แดงเข้ม ห้ามเดินทางข้ามจังหวัด เริ่ม 10 ก.ค. ต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉินถึงก.ย. ประธานหอการค้าคาดล็อกดาวน์ 14 วัน สูญแสนล้าน ผู้ว่าฯกาญจน์สั่งเคอร์ฟิว 4 ทุ่มถึงตี 4 ตั้งแต่ 9 ถึง 22 ก.ค. ปิดอำเภอสังขละ 14 วัน ห้ามคนเข้า-ออก พักนำเข้า-ส่งออกขนส่งสินค้าผ่านจุดผ่อนปรนด่านเจดีย์สามองค์
‘บิ๊กตู่’ย้ำทุกคนคือทีมปท.ไทย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 ก.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 9/2564 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
รายงานข่าวในที่ประชุม ศบค. เปิดเผยว่า เบื้องต้นที่ประชุมกำหนดระยะเวลายกระดับมาตรการ 14 วัน จำกัดการเดินทางตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. เป็นต้นไป พร้อมกำหนดเป้าหมายลดผู้ป่วยภายใน 2-4 สัปดาห์
พล.อ.ประยุทธ์มีข้อสั่งการในที่ประชุมว่า สำหรับมาตรการเยียวยาจะต้องดูแลทุกภาคส่วน โดยออกมาตรการที่เหมาะสม โดยมอบหมายสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเร่งพิจารณาให้เร็วที่สุด และย้ำว่าการสื่อสารต้องไม่ให้สับสนอลหม่าน นอกจากนี้ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) มีศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (อีเมอร์เจนซี โอเปอเรชั่น เซ็นเตอร์) และมีคณะกรรมการต้องชี้แจงเฉพาะเรื่องตามอำนาจหน้าที่ ขณะที่ศบค. ก็มีอำนาจหน้าที่ชัดเจน จึงให้ตระหนักว่าเราทุกคนคือ “ทีมประเทศไทย”
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ได้กำชับทุกภาคส่วนในการตรวจสอบคัดกรองเชิงรุกอย่างต่อเนื่องและต้องมีเพิ่มขึ้นทุกจุด ทุกพื้นที่ รวมถึงจุดตรวจของเอกชนและของสาธารณสุข ในส่วนของร.พ.สนามได้สั่งการไปแล้วตั้งแต่แรก โดยต้องเร่งดำเนินการศูนย์คัดกรอง และให้มีการประกาศไปเลยว่ามีที่ไหนบ้าง โดยต้องเป็นเรื่องเร่งด่วน พร้อมการยกระดับเตียงโดยการบริหารจัดการเพิ่มและรัฐบาลพร้อมสนับสนุนเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ โดยจัดหาให้ครบทุกกลุ่ม รวมถึงแพทย์เกษียณและนักศึกษาแพทย์
รับมือให้กักตัวที่บ้าน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สำหรับกลุ่มที่มีความเสี่ยงและพื้นที่เสี่ยงจะต้องเพิ่มความเข้มข้นขึ้น โดยยืนยันจะต้องดูแลคนทุกคนบนแผ่นดินไทย ส่วนการกำหนดจำนวนวัคซีนให้สอดคล้องกับจำนวนคนที่ต้องเร่งฉีด พร้อมกันนี้ให้เตรียม “โฮม ไอโซเลชั่น” โดยต้องเตรียมอุปกรณ์จัดหาให้พร้อม สิ่งสำคัญที่สุดต้องร่วมมือด้วยความเข้าใจให้ทุกคนทุกหน่วยงานประชาสัมพันธ์ให้เข้าใจในแนวทางเดียวกัน ขณะที่ในส่วนด้านความมั่นคงได้สั่งการไปแล้ว เพื่อให้ทันสถานการณ์
นายกฯ กล่าวว่า ขณะเดียวกันขอให้สร้างความเข้าใจถึงสถานการณ์โลก โดยต้องให้ประชาชนรับรู้ว่าสถานการณ์ภายนอกยังไม่น่าไว้วางใจ นอกจากนี้การลักลอบข้ามแดนต้องเพิ่มความเข้มงวด โดยตำรวจตระเวนชายแดนจะมีการประสานกับประเทศเพื่อนบ้านในการรับส่งกลับ อีกทั้งในส่วนของแรงงานต้องมีการลงไปสำรวจและขึ้นทะเบียน ไม่ให้มีการลักลอบเข้ามาเด็ดขาด ต้องทำลายกระบวนการลักลอบ
นายกฯ กำชับในช่วงท้ายว่า ขณะเดียวกันต้องแก้ไขเฟกนิวส์ให้ได้ เพราะจะเป็นการสร้างความปั่นป่วน ย้ำว่าทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมายทุกประการ
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมถึงข่าวการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ว่า “ไม่ล็อกๆ”
ต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉินถึงก.ย.
ต่อมา เวลา 16.00 น. พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศบค. แถลงผลการประชุมถึง การยกระดับมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ว่าที่ประชุมเห็นชอบขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตพื้นที่ทั่ว ราชอาณาจักรคราวที่ 13 ตั้งแต่ วันที่ 1 ส.ค.-30 ก.ย. และจะเสนอเข้า ครม.วันที่ 13 ก.ค.2564
ล็อก 10 จว.-เคอร์ฟิว 3 ทุ่มถึงตี 4
พญ.อภิสมัยกล่าวว่า การยกระดับมาตรการ ป้องกันควบคุมโรคโควิดวันนี้ มีหลักคิดคือ จำกัดการเคลื่อนย้ายและการรวมกลุ่มของบุคคลเฉพาะพื้นที่หรือล็อกดาวน์ กำหนดเวลาออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิว และเร่งรัดมาตรการทางการแพทย์และการเยียวยาให้เร็วที่สุด โดยการปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อยมีการแบ่งระดับดังนี้ 1.พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 10 จังหวัดเหมือนเดิม ได้แก่ กทม. และปริมณฑล (นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรปราการ) และ 4 จังหวัดภาคใต้ (นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา)
2.พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) จาก 5 จังหวัด เพิ่มเป็น 24 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ กาญจนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ชัยนาท ตาก นครนายก นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี ระนอง ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สมุทรสงคราม สระบุรี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง และอุทัยธานี
3.พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) จาก 9 จังหวัดเพิ่มเป็น 25 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร ขอนแก่น จันทบุรี ชัยภูมิ ชุมพร ตรัง บุรีรัมย์ พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด เลย ศรีสะเกษ สตูล สระแก้ว สุโขทัย สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ หนองบัวลำภู อุดรธานี และอุบลราชธานี 4.พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) จาก 58 จังหวัดลดเหลือ 18 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ นครพนม น่าน บึงกาฬ พะเยา พังงา แพร่ ภูเก็ต มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยโสธร ลำปาง ลำพูน สกลนคร หนองคาย อำนาจเจริญ และอุตรดิตถ์ ส่วนพื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) ไม่มี
พญ.อภิสมัยกล่าวว่า สำหรับมาตรการพื้นที่ สีแดงเข้ม 10 จังหวัด คือ ห้ามการเดินทางที่ไม่จำเป็น ห้ามออกนอกบ้านตั้งแต่ 21.00-04.00 น. ยกเว้นมีเหตุจำเป็น เช่น การเจ็บป่วยต้องไป ร.พ. หรือบุคลากรแพทย์ พยาบาล ไปขึ้นเวร กรณีฉุกเฉินไฟฟ้าประปาขัดข้อง เพื่อไปบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน แต่สำหรับเฉพาะพื้นที่ กทม.และปริมณฑล มีการดำเนินการเพิ่ม คือ
สะดวกซื้อ-ห้างปิด 2 ทุ่ม
1.ขอให้ทำงานที่บ้าน (เวิร์กฟรอมโฮม) ให้มากที่สุด 2.ร้านสะดวกซื้อ ตลาดโต้รุ่ง ปิดตั้งแต่ 20.00-04.00 น. 3.ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดได้เฉพาะ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ธนาคารสถาบันการเงิน ร้านขายยาและเวชภัณฑ์ ร้านอุปกรณ์สื่อสารมือถือ สถานที่ฉีดวัคซีน ได้ถึงเวลา 20.00 น. 4.ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม เปิดได้ถึง 20.00 น. แต่ไม่อนุญาตนั่งรับประทานและดื่มสุราในร้าน ให้ซื้อกลับอย่างเดียว 5.ปิดสถานที่เสี่ยง ได้แก่ นวดเพื่อสุขภาพ สปา สถานเสริมความงาม 5.สวนสาธารณะเปิดให้ออกกำลังกายถึง 20.00 น. 6.ระบบขนส่งสาธารณะ เปิดบริการได้ตั้งแต่ 04.00-21.00 น. 7.สถานศึกษาให้เรียนออนไลน์เท่านั้น 100% และ 8.ห้ามการรวมกลุ่มทำกิจกรรมทางสังคมเกิน 5 คน ที่ไม่ใช่การปฏิบัติหน้าที่ การประกอบอาชีพ กิจกรรมทางศาสนาหรือกิจกรรมตามประเพณี เช่น งานศพ ยังจัดได้
มีผลตั้งแต่ 12 ก.ค.
พญ.อภิสมัยกล่าวต่อว่า มาตรการทั้งหมดบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค. เป็นต้นไป โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมรับผิดชอบกำกับควบคุมมาตรการ ฝากผู้ว่าราชการจังหวัดและนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ร่วมหารือและกำกับมาตรการให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และให้หน่วยงานด้านความมั่นคง ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ชุดลาดตระเวน เพื่อกำกับดูแลมาตรการอย่างเข้มงวด โดยให้ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป
พญ.อภิสมัยกล่าวว่า สำหรับมาตรการด้านการแพทย์และสาธารณสุขในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล มีข้อสรุป คือ 1.ให้สธ.และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดให้มีการเพิ่มโอกาสการเข้าถึง ระบบการตรวจหาเชื้ออย่างเพียงพอ โดยมีการเพิ่มสถานที่คัดกรอง เร่งเปิดจุดตรวจหาเชื้อให้ประชาชนเข้าถึงเพื่อค้นหาผู้ป่วยตกค้างในชุมชน และแยกประชาชนที่ติดเชื้อออกจากชุมชนให้เร็วที่สุด โดย สธ.ปรับแผนการกระจายวัคซีนโดยเร่งการฉีดวัคซีนให้ผู้มีความเสี่ยงอายุเกิน 60 ปี และ 7 กลุ่มโรคใน กทม.และปริมณฑล โดยจะฉีด 1 ล้านโดสใน 2 สัปดาห์ 3.เห็นชอบการจัดสรรวัคซีนที่ได้รับบริจาคจากต่างประเทศทั้งไฟเซอร์และ แอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งมาจากญี่ปุ่นถึงไทยในวันนี้ โดยจะเน้นในผู้สูงอายุเกิน 60 ปี 7 กลุ่มโรค ทั้งไทยและต่างชาติ คนจำเป็นเดินทางไป ต่างประเทศ เช่น นักเรียน นักกีฬา นักการทูต โดยไฟเซอร์จะให้เป็นบูสเตอร์โดสแก่บุคลากร ทางการแพทย์ให้เร็วที่สุด
3.สธ. กทม. และปริมณฑล โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความสามารถการรักษาพยาบาล ให้เพียงพอและมีประสิทธิภาพ โดยสร้าง ไอซียูสนาม ร.พ.สนาม การแยกกักที่บ้าน (โฮม ไอโซเลชั่น) และแยกกักในที่ชุมชนหรือศูนย์พักคอย (คอมมูนิตี้ ไอโซเลชั่น) และใช้ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรให้ประชาชนขณะแยกกัก ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดมาตรการควบคุมเพื่อจำกัดการเดินทางข้ามจังหวัด มาตรการจำกัดการเดินทางมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. พญ.อภิสมัยกล่าวและว่า โดยรวมมาตรการจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ จังหวัดควบคุมเข้มงวดสูงสุด 6 จังหวัด มีการเปิดปิดกิจกรรมที่มีความเสี่ยง จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัดที่มีเรื่องการเดินทางข้ามพื้นที่ และจังหวัดอื่นๆ มีการประกาศให้เฝ้าระวังการเดินทางข้ามจังหวัด โดยเฉพาะการคัดกรองติดตามบุคคลที่เดินทาง มาจากจังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ตั้งแต่ วันที่ 10 ก.ค. เป็นต้นไป โดยรายละเอียด จะลงไว้ในราชกิจจานุเบกษาและออกให้เร็วที่สุด
ล็อก 14 วันสูญแตะแสนล้าน
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยเห็นด้วยกับ ศบค.ที่ประกาศยกระดับมาตรการคุมเข้มเฉพาะพื้นที่เสี่ยง 10 จังหวัด ในช่วง 14 วันนี้ ประเมินว่าจะสร้างความเสียหาย ทางเศรษฐกิจโดยรวมประมาณ 50,000-100,000 ล้านบาท หรือประมาณ 3-5 พันล้านบาทต่อวัน
หอการค้าชี้เจ็บแล้วต้องจบ
นายสนั่นกล่าวต่อว่า มาตรการของ ศบค.ที่ออกมา จะช่วยบรรเทาการระบาดที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องก้าวกระโดดได้ แต่ที่สำคัญคือ เราเจ็บแล้วต้องจบ และต้องดำเนินการควบคู่กันไป คือรัฐบาลต้องใช้สรรพกำลังทุกวิถีทาง เพื่อจัดหาและจัดสรรวัคซีน
สพฐ.ให้เรียนออนไลน์ทั้งเทอม
นายเอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวภายหลังการประชุมกพฐ. ว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) รายงานให้ที่ประชุมรับทราบ การจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์โควิด-19 เบื้องต้นคาดว่าทุกโรงเรียนต้องจัดการเรียนการสอนออนไลน์ ตลอดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
ตรึงราคาไข่ไก่-สต๊อกสินค้าเพิ่ม
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน(คน.) กล่าวว่า กรมการค้าภายในร่วมกับสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและผู้ส่งออกไข่ไก่ สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคใต้ และสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยภาคกลาง บริหารจัดการสินค้าไข่ไก่ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้บริโภคในช่วงสถานการณ์โควิด ที่รัฐบาลได้ยกระดับมาตรการเข้มงวดขึ้นเพื่อควบคุมป้องกันการระบาด โดยทุกสมาคมยินดีตรึงราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มไว้ เพื่อให้ราคาขายปลีกทรงตัว และจะกระจายไข่ไก่ เข้าสู่ตลาดและทุกแหล่งจำหน่ายอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ และยืนยันว่าไข่ไก่มีปริมาณเพียงพอไม่ขาดตลาดอย่างแน่นอน ประชาชน ไม่จำเป็นต้องกักตุน
สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค คน.ได้ประสานผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่งทั่วประเทศ ให้เตรียมพร้อมสต๊อกสินค้าเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค ที่จำเป็นต่อการครองชีพให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน และจากการหารือกับผู้ผลิตสินค้า พบว่าปริมาณสินค้ามีเพียงพออย่างแน่นอน ขอให้ประชาชนมั่นใจและไม่จำเป็นต้องกักตุนเช่นกัน
โคราชเคอร์ฟิว 4 ทุ่มถึงตี 4
ด้านคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ได้เห็นชอบให้ดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดในพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. โดยขอความร่วมมืองดออกนอกเคหสถานตั้งแต่ เวลา 22.00-04.00 น. และการจัดกิจกรรมต่างๆ ต้องไม่เกิน 20 คน
กาญจน์ล็อกสังขละถึง 22 ก.ค.
นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ลงนามคำสั่งเรื่อง ปิดอำเภอสังขละบุรี และระงับการใช้ช่องทางสำหรับการนำเข้า-ส่งออก ขนส่งสินค้า และสินค้าผ่านแดนทุกประเภท ณ จุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี เป็นการชั่วคราว เปิดตลาดนัด ยกเว้นตลาดสดที่เปิดเป็นประจำทุกวัน ระงับการเดินรถโดยสารประจำทางสาธารณะเป็นการชั่วคราว เส้นทางหมวด 4 สายที่ 8203 เส้นทางกาญจนบุรี-สังขละบุรี ไป-กลับตั้งแต่วันที่ 9-22 ก.ค.2564
เคอร์ฟิว 4 ทุ่ม-ตี 4 ทั้งจังหวัด
คำสั่งผู้ว่าฯ ยังระบุว่า ห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานตั้งแต่วันที่ 9-22 ก.ค.2564 ระหว่างเวลา 22.00-04.00 น.
