อยุธยาก็คาร์ม็อบ ชาวบ้านฮือชู3นิ้ว

‘สายน้ำ’ หนุ่มนักกิจกรรมทางการเมืองวัย 17 เข้ามอบตัวสน.นางเลิ้ง คดีวางเพลิงเผาทรัพย์ ม.112 ศาลเยาวชนให้ประกันตัว ขบวนคาร์ม็อบอยุธยาจัดแรลลี่คึกคัก ชาวบ้านร่วมชูสามนิ้วไล่บิ๊กตู่-ถามหาวัคซีนคุณภาพด้วย ด้านม็อบทะลุฟ้านำโดยไผ่ ดาวดิน จัด ‘หล่อเทียน’ ตะเพิดนายกฯ พ้นเก้าอี้ ฉะรัฐบาลจัดหาวัคซีนล่าช้าแถมไร้คุณภาพ ทำคนเจ็บ-คนตายจำนวนมาก เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ที่สน.นางเลิ้ง “สายน้ำ” นักกิจกรรมเยาวชนวัย 17 ปี พร้อมทนายความได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนสน.นางเลิ้ง ตามหมายจับวางเพลิงเผาทรัพย์ และหมายจับข้อหาผิด ม.112 กรณีที่มีการจุดไฟเผา บริเวณแยกพาณิชยการ ถนนพระราม 5 แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพฯ ระหว่างการชุมนุมทางการเมือง เมื่อวันที่ 18 ก.ค. พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผบก.น.1 เปิดเผยว่า เบื้องต้นเยาวชน 1 รายได้เข้ามอบตัวกับทางพนักงานสอบสวนสน.นางเลิ้ง ตามหมายจับคดีมาตรา 112 อยู่ระหว่างรอสหวิชาชีพมาดำเนินการสอบสวน แต่จากการให้การเบื้องต้นผู้ต้องหายืนยันว่าเป็นบุคคลตามหมายจับและอยู่บริเวณดังกล่าว ส่วนรายละเอียดอื่นไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากอยู่ในสำนวน อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนสน.นางเลิ้ง ต้องควบคุมตัวไปศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อไต่สวนการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ ส่วนจะได้ประกันตัวหรือไม่ต้องให้ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางเป็นผู้พิจารณา ต่อมาเวลา 12.00 น. พงส.สน.นางเลิ้งควบคุมตัวนายสายน้ำนานกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนนำไปศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ขณะที่ระหว่างถูกควบคุมตัวเพื่อจะเดินไปขึ้นรถ เจ้าหน้าที่นั้นนายสายน้ำได้ชูสามนิ้ว พร้อมเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 112 ต่อมาศาลเยาวชนและครอบครัวกลางมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันในวงเงินประกัน 20,000 บาท โดยไม่กำหนดเงื่อนไขใดๆ และนัดมารายงานตัวในวันที่ 7 ก.ย. ซึ่งทางครอบครัววางเงินสด 20,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์เป็นหลักประกัน ก่อนได้รับการปล่อยตัวออกไป วันเดียวกัน เมื่อเวลา 15.00 น. ที่บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา กลุ่มนักสู้ธุลีดิน จ.พระนครศรีอยุธยา นัดรวมตัวก่อนเพื่อแสดงออกทางการเมือง ด้วยการขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถจักรยาน เป็นขบวนคาร์ม็อบ พร้อมกับปิดแผ่นป้ายเขียนข้อความที่รถ ที่แผ่นป้ายทะเบียนรถ โบกธงและบีบแตร ชูมือสามนิ้วไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และทวงถามหาวัคซีนคุณภาพไปตามถนนสายอยุธยา-อ่างทอง แล้วเลี้ยวซ้ายที่ถนนอู่ทองรอบเกาะเมือง พระนครศรีอยุธยา ไปตลาดเจ้าพรหมมุ่งหน้าสู่ถนนโรจนะ ผ่านวงเวียนเจดีย์วัดสามปลื้ม วนขวามุ่งไปยังศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตลอดเส้นทางที่ผ่านร้านค้า บ้านเรือน มีประชาชนต่างออกมาส่งกำลังใจ ชูสามนิ้ว จากนั้นไปรวมกลุ่มกันที่ด้านหน้าศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ริมถนนสายเอเชีย จากนั้นมีสื่อสารกันผ่านช่องทางสื่อโซเชี่ยลให้ทุกคนแยกย้ายกันกลับ ยุติการจัดกิจกรรม ท่ามกลางฝนที่ตกโปรยปรายลงมา

หล่อเทียนไล่ – กลุ่มหมู่บ้านทะลุฟ้า นำโดย นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน นำมวลชนทำกิจกรรมหล่อเทียน ทำบุญประเทศ ขับไล่เสนียดจัญไร เป็นวันที่สี่ ที่แยกราชประสงค์ มีผู้เข้าร่วมชุมนุมคึกคัก เมื่อวันที่ 24 ก.ค.

เวลา 16.00 น. ที่บริเวณใต้สะพานลอยคนข้ามหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถ.ราชดำริ มวลชนหมู่บ้านทะลุฟ้า นำโดยนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน จัดกิจกรรม “หล่อเทียน ทำบุญประเทศ ขับไล่เสนียดจัญไร ออกไปไอ้สัส” เป็นวันที่สี่ โดยที่มีผู้นำป้ายผ้าสีขาวเขียนข้อความ “คุณเห็นน้ำตาและกองศพของประชาชนบ้างมั้ย” “ประยุทธ์ออกไป” โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้นำรถติดเครื่องขยายเสียงจอดใต้สะพานลอยคนข้าม และกันพื้นที่หน้าป้ายรถประจำทางและช่องการจราจรจำนวน 3 ช่องทาง และจัดจุดคัดกรอง โดยนำเต็นท์ที่ด้านบนมีการฉีดพ่นแอลกอฮอล์ และตรวจวัดอุณหภูมิและติดสติ๊กเกอร์ ก่อนผ่านเข้าไปในพื้นที่การชุมนุม และจัดแสดงดนตรีพร้อมผลัดเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัยโจมตีรัฐบาล เนื้อหาการปราศรัยได้กล่าวโจมตีและชี้ถึงปัญหาในเรื่องการจัดหาวัคซีนที่ล่าช้า และการกระจายวัคซีนไม่ทั่วถึงและการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ผิดพลาดทำให้ประชาชนเดือดร้อนและขับไล่ 250 ส.ว.ที่ อุ้มรัฐบาลในขณะนี้ ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.จักรกฤษณ์ โฉสูงเนิน ผกก.สน.ปทุมวัน นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ปทุมวัน และสน.ลุมพินีมาดูแลความเรียบร้อยและจัดการจราจรในพื้นที่การชุมนุมโดยรอบ ได้อ่านประกาศเตือนข้อกำหนดห้ามจัดกิจกรรมตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และพยายามเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ให้รุกล้ำไปในช่องทางจราจร ซึ่งต่อมากลุ่มผู้ชุมนุมมีจำนวนมากขึ้นได้ขยายออกไป 4 ช่องจราจร ต่อมาเวลา 18.00 น. นายจตุภัทร์ หรือ ไผ่ ดาวดิน ขึ้นปราศรัย มีผู้ร่วมชุมนุมกว่า 500 คน และเริ่มขยับแนวออกไปในช่องจราจร โดยฝนตกโปรยปรายลงมาตลอดเวลา และบริเวณโดยรอบการชุมนุมได้นำป้ายผ้าเขียนข้อความต่างๆ เกี่ยวกับวัคซีนและการไล่นายกฯ ซึ่งการปราศรัยพูดถึงการบริหารการจัดการจัดหาวัคซีน และการบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาลที่ไม่เข้าร่วมโครงการ co-vac จึงทำให้การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ลุกลามไปทั่วประเทศ อีกทั้งจัดหาวัคซีนไม่มีคุณภาพและล่าช้าไม่ทันการณ์ ทำให้ประชาชนต้องเจ็บป่วยและเสียชีวิตจำนวนมาก พร้อมกันนี้ นายจตุภัทร์ยังได้เชิญชวนพี่น้องประชาชนให้ออกมาร่วมต่อสู้ขับไล่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อให้ได้รัฐบาลที่ดีเห็นคุณค่าชีวิตของประชาชนมากกว่านี้ ซึ่งระยะเวลาที่ผ่านมากับรัฐบาลประยุทธ์ไม่เคยฟังเสียงประชาชน ไม่ว่าปี 2563-64 ไม่เคยมีใครหรือนักการเมืองสู้เพื่อประชาชนเลย และยืนยันจะกลับมาต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับประชาชนที่กรุงเทพฯ ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน และรัฐบาลที่ยังทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้นกว่านี้ จึงขอเชิญชวนให้ช่วยกันออกมาส่งเสียงขับไล่รัฐบาล ซึ่งไผ่ ดาวดิน ใช้เวลาในการปราศรัย 15 นาที จากนั้นได้มีการแสดงดนตรีต่อไป โดยไผ่ ดาวดิน ได้ดีดพิณร่วมแสดงบนเวทีด้วย เหตุการณ์ทั่วไปเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สำหรับกิจกรรมหล่อเทียนพรรษาของหมู่บ้านทะลุฟ้าจัดต่อเนื่องเป็นวันที่สี่ และมีกำหนดแห่เทียนพรรษาในวันที่ 25 ก.ค.นี้ด้วย สำหรับรายละเอียดติดตามที่หน้าเพจทะลุฟ้า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน