เผชิญหน้าปะทะเดือด
อนุสาวรีย์ชัย-ดินแดง
ผู้ชุมนุมลวง-ป่วนจนท.
ไม่ไปจุดนัดที่ล่อแหลม
ขนตู้-รถน้ำมันขวางเก้อ

แก๊สน้ำตา-กระสุนยางปลิวว่อน ตำรวจยิงสกัดม็อบเยาวชน-ขับไล่ประยุทธ์ โดยผู้ชุมนุมนัดหลายจุดทั้งอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย-สนามหลวง- แยกผ่านฟ้าลวงเจ้าหน้าที่ระดมกำลัง-ขนตู้คอนเทนเนอร์ปิดถนน นำขบวนรถไฟบรรทุกน้ำมันขวางทางไปจุดสำคัญ ก่อนม็อบจะนัดใหม่เปลี่ยนไปบ้านประยุทธ์ที่กรมทหาร ราบ 1 ถ.วิภาวดีฯ เจ้าหน้าที่ต้องยกกำลังมาตรึงยิงแก๊สน้ำตา-กระสุนยาง เกิดโกลาหลเป็นระยะๆ ย่านดินแดงต่อเนื่องอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิบ่ายยันค่ำ

ตรึงกำลังสนามหลวงสกัดม็อบ

เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ภายหลังกลุ่มเยาวชนปลดแอก และแนวร่วมประกอบด้วย คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย DRG เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มทะลุฟ้า ศาลายาเพื่อประชาธิปไตย สหภาพคนทำงาน และ SUPPORTER THAILAND นัดชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเวลา 13.00 น. ก่อนเคลื่อนขบวนไปยังพระบรมมหาราชวัง ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณรอบสนามหลวงว่า เจ้าหน้าที่ปิดการจราจรบนถนนหน้าพระธาตุ ฝั่งหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร โดยนำลวดหนามและตู้คล้ายถังน้ำมันขบวนรถไฟจัดเรียงตลอดแนว

จากนั้นเวลา 12.00 น. ตำรวจควบคุม ฝูงชน (คฝ.) 1-2 กองร้อย เคลื่อนกำลังจากหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ไปตามถนนราชดำเนินถึงแยกคอกวัว ขณะที่ตำรวจอีกกลุ่มเคลื่อนถึงหัวมุมถนนตะนาว จากนั้นเจ้าหน้าที่ประกาศขอให้ประชาชนและผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่รวมถึงนักข่าว ต่อมาเวลา 12.40 น. เจ้าหน้าที่เคลื่อนกำลังปิดล้อมถนนรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมประกาศให้ประชาชนกลับบ้านและห้ามชุมนุมเนื่องจากกระทำผิดกฎหมาย โดยตลอดเวลาที่ตำรวจประกาศเตือนมีเสียงคล้ายระเบิดดังสวนขึ้นมาสนั่นทั่วบริเวณเป็นระยะท่ามกลางความตึงเครียด ทั้งนี้ มีคนไร้บ้านที่อาศัยอยู่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเข้าไปเปิดประตูรถคุมขัง ตำรวจ คฝ.จับชายคน ดังกล่าวขึ้นรถคุมขังไป

นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือไฮโซลูกนัท เผยขณะเข้าร่วมการชุมนุมว่าเป็นการรับผิดชอบที่เคยทำให้ได้รัฐบาลเผด็จการทหารที่ไร้ประสิทธิภาพ วันนี้จึงจำเป็นต้องออกมา ยืนยันจะอยู่เคียงข้างประชาชนและต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

ม็อบแกงสองรอบย้ายที่ชุมนุม

เวลาต่อมาเพจเฟซบุ๊ก เยาวชนปลดแอก Free YOUTH โพสต์ข้อความว่า แกงร้อนๆ นะคะคนดี #ม็อบ7สิงหา ระบุว่าแกงม็อบใหญ่ มุ่งหน้ายึดทำเนียบ หลังการประกาศดังกล่าว ผู้ชุมนุมทยอยเคลื่อนไปรวมตัวกันที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมกำลังความพร้อมโดยตั้งตู้คอนเทนเนอร์เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ชุมนุมบุกเข้าทำเนียบ

เวลา 13.29 น. เพจเยาวชนปลดแอก-Free YOUTH โพสต์ประกาศ แกง อีกรอบ โดยนัดหมายให้ผู้ชุมนุมไปรวมตัวที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อมุ่งหน้าไปยังกรมทหารราบที่ 1 พื้นที่บ้านพักของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม

กสม.ลงพื้นที่จับตา

ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้แก่ นางปรีดา คงแป้น นายสุชาติ เศรษฐมาลินี น.ส.ศยามล ไกยูรวงศ์ และนายวสันต์ ภัยหลีกลี้ ลงพื้นที่เฝ้าสังเกตการณ์การชุมนุม โดยระบุว่าการมาครั้งนี้เพื่อสังเกตการณ์การชุมนุม ติดตามเฝ้าระวังว่าเสรีภาพในการชุมนุม และการแสดงออกของประชาชนได้รับการคุ้มครองหรือไม่ ผู้ชุมนุมดำเนินการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธหรือไม่ หวังว่าจะไม่มีความรุนแรงทั้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ชุมนุม โดยจะนำเหตุการณ์ในวันนี้ไปประเมินว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ต่อไป

ม็อบ7สิงหา – เจ้าหน้าที่ระดมยิงแก๊สน้ำตา-กระสุนยางสกัดม็อบบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ไม่ให้เคลื่อนไปบ้านพักนายกรัฐมนตรี กรมทหารราบที่ 1 รอ. ถนนวิภาวดีฯ เกิดการปะทะกันเป็นระยะ(ซ้าย) รถควบคุมผู้ต้องขังของตำรวจถูกกลุ่มไม่ทราบฝ่ายเผาไฟลุกท่วม ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก่อนม็อบประกาศยุติการชุมนุมช่วงเย็นวันที่ 7 ส.ค.

ม็อบเคลื่อน-ยิงกระสุนยางสกัด

เวลา 12.40 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมที่มีทั้งเดินเท้า ขับรถยนต์ สามล้อ ขับขี่รถจักรยานยนต์ มุ่งหน้าแยกยมราชผ่านแยก อุรุพงษ์เข้าสู่ถนนเพชรบุรี เลี้ยวซ้ายสู่ถนนพญาไท มุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ รวมตัวบริเวณเกาะพญาไทและสกายวอล์ก เปิดเพลงและบีบแตรเสียงดังทั่วบริเวณ โดยมีการปราศรัยบนรถเครื่องเสียงคันหนึ่งวิพากษ์การทำงานของรัฐบาลในการแก้ไขสถานการณ์ โควิด ต่อมามีการแจกธง “รีเดม” ก่อนเคลื่อนไปยังราบ 1 โดยใช้เส้นทางดินแดง ทีมงานเตรียมมะเขือเทศ 1 เข่ง และกล่องบรรจุสีขนาดใหญ่อีก 4 กล่อง ไปจนถึงกล่องปริศนารูปทรงสี่เหลี่มผืนผ้า อีกส่วนหนึ่งแจกอุปกรณ์ป้องกันแก๊สน้ำตา อาทิ ชุดกันฝน แว่น

เวลา 15.00 น. มวลชนรวมตัวและเคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิมุ่งหน้าสู่กรมทหารราบที่ 1 โดยมีคาร์ม็อบนำขบวน หลังเคลื่อนขบวนได้เพียง 20 นาที ก่อนออกสู่ถนนวิภาวดีรังสิตเกิดเหตุเสียงดังคล้ายระเบิดพร้อมกลุ่มควัน จากนั้นมีเสียงเจ้าหน้าที่ตำรวจผบ.เหตุการณ์ประกาศว่าเราจะดำเนินการตามสัดส่วนและความจำเป็น จะไม่ใช้ความรุนแรง เราไม่มีเจตนาทำร้ายผู้ชุมนุม เราจำเป็นต้องรักษาพื้นที่นี้ไว้ จะไม่มีคำสั่งเข้าไปจับกุมหรือสลายการชุมนุม ขอให้ผู้ชุมนุมถอยร่นออกไป ส่วนผู้ที่มาก่อกวนขว้างปาระเบิดใส่นั้นเราจะดำเนินการตามระเบียบ

เวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีการยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเพื่อสลายการชุมนุมอย่างต่อเนื่อง

เผารถตำรวจ – รถควบคุมผู้ต้องขังของตำรวจถูกกลุ่มไม่ทราบฝ่ายเผาไฟลุกท่วม ขณะจอดอยู่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก่อนที่ม็อบใหญ่ประกาศยุติการชุมนุมหลังถูกเจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตา-กระสุนยางที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดงทางออกถนนวิภาวดีฯ ในช่วงเย็นวันที่ 7 ส.ค.

ตร.แจงยับยั้งเหตุบานปลาย

เวลา 16.55 น. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่าหลังผู้ชุมนุมตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและทำเนียบรัฐบาล ตำรวจ คฝ. บังคับใช้กฎหมายกับผู้ชุมนุมเป็นเวลา 2 ชั่วโมง เนื่องจากผู้ชุมนุมไม่ปฏิบัติตามคำแจ้งเตือนของเจ้าหน้าที่ แต่ยังใช้อาวุธ ระเบิดปิงปอง ลูกแก้ว หัวนอต เข้าโจมตีตำรวจ จึงเริ่มบังคับใช้กฎหมาย เริ่มจากประกาศแจ้งเตือน ยิงกระสุนยางและยิงแก๊สน้ำตา แต่ผู้ชุมนุมยังพยายามจะฝ่าแนวกั้นเข้ามา ยืนยันว่าอุปกรณ์ควบคุมฝูงชนที่ตำรวจใช้เป็นไปตามหลักสากล อยากแจ้งเตือนให้ผู้ชุมนุมเดินทางกลับบ้าน ทั้งนี้ ตำรวจคงต้องดำเนินการบังคับใช้กฎหมายเป็นระยะ ยืนยันว่าไม่ได้มุ่งเน้นจับกุม แต่มุ่งรักษาความสงบเรียบร้อย

ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้บัญชาการเหตุการณ์ได้แจ้ง คฝ. ให้เล็งกระสุนยางไปที่ผู้ชุมนุมซึ่งขว้างปาสิ่งของใช่หรือไม่ พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า ทำไปเพื่อระงับยับยั้งไม่ให้เกิดความบานปลาย ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับรายงานการจับกุมผู้ชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและแยกสามเหลี่ยมดินแดง

เวลา 17.10 น. ผบ.เหตุการณ์ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงให้ คฝ. ระดมยิงกระสุนยางและแก๊สน้ำตาและให้เตรียมเข้าจับกุมผู้ชุมนุม จากนั้นนำรถฉีดน้ำแรงดันสูงและรถควบคุมผู้ต้องหามาจอดรอหลังแนวตำรวจ

เวลา 17.30 น. กลุ่มไม่ทราบฝ่ายมีการเผารถเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณหน้าสถาบันโรคหัวใจ โรงพยาบาลราชวิถี ก่อนแกนนำประกาศยุติการชุมนุม

ธนาธรทวีตต้านรุนแรง

วันเดียวกัน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่ โดยระบุว่า “การชุมนุมในวันนี้ ประชาชนไปด้วยสองมือเปล่า มีเพียงความคิดสร้างสรรค์เป็นอาวุธ แต่ตำรวจทหารกลับเตรียมใช้กำลังเข้าห้ำหั่น ใช้กฎหมายปราบปรามอย่างเกินเหตุ วันนี้จะไม่มีความรุนแรงหากเจ้าหน้าที่รัฐตระหนักว่าคนที่คุณประจันหน้าอยู่ไม่ใช่อริราชศัตรู แต่คือประชาชนเจ้าของประเทศ”

ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าขอฝากความห่วงใยไปยังทุกภาคส่วน หวังว่าทุกฝ่ายจะไม่ใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องไม่ใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุในการปราบปราม ผู้ชุมนุม ไม่ปล่อยให้มือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์

ตร.จับวีโว่ตรวจพบอาวุธ

พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. กล่าวถึงการจับกุมผู้ต้องหากลุ่มวีโว่จำนวน 8 คนว่า พบของกลางพลุ ลูกแก้ว ลูกหิน สิ่งเทียมอาวุธ หัวนอต เสื้อเกราะอ่อน หน้ากากป้องกันแก๊สน้ำตา คีมตัดเหล็กที่ซุกซ่อนอยู่ในรถพยาบาล จับกุมได้ที่บริเวณถนนข้าวสารและวัดมหรรณพ ทั้งนี้ ผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เข้าร่วมชุมนุม แต่จากการสืบสวนพบว่าบุคคลกลุ่มนี้เคยเข้าร่วมชุมนุมและมีพฤติการณ์ว่าจะใช้ความรุนแรง จากการตรวจค้นสอดคล้องกับการข่าวที่สืบสวนมาก่อนหน้านี้ เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และข้อหาอั้งยี่ซ่องโจร ยืนยันว่าจับกุมตามพยานหลักฐานและการสอบสวนว่ามีการจัดเตรียมอาวุธเพื่อมุ่งทำร้ายเจ้าหน้าที่

เก็บเห็ด – คณะอุบลปลดแอก จัดคาร์ม็อบระดมพลไปกินข้าวป่าเก็บเห็ดชายแดนไทย-ลาว ก่อนไปยื่นหนังสือขอให้ทางการลาวช่วยนำวัคซีน mRNA มาฉีดคนอุบลฯ เนื่องจากรัฐบาลไทยไม่มีประสิทธิภาพ ที่ด่านพรมแดนช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 7 ส.ค.

ผกก.ช่องเม็กสกัดม็อบอุบลฯ

วันเดียวกัน กลุ่มอุบลปลดแอก จ.อุบลราชธานี นำโดยว่าที่ร.ต.ฉัตรชัย แก้วคำปอด หรือทนายแชมป์ พร้อมขบวนรถประมาณ 10 คัน มวลชนราว 20 คน เคลื่อนตัวออกจากพัทยาน้อย ต.คันไร่ อ.สิรินธร มุ่งหน้าไปยังด่านสากลไทยลาว ช่องเม็ก เพื่ออ่านแถลงการณ์เรียกร้องให้ทางการลาวฉีดวัคซีนกลุ่ม mRNA ให้คนที่ไปเก็บเห็ดทั้ง 7 คน และคนไทยที่ต้องการวัคซีนชนิดดังกล่าวเนื่องจากรัฐบาลไทยไม่มีประสิทธิภาพหาวัคซีนชนิดดังกล่าวให้คนในประเทศได้ โดยมีพ.ต.อ.บุรภัช บุรีภักดี ผกก.สภ.ช่องเม็ก นำกำลังตั้งด่านสกัดและขอเจรจาห้ามม็อบนำมวลชนหรือขบวนรถไปใกล้แนวชายแดนเนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พร้อมรับหนังสือจากกลุ่มผู้ชุมนุมแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ

จี้ตู่ออก – สมาพันธ์ประชาธิปไตยจังหวัดร้อยเอ็ด ตั้งโต๊ะแถลงเรียกร้องพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออก หยุดการเจ็บป่วยและตายของประชาชนจากโควิด และหยุดทำร้ายประชาชนที่เห็นต่าง ที่ร้านอาหารริมห้วยเหนือ จ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 7 ส.ค.

ร้อยเอ็ดจี้นายกฯลาออก

ที่จ.ร้อยเอ็ด นายอุดม มณีวรรณ ประธานสมาพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมกรรมการ และนายสมนึก เศรษฐ์จันทร์ เลขาธิการสมาพันธ์ประชาธิปไตยจังหวัดร้อยเอ็ด ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ลาออก หยุดการเจ็บป่วยและตายของประชาชนจากการแพร่ ระบาดของโรคโควิด-19 และรัฐบาลต้องหยุดคุกคามทำร้ายประชาชนที่เห็นต่าง โดยใช้กระบวนการรับฟังปัญหา เจรจาพูดคุย เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ที่วิกฤตรุนแรง ก่อนนำป้าย “หยุดผู้นำ หยุดตาย หยุดทำร้ายประชาชน” ไปติดตามร้านอาหารและจุดที่ประชาชนสัญจรไปมา

ที่ลานวัฒนธรรมปัตตานี จ.ปัตตานี นักศึกษาและประชาชนจัดกิจกรรม “คาร์ม็อบตานี” ท่ามกลางเจ้าหน้าที่สังเกตการณ์กว่า 50 นาย เวลา 16.30 น. ประชาชนรวมตัวกันนำรถมาจอดกว่า 100 คัน ส่วนใหญ่เป็นรถจักรยานยนต์ พร้อมบีบแตรรถเป็นสัญลักษณ์และเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ลาออก ก่อนเคลื่อนขบวนไปตามจุดสำคัญรอบเมือง

คาร์ม็อบ – นักศึกษาร่วมกับประชาชนจำนวนมากจัดกิจกรรมขบวนรถแห่คาร์ม็อบ ‘ตานี’ กว่า 100 คัน วิ่งบีบแตรเป็นสัญลักษณ์ขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปรอบเมืองปัตตานี เมื่อวันที่ 7 ส.ค.

‘โคราช-ยะลา’ร่วมคาร์ม็อบ

ที่จ.นครราชสีมา บริเวณหน้าลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) กลุ่มแนวร่วมโคราชปลดแอก และกลุ่มคนโคราชรักประชาธิปไตย จัดกิจกรรมคาร์ม็อบ มีรถยนต์ส่วนบุคคลและรถจักรยานยนต์เข้าร่วม ขณะที่หน้าศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา จ.ยะลา กลุ่มนักเรียนนักศึกษาจัดกิจกรรม “ยะลาคาร์ม็อบ” ขับขี่รถจักรยานยนต์กว่า 500 คน โดยมีรถยนต์ปิดท้าย บีบแตรเวียนรอบเมืองยะลา

ศรีสะเกษบีบแตรกระหึ่ม

ที่จ.ศรีสะเกษ บริเวณถนนหน้าสวนสาธารณะมารีหนองแคน ต.หนองครก อ.เมือง กลุ่มคาร์ม็อบกว่า 80 คัน รวมตัวกันชุมนุมขับไล่รัฐบาล เคลื่อนขบวนไปตามถนนกสิกรรมผ่านไปยังถนนวันลูกเสือ ถนนกวงเฮง เลี้ยวซ้ายไปยังถนนขุขันธ์ ออกสู่ถนนอุบล เมื่อขบวนมาถึงสามแยกนิกรมอเตอร์มีขบวนคาร์ม็อบรถจักรยานยนต์กว่า 1,000 คัน บีบแตรเบิ้ลเครื่องยนต์เสียงดังกึกก้องเข้าร่วมขบวน และพากันมาจอดอยู่ที่บริเวณถนนทองมากก่อนถึงอาคารพลศึกษาวีสมหมาย ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสนามรักษาผู้ป่วยโควิด โดยมีรถนำขบวนติดเครื่องเสียงมาจอดและแกนนำขึ้นปราศรัย ก่อนยุติการชุมนุมในเวลา 18.00 น.

ตู่ขอบคุณตร.ยึดหลักสากล

เวลา 21.08 น. นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ดูแลการชุมนุม ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการเข้าระงับเหตุและควบคุมฝูงชน ยึดหลักสากล ปฏิบัติการตามสถานการณ์และความจำเป็นเท่านั้น พร้อมทั้งขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือ หลีกเลี่ยง ไม่เข้าร่วมหรือไปยังพื้นที่ชุมนุม นายกฯ ยังรู้สึกเสียใจที่การชุมนุมก่อให้เกิดความ เสียหายแก่ทรัพย์สิน สร้างความเดือดร้อนและสร้างผลกระทบให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่และผู้ที่เดินทางทั่วไปด้วย

ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ระบุการชุมนุมของเยาวชนปลดแอกในวันนี้ว่า อย่ารอให้ถึงกลียุค การชุมนุมที่เกิดขึ้นในวันนี้ พิสูจน์ชัดแล้วว่า รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ปิดประตูตายไม่ฟังเสียงประชาชน ไม่ประนีประนอม ไม่รับฟังข้อเรียกร้องแห่งยุคสมัย ไม่ว่าการชุมนุมจะจัดโดยใคร ที่ไหน เมื่อไหร่ รูปแบบจะสันติเพียงใด รัฐก็พร้อมใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ปราบปรามประหนึ่งประชาชนเป็นอริราชศัตรู

วันนี้การปราบปรามผู้ชุมนุมเกิดขึ้นตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มต้นการชุมนุม ประชาชนที่ไปร่วมชุมนุมมือเปล่า ถูกปราบปรามด้วยเจ้าหน้าที่อาวุธครบมือ ใช้ทั้งกระสุนยาง แก๊สน้ำตา และรถน้ำแรงดันสูง สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร วันนี้คุณกำลังเลือกข้างผิด เลือกทำตามคำสั่งที่ไร้มนุษยธรรม ไร้ความชอบธรรม หยุดรับใช้รัฐบาลที่หมดความชอบธรรม ได้เวลามายืนเคียงข้างประชาชน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน