ลุ้นประกันชั้นศาลวันนี้
นัดคาร์ม็อบใหญ่10สค.

ล็อกเพนกวิน พร้อมพวก คดีสาดสีหน้าตชด.หลังมอบตัวที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยคุมไปแจ้งข้อหาที่สภ.คลองห้า แล้วนำมาคุมไว้ที่บก.ตชด. ส่งฝากขังศาลธัญบุรีวันนี้ เพนกวินปลุกจัดคาร์ม็อบ 10 สิงหา ลั่นเป็นขบวนที่ใหญ่ที่สุด นัดหมายที่แยกราชประสงค์ ขณะที่บช.น.สรุปเหตุการณ์ม็อบ 7 สิงหา จับกุมผู้ชุมนุม 14 คน ยึดหัวนอต-ลูกแก้ว พร้อมตั้งข้อหาอั้งยี่ซ่องโจร รวมทั้งเน้นจับรถเครื่องขยายเสียง และรถขนอุปกรณ์ ด้านคาร์ม็อบสลิ่มกลับใจคึก ไฮโซลูกนัทนำทีม ไล่ประยุทธ์ เต้น-ณัฐวุฒิประกาศจัดคาร์ปาร์ก ร่วมคาร์ม็อบและไฮด์ปาร์กเข้าด้วยกัน นัด 15 สิงหานี้

สรุปจับ 14 คนม็อบ 7 ส.ค.

วันที่ 8 ส.ค. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. โฆษกบช.น. กล่าวถึงการชุมนุมม็อบ 7 สิงหา ว่า ผลของการชุมนุม มีตำรวจ บาดเจ็บ 3 นาย คือ 1.ส.ต.ต. ภานุเชษฐ์ ผิวอ่อน ผู้บังคับหมู่ร้อย 3 กองกำกับการควบคุมฝูงชน กองบังคับการควบคุมฝูงชน ได้รับบาดเจ็บที่หลัง ซึ่งยังคง พักรักษาตัวอยู่ที่อาคารภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา โรงพยาบาลตำรวจ 2.ส.ต.ต. ภัทรพงศ์ ศุภะรัชฏเดช ผู้บังคับหมู่ ร้อย 3 กองกำกับการควบคุมฝูงชน กองบังคับการควบคุมฝูงชน ได้รับบาดเจ็บบริเวณดวงตา ซึ่งได้ให้กลับไปพักรักษาตัวยังที่พัก 3.ส.ต.ต.นิตินัย ครองสม ผู้บังคับหมู่ ร้อย 3 กองกำกับการควบคุมฝูงชน กองบังคับการควบคุมฝูงชน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด.22 เข้าท้ายทอย แพทย์ผ่ากระสุนที่อยู่ใน กล้ามเนื้อติดหลอดลมออก และยังคงพักรักษาอยู่ในห้อง ICU ของโรงพยาบาลตำรวจ

ขณะที่บช.น.รายงานการจับกุมผู้ต้องหากลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 64 รวม 6 คดี ผู้ต้องหารวม 14 คน ดังนี้

1.เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 64 เวลาประมาณ 10.30 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน. ชนะสงคราม จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายปวีณ์กร ลำพุทธา อายุ 22 ปี นายธนบัตร วงษ์วิไลวารินทร์ อายุ 20 ปี ตั้งข้อหา อั้งยี่และซ่องโจร และร่วมกันมีเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ตรวจยึดวิทยุสื่อสาร ลูกเหล็ก มีดพับ คีมตัดลวด และคีมตัดเหล็ก โดยตร.จับกุมได้ที่โรงแรม mango lagoon ที่ผู้ต้องหา ไปพักก่อนการชุมนุม

2.เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ จับกุมผู้ต้องหา 6 ราย คือ นายโสภา ศิริ อายุ 44 ปี นายจิรพงศ์ ชโลธรพิเศษ อายุ 23 ปี นายทนง ชำนาญจันทร์ อายุ 19 ปี นายณัฐพงษ์ มะลิซ้อน อายุ 22 ปี น.ส.ภัชราภรณ์ กองค้า อายุ 22 ปี น.ส.กัลยกร จันทร์โม้ อายุ 21 ปี ตั้งข้อหา อั้งยี่และซ่องโจร, มีซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และพกพาอาวุธ ยึดของกลาง หน้ากากป้องกันแก๊ส ปลอกเกราะผ้า หนังสติ๊ก หัวนอต ลูกแก้ว วิทยุสื่อสาร พลุสี ดิ้ว โดยเป็นกลุ่มการ์ดวีโว่

3.เวลา 13.00 น. บก.อคฝ. จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายธีรวิช สุขประเสริฐกุล อายุ 24 ปี และ นายนิรุฒน์ ละมูล อายุ 33 ปี ข้อหา ร่วมกันชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ในพื้นที่ที่มีประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุม สูงสุดและเข้มงวด จับกุมได้ที่ถนนราชดำเนิน หน้าแมคโดนัลด์

เน้นจับ-ยึดรถเครื่องเสียง

4.เวลา 18.23 น. กก.สส.บก.น.6 ได้ร่วมกันจับกุมนายลำไย จันทร์งาม อายุ 44 ปี ข้อหา ร่วมกันจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนร่วมกันมากกว่า ห้าคน ในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศหรือ คำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และร่วมชุมนุมหรือทำกิจกรรม ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ ที่มีการหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้า โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจำเลยขับรถกระบะ ขยายเสียง และจับกุมหลังจากประกาศ ยุติชุมนุม

5. 18.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สปพ. จับกุมนายวิชพรรษ ศรีกสิพันธุ์ อายุ 21 ปี ที่สามเหลี่ยมดินแดง ข้อหาร่วมกันจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนร่วมกันมากกว่าห้าคน ในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุม สูงสุดและเข้มงวด และร่วมชุมนุมหรือ ทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ที่มีการหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ซึ่งผู้ต้องหา ขับรถตู้ขยายเสียง

6. 20.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.บช.น. จับกุมนายณัฏฐ์ ลมเชย อายุ 20 ปี (เป็นผู้ขับขี่) นางสาวพิชยา อักษร อายุ 30 ปี (ผู้โดยสาร) ข้อหา ร่วมกันจัดกิจกรรม รวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนร่วมกันมากกว่าห้าคน ในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และร่วมชุมนุมหรือทำกิจกรรม ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ที่มีการหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เป็นคนขับรถส่งอุปกรณ์ การชุมนุม จับได้ที่สามเหลี่ยมดินแดง

รวมจับกุมผู้ต้องหา 14 คน

แรลลี่ไล่ตู่ – กลุ่มคนพัทยารักประชาธิปไตย และคณะไทยไม่ทน จัดกิจกรรมคาร์ม็อบแรลลี่ ขับรถตระเวนไปตามจุดต่างๆ ทั่วจังหวัดชลบุรี พร้อมโบกธงและกดแตรไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เมื่อวันที่ 8 ส.ค.

ณัฐวุฒินัด 15 ส.ค.‘คาร์ปาร์ก’

วันเดียวกัน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โพสต์ เฟซบุ๊ก ระบุ นัด 15 สิงหา “คาร์ปาร์ก” ยกระดับ “คาร์ม็อบ+ไฮด์ปาร์ก” ไล่ประยุทธ์ พร้อมกันทั้งประเทศ โดยระบุว่า หัวใจสู้และความวีระอาจหาญของคนหนุ่มสาวเป็นเรื่องที่ผมเคารพ พวกเขาแสดงออกว่าข้ามพ้นความกลัวและพร้อมเผชิญหน้ากับอำนาจรัฐที่ไม่ชอบธรรม สัญญาณแบบนี้ผู้มีอำนาจต้องสำเหนียก ทางแก้ไขไม่ใช่ล้อมปราบแต่คือการรับฟัง ทำความเข้าใจ และยอมรับพื้นที่ของความคิดใหม่

แกนนำการต่อสู้ก็ควรสรุปบทเรียน การวิพากษ์อย่างสร้างสรรค์ด้วยเหตุผล ข้อเท็จจริง และความปรารถนาดีต่อกัน จะส่งผลดีในสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อนแหลมคม

ไม่มีขบวนการใดสมบูรณ์แบบ สู้ไปเรียนรู้ปรับเเก้กันไปเป็นธรรมดาวิสัย ในสนามการต่อสู้ ไม่มีหลังพิงใดแกร่งกล้าปลอดภัยต่อประชาชนเท่ากับแผ่นหลัง ของเราที่ยืนพิงกัน

วันที่ 10 สิงหาคม มีขบวนคาร์ม็อบของคนหนุ่มสาว ผมขอส่งกำลังใจเป็นแรงหนุน สมาธิ สติปัญญา ความกล้าหาญ และรอบคอบ รัดกุมจงอยู่กับพวกเขา

สู้ไม่ได้ด้วย “กำลัง” แต่ต้องสู้ด้วย “พลัง”

ส่วนภารกิจต่อไปของเครือข่ายไล่ประยุทธ์ (อ.ห.ต.) เราพร้อมแล้ว เตรียมพบกับ CAR MOB + HYDE PARK “CAR PARK” พร้อมกันทุกจังหวัด ทั่วประเทศ 15 ส.ค.นี้ ยกระดับการปราศรัยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย เคลื่อนขบวน หยุดขบวน และแสดงพลังเป็นหนึ่งเดียว

เสียงไล่ประยุทธ์จะเลื่อนลั่นสะท้านแผ่นดิน สันติวิธี สีสันฉูดฉาด สาระบาดหัวใจ ประสานพลังไปกับนักสู้รุ่นใหม่ โปรดติดตามตอนต่อไป ให้มันจบที่รุ่นมัน

สลิ่มกลับใจ – ‘ไฮโซลูกนัท’ นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย อดีต แนวร่วมกปปส. จัดกิจกรรมคาร์ม็อบ จากหน้าปากซอยทองหล่อ 8 ถนนสุขุมวิท เคลื่อนขบวนไปที่ย่านราชประสงค์ กทม. สมทบกับกลุ่มไทยไม่ทน เพื่อขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เมื่อวันที่ 8 ส.ค.

คาร์ม็อบสลิ่มกลับใจคึก

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ทองหล่อซอย 8 นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือไฮโซลูกนัท ทายาทนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และอดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ อดีตกปปส. นัดทำกิจกรรม “คาร์ม็อบ สลิ่มกลับใจ” ในเวลา 10.00 น. ที่ถนนทองหล่อ ก่อนจะขับวนไปเรื่อยๆ โดยผ่านแยกราชประสงค์ ออกถนนเพชรบุรี ผ่านแยก อโศก ออกถนนสุขุมวิท และกลับมาที่ถนน ทองหล่ออีกครั้ง

โดยมีกลุ่มไทยไม่ทน สามัคคีประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เข้าร่วมด้วยเช่นกัน โดยนัดรวมตัวเพื่อตั้งขบวนรอในเวลา 10.30 น. ที่แยกราชประสงค์ และเข้าสมทบเมื่อขบวนของนายธนัตถ์มาถึง ซึ่งการทำกิจกรรม คาร์ม็อบของนายธนัตถ์ มีวัตถุประสงค์ เพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เรียกร้องให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และเรียกร้องวัคซีน mRNA

นายธนัตถ์กล่าวว่า เมื่อเปลี่ยนทัศนคติทางการเมืองเปลี่ยน อาจจะเกิดความคิด ที่ขัดแย้งกับคนในครอบครัว ซึ่งตนคิดว่ามันง่ายมาก แค่ให้เกียรติกัน ค่อยๆ คุยกันอย่างละมุนละม่อม จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำความเข้าใจในเรื่องนั้น อาจจะไม่ต้องถึงกับให้กลับใจมาชู 3 นิ้วด้วยกัน แต่ขอแค่ให้เข้าใจและเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน สิทธิ ในการเรียกร้องประชาธิปไตยของคน รุ่นใหม่ หรือสิทธิในการจะเป็นอนุรักษนิยม ของคนรุ่นเก่า โดยการทำกิจกรรมวันนี้ มีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ได้แก่ 1.พล.อ.ประยุทธ์ ต้องลาออก 2.รัฐธรรมนูญต้องถูกแก้ไข และ 3.วัคซีน mRNA ต้องเข้าถึงประชาชน

โดยที่แยกราชประสงค์ ตัวแทนกลุ่มไทยไม่ทนและคนเสื้อแดง กล่าวว่า ขอต้อนรับนายธนัตถ์ และวันนี้กลุ่มไทยไม่ทนจะเข้าร่วมคาร์ม็อบกับนายธนัตถ์ เราจะสู้ไปด้วยกัน จะไล่พล.อ.ประยุทธ์ไปด้วยกัน ในอดีตที่ผิดพลาดเราให้อภัย นายธนัตถ์เรียบร้อยแล้ว ใครที่มีจุดประสงค์ เพื่อไล่ประยุทธ์ เราต่างเป็นพี่น้องกัน ในอดีต เราอาจได้รับข้อมูลที่แตกต่างกัน ดังนั้น เรื่องที่ผ่านมาแล้วให้พักไว้ เพื่อให้ประเทศเดินต่อไปได้ ต่อไปนี้ประเทศไทยจะไม่มีสลิ่ม ไม่มีควายแดง มีแต่พี่น้องประชาธิปไตย ขอให้ทุกคนสามัคคีกัน เพราะถ้าเราสามัคคีกัน พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ไม่เกินสิ้นเดือนนี้

โดยกลุ่มคาร์ม็อบ สลิ่มกลับใจ ได้เดินทาง ไปหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้กำลังใจกลุ่มนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ที่เดินทางมารายงานตัวจากกรณีชุมนุมสาดสีหน้าบก.ตชด. คลอง 1 ปทุมธานี เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวกลุ่มทะลุฟ้าก่อนหน้านี้ ก่อนจะกลับไปยังเส้นทาง เดิมและยุติการชุมนุมเวลา 15.25 น.

ล็อก‘กวิ้น’ – ‘เพนกวิน’ พริษฐ์ ชิวารักษ์ และณัชนนท์ ไพโรจน์ แกนนำราษฎร ชู 3 นิ้ว ขณะถูกนำตัวมาสอบสวน เพิ่มเติมที่สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ในคดีสาดสีหน้าบก.ตชด.ภาค 1 อ.คลองห้า ก่อนส่งตัวไป ที่บก.ตชด.ภาค 1 เมื่อวันที่ 8 ส.ค.

‘เพนกวิน’นำทีมมอบตัว

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากกรณีศาลธัญบุรี ออกหมายจับ 4 แกนนำกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม ในการชุมนุมสาดสีหน้าบก.ตชด. ภาค 1 ปทุมธานี เมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยออกหมายจับนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ นายณัชนน ไพโรจน์ นายพรหมศร วีระธรรมจารี และนายศิริชัย นาถึง ในข้อหาความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยผู้กระทำผิดเป็นหัวหน้า หรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการกระทำ ความผิดนั้น /ร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ที่มีการรวมกลุ่มกันของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 5 คน /ร่วมกันจัดให้มีการชุมนุม หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงการแพร่โรคในพื้นที่ที่ประกาศ หรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวดและพื้นที่ควบคุมสูงสุดโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

ร่วมกันกระทำการหรือดำเนินการใดๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งอาจ เป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตราย หรือแพร่ระบาดออกไป /ร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดที่มีการรวมกลุ่มกัน ของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 5 คน อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดปทุมธานี เรื่องมาตรการป้องกันและการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และร่วมกันทำการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต

เมื่อเวลา 12.30 น. นายณัชนนเดินทางมาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ ก่อนถูกตร.สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี เจ้าของพื้นที่ อ่านหมายจับ พร้อมควบคุมตัวส่งสภ.คลองห้า ด้วยรถเก๋งสีดำไม่ใช่ตราโล่

ต่อมา 13.10 น. นายพริษฐ์ และนายศิริชัย เดินทางมาถึง พร้อมระบุนัดจัดกิจกรรมคาร์ม็อบครั้งใหญ่ที่สุด ในวันที่ 10 ส.ค. นัดพร้อมกันที่แยกราชประสงค์

จับ‘เพนกวิน’ – ‘เพนกวิน’ พริษฐ์ ชิวารักษ์ และณัชนนท์ ไพโรจน์ แกนนำราษฎร ชู 3 นิ้วระหว่างเข้ามอบตัว จากกรณีสาดสีหน้าบก.ตชด.ภาค 1 อ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ก่อนถูกนำตัวไปสอบสวน ที่บก.ตชด.ภาค 1 เมื่อวันที่ 8 ส.ค.

จากนั้นนายพรหมศรเดินทางมามอบตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วยเช่นกัน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะควบคุมทั้งหมดเข้าภายใน เพื่อสอบสวนเบื้องต้น ขณะที่มีมวลชน มาชุมนุมหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้กำลังใจแกนนนำชุมนุม

จากนั้นเวลา 14.30 น. เจ้าหน้าที่คุมตัวทั้ง 3 คน ส่งไปยังสภ.คลองห้า ทั้งนี้ทั้ง 3 ไม่ยินยอมจะเดินทางไปด้วยรถควบคุม ผู้ต้องหา จนประท้วงนั่งลงกับพื้น เจ้าหน้าที่ ต้องจัดรถตู้ตำรวจนำส่ง ทั้งสามถึงยอมเดินทางไป

ไม่ให้ประกัน-ส่งฝากขังศาล

ต่อมาเวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่คุมตัวนายพริษฐ์ นายพรหมศร นายศิริชัย มาถึงสภ.คลองห้า โดยนายณัชนน ที่เดินทางมาก่อนหน้านี้ ตร.สภ.คลองห้า ระบุเป็นการจับกุมก่อนเข้ามอบตัว

โดยพล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ภ.จว. ปทุมธานี สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำ แบริเออร์แผงเหล็ก และลวดหนามมา ปิดกั้นบริเวณทางเข้าออก สภ.คลองห้า ไว้อย่างแน่นหนา พร้อมได้เตรียมกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนจำนวนหนึ่ง ป้องกันการชุมนุมของมวลชนที่ติดตาม มาให้กำลังใจประมาณ 50 คน ทั้งนี้หลังจาก นำตัวมาถึงได้นำตัวขึ้นไปยังห้องสอบสวนชั้นที่สองของ สภ.คลองห้าทันที

กระทั่งเวลา 16.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดขึ้นรถตู้ตำรวจออกยัง สภ.คลองห้า ไปยัง บก.ตชด.ภาค 1 ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 1 ก.ม. สมทบกับนายณัชนน ที่ถูกนำตัวไปก่อนหน้านี้ โดยมีมวลชนประมาณ 50-60 คนเดินทางไปให้กำลังใจท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่ ชุดควบคุมฝูงชนที่คอยดูแลความสงบเรียบร้อย โดยมีการกั้นลวดหนามหีบเพลงพร้อมเครื่องกีดขวางบนสะพานทางเข้า ตชด.ภ.1 แน่นหนากว่าเดิม โดยคาดจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลธัญบุรี ในวันพรุ่งนี้ ขณะเดียวกันยังมีการเตรียมรถฉีดน้ำแรงดันสูงไว้เตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ ที่อาจเกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวเพนกวินและพวกไปสอบสวนที่บก.ตชด.ภาค 1 โดยไม่ให้บุคคลที่ไว้เนื้อเชื่อใจ พ่อแม่ รวมทั้งอาจารย์เข้ารับฟัง ชี้เป็นการกระทำที่บิดเบือนกฎหมาย ขณะที่นายประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์มธ. ระบุ ตำรวจทำผิดกฎหมาย เนื่องจากหลังยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงตั้งแต่ 22 ต.ค. 63 ตำรวจไม่มีสิทธินำตัวประชาชนไปคุมตัว ที่ ตชด.ภาค 1 ซึ่งยากแก่การเข้าถึงของญาติและทนาย ไม่มีกฎหมายให้อำนาจตำรวจเอาตัวผู้ถูกจับกุมไปยังตชด.ภาค 1

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน