สำนึกผิด-ขอโทษเหยื่อ
ฟันชิงทรัพย์-ฆาตกรรม
ปั๊ดคลี่ต่อปมจูงใจแท้จริง

คุมตัวหนุ่มขี้ยาทำแผนฯ นาทีโหด ฆ่าแหม่ม สวิส เปิดปากสารภาพเล่าตั้งแต่ขี่จยย.ไปหาของป่าที่น้ำตก เจอเหยื่อริมลำธาร หวังทรัพย์สินในกระเป๋า รัดคอ แต่ขัดขืน กอดรัด ฟัดเหวี่ยงตกน้ำ รัดคอซ้ำ ผ้าใบปิดคลุมร่าง ใช้ก้อนหินทับ ฉกเงินไป 300 บาท อ้างอารมณ์ชั่ววูบ ไม่มีเจตนาฆ่า กราบขอโทษสังคม ครอบครัวผู้เสียชีวิต ขณะที่ ‘บิ๊กปั๊ด’ เผยตั้ง 2 ข้อหาหนัก ชิงทรัพย์ ทำให้ถึงแก่ความตาย ส่วนกระทำชำเราด้วยหรือไม่ ต้องรอผลนิติวิทย์ กับผลศพ แต่ตร.ยังมีข้อสงสัยบางอย่าง โดยเฉพาะเหตุจูงใจที่แท้จริง

ค่าเบาะแส – นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต มอบเงิน 2 แสนบาท ให้ผู้แจ้งเบาะแสจนสามารถจับกุมคนร้ายฆ่าแหม่มชาวสวิสได้ โดยมีพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เป็นตัวแทนรับมอบ ที่ บก.ภ.จว.ภูเก็ต วันที่ 8 ส.ค.

เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ภูเก็ต พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบช.ภาค 8 พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รองผบช.ภาค 8 พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ รองผบช.ภาค 8 รรท.ผบก.ภูเก็ต พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผบช.ก. พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภาค 8 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบช.สส.ภาค 7 พล.ต.ต.ภวัต ประทีปวิศรุต ผบก.สถาบันนิติเวชวิทยา ร.พ.ตำรวจ และ พล.ต.ต.วิรุตติ์ เย็นสวัสดิ์ ผบก.ศพฐ. ร่วมแถลงผลจับกุมผู้ต้องหาฆ่าน.ส.นิโกล โซแวง ไวสส์คอปฟ์ นักท่องเที่ยวชาว สวิตเซอร์แลนด์ ทิ้งศพน้ำตกโตนอ่าวยน ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต

พล.ต.ต.นันทเดช รองผบช.ภาค 8 กล่าวว่าจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบชายไทยไม่ทราบชื่อ สวมเสื้อสีดำ กางเกงขาสั้น ใส่แว่นกันแดด ขับขี่รถจักรยานยนต์สีแดงขึ้นไปบนน้ำตกก่อน ผู้เสียชีวิตจะขึ้นไป และกลับลงมาหลังจากผู้เสียชีวิตขึ้นไป 1 ชั่วโมง 17 นาที 13 วินาที ร่วมอยู่ในน้ำตกเป็นเวลา 2 ชั่วโมง 39 นาที 14 วินาที จากการสืบสวนทราบว่ารถจักรยานยนต์ทะเบียน ขมข 493 ภูเก็ต ยี่ห้อฮอนด้า สีแดง มีนายธีรวัฒน์ ท่อทิพย์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านอยู่ที่ 11/7 หมู่ 3 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เป็นผู้ขับขี่ มีที่พักอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ

รองผบช.ภาค 8 กล่าวว่า จึงเชิญตัวมาซักถามให้การรับว่าเป็นบุคคลที่ปรากฏ อยู่ในภาพวงจรปิด ตรวจร่างกายพบร่องรอย บาดแผลที่เพิ่งเกิดหลายแห่ง ซักถาม พบพิรุธต้องสงสัยให้ถ้อยคำไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงหลายประการ และให้การรับสารภาพในเวลาต่อมาว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าด้วยตนเอง ระบุว่าหลังจากเดินขึ้นไป ชั้นบนของน้ำตก เมื่อเดินลงกลับมาพบ ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่บริเวณโขดหิน แอบดูอยู่สักครู่แล้วเดินเข้าไปบริเวณด้านหลัง ใช้มือ ทั้งสองข้างล็อกคอ ผู้เสียชีวิตต่อสู้และดิ้นรนแล้วตกลงไปบริเวณแอ่งน้ำด้วยกันจนผู้เสียชีวิตแน่นิ่ง จากนั้นจับผู้เสียชีวิตคว่ำหน้า ใช้พลาสติกสีเข้มที่อยู่ในบริเวณนั้น คลุมปิดศพไว้ ใช้ก้อนหินทับไว้อีกชั้นหนึ่งเพื่อไม่ให้ผู้ใดพบเห็น นำกระเป๋าเป้ผู้ตายไปซ่อนหลังต้นไม้ ส่วนรองเท้าโยนทิ้ง จากนั้นขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี

พล.ต.ต.นันทเดชกล่าวต่อว่า ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.วิชิต รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องขออนุมัติหมายจับ ต่อศาลจังหวัดภูเก็ต จึงจับกุมนายธีรวัฒน์ตามหมายจับลงวันที่ 7 ส.ค.2564 ในข้อหาฆ่าผู้อื่น โดยนายธีรวัฒน์ให้การรับสารภาพ ตลอดข้อกล่าวหา จากการสอบสวนเพิ่มเติมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ารื้อค้นกระเป๋าเป้เอาทรัพย์สิน เป็นเงินสดของ ผู้เสียชีวิต 300 บาท พนักงานสอบสวน จึงแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้ต้องหาให้การ รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

จากนั้นพล.ต.ต.นันทเดชโทรศัพท์พูดคุย กับนายธีรวัฒน์ที่ถูกควบคุมตัวอยู่อีกห้อง โดยมีภรรยาและทนายความร่วมรับฟังอยู่ด้วย เพื่อให้นายธีรวัฒน์เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะแถลงข่าว โดยนายธีรวัฒน์กล่าวว่าขึ้นไปบนน้ำตกเพื่อจะหากล้วยไม้ป่าหรือ ของป่า แต่ไม่เจอ เลยเดินกลับลงมาและเจอฝรั่งเปลือยกายท่อนล่างอยู่ริมลำธาร ด้านข้างมีกระเป๋าเป้สีดำ หวังว่าจะมีทรัพย์สิน อยู่ในกระเป๋า เลยเข้าไปรัดคอผู้ตายจากด้านหลัง แต่ถูกขัดขืนจึงกอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน และตกลงไปในน้ำทั้ง 2 คน จึงรัดคอซ้ำจนผู้ตายหมดสติ และนำผ้าใบมาปิดคลุมร่าง ไว้แล้วใช้ก้อนหินทับ

นายธีรวัฒน์กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นรื้อค้นกระเป๋าเป้นำเงิน 300 บาทไป และโยนรองเท้าผู้ตายทิ้งไปในป่าข้างทาง จากนั้นเดินลงมาจากน้ำตกและใช้เงินที่ขโมยมาแวะซื้อน้ำส้ม 30 บาท น้ำแข็ง 10 บาท ไปแวะที่ขนำของเพื่อนและเจอเพื่อนฝูง โดยให้เงินที่เหลืออีก 260 บาทไปซื้อกัญชาและบุหรี่มาเสพ จากนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับมาบ้านพัก ใช้ชีวิตตามปกติ จนถึงวันที่ 5 ส.ค.ทราบข่าวจากแฟนว่ามีฝรั่งเสียชีวิตที่น้ำตกโตนอ่าวยน ตกใจมากและสำนึกผิดจากการกระทำที่ทำลงไป จนกระทั่งมีตำรวจนำตัวไปสอบสวน จึงรับสารภาพทุกอย่างและอยากขอโทษ

ผู้ต้องหาฆ่าฝรั่งสวิสกล่าวอีกว่า ทราบข่าว การเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวจากแฟน ก็รู้สึกกลัวและตกใจ แต่ก็ไม่ได้บอกแฟนหรือผู้อื่น จนเจ้าหน้าที่มาหาตนเองที่บ้านพัก ยอมรับว่าตกใจ โดยขณะที่พบผู้เสียชีวิต ที่น้ำตกนั้นไม่ได้เสพยาเสพติด แต่ก่อน เกิดเหตุ 1 สัปดาห์เสพยา และประสงค์แค่ทรัพย์สินของผู้ตายเท่านั้น โดยตนเองเดือดร้อนเงินจากพิษโควิด ตกงาน รายได้น้อย รับจ้างตัดหญ้าอาทิตย์หนึ่งได้เงินราว 1,000 บาท มีเงินก็ให้แฟนไปใช้จ่ายกับครอบครัวหมด ขณะชิงทรัพย์ไม่คิดว่า จะทำให้ผู้ตายถึงแก่ชีวิต อารมณ์ชั่ววูบ ไม่มี เจตนาที่จะฆ่า อยากกราบขอโทษครอบครัว ผู้เสียชีวิต

นาทีฆ่า – ตร.ภูเก็ตคุมตัวนายธีรวัฒน์ หรือ บังหลี ท่อทิพย์ อายุ 27 ปี ทำแผนฯ นาทีฆ่านางนิโกล โซแวง ไวสส์คอปฟ์ นักท่องเที่ยวชาวสวิส บริเวณน้ำตกโตนอ่าวยน ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต พร้อมแจ้ง 2 ข้อหาหนัก เมื่อวันที่ 8 ส.ค.

นายธีรวัฒน์กล่าวต่อว่า ขอโอกาสคนไทย ทั้งประเทศยกโทษให้ด้วย ได้สำนึกผิดแล้ว กับช่วง 2 วันหลังเกิดเหตุยังใช้ชีวิตตามปกติ ขับรถจักรยานยนต์ไปรับจ้างตัดหญ้า ยอมรับว่ากลัวมาก แต่ก็พยายามใช้ชีวิตตามปกติ ก็ไม่รู้จะหนีไปไหน หรือจะซ่อนความลับอย่างไร ส่วนบาดแผลที่ด้านข้างลำตัวมีอยู่แล้วนิดหนึ่ง แต่ขณะเกิดเหตุอาจไปถูกหินขูดเพิ่ม เพราะแผลที่เอวได้เคยบอกกับแฟนก่อนเกิดเหตุแล้ว ขอโทษ คนไทยทั้งประเทศ ไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดเหตุ บานปลายเช่นนี้ ที่สำคัญอยากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต

ขณะที่พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าวว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนตั้งข้อหาชิงทรัพย์ และทำให้ถึงแก่ความตาย ส่วนจะมีข้อหากระทำชำเราด้วยหรือไม่ต้องรอผลตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ และผลการชันสูตรพลิกศพให้แน่ชัดก่อน ผู้ต้องหาให้การในระดับหนึ่ง แต่ตำรวจยังมีข้อสงสัย บางเรื่องที่ยังไม่ปักใจเชื่อ จะต้องรอพยานหลักฐานให้ชัดเจนเพื่อให้ทราบถึงมูลเหตุจูงใจที่แท้จริงอีกครั้ง ขอบคุณทีมงานสืบสวนสอบสวนที่ติดตามผู้ก่อเหตุได้ โดยเร็ว และหารือกับทางจังหวัดภูเก็ต เพื่อยกระดับความปลอดภัยในพื้นที่ให้ นักท่องเที่ยวเพิ่มเติม

จากนั้น พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง รองผบก.ภูเก็ต ว่าที่พ.ต.อ.ประเทือง ผลมานะ ผกก.สภ.วิชิต พ.ต.ท.ธรรมสรรค์ บุญทรง รองผกก.สส.สภ.วิชิต และพนักงานสอบสวนสภ.วิชิต ควบคุมตัวนายธีรวัฒน์ หรือบังหลี ไปทำแผนประทุษกรรมประกอบคำรับสารภาพที่น้ำตกโตนอ่าวยน โดยเริ่มจากจุดแรกหน้าป้ายน้ำตก จุดจอดรถจักรยานยนต์ จากนั้นเดินขึ้นน้ำตกเป็นจุดที่สองขณะหาของป่า ส่วนจุดที่สามเป็น ที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นตำรวจควบคุม ผู้ต้องหากลับมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่สภ.วิชิต และจะฟ้องฝากขังศาลจังหวัดภูเก็ตต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน