ม็อบ10สค.ยันวันนี้ชุมนุมใหญ่
โวยรัฐทำบัญชีดำ-183รายชื่อ
ทั้งแกนนำนศ.-ก้าวไกล-ก้าวหน้า
ร้องศาลสั่งห้ามตร.ยิงกระสุนยาง

คาร์ม็อบชุมนุมใหญ่ วันนี้ สี่แยกราชประสงค์ ประกาศไล่บี้ทรราชร่วมกัน ขณะที่ส.ส.แฉเอกสารหลุด รัฐขึ้นบัญชีลับจับตาบุคคล 183 รายชื่อ ทั้งแกนนำพรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า นักวิชาการ นักศึกษา แกนนำม็อบ ดารา ส่วนภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนร้องศาลแพ่งอีก ขอคุ้มครองชั่วคราว ห้ามตร.ใช้กระสุนยาง แก๊สน้ำตา ฉีดน้ำผสมสารเคมี หรือใช้ความรุนแรงสลายม็อบ ศาลนัดฟังคำสั่งวันนี้ ด้าน ‘ไผ่’ วืดประกันคดีสาดสี ‘เพนกวิน’โดนถอนประกัน เข้าคุกอีกรอบ ‘ทนายอานนท์’ มอบตัวคดีชุมนุมเสกคาถา

เมื่อวันที่ 9 ส.ค. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊ก ว่าได้รับเอกสารลับที่สุดจากบัญชีความมั่นคง แก้ไขวันที่ 1 มิ.ย.2564 โดยมีรายชื่อบุคคล 183 รายชื่อ และบัญชีโซเชี่ยลมีเดีย 19 บัญชี ที่ถูกระบุเป็นวอตช์ลิสต์ หรือรายชื่อบุคคลที่ต้องเฝ้าจับตามอง และสถานะคดีของผู้ถูกหมายตาจากรัฐ ลงชื่อพ.ต.ท.สังกัดบก.ตม.2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

นายรังสิมันต์ระบุว่าในรายชื่อดังกล่าว นอกจากชื่อของตนอยู่ในบัญชีวอตช์ลิสต์ของฝ่ายความมั่นคงแล้ว ยังมีชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค และนางอมรัตน์ โชคปมิตกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล รวมถึงอีกหลายคนที่ดูแล้วก็เป็นประชาชนธรรมดา ไปจนถึง ผู้ชุมนุม และอดีตผู้บริหารพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกยุบไปแล้ว เช่น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และน.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ทั้งที่ไม่ได้มีอะไรที่จะไปเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ

“สรุปว่าหน่วยงานรัฐภายใต้รัฐบาลนี้ มองประชาชนและพรรคก้าวไกลเป็นภัยต่อความมั่นคงไปเสียแล้ว หรือได้รับคำสั่งให้หมายหัว ประชาชนที่ไม่สยบยอมต่อรัฐบาลนี้ หากเป็นเอกสารจริง ผมว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีคำตอบแล้ว เพราะการเริ่มต้นมองประชาชนในชาติเป็นภัยต่อความมั่นคงโดยไม่มีสาเหตุ คือความผิดปกติอย่างยิ่ง จะยิ่งทำให้สถานการณ์ทางการเมืองที่มีความขัดแย้งรุนแรงอยู่แล้ว ยากต่อการแก้ไขมากกว่าเดิมแน่ๆ” นายรังสิมันต์ระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ 183 รายชื่อที่อยู่ในบัญชีความมั่นคงตามเอกสารที่นาย รังสิมันต์นำมาเปิดเผย นอกจากรายชื่อข้างต้นแล้ว ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มบุคคลที่เคลื่อนไหวทางการเมือง อาทิ นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ชิวารักษ์, น.ส.ปนัสยา หรือรุ้ง สิทธิจิรวัฒนกุล, นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน, น.ส.จุฑาทิพย์ หรืออั๋ว ศิริขันธ์, น.ส.ภัสราวลี หรือมายด์ ธนกิจวิบูลย์ผล, น.ส.ชลธิชา หรือลูกเกด แจ้งเร็ว, นายชินวัตร หรือไบรท์ จันทร์กระจ่าง, นายชูเกียรติ แสงวงศ์ หรือจัสตินไทยแลนด์, นายไชยอมร หรือแอมมี่ แก้ววิบูลย์พันธุ์

น.ส.ณัฏฐธิดา หรือแหวน มีวังปลา, นายทัตเทพ หรือฟอร์ด เรืองประไพกิจเสรี, นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือหมอลำแบงค์, นายปิยรัฐ หรือโตโต้ จงเทพ, นายภาณุพงศ์ หรือไมค์ จาดนอก, นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) น.ส.วรรณวลี เอมจิตต์ หรือตี้ พะเยา, นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่, และ น.ส.อินทิรา หรือทราย เจริญปุระ นักแสดงชื่อดัง ขณะเดียวกันยังมีชื่อบุคคลอยู่ในต่างประเทศ อาทิ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการที่ลี้ภัยอยู่ประเทศญี่ปุ่น นายปัญญา สีสัน และนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว อดีตแกนนำนักศึกษา

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกบช.น. กล่าวถึงความพร้อมรับมือการชุมนุมวันที่ 10 ส.ค.ว่า การชุมนุมเสี่ยงแพร่ระบาดเชื้อโควิด มีความผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนการชักชวนสนับสนุนการชุมนุม ผู้รับจ้างนำคนเข้ามาชุมนุม การชักชวนผ่านสื่อออนไลน์ เข้าข่ายกระทำความผิด โดยขณะนี้ได้ชื่อผู้ว่าจ้างและหลักฐานทางการเงิน รวบรวมพยานหลักฐานเตรียมออกหมายจับ จากการสอบถามการรับจ้างชุมนุมนั้น หากมาเป็นประจำได้เงิน 2,000-3,000 บาท

ที่ศาลแพ่ง ภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน พร้อมด้วยสื่อมวลชนผู้ได้รับผลกระทบจากการเข้าสลายการชุมนุมของตำรวจเมื่อวันที่ 7 ส.ค. ยื่นคำร้องขอให้ศาลคุ้มครองฉุกเฉินอีกครั้ง เพื่อ 1.ให้ผบ.ตร. ผบช.น. และผบก.อารักขาและควบคุมฝูงชน (อคฝ.) มีคำสั่งห้ามเจ้าพนักงานตำรวจ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชนใช้ความรุนแรง เช่น ใช้อาวุธปืนกระสุนยาง แก๊สน้ำตา ฉีดน้ำผสมสารเคมี ทำร้ายร่างกาย โจทก์ทั้งสองและสื่อมวลชนที่สวมปลอกแขนสีขาว หรือสัญลักษณ์อื่นที่แสดงว่าเป็นสื่อมวลชน รวมทั้งประชาชนผู้มาชุมนุม หรือกระทำการใดอันเป็นการขัดขวาง คุกคาม ข่มขู่ จำกัดพื้นที่การปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน

2.ให้ผบ.ตร. ผบช.น. และผบก.อคฝ. สั่งการเจ้าพนักงานตำรวจปฏิบัติหน้าที่โดยคำนึงถึงความปลอดภัย และเสรีภาพของสื่อมวลชนและประชาชน 3.ขอให้ศาลมีคำสั่งห้าม ผบ.ตร. ผบช.น. ผบก.อคฝ. และเจ้าพนักงานตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชนสลายการชุมนุม โดยขัดต่อหลักการพื้นฐานว่าด้วยการใช้กำลังและอาวุธโดยเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย และหลักการดูแลการชุมนุมสาธารณะตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 เนื่องจากโจทก์ทั้งสองและสื่อมวลชนย่อมได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุมด้วย

ต่อมาศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า กรณีมีเหตุสมควรอนุญาตให้ผู้ร้องแก้ไขคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว ไต่สวนพยานโจทก์ทั้งสองได้ 7 ปาก ระหว่างซักถามทนายโจทก์ทั้งสองอ้างส่งเอกสารและภาพถ่ายหลายฉบับ เอกสารให้รวมสำนวน ทนายโจทก์ทั้งสองแถลงติดใจนำพยานเข้าไต่สวนเพียงนี้ คดีเป็นอันเสร็จการไต่สวน นัดฟังคำสั่งวันที่ 10 ส.ค. เวลา 13.30 น.

ที่ศาลอาญา พนักงานสอบสวน สน. สำราญราษฎร์ ยื่นคำร้องฝากขังผ่านระบบทางไกลผ่านจอภาพ คดีจับกุมนายโสภา ศิริ อายุ 44 ปี, นายจิรพงศ์ ชโลธรพิเศษ อายุ 23 ปี, นายทนง ชำนาญจันทร์ อายุ 19 ปี, นายณัฐพงษ์ มะลิซ้อน อายุ 22 ปี, น.ส.ภัชราภรณ์ กองค้า อายุ 22 ปี และน.ส.กัลยกร จันทร์โม้ อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาที่ 1-6 เป็นกลุ่มวีโว่ จากกรณีถูกจับขณะมากับรถตู้ต้องสงสัย ก่อนการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ส.ค. พร้อมของกลางเข็มขัดสนาม, ปลอกแขนเกาะแบบผ้า, กระเป๋าเป้สีดำ, หนังสติ๊ก, หัวนอต, ลูกแก้ว8, ลูกดิน, พลุควันสี, วิทยุสื่อสาร และกระบองเหล็กยืดหดได้ หรือดิ้ว ดำเนินคดีข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจร และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

โดยพนักงานสอบสวนขอศาลฝากขังผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่ 9-20 ส.ค. เนื่องจากยังสอบสวนไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานเพิ่มอีก 6 ปาก รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือ และประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหาทั้งหมดมาประกอบสำนวนการสอบสวน โดยเหตุเกิดที่ลานจอดรถของวัดมหรรณพารามวรวิหาร ถนนตะนาว แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาที่ 1-6 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ศาลพิจารณาคำร้อง สอบถามผู้ต้องหาไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้

จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวชั้นฝากขัง โดยมีกลุ่มส.ส.พรรคก้าวไกล ใช้ตำแหน่ง ส.ส.เป็นหลักทรัพย์ ต่อมาศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ตีราคาประกันคนละ 35,000 บาท กำหนดเงื่อนไขห้ามผู้ต้องหากระทำการใดๆ ในลักษณะเดียวกับที่ถูกกล่าวหา ห้ามยุยง ปลุกปั่น เข้าร่วมหรือกระทำการใดที่มีลักษณะก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง หรือก่อเหตุอันตรายประการอื่นอีก

ไม่ได้ประกัน – นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน พร้อมเพื่อนเข้ามอบตัวที่สน.ทุ่งสองห้อง คดีสาดสี ต่อมาศาลอาญายกคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวเฉพาะนายจตุภัทร์

ส่วนที่สน.ทุ่งสองห้อง นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน พร้อมกลุ่มมวลชนทะลุฟ้ารวม 4 คน เข้ามอบตัวตามหมายจับ ของศาลอาญา จากกรณีพ่นสีทับป้าย สน.ทุ่งสองห้อง เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ภายหลังได้ประกันตัวคดีชุมนุมสาดสีหน้า บช.ปส. และกรณีชุมนุมสาดสีหน้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย

จากนั้นพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ยื่นคำร้องฝากขังนายจตุภัทร์ กับพวกรวม 4 คน ศาลอาญาไม่อนุญาตให้ประกันตัวเฉพาะในส่วนของนายจตุภัทร์ คล้ายกับสำนวนสน.ทุ่งสองห้อง ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 คน ศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ตีราคาประกัน 35,000 บาท เช่นเดียวกับผู้ต้องที่ได้รับการปล่อยชั่วคราวของ สน.ทุ่งสองห้อง

ขณะเดียวกัน ที่สภ.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นายภาณุพงศ์ หรือไมค์ จาดนอก นายชาติชาย แกดำ และนายธนพัฒน์ กาเพ็ง หรือปูน ราษฎรเอ้ย พร้อมด้วยทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เข้าพบพนักงานสอบสวนตามที่ถูกออกหมายจับจากกรณีชุมนุมสาดสีหน้า บก.ตชด.ภาค 1 เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ภายหลังสอบสวนแล้ว เจ้าหน้าที่จะยื่นฝากขังต่อศาลจังหวัดธัญบุรี พร้อมกับกลุ่มนายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ชิวารักษ์, นายพรหมศร หรือฟ้า วีระธรรมจารี, นายศิริชัย หรือนิว นาถึง และนายณัฐชนน ไพโรจน์ ที่เข้ามอบตัวเมื่อวันที่ 8 ส.ค.

จากนั้นพนักงานสอบสวนยื่นคำขอฝากขังผู้ต้องหาต่อศาลจำนวน 9 สำนวน ในฐานความผิดเดียวกัน และเนื้อหาเดียวกันแต่แยกสำนวน ทั้งนี้มีสำนวนของนายพริษฐ์ นายภาณุพงศ์ เเละน.ส.ปนัสยา ด้วย โดยในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนคัดค้านการปล่อยชั่วคราว

ขณะเดียวกันศาลอาญาสั่งถอนประกันนายพริษฐ์ ตามที่มีผู้ยื่นคำร้องต่อศาลก่อนหน้านี้ ขณะที่ศาลจังหวัดธัญบุรีไม่ให้ประกันตัว 9 ผู้ต้องหา ในจำนวนนี้มีนายภาณุพงศ์ หรือไมค์รวมอยู่ด้วย

มอบตัว – นายอานนท์ นำภา แกนนำคณะราษฎร และทนายความสิทธิมนุษยชน เข้ามอบตัวที่สน.ปทุมวัน ตามหมายจับกรณีร่วมชุมนุมเสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาชน ที่ลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร และเข้าพบกับพนักงานสอบสวน เมื่อวันที่ 9 ส.ค.

ค่ำวันเดียวกัน นายอานนท์ นำภา ทนาย ความเพื่อสิทธิมนุษยชน และแกนนำราษฎร เข้ามอบตัวที่ สน.ปทุมวัน สืบเนื่องจากร่วมกิจกรรมเมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา หน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ในวาระครบ 1 ปี ชุมนุมแฮร์รี่พอตเตอร์ เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาชน

ขณะที่แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมนัดชุมนุมใหญ่คาร์ม็อบวันที่ 10 ส.ค.นี้ โดยระบุว่าแม้นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน และเพื่อนๆ ไม่ได้ประกันตัว แต่พวกเรายืนยันว่าม็อบ 10 ส.ค. ยังคงจัดต่อไป ไม่ว่าเพื่อนของเราจะอยู่ตรงนี้ด้วยหรือไม่ พร้อมแจ้งไปยังมวลชนด้วยว่า นอกจากอุปกรณ์ป้องกันตัวที่จำเป็นต้องนำมาแล้ว ขอให้มวลชนเตรียมสีสเปรย์ สีน้ำ เลือดหมู น้ำปลาร้า ขยะ และผักผลไม้ต่างๆ เช่น มะเขือเทศ ติดรถมาด้วย พร้อมขอความร่วมมือมวลชนไม่นำอาวุธมาร่วมขบวน เพื่อความปลอดภัยของผู้ร่วมขบวนและมวลชนทุกคน แล้วพบกันเวลา 13.00 น. สี่แยกราชประสงค์ เพื่อไปไล่บี้ทรราชร่วมกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน