เหยื่อกว่า2หมื่น
อีกรายตามรวบ
3นายทุนชาวจีน

ลุยจับแอพฯ เงินกู้อีก 2 รายใหญ่ สตม.ลุยภูเก็ต จับแอพฯ ‘พลูตัส แค็ท โปร’ รวบหนุ่มจีนคนคุมกิจการและ 9 พนักงานพบมีบัญชีลูกหนี้กว่า 2 หมื่นราย ขณะที่ศูนย์ปราบหนี้นอกระบบ เข้าตรวจค้นที่ตั้งแอพฯ ‘กาก้า’ และ ‘กิโก้’ ในกรุงเทพฯ-ชลบุรี จับ 3 นายทุนจีนและ 6 ลูกจ้าง พร้อมอายัดเงินอีก 2.1 ล้าน ตรวจสอบมีเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 4 ร้อยล้าน

เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 64 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก. (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าวการจับกุมนายเลี่ยว อายุ 27 ปี สัญชาติจีน ในข้อหา ‘ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต, มีไว้เพื่อนำออกซึ่งใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต’

โดยบก.สส.สตม.และศปชก.สตม.ได้ขยายผลการจับกุมเครือข่ายปล่อยเงินกู้ในพื้นที่กรุงเทพฯ พบว่า เครือข่ายดังกล่าวย้ายไปอยู่ในจ.ภูเก็ต และยังมีพฤติการณ์โทร.ทวงเงินพร้อมดอกเบี้ยโหดกับลูกหนี้ที่กู้เงินผ่านแอพพลิเคชั่นชื่อ ‘พลูตัส แค็ท โปร’ (Plutus cat pro) ซึ่งแอพฯ ดังกล่าว ลักลอบเปิดสำนักงานอยู่ในพื้นที่ ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต ชุดสืบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดภูเก็ตออกหมายค้นและเข้าค้นยังอาคารเป้าหมาย เมื่อวันที่ 9 ส.ค. พบนายเลี่ยว อายุ 27 ปี สัญชาติจีน รับว่าเป็นผู้ควบคุม ดูแล จัดการ และจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงาน

ระหว่างการเข้าตรวจค้นพบพนักงาน 9 คน และทำการตรวจยึดทรัพย์สินและเอกสารที่น่าเชื่อว่ามีไว้ใช้หรือเกี่ยวข้องกับการ กระทำความผิด เช่น สมุดบันทึกรายชื่อ ลูกหนี้,ซิมการ์ด, โทรศัพท์มือถือ และ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก รวม 43 รายการ จากการตรวจสอบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กส่วนตัวของนายเลี่ยวพบรายชื่อลูกหนี้ กว่า 20,000 ราย ขณะที่พนักงานให้การว่าจะต้องโทร.ทวงหนี้ให้ได้วันละ 10-15 ราย ได้ค่าจ้างเดือนละ 10,000-15,000 บาท และค่าคอมมิชชั่น 8 บาท ต่อการทวงหนี้ได้ 1 ราย โดยจะให้ลูกหนี้ชำระเงินเข้าบัญชีธนาคารที่นายเลี่ยวจ้างเปิดบัญชีไว้ ชุดสืบสวน ศปชก.สตม. จึงดำเนินการจับกุมนายเลี่ยวส่งให้สภ.เมืองภูเก็ตดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

วันเดียวกัน พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ผบก.ปอศ. สั่งการให้ พ.ต.อ.ภาดล จันทร์ดอน ผกก.5 บก.ปอศ. นำกำลังกว่า 60 นาย เข้าตรวจค้นเครือข่ายแอพพลิเคชั่นเงินกู้นอกระบบ ‘กาก้า’ (KAKA)และ ‘กิโก้’ (KIKO) หลายสิบจุดทั้งในกรุงเทพฯ และจ.ชลบุรี

ผลตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ทั้งหมด 9 คน แยกเป็นนายทุนชาวจีน 3 คน และพนักงานชาวไทยอีก 6 คน พร้อมตรวจยึดของกลาง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 5 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 14 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 13 เล่ม และยังอายัดบัญชีเงินฝากที่เกี่ยวข้องอีก 37 บัญชี รวมยอดเงินที่อายัดได้ 2.1 ล้านบาท ส่วนผู้ต้องหาทั้งหมดจะถูกดำเนินคดีใน 2 ข้อหา คือ ‘ร่วมกันประกอบสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด’

พ.ต.อ.ภาดลกล่าวว่า ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ (ศปน.ตร.) ได้รับร้องเรียนจากผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากแอพพลิเคชั่นเงินกู้นอกระบบ ที่นอกจากจะถูกเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราที่สูงมากแล้ว ยังอาจถูกข่มขู่ คุกคาม รวมไปถึงการถูกทวงหนี้ด้วยวิธีประจาน และถูกเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวในโทรศัพท์มือถืออีกด้วย

พ.ต.อ.ภาดลกล่าวต่อว่า สำหรับแอพฯ เงินกู้กาก้าและกิโก้ มีเงินหมุนเวียนในระบบไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท ในระยะเวลาเพียงแค่ 3 เดือน และยังยักย้ายถ่ายเทเงินอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ยากต่อการติดตามจับกุม ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้พยายามสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนกระทั่งขออนุมัติออกหมายจับผู้ที่ร่วมขบวนการได้ทุกรายจนถึงตัวนายทุนอีกด้วย

พ.ต.อ.ภาดลกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาสืบสวนและจับกุมแก๊งแอพฯ เงินกู้เหล่านี้มาตลอด จนทำให้กลุ่มคนร้ายได้ปรับกลวิธีให้มีความสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ปิดบังอำพรางสถานที่ตั้ง รวมไปถึงว่าจ้างผู้อื่นให้มาเปิดบัญชีเพื่อใช้ในการกระทำความผิดอีกด้วย

ทั้งนี้หากประชาชนท่านใดได้รับข้อความทางโทรศัพท์ หรือเอสเอ็มเอสแจ้งให้ชำระหนี้แทน โดยอ้างว่าเคยกู้ยืมหรือเป็นผู้ค้ำประกันให้กับบุคคลอื่น พร้อมทั้งข่มขู่ว่าถ้าไม่ชำระหนี้ดังกล่าวจะทำให้ติดเครดิตบูโร กรณีดังกล่าวไม่เป็นความจริง ขออย่าได้ตื่นตระหนกและหลงเชื่อ ขอให้บันทึกรายละเอียดต่างๆ เช่น หมายเลขโทรศัพท์, หมายเลขบัญชีธนาคาร แล้วแจ้งเบาะแสมาที่ สายด่วน 1599 (ศปน.ตร.) หรือสถานีตำรวจใกล้บ้านได้ทันที

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน