‘ลุงพล’ โดนข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา คดี ‘น้องชมพู่’ หลานสาววัย3 ขวบ ดับปริศนาบนภูเหล็กไฟ เมื่อปี 2563 รองโฆษก อสส.เผยครบกำหนดฝากขัง ผู้ต้องหาวันสุดท้ายแล้ว เเม้อัยการฟ้องไม่ทัน เหตุสั่งตร.สอบเพิ่ม ยันไม่เสียหายทางคดีเนื่องจากตัวอยู่ในความควบคุมของศาลใน คดีอื่น สามารถยื่นฟ้องได้เลย

เมื่อวันที่ 26 ส.ค. นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยความคืบหน้า ภายหลังพนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหารได้รับสำนวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวนในคดีการเสียชีวิตของด.ญ.อรวรรณ หรือ น้องชมพู่ วงศ์ศรีชา อายุ 3 ขวบ ซึ่งหายตัวไปจากบ้านพักในหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2563 ก่อนถูกพบเสียชีวิตอยู่บริเวณเขาภูเหล็กไฟ บ้านกกกอก ห่างจากบ้านพักประมาณ 5 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ปีเดียวกัน

คดีดังกล่าวพนักงานสอบสวนกล่าวหานายไชย์พล หรือพล วิภา ลุงเขยของด.ญ. อรวรรณเป็นจำเลย ข้อหา พรากเด็กอายุไม่เกินสิบ 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาโดยปราศจากจากเหตุอันสมควรและทอดทิ้งเด็กอายุยัง ไม่เกิน 9 ปี เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย

นายประยุทธกล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีสำคัญซึ่งสภาพคดีมีความยุ่งยากซับซ้อน และสื่อมวลชนนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง และประชนทั่วประเทศให้ความสนใจติดตามความคืบหน้าคดีมาโดยตลอด ดังนั้น นาย เชาวลิต วงศานรเศรษฐ์ อธิบดีอัยการภาค 4 เข้ามาควบคุมดูแลการดำเนินคดีเอง พร้อมมอบหมายให้นางปัญจพัฒน์ วรรณไพบูลย์ อัยการผู้เชี่ยวชาญ และนายภิรัตน์ ควรสนธิ อัยการอาวุโส สำนักงานคดีอาญาภาค 4 เข้าไปควบคุมการดำเนินคดีโดยใกล้ชิด สำหรับการพิจารณาสำนวนคดีขณะนี้คณะทำงานคดีมีคำสั่งสอบเพิ่มในประเด็นสำคัญ แต่ยังไม่ได้รับผลสอบสวนเพิ่มเติมจากพนักงานสอบสวน

“วันนี้เป็นวันครบขังที่ 7 และเป็นวันครบขังครั้งสุดท้าย พนักงานอัยการผู้รับผิดชอบดำเนินคดีไม่สามารถมีคำสั่งทางคดีได้ เพราะต้องรอผลสอบสวนเพิ่มเติมดังกล่าว อย่างไรก็ตามขอให้การยืนยันว่า แม้พนักงานอัยการซึ่งเป็นคณะทำงานยังมีคำสั่งคดีไม่ได้ในวันนี้ แต่คดีนี้ไม่มีความเสียหายใดๆ เพราะขณะนี้ตัวนายไชย์พลอยู่ในความควบคุมของศาลจังหวัดมุกดาหาร เพราะก่อนหน้านี้อัยการฟ้องไปแล้ว 3 คดี ดังนั้นหากพนักงานอัยการสั่งฟ้องคดีนี้สามารถยื่นฟ้องนายไชย์พลต่อศาลได้เลย โดยไม่ต้องส่งตัวนายไชย์พลไปพร้อมคำฟ้อง เพราะศาลสามารถเบิกตัวมาจาก 3 คดี ที่ฟ้องไปแล้วได้ทันที” รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดกล่าว

สำหรับคดีที่พนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องและยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดมุกดาหารไปแล้ว 3 คดี คือ คดีที่ 1 ข้อหาทำไม้หวงห้ามในเขตป่าสงวนแห่งชาติและมีไม้ท่อนหวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต พนักงานอัยการยื่นฟ้องนายไชย์พลผู้ต้องหาไปเมื่อ วันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่ามมา ชั้นศาลจำเลยให้การปฏิเสธ ศาลจังหวัดมุกดาหารนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 19 ต.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

คดีที่ 2 ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจและข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตและร่างกายของผู้อื่น พนักงานอัยการยื่นฟ้องต่อศาลเมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ชั้นศาลจำเลยให้การปฏิเสธ ศาลจังหวัดมุกดาหารนัดพร้อมในวันที่ 17 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.

สุดท้าย คดีที่ 3 ข้อหาก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติและร่วมกันทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติทำไม้หวงห้ามในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พนักงานอัยการยื่นฟ้องนายไชย์พลไปเมื่อ วันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ชั้นศาลจำเลยให้การปฏิเสธ ศาลจังหวัดมุกดาหารนัดพร้อมใน วันที่ 17 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.

รายงานข่าวแจ้งว่า วันเดียวกัน พนักงานสอบสวน สภ.กกตูม จ.มุกดาหาร เตรียมเชิญตัวนายไชย์พลผู้ต้องหาคดีดังกล่าว มาแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าคนตายโดยเจตนา เพิ่มเติมจากที่เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา มีการแจ้งข้อหาไปแล้ว 3 ข้อหา ด้านพล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภาค 4 เปิดเผยว่า ตอนนี้คดีนายไชย์พล อยู่ในขั้นตอนของพนักงานอัยการ เพื่อรอการสั่งฟ้องคดี หากมีการสอบสวนในประเด็นใด อัยการจะสั่งให้พนักงานสอบสวนสอบสวนในประเด็นนั้นเพิ่มเติม ส่วนกรณีเตรียมตั้งข้อหาเจตนาฆ่ากับลุงพลนั้น พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการพิจารณา

ด้านพล.ต.ต.สรรธาน อินทรจักร์ ผบก.ภ. จว.มุกดาหาร กล่าวว่า ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาเจตนาฆ่ากับนายไชย์พล ต้องรอพนักงานอัยการสั่งให้พนักงานสอบสวนสอบสวนในประเด็นที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ส่วนจะเป็นประเด็นใดนั้น ไม่สามารถเปิดเผยได้

ต่อมาเวลา 15.40 น. พนักงานสอบสวนคดีน้องชมพู่ เรียกตัวนายไชย์พลมารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ฐานความผิดข้อหาฆ่า ผู้อื่นตายโดยเจตนา ที่บก.ภ.จว.มุกดาหาร โดยนายไชย์พลพร้อมนางสมพร หรือป้าแต๋น หลาบโพธิ์ ภรรยา เข้ารับทราบข้อกล่าวหา โดยให้การปฏิเสธและเดินทางกลับทันที

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน