นัดแยกอโศก-จับตาศึกซักฟอก
คาร์ม็อบคึก‘กทม.-นนท์-ปทุม’
ดินแดงเดือด-กระสุนยางว่อน
คุกแจงแกนนำพบปอดเป็นฝ้า

‘เต้น-บก.ลายจุด’ นัดชุมนุมกลางกรุง บีทีเอส อโศก 2 ก.ย. ต่อเนื่องจนกว่าจะไล่ประยุทธ์สำเร็จ เผยเป็นการชุมนุมคู่ขนานจับตาการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เตือนส.ส.รัฐบาลหากอุ้มประยุทธ์ก็ต้องหาคำตอบให้ประชาชนเอง ‘คาร์ม็อบ คอลเอาต์’ คึก จัดคาร์ม็อบวิ่งยาว 3 จังหวัด จาก กทม.ไปนนทบุรี วกมาที่ปทุมธานี ระบุเป็นครั้งสุดท้ายก่อนดีเดย์จัดชุมนุมใหญ่ ขณะที่เชียงใหม่ ขบวนคาร์ม็อบก็คึก บุกจัดกิจกรรมที่ศาลากลาง ยื่นเงื่อนไขประยุทธ์ออกไปทันที รองอธิบดีราชทัณฑ์เผยอาการแกนนำม็อบติดโควิดในเรือนจำ ชาติชาย หรือธัชพงษ์ แกดำ มีอาการปอดเป็นฝ้า ต้องย้ายมาดูแลใกล้ชิด ดินแดงเดือดอีก คฝ.ปะทะกลุ่มทะลุแก๊ส

คาร์ม็อบ – นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำเครือข่ายไล่ประยุทธ์ และไฮโซลูกนัท นัดตั้งขบวนคาร์ม็อบ บริเวณอุโมงค์แยกเกษตร ก่อนเคลื่อนขบวนผ่าน จ.นนทบุรี ไปตั้งเวทีปราศรัยที่ จ.ปทุมธานี ตรงข้ามศาลากลางจังหวัด เมื่อวันที่ 29 ส.ค.

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 29 ส.ค. ที่แยกเกษตร ถนนเกษตร-นวมินทร์ ใกล้ทาง ลงอุโมงค์เกษตร มีการรวมตัวของกลุ่มประชาชนที่มาร่วมกิจกรรม คาร์ม็อบคอล เอาต์ โดยมีเส้นทาง 50 กิโลเมตร เริ่มจากแยกเกษตร หัวขบวนมุ่งหน้าถนนวิภาวดีฯ เคลื่อนขบวนลอดใต้อุโมงค์เกษตร ผ่านหน้าม.เกษตรศาสตร์ ข้ามสะพานถนนวิภาวดีฯ ข้ามสะพานแยกพงษ์เพชร ข้ามสะพานแยกแคราย มุ่งสู่ถนนรัตนาธิเบศร์ ข้ามสะพานพระนั่งเกล้า (ใหม่) ผ่านแยกท่าอิฐขึ้นสะพานยกระดับวนขวาไปทางถนนราชพฤกษ์

จากนั้นขึ้นสะพานยกระดับวนขวาเข้าถนนชัยพฤกษ์ มุ่งหน้าไปทางปากเกร็ด ขึ้นสะพานพระรามสี่ เข้าห้าแยกปากเกร็ดเลี้ยวซ้าย เข้าถนนติวานนท์ ก่อนมุ่งหน้าไปทางปทุมธานี และไปสุดทางที่ลานเทพปทุม ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้าศาลากลางหลังเก่า จ.ปทุมธานี และจะมีการปราศรัยปิดท้ายกิจกรรมด้วย โดยการชุมนุมในครั้งนี้มีหลายกลุ่มที่ให้ความสนใจเข้าร่วม เช่น กลุ่มทะลุฟ้า กลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มทะลุแก๊ส

ต่อมาเวลา 14.35 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำเครือข่ายไล่ประยุทธ์ (อ.ห.ต.) ให้สัมภาษณ์ว่าคาร์ม็อบครั้งนี้ต้องการรวมพลังประชาชนในการแสดงออกอีกครั้ง ก่อนที่จะนัดหมายครั้งสำคัญ ประกาศการลงมติไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โดยประชาชน ซึ่งจะนัดหมายแสดงพลังครั้งใหญ่ภายในไม่กี่วันข้างหน้า

“การอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาเป็นบทบาทหน้าที่ของ ส.ส. แต่สำหรับประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ตนเชื่อว่าเราลงมติไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ ไปแล้วก่อนหน้านี้ และจะมีการมาแสดงพลังให้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับทราบ และให้ ส.ส. ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลได้ตระหนัก ตัดสินใจเลือกว่าจะเลือก พล.อ.ประยุทธ์หรือประชาชน เพราะตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำนาจ

การอภิปรายครั้งนี้มีนัยยะสำคัญที่สุดทางการเมือง เป็นจังหวะพล.อ.ประยุทธ์ ขาดความชอบธรรมถึงที่สุด เชื่อว่าแม้ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลจะสมประโยชน์ทางอำนาจทางการเมืองอยู่ แต่ถ้าประชาชนส่งเสียงออกมาอย่างล้นหลาม ตนเชื่อว่าผู้แทนราษฎรก็ต้องคิดให้มากเหมือนกัน หากประชาชนทุกเขตเลือกตั้งปฏิเสธ พล.อ. ประยุทธ์ ท่านที่หักน้ำใจประชาชนลงมติไว้วางใจจะแบกหน้ากลับไปอธิบายประชาชนอย่างไร” นายณัฐวุฒิกล่าว และยืนยันแนวทางว่า ไม่ลุย ไม่บวก ไม่ปะทะ แต่จะไม่ลดละการขับไล่ และหลังจากวันนี้จะประกาศนัดชุมนุมครั้งถัดไป ซึ่งจะเป็นการชุมนุมใหญ่ที่สุด ตั้งแต่การยึดอำนาจ เพื่อขับไล่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์

ไล่นายกฯ – นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำเครือข่ายไล่ประยุทธ์ และไฮโซลูกนัท นัดรวมตัวคาร์ม็อบ บริเวณอุโมงค์แยกเกษตร กทม. ก่อนเคลื่อนขบวนผ่าน จ.นนทบุรี ไปตั้งเวทีที่บริเวณศาลากลางจังหวัด ปทุมธานี หลังใหม่ เพื่อขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 29 ส.ค.

ต่อมาเวลา 15.00 น. นายณัฐวุฒิประกาศเคลื่อนขบวน โดยมีแกนนำอาทิ นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือไฮโซลูกนัท ร่วมด้วย ซึ่งหัวขบวนเคลื่อนมาถึงหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ กำลังมุ่งหน้าสู่แยกแคราย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ทั้งการแต่งรถ และการแต่งตัวของผู้ชุมนุมที่สดใส มีการบีบแตรเสียงดังไปตลอดทางและเปิดไฟกะพริบเป็นสัญลักษณ์การเข้าร่วมชุมนุม มีการชูป้ายสื่อสารถึงการบริหารจัดการของรัฐบาล และมีผู้เข้าร่วมชุมนุมหลากหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่ม LGBTQ+ กลุ่มรถหกล้อ รวมถึงประชาชนที่ยืนอยู่บนฟุตปาธก็ได้โบกมือและชูสามนิ้วให้กำลังใจด้วยเช่นกัน

ไล่บิ๊กตู่ – ขบวนรถยนต์และจยย.กลุ่มคาร์ม็อบเดินทางจากกรุงเทพฯ ข้ามสะพานแม่น้ำปทุมธานี อ.เมือง จ.ปทุมธานี ไปรวมกันบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด แสดงสัญลักษณ์ขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เมื่อ 29 ส.ค.

เวลา 15.50 น. ขบวนคาร์ม็อบข้ามสะพานพระนั่งเกล้าแล้ว อยู่ที่ถนนรัตนาธิเบศร์ หัวขบวนเลยบิ๊กซีบางกระสอ โดยใช้ช่องการจราจรเต็มทุกช่องทาง ขณะที่ท้ายขบวนยาวไกลสุดลูกหูลูกตา เมื่อถึงหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบก.ลายจุด ยืนปรบมือให้กับขบวนคาร์ม็อบด้วย

โดยนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบก.ลายจุด ให้สัมภาษณ์ว่า ขบวนคาร์ม็อบครั้งนี้ใหญ่มาก ซึ่งการเคลื่อนไหวหลังจากนี้จะมีการเปลี่ยนรูปแบบเพื่อยกระดับการไล่พล.อ.ประยุทธ์ ตนขอเวลาประชาชน 2 สัปดาห์ให้ช่วยกันออกมาไล่ ตนจะไล่พล.อ.ประยุทธ์ จนไม่มีที่ซุกหัวนอน จะขยี้จนไม่อยากจะอยู่ประเทศนี้

ที่หน้าสถานีไทยคม ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี นาย ชินวัตร หรือ ไบร์ท จันทร์กระจ่าง แกนนำคณะราษฎรนนทบุรี พร้อมกลุ่มผู้ร่วมชุมนุมซึ่งนัดหมายร่วมตัวกันที่หน้าสถานีไทยคม ทยอยเดินทางด้วยรถยนต์ รถกระบะ และรถจักรยานยนต์ ประมาณ 150 คัน รวมตัวรอรับขบวนคาร์ม็อบของนายณัฐวุฒิ และนายสมบัติที่ร่วมตัวจากบริเวณอุโมงค์แยกเกษตรศาสตร์ กรุงเทพฯ ซึ่งจะเดินทางผ่านหน้าสถานีดาวเทียมไทยคม ไปขึ้นสะพานพระนั่งเกล้า แล้วเลี้ยวขวาถนนราชพฤกษ์ไปสมทบกับกลุ่มคาร์ม็อบที่จ.ปทุมธานี ในช่วงเวลา 15.00 น.

บรรยากาศที่หน้าสถานีดาวเทียมไทยคม มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจของสภ.รัตนาธิเบศร์ และตำรวจนอกเครื่องแบบภ.จว.นนทบุรี เข้าสังเกตการณ์ และดูแลเรื่องการจราจรบนถนนติวานนท์ที่กลุ่มผู้ชุมนุมใช้เป็นจุดรวมตัว ระหว่างที่นายชินวัตร หรือ ไบร์ท คณะราษฎรนนทบุรี ขึ้นกล่าวปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียงบนรถกระบะ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งเตือนเรื่องของการใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งนายชินวัตรกล่าวยอมรับว่าไม่ได้ขออนุญาตใช้เครื่องขยายเสียงจริง แต่หลังเสร็จกิจกรรมคาร์ม็อบแล้ว ยินดีที่จะเดินทางไปเสียค่าปรับที่โรงพักแทน ขณะเดียวกันผู้ชุมนุมบางรายนำถุงดำมาคลุมหัวประชด แสดงออกถึงความล้มเหลวในการปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย

โดยการรวมตัวในจุดนี้มีกลุ่มผู้ชุมนุมจากนนทบุรี จ.นครปฐม และพัทยา จ.ชลบุรี มาร่วมขบวน มีนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย

ไล่นายกฯ – นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบก.ลายจุด แกนนำคาร์ม็อบ 29 สิงหา ขึ้นปราศรัยขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เวทีตรงข้ามศาลากลางจังหวัดปทุมธานี พร้อมประกาศนัดชุมนุมครั้งใหญ่ 2 ก.ย.นี้

ต่อมาเวลา 18.00 น. ที่หน้าห้างโลตัส ปทุมธานี นายณัฐวุฒิปราศรัย ระบุว่า วันที่ 31 ส.ค.-3 ก.ย.จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จะถือเอาหมุดหมายนี้ประกาศรวมพลังประชาชนครั้งใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย. เราจะพบกันใจกลางมหานคร ประชาชนจะออกมาจากบ้านมายืนบนถนน เพื่อบอกว่าประยุทธ์ออกไป ดังนั้นตั้งแต่วันที่ 2-4 ก.ย. และจะกี่วันก็ได้เพื่อไล่ พล.อ.ประยุทธ์ให้ออกไป เราจะรวมพลังกันครั้งใหญ่ เราจะยืนเคียงข้างกันโดยสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ เราจะบอกผู้คนทั้งประเทศและทั้งโลกว่าคนไทยจะมาทวงอำนาจของเราคืน จะไม่ยอมรับนายกฯ โง่เง่าคนนี้อีกต่อไป

นายสมบัติปราศรัยว่า ในต้นเดือนหน้าวันที่ 31 ส.ค. – 4 ก.ย. จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจและลงมติ นั่นคือกิจกรรมในสภา แต่ประชาชนต้องมีกิจกรรมนอกสภา โดยนัดหมายวันที่ 2 ก.ย.เป็นต้นไป เราจะชุมนุมจนกว่าพล.อ.ประยุทธ์จะลาออก ถ้าในสภายังโหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อไป ประชาชนข้างนอกจะโหวตไล่ พล.อ.ประยุทธ์ทุกวัน กรุงเทพฯ พบกันที่บีทีเอสอโศก ตั้งแต่ 16.00 -20.00 น. วันรุ่งขึ้นมาใหม่ ส่วนต่างจังหวัดให้แต่ละจังหวัดประกาศพื้นที่ชุมนุมจนกว่าพล.อ.ประยุทธ์จะออกไป เชื่อว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์ พล.อ.ประยุทธ์จะออกไป

นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า อาการผู้ต้องหาคดีการเมือง ที่ติดโควิดภายในเรือนจำว่า มีผู้ต้องหาคดีชุมนุมทางการเมืองถูกส่งไปรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ 5 ราย ประกอบด้วย นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือฟ้า นายภาณุพงศ์ จาดนอก นายชาติชาย แกดำ และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา แพทย์ประจำทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ตรวจร่างกาย พบว่า นายพริษฐ์ รู้สึกตัวดี ถามตอบรู้เรื่อง ช่วยเหลือตนเองได้ หายใจปกติ ไม่มีเหนื่อยหอบ ไอเล็กน้อย ไม่มีเจ็บคอ ไม่มีน้ำมูก หลับได้ปกติ ทำกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตนเอง

นายพรหมศร รู้สึกตัวดี ยิ้มแย้มพูดคุย ช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่มีหอบเหนื่อย ไม่มีไข้ ไม่มีปวดศีรษะ รับประทานอาหารได้ ขับถ่ายปกติ นอนหลับพักผ่อนได้ นายภาณุพงศ์ รู้สึกตัวดี ไม่มีอาการหอบเหนื่อย สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ผู้ป่วยสีหน้าสดใส ยิ้มแย้มพูดคุย หายใจปกติ ไม่มีไข้ เจ็บคอ ไม่มีปวดศีรษะ รับประทานอาหารได้ ขับถ่ายปกติ นอนหลับพักผ่อนได้

และนายจตุภัทร์ รู้สึกตัวดี ถามตอบรู้เรื่อง ช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่มีอาการหอบเหนื่อย มีไข้ต่ำ อ่อนเพลียและมีไอเล็กน้อย ไม่มีน้ำมูก นอนหลับพักผ่อนได้ ด้านนายชาติชาย หรือธัชพงษ์ แกดำ มีอาการแน่นหน้าอก หายใจปกติ แพทย์ตรวจพบว่ามีฝ้าที่ชายปอด ย้ายจากโรงพยาบาลสนามมาหอผู้ป่วยโควิดเพื่อสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด

ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ, อส, กำนันผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครตำรวจฯ เจ้าหน้าที่ทางหลวงขนแท่นปูนโดยใช้รถเครนมาปิดกั้นทางเข้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ และปิดประตูทางเข้าออกศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ทั้งหมด ใส่กุญแจ และเขียนป้าย “สถานที่ราชการห้ามเข้า เปิดทำการ 08.30-16.30 วันจันทร์-วันศุกร์”

และทางเจ้าหน้าที่ทางหลวงยังปิดถนนบางเส้นทางเลี้ยวซ้ายเข้าศาลจังหวัดเชียงใหม่ผ่านไปยังศาลากลางอีกด้วย โดยช่วงบ่าย เจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ, ฝ่ายปกครอง, รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะประชุมหารือกันอีกครั้ง ส่วนถนนสายหลัก ถนนโชตนา ยังคงเปิดปกติ

นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังได้เตรียมรถดับเพลิงจำนวนหลายคัน, รถพยาบาล มาเตรียมพร้อมอีกด้วย ส่วนคาร์ม็อบนั้น คาดว่าจะมาประมาณ 15.00 น. โดยทางเจ้าหน้าที่ได้เตรียมสกัดเพื่อไม่ให้เข้าไปในสถานที่ราชการ

เชียงใหม่คึก – กลุ่มเครือข่ายประชาชนและนักศึกษา จ.เชียงใหม่ และพื้นที่ใกล้เคียงร่วมจัดกิจกรรมคาร์ม็อบ โดยเคลื่อนขบวนไปตามถนนทั่วเมืองเชียงใหม่ ก่อนจะไปรวมตัวกันที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด เมื่อวันที่ 29 ส.ค.

ขณะที่ช่วงเย็น กลุ่มประชาชนและนักศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่ เครือข่ายกลุ่มคณะราษฎร 63, กลุ่มปลดแอกและคนเสื้อแดง รวมตัวกันตั้งขบวนคาร์ม็อบ โดยนัดหมายรวมตัวกันตามจุดต่างๆ ได้แก่ ที่บริเวณหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ในตัวเมืองเชียงใหม่, อำเภอสันป่าตอง, อำเภอสันทราย,อำเภอสารภี, อำเภอสันกำแพง และจังหวัดลำพูน จากนั้นเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปชุมนุมและรวมตัวกันที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อจัดกิจกรรมยืนไล่ทรราช

โดยมีข้อเรียกร้องได้แก่ 1.ให้พลเอกประยุทธ์ลาออกจากตำแหน่ง โดยไม่มีเงื่อนไข 2.เปิดให้มีวัคซีนทางเลือกสำหรับประชาชนทุกคน 3.ตัดลดงบประมาณที่ไม่จำเป็นเร่งด่วนนำมาจัดซื้อวัคซีนสำหรับประชาชนทุกคน 4.เจ้าพนักงานของรัฐทุกภาคส่วนต้องยืนเคียงข้างประชาชน และ 5.จังหวัดจัดการตนเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มผู้ชุมนุมได้เจรจากับทางเจ้าหน้าที่ขอเข้าไปในบริเวณศาลากลาง เพื่อทำกิจกรรม ทางเจ้าหน้าที่อนุญาตให้เข้าไปได้แต่อยู่ตรงจุดลานวงเวียนในศาลากลาง ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมก็พอใจ และได้เข้าไปทำกิจกรรม ยืนไล่ประยุทธ์ และเรียกร้องข้อเสนอ และได้แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ จะสลายตัวในช่วงประมาณ 19.30 น. ทั้งนี้ในช่วงเจราจากับทางเจ้าหน้าที่ก่อนเข้าไปในศาลากลางเชียงใหม่ มีการปะทะกันเล็กน้อย แต่ไม่รุนแรง

ส่วนที่แยกดินแดง ตั้งแต่ช่วง 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ดินแดงนำรั้วเหล็กมากันปิดถนนที่จะมุ่งหน้าไปแยกดินแดง และถนนวิภาวดีฯ โดยปัดให้รถทุกคันใช้เส้นทางลอดอุโมงค์ผ่านไปทางถนนดินแดงเท่านั้น ต่อมาเวลา 16.30 น. กลุ่มวัยรุ่นที่ระบุว่าเป็นกลุ่มทะลุแก๊ส รวมตัวกันที่สามเหลี่ยมดินแดง และมีการปะทะกับ เจ้าหน้าที่ที่ตรึงกำลังบริเวณดังกล่าว

ทั้งนี้ การชุมนุมที่ดินแดงเกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างม็อบทะลุแก๊สและเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ รวมถึงเดินเท้ากว่า 200 คนเพื่อเข้าไปประชิดแนวป้องกันของเจ้าหน้าที่ที่ตั้งแนวป้องกันอยู่บริเวณ ช่วงขาลงการทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ด่วนดินแดง)

กลุ่มผู้ชุมนุมปาประทัดยักษ์ ระเบิดปิงปอง พลุไฟ และระเบิดขวด เพื่อพยายามทำลายแนวรักษาป้องกันให้เจ้าหน้าที่ออกห่างจากตู้คอนเทนเนอร์ที่กั้นขวางถนน เอาไว้ พร้อมกันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้รุกคืบตอบโต้โดยการยิงกระสุนยาง แก๊สน้ำตา สลับกับใช้รถจีโน่ผสมสารเคมีไล่ฉีดเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม รวมทั้งเครื่องเสียงความถี่สูง LRAD จนเป็นเหตุให้มวลชนต้องล่าถอยกลับไปตั้งหลักที่บริเวณแยกดินแดง

จนกระทั่งเมื่อเวลา 17.30 น. ทาง เจ้าหน้าที่ถอยกำลังกลับไปตั้งแนวป้องกันที่ตู้คอนเทนเนอร์อีกครั้ง ซึ่งขณะนั้นทางกลุ่ม ผู้ชุมนุมก็กลับมารวมตัวพร้อมทั้งสร้างสถานการณ์ในลักษณะดังกล่าวอยู่เป็นระยะๆ จนเป็นเหตุให้ทั้ง 2 ฝ่ายมีการตอบโต้กันไปมามากกว่า 4-5 รอบ

เวลา 18.35 น.เกิดเหตุความวุ่นวายขึ้นเมื่อมีชายฉกรรจ์มาถ่ายรูปมวลชนที่หลบ เจ้าหน้าที่มายืนติดข้างๆ ซึ่งชายฉกรรจ์คนดังกล่าวสวมเสื้อสีน้ำเงิน กางเกงขายาว ผมสั้นเกรียน ส่งผลให้มวลชนไม่พอใจจึงได้ต่อว่า เมื่อกลุ่มมวลชนถามว่าถ่ายรูปไปทำไม ชายคนดังกล่าวได้แต่ขอโทษ ก่อนที่กลุ่มมวลชนจะปรี่เข้าไปทำร้ายร่างกาย โดยมีทั้งการชกต่อยและใช้ด้ามธงทำร้ายที่ใบหน้า จนใบหน้าชายคนดังกล่าวมีเลือดออกเป็นจำนวนมาก จนเหตุการณ์เริ่มบานปลายแต่ก็มีมวลชนบางกลุ่มเข้ามาห้ามเพื่อไม่ให้ชายคนดังกล่าวถูกทำร้ายไปมากกว่านี้ กลุ่มมวลชนที่เข้ามาห้ามจึงพาชายคนดังกล่าวไปหลบที่ลานจอดรถบนตึกบริษัทเอกชน ถนนดินแดง

สกัดม็อบ – เจ้าหน้าที่หน่วยควบคุมฝูงชน หรือ คฝ. ใช้รถจีโน่ฉีดน้ำผสมสารเคมี ใส่มวลชนกลุ่มเยาวรุ่นทะลุแก๊ส ระหว่างการชุมนุมบริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง ก่อนเกิดการปะทะกันชุลมุน มีผู้บาดเจ็บหลายราย เมื่อวันที่ 29 ส.ค.

กระทั่งเวลา 18.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) พร้อมรถจีโน่ เคลื่อนกำลังเข้าผลักดันมวลชนที่แยกสามเหลี่ยมดินแดงอีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่ได้ฉีดน้ำแรงดันสูงผสมสารเคมีเพื่อผลักดันฝูงชนเป็น ระยะๆ ทำให้มวลชนแตกฮือและถอยร่นออกมา แต่แม้เจ้าหน้าที่จะพยายามผลักดันแต่มวลชนจำนวนหนึ่งก็ยังคงปักหลักสู้

เวลา 18.30 น. ได้มีกลุ่มควันพวยพุ่งออกออกจากฝั่งมวลชน เจ้าหน้าที่จึงผลักดันและฉีดน้ำอีกครั้ง ทำให้มวลชนต้องล่าถอยออกมาห่างระยะประชิด เวลา 18.50 น.เจ้าหน้าที่เริ่มกระชับพื้นที่โดยผลักดันมวลชนออกมาจากบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ทำให้มวลชนกระจายกันออกไป เจ้าหน้าที่ประกาศแจ้งให้ผู้พักอาศัยและสื่อมวลชนระมัดระวังและขอให้อยู่ในพื้นที่ เนื่องจากเจ้าหน้าที่จะเริ่มใช้แก๊สน้ำตาเพื่อดำเนินการกับกลุ่มผู้ชุมนุมจนสามารถเข้ายึดพื้นที่และเจ้าหน้าที่เคลียร์พื้นที่ได้ในเวลา 19.10 น. แต่ยังคงปิดการจราจรเพื่อเคลียร์พื้นที่อีกครั้งเพื่อความปลอดภัย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน