ลายจุดชุมนุมต่อเนื่อง
‘เต้น’คาร์ม็อบมาร่วม

‘ประยุทธ์ออกไป’ กระหึ่ม ม็อบพรึบ แยกอโศก ใจกลางกรุงเทพฯ ‘เต้น’ณัฐวุฒิ-บก.ลายจุด ประกาศไล่ทุกวันชุมนุมต่อเนื่องพร้อมกิจกรรมคาร์ม็อบ รอวันนัดหมายใหญ่ เหตุสถานการณ์โควิดทำให้ค้างคืนไม่ได้ ต้องมาเช้า-เย็นกลับ ชี้ผลการลงมติไว้วางใจนายกฯ ขัดกับความเป็นจริงของสถานการณ์ประเทศ ชวนคนร่วมคาร์ม็อบบีบแตรไล่รัฐบาล เชื่อหากประชาชนไม่ยอมแพ้จะมีพลังมากพอที่จะต่อรองกับรัฐบาล กลุ่มนักเรียนเลวจัดกิจกรรม ‘สไตรก์หยุดเรียนออนไลน์’ 6-10 ก.ย.นี้ เรียกร้อง ศธ. ปรับรูปแบบการศึกษาให้สอดรับกับสถานการณ์ พัทยาร่วมจัดคาร์ม็อบครั้งที่ 4 กรมราชทัณฑ์เผยอาการ 5 แกนนำม็อบ ยังไม่พบติดโควิดเพิ่ม

ราชทัณฑ์แจ้งผล-กวิ้นปกติ

เมื่อวันที่ 5 ก.ย. นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่ากรมราชทัณฑ์ขอรายงานสถานการณ์และการควบคุมดูแล ผู้ต้องขังที่เป็นกลุ่มผู้ชุมนุมที่ออกมาเรียกร้องทางการเมืองเพื่อให้ประชาชนรับทราบและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง

ดังนี้ กลุ่ม ผู้ชุมนุมทางการเมืองที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่ทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์ จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือฟ้า นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ นายชาติชาย แกดำ และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา นั้น

วันเดียวกันนี้แพทย์ประจำทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เข้าตรวจร่างกาย พบว่านายพริษฐ์รู้สึกตัวดี ถามตอบรู้เรื่อง ช่วยเหลือตนเองได้ ไม่มีอาการหอบเหนื่อยไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก นอนหลับพักผ่อนได้ นายพรหมศรรู้สึกตัวดี ยิ้มแย้มพูดคุย ช่วยเหลือตนเองได้ ไม่หอบเหนื่อย ไม่ปวดศีรษะ รับประทานอาหารได้ ขับถ่ายปกติ นอนหลับพักผ่อนได้ จากการตรวจวัดสัญญาณชีพและค่าออกซิเจนทั้ง 2 ราย ผลปกติ ไม่มีไข้ และได้รับการรักษาโควิด-19 จนครบกำหนด 14 วันแล้ว อยู่ระหว่างการพักฟื้นเพื่อจำหน่ายกลับไปคุมขังยังเรือนจำตามเดิม

ไมค์อาการปวดเข่าดีขึ้น

รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าวต่อว่าในส่วนของนายภาณุพงศ์รู้สึกตัวดี สีหน้าสดใส ยิ้มแย้มพูดคุย ช่วยเหลือตนเองได้ หายใจปกติ ไม่มีเจ็บแน่นหน้าอก ไม่มีหอบ เหนื่อย ไม่มีไข้ ไม่เจ็บคอ ไม่ปวดศีรษะ รับประทานอาหารได้ ขับถ่ายปกติ นอนหลับพักผ่อนได้ ส่วนอาการปวดเข่าด้านซ้ายไม่มีอาการบวมแดง เข่าไม่ผิดรูป เดินทำกิจวัตรประจำวันได้ปกติ แพทย์ให้ยาแก้ปวดเข่าพร้อมแนะนำการปฏิบัติตัวจนขณะนี้อาการปวดเข่าดีขึ้นแล้ว

ด้านนายจตุภัทร์รู้สึกตัวดี ถามตอบรู้เรื่อง ช่วยเหลือตนเองได้ ไม่มีอาการหอบเหนื่อย ไม่มีไข้ อ่อนเพลียเล็กน้อย ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก นอนหลับพักผ่อนได้ ส่วนอาการผื่นขนาดเล็กตามร่างกาย ที่นายจตุภัทร์แจ้งว่าเคยเป็นตั้งแต่อยู่ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง แพทย์สั่งจ่ายยารับประทานและยาทาเพื่อบรรเทาอาการพบว่าอาการดีขึ้น ผื่นคันตามตัวลดลง

สำหรับนายชาติชายรู้สึกตัวดี ถามตอบรู้เรื่อง ช่วยเหลือตนเองได้ เดินทำกิจวัตรได้เองตามปกติ ไม่มีอาการหอบเหนื่อย ไม่มีไข้ นอนหลับพักผ่อนได้ รับประทานอาหารได้ ขับถ่ายปกติ ส่วนอาการที่พบว่ามีฝ้าชายปอดและจากการเอกซเรย์ปอดเมื่อวันที่ 3 ก.ย. ผลเป็นปกตินั้น แพทย์ยังคงติดตามอาการอย่างใกล้ชิดพร้อมทั้งนัดเอกซเรย์ปอดซ้ำอีกครั้งวันที่ 6 ก.ย.นี้

ผลATKณัฐชนนเป็นลบ

นายธวัชชัยกล่าวเพิ่มเติมว่าส่วนกลุ่ม ผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุมอยู่ที่เรือนจำชั่วคราวรังสิต อาคารเรือนนอน 2 ห้องควบคุม 2/2 คือนายณัฐชนน ไพโรจน์ โดยผู้ต้องขังอยู่ในห้องเพียงคนเดียว เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ถูกเบิกตัวลงมาตรวจหาเชื้อโควิด-19 รอบ 21 วัน ด้วยวิธี ATK ปรากฏผลเป็นลบ จากการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ค่าชีพจร อัตราการหายใจ และค่าออกซิเจนในกระแสเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่มีไข้ ไม่ปวดศีรษะ ไม่ไอ ไม่คัดจมูก ไม่มีน้ำมูก หายใจดี ไม่มีอาการหอบเหนื่อย รับประทานอาหารได้ ไม่มีอาการคลื่นไส้และอาเจียน ไม่มีอาการ ท้องเสียและถ่ายเหลวเจ้าหน้าที่ดูแลวัดสัญญาณชีพและเฝ้าสังเกตอาการเจ็บป่วยอย่างต่อเนื่อง

ตร.ตรึงกำลังรับม็อบ2จุด

เวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจ นครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. และโฆษก บช.น. เผยว่าวันเดียวกันนี้มีการนัดหมายชุมนุมทางการเมือง 2 จุด จุดแรก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด นัดจัดกิจกรรมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม บริเวณแยกอโศกในช่วงเวลา 16.00 น. อีกจุดคือกลุ่มทะลุแก๊ส บริเวณแยกดินแดง ในส่วนการชุมนุมที่แยกอโศกตำรวจจะปรับเปลี่ยนแผนและกำลังตำรวจไปตามสถานการณ์ทั้งในเรื่องการจราจรและการติดตั้งเครื่องกีดขวาง ทั้งนี้ บช.น.ขอเตือนว่าการชุมนุมและการรวมตัวกันจัดกิจกรรมที่มีคนจำนวนมากในขณะนี้มีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.ควบคุมโรคฯ ดังนั้นผู้ที่ชักชวนและผู้ที่มาร่วมกิจกรรมจะมีความผิดตามกฎหมาย

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวต่อว่าส่วนการชุมนุมเมื่อวันที่ 4 ก.ย. ของกลุ่มรีเดมซึ่งนัดรวมตัวหน้าสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์เคลื่อนมาแยกราชประสงค์จากนั้นปิดการจราจรและปราศรัย ภาพรวมไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น ส่วนกลุ่มที่ 2 กลุ่มทะลุแก๊สที่แยกดินแดงมีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น มีการทุบทำลายทรัพย์สินราชการและสาธารณ ประโยชน์ เช่น กล้องวงจรปิดและสัญญาณไฟจราจร การขว้างปาประทัดยักษ์และเผาทำลายรั้วบริเวณกรมดุริยางค์ทหารบก ถนนวิภาวดีฯ มีทรัพย์สินเสียหาย รวมถึงทรัพย์สินอื่นๆ และมีการวางเพลิงเผายางรถยนต์ ทางตำรวจมีภาพหลักฐานผู้กระทำผิดกว่า 10 คน อยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามตัวมาดำเนินคดีและเตรียมรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายเรียกและหมายจับ

เผยดำเนินคดีไปแล้ว 176 คดี

รอง ผบช.น.กล่าวอีกว่านอกจากนี้ตำรวจยังพบว่ามีผู้กระทำผิดอย่างน้อย 5 คน ที่เกี่ยวข้องกับการขายพลุและประทัดที่นำมาใช้ในการชุมนุมทางการเมือง โดยข้อมูลเบื้องต้นพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติด อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ในส่วนของแกนนำผู้ชุมนุมตำรวจออกหมายเรียกไปแล้วจำนวน 18 หมาย มีแกนนำบางส่วนทยอยเข้าให้ปากคำไปบ้างแล้ว ส่วนการดำเนินคดีการชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่เดือน ก.ค.-ส.ค. ตำรวจดำเนินคดีไปแล้ว 176 คดี มี ผู้ต้องหา 660 คน จับดำเนินคดีไปแล้ว 403 คน ขอย้ำเตือนถึงผู้ปกครองที่ปล่อยปละละเลยให้เด็กและเยาวชนออกมาร่วมกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวาย ผู้ปกครองต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย

ไล่กระหึ่ม – ประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมชุมนุมทำกิจกรรมขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่บริเวณ แยกอโศก ใจกลางกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 5 ก.ย.

ผู้ชุมนุมทยอยเข้าแยกอโศก

เวลา 14.40 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเริ่มมีประชาชนทยอยมารวมตัวกันทำกิจกรรมบริเวณแยกอโศก โดยนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด แกนนำการชุมนุม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อพูดคุยถึงการตั้งเวทีรถเครื่องเสียง

เวลา 15.50 น. กลุ่มนักเรียนเลวแจกใบปลิวเพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรม “Strike หยุดเรียนออนไลน์” โดยจะเริ่มทำกิจกรรมนี้ในวันที่ 6-10 ก.ย. เรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการปรับรูปแบบการศึกษาเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ และรัฐบาลต้องนำเข้าวัคซีนที่มีคุณภาพ

เวลา 16.00 น. ประชาชนเดินทางมาร่วมการชุมนุมจำนวนมาก ถนนอโศกมนตรีปิดการสัญจร ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจอ่านข้อกฎหมายเกี่ยวกับการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำการชุมนุมชี้แจงว่ามาชุมนุมตามสิทธิที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญ เป็นการชุมนุมโดยสันติ ปราศจากอาวุธ มีเวลาเริ่มและเวลายุติ โดยขยับเข้าไปด้านถนนอโศกมนตรี เพื่อให้ยังสามารถใช้การจราจรด้านถนนสุขุมวิทได้ ส่วนโรคระบาดมีการแจ้งให้ทุกคนดูแลตนเอง สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา

ไล่กระหึ่ม – ประชาชนจำนวนมากร่วมชุมนุมกับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบก.ลายจุด ขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่แยกอโศก ใจกลางกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 5 ก.ย.

เต้นเผยอโศกบวกคาร์ม็อบ

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจและการลงมติไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ว่าทำให้เห็นถึงความขัดแย้งภายในของรัฐบาล แม้พล.อ.ประยุทธ์จะยังทำหน้าที่ต่อได้แต่สำหรับประชาชนพล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีอีกต่อไป หลังจากนี้จะ มีการชุมนุมเพื่อให้สอดคล้องกับการ ขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จากการประเมินสถานการณ์ในช่วงที่ผ่านมาท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด การเคลื่อนไหวต่อไปจะปรับรูปแบบโดยให้นายสมบัติปักหลักรับมวลชนอยู่แยกอโศก

ส่วนตนเองจะนำมวลชนจากเส้นทางต่างๆ เคลื่อนขบวนคาร์ม็อบโดยมีจุดนัดหมายที่แยกอโศก ตั้งแต่เวลา 16.00-20.00 น. เป็นการเคลื่อนขบวนเพื่อรอวันนัดหมายใหญ่อีกครั้ง เหตุผลที่ต้องปรับรูปแบบการทำกิจกรรมเพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นอุปสรรคต่อการพักค้างคืน ไม่สามารถทำให้มวลชนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเข้ามาอยู่ยาวได้ ส่วนการนัดหมายชุมนุมใหญ่จะเกิดขึ้นเมื่อไรนั้นขอประเมินสถานการณ์หลังปรับรูปแบบการชุมนุมอีกครั้ง

ชุมนุมทุกวันมาเช้าเย็นกลับ

ด้านนายสมบัติกล่าวว่าการออกมาเคลื่อนไหวสืบเนื่องจากการลงมติไว้วางใจนายกรัฐมนตรีในรัฐสภาทั้งที่นายกรัฐมนตรีแสดงให้เห็นว่าไม่มีศักยภาพในการบริหารประเทศ เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ประเทศตกต่ำ ผลการลงมติไว้วางใจในครั้งนี้ขัดกับความเป็นจริงของสถานการณ์ประเทศ

การโหวตในครั้งนี้เป็นการตบหน้าประชาชน การชุมนุมในวันนี้จึงเป็นการแสดงปฏิกิริยาไม่ยอมรับผลการลงมติและจะออกมาชุมนุมทุกวันโดยใช้แยกอโศกเป็นป้อมค่ายทำกิจกรรมในลักษณะมาเช้าเย็นกลับ ไม่ค้างคืน จากนี้จะเชิญชวนให้คนมาร่วมคาร์ม็อบจากนอกกทม.มาร่วมแสดงเชิงสัญลักษณ์บีบแตรไล่รัฐบาล เชื่อว่าหากประชาชนยังไม่ยอมแพ้ สุดท้ายจะมีพลังมากพอที่จะต่อรองกับรัฐบาลได้

ด้านกลุ่มทะลุฟ้าเข้าร่วมกิจกรรมด้วย โดยมีกิจกรรมเขียนป้ายผ้า “เขียนรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน” มีกลุ่มผู้ชุมนุมสนใจจำนวนมาก

ลูกนัทสวมเสื้อแดงร่วมม็อบ

เวลา 18.25 น. นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือลูกนัท เดินทางถึงแยกอโศกมนตรีโดยสวมใส่เสื้อโปโลสีแดงหลังจากเคยขึ้นเวทีประกาศขอสมัครเป็นคนเสื้อแดง

เวลา 18.35 น. นายทรงพล สนธิรักษ์ หรือ ยาใจ ทะลุฟ้า ปราศรัยบนเวทีในประเด็นการบริหารจัดการสถานการณ์โควิดของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ซึ่งมีผู้ติดเชื้อทะลุล้าน โดยระบุว่า เหตุใดผู้แทนราษฎรยังโหวตให้พล.อ.ประยุทธ์ ก่อนอ่านบทกวีและตะโกนร่วมกันว่า “ประยุทธ์ออกไป” ดังกึกก้องในช่วงเวลาเดียวกับที่มีการโปรยกระดาษลงมาจากสกายวอล์กระบุข้อความเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ตลอด 7 ปี

นัดระดมคาร์ม็อบยาว10ก.ม.

เวลา 19.10 น. นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ขึ้นปราศรัยว่าสิ่งที่เกิดในสภาไม่เกินความคาดหมาย ถ้าประชาชนยังสู้ ประชาชนยังไม่แพ้ เราจะทำให้ดูว่าเวลาประชาชนไม่ยอมแพ้จะเป็นอย่างไร เราจะออกมาทุกวัน เราไม่ยอมแพ้ เราเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย เราจะยืนหยัด พล.อ.ประยุทธ์จะไม่ออกก็ได้ แต่ประชาชนก็ไม่หยุดไล่ เราจะชุมนุมที่นี่ยาวๆ แค่ไม่ค้าง จะมาตอนเย็น 3 ชั่วโมงกลับ ตั้งแต่พรุ่งนี้ คาร์ม็อบขอให้ฟังนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ซึ่งจะระดมคาร์ม็อบนับ 10 ก.ม.มาที่แยกอโศก ใครมีรถมาร่วมกันกดแตรยาวๆ ขอให้ทุกคนร่วมสู้ อย่าเสียกำลังใจ

เวลา 19.20 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ขึ้นปราศรัยวิจารณ์รัฐบาล โดยระบุว่าในวันที่ 6 ก.ย. เวลา 16.00 น. ตนจะรวบรวมประชาชนจากจุดต่างๆ โดยนำขบวนรถจากแยกราชประสงค์ เวลา 16.00 น. ผ่านมาทางถนนสุขุมวิท เมื่อผ่านแยกอโศกจะบีบแตรยาวๆ จากนั้นจะยูเทิร์นกลับมาอีกแล้วบีบแตรยาวอย่างนี้ไปเรื่อยๆ โดยไม่มีจุดหมาย แยกอโศกจะเป็นฐานที่มั่นในการต่อสู้ ตนจะพาพี่น้องเคลื่อนไหว เมื่อพร้อมจะนัดหมายแสดงพลังครั้งใหญ่อีกครั้ง

“นี่คือที่มั่นการต่อสู้ของประชาชนใจกลางมหานคร ใครสะดวกมาที่นี่ มีกิจกรรม จะจัดเป็นวันๆ เช่น วันถนนอาหาร วันถนนวัฒนธรรม ถนนกิจกรรมต่างๆ จะเปิดช่องทาง ใครสมัครใจจะเอาอาหารมาเลี้ยงพี่น้องให้ติดต่อเข้ามา ใครสมัครใจที่จะแสดงศิลปวัฒนธรรมติดต่อ เข้ามา ใครสมัครใจเข้ามาร่วมทำอะไรตรงนี้ติดต่อเข้ามา แล้วเราจะสู้เคียงไหล่ใกล้บ่าไปด้วยกัน” นายณัฐวุฒิกล่าว

จากนั้นเวลา 19.58 น. กลุ่มผู้ชุมนุมร่วมกันร้องเพลง “เราคือเพื่อนกัน” ของวงสามัญชน ผู้ชุมนุมพากันเปิดแฟลชโยกไปตามจังหวะเพลง ก่อนประกาศยุติการชุมนุมเวลา 20.03 น.

แยกดินแดงระอุต่อเนื่อง

เวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณแยกดินแดงมีกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์มารวมตัวกันก่อนขับขี่ไปด้านหน้ากรมดุริยางค์ทหารบกและขว้างปาประทัดยักษ์และระเบิดปิงปองเข้าไปด้านในเนื่องจากเชื่อว่ามีกำลังตำรวจ คฝ. จากนั้นเวลา 18.30 น. เจ้าหน้าที่ขว้างแก๊สน้ำตาและยิงกระสุนยางออกมาจากกรมดุริยางค์ทหารบก กลุ่มวัยรุ่นต่างพากันวิ่งหลบหนี มีชายวัยรุ่นคนหนึ่งบาดเจ็บที่ขาซ้าย เพื่อนๆ รีบพาออกมาเพื่อปฐมพยาบาล

เวลา 18.45 น. กลุ่มวัยรุ่นเผากรวยยางบนถนนวิภาวดีรังสิตขาออกใกล้กรมดุริยางค์ทหารบกพร้อมขว้างปาประทัดยักษ์และระเบิดปิงปองอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ คฝ. ยิงแก๊สน้ำตาตอบโต้และประกาศเตือนกลุ่มวัยรุ่นให้กลับทันที หากยังกระทำผิดเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องเข้าบังคับใช้กฎหมาย ต่อมาเวลา 19.10 น. เจ้าหน้าที่ คฝ. ยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายการรวมตัวของกลุ่มวัยรุ่นที่ยังคงอยู่ด้านหน้ากรมดุริยางค์ทหารบก ทำให้กลุ่มวัยรุ่นถอยกลับไปตั้งหลักที่แยกดินแดง

เวลา 19.30 น. กลุ่มวัยรุ่นบางส่วนขับขี่รถจักรยานยนต์ไปที่บริเวณกรมดุริยางค์ทหารบกพร้อมขว้างปาประทัดเข้าไปเป็นระยะ ขณะที่บริเวณแยกดินแดงยังคงมีเสียงดังคล้ายประทัดและระเบิดปิงปองต่อเนื่อง

รถน้ำเข้ากระชับพื้นที่

ต่อมาเวลา 20.00 น. เจ้าหน้าที่ คฝ. เคลื่อนรถน้ำจีโน่เข้ากระชับพื้นที่บริเวณด้านหน้ากรมดุริยางค์ทหารบกต่อเนื่องไปจนถึงทางลงทางด่วนดินแดง ทำให้กลุ่ม วัยรุ่นต้องล่าถอย

จากนั้น เจ้าหน้าที่คฝ. ตั้งแนวกำลังบริเวณช่วงทางลงทางด่วนดินแดงพร้อมขอความร่วมมือสื่อมวลชนให้ขึ้นไปอยู่บนทางเท้าเพื่อความปลอดภัย ด้านกลุ่มวัยรุ่นยิงพลุไฟใส่แนวเจ้าหน้าที่เพื่อตอบโต้ก่อนถอยร่นไปตั้งหลักที่แยกดินแดง

พัทยาจัดคาร์ม็อบครั้งที่ 4

วันเดียวกัน ที่วงเวียนปลาโลมา เมืองพัทยา จ.ชลบุรี กปช.และคณะไทยไม่ทนโดยนายวันเฉลิม กุนเสน กรรมการประชาชนขับไล่เผด็จการแห่งชาติ และนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก แนวร่วม นปช. จัดกิจกรรมคาร์ม็อบพัทยา ครั้งที่ 4 เส้นทางพัทยา-สัตหีบ โดยปล่อยขบวนรถยนต์และรถจักรยานยนต์พร้อมบีบแตรขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ไปตามเส้นทางถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยา ก่อนเข้าถนนพัทยาใต้ ตัดออกถนนทัพพระยา เข้าถนนเทพประสิทธิ์ก่อนออกถนนสุขุมวิทเพื่อเดินทางไปยื่นหนังสือต่อผู้บัญชาการกองทัพเรือ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน