ปชป.หวั่นศึกในพปชร.ทำพิษ
กระทบถึงเสถียรภาพรัฐบาล
พท.จ่อซักฟอกแบบไม่ลงมติ

‘ป้อม’ยันไม่ลาออกหัวหน้าพรรค เลขาฯ พรรคก็ยังเหมือนเดิม ไม่ปรับโครงสร้าง พปชร. ส.ส.กลุ่ม ‘ธรรมนัส’ บอกทุกคนยังเป็นพลังประชารัฐ ก้าวไกลเชื่อร้าวแล้ว รัฐบาลอยู่ไม่ครบเทอมแน่ ปชป.ห่วงพรรค แกนนำกระเพื่อม สะเทือนเสถียรภาพรัฐบาล ‘จุรินทร์’ปัดข่าวปรับครม. โยกสลับเก้าอี้รัฐมนตรี ชี้ถ้ามีการปรับเปลี่ยน ‘บิ๊กตู่’ ต้อง แจ้งเอง เพื่อไทยเล็งปลายปี เปิดอภิปรายแบบไม่ลงมติ พรรคเล็กยอมรับโอกาสยื่นตีความร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เหลือแค่ 50-50 เดินหน้า ตื๊อภูมิใจไทย-ก้าวไกล ร่วมลงชื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญ

กลุ่มธรรมนัสปัดรื้อโครงสร้าง

วันที่ 11 ก.ย. นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.และนายทะเบียนสมาชิก พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ส.ส.คนสนิท ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพปชร. กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับโครงสร้าง กก.บห.พรรค ว่า ตนไม่ทราบ แล้วแต่ใครเป็นคนให้ข่าว แต่วันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพปชร. ยืนยันกับส.ส.ว่า โครงสร้างพรรคทุกอย่างยังเหมือนเดิม

เมื่อถามถึงการทำงานของส.ส.กลุ่มของร.อ.ธรรมนัส ในอนาคต นายบุญสิงห์กล่าวว่า ส.ส.ในกลุ่มยังไม่ได้พูดคุยกัน และขณะนี้ ร.อ.ธรรมนัสยังเป็นเลขาธิการพรรค ดังนั้น ทุกคนยังเป็นพปชร. ส่วนอนาคตยังมีหลายปัจจัยมาเกี่ยวข้อง จึงต้องดูอีกที

ป้อมไม่ลาออกหน.-ไม่เปลี่ยนเลขาฯ

ด้าน พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ช่วงดึกวันที่ 10 ก.ย. ถึงกระแสข่าวเตรียมลาออกจากหัวหน้าพรรค พปชร.ว่า ไม่ลาออก จะลาออกทำไม ไม่ลาออก ส่วนที่มีกระแสข่าวปรับโครงสร้างกก.บห.พรรค ก็ไม่มี ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ ตำแหน่งเลขาธิการพรรคก็ยังเหมือนเดิม ที่ต้องชี้แจงเพราะข่าวที่ออกมาทำให้ลูกพรรคตกใจ ส่วนการปรับครม.ก็ไม่มี ตอนนี้ตำแหน่งรมต.ที่ว่างลง ก็ให้รมว.ทำหน้าที่ไป ปรับครม.ก็ ไม่มีปรับ

เมื่อถามถึงกระแสข่าวจะให้นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดมหาดไทย เข้ามาเป็นรมช.มหาดไทย พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่า ไม่มีการปรับ ตำแหน่งที่ว่างลงให้รัฐมนตรีว่าการทำหน้าที่ได้ ยืนยันว่าไม่มีการปรับทั้งสิ้น

รายงานข่าวจากผู้ที่เข้าพบ พล.อ.ประวิตร เผยว่า พล.อ.ประวิตรน้อยใจต่อการตัดสินใจครั้งนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคร่งเครียดจนนอนไม่หลับ แม้จะยืนยันกับลูกพรรคว่า “ขอให้เชื่อมั่นหัวหน้าพรรค ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ไม่มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพรรคเวลานี้ เหมือนเดิมๆ” ก็ตาม

ขณะที่ตำแหน่งเลขาธิการ พปชร.ของร.อ.ธรรมนัส ซึ่งในวันแถลงข่าวระบุเตรียมหาบ้านใหม่นั้น ในวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา ก่อนเดินทางเข้าพบพล.อ.ประวิตร ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ พร้อม นางนฤมล โดยขอให้พล.อ.ประวิตร ขับตัวเองออกจากพรรค แต่ได้รับการยับยั้งจากพล.อ.ประวิตร ว่าจะออกทำไม อยู่ทำงานในพรรคเหมือนเดิม

ปชป.ยันตู่ยังไม่ส่งซิกปรับครม.

ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายจุรินทร์ ลักษณ วิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการปรับครม.ที่มีข่าวอาจสลับรัฐมนตรีบางส่วนด้วยว่า ไม่มี จนถึงขณะนี้ตนไม่ได้รับสัญญาณใดๆ จาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม

เมื่อถามย้ำว่ามีกระแสข่าวจะเปลี่ยนตำแหน่งนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ไปเป็น รมช.เกษตรฯ แล้วให้นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย ไปนั่ง รมช.สาธารณสุข เปิดทางให้นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดมหาดไทย มาเป็น รมช.มหาดไทย นาย จุรินทร์กล่าวว่า ไม่ขอตอบว่ามันจะเกิดขึ้นจริงเพราะยังไม่มีทีท่าว่าจะเกิด

ขณะเดียวกัน การปรับครม.ต้องนับหนึ่งจากนายกฯ ไม่ใช่นับหนึ่งจากคนที่อยากเป็นรัฐมนตรี มิฉะนั้นคงมีโผออกมามากหรือหลายสูตร จะเอามาเป็นตัวตั้งไม่ได้ ต้องดูว่าเกิดจากอะไร ถ้าเกิดจาก นายกฯ เราก็ต้องรับฟัง และถ้ามีอะไรที่ต้องเกี่ยวพันกับปชป. นายกฯคงแจ้งให้ตนทราบ เพราะทุกครั้งก็แจ้งให้ทราบ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ไม่ได้มีม่านกั้นอะไรระหว่าง ปชป.กับนายกฯ ในการทำงานร่วมกันที่ผ่านมา

เตือนศึกในพปชร.กระทบรัฐบาล

เมื่อถามว่าความขัดแย้งในพปชร.จะส่งผลกระทบกับรัฐบาลอะไรหรือไม่ หรือจะทำให้ขาดเสถียรภาพหรือไม่ หัวหน้าปชป.กล่าวว่า ขอเป็นกำลังใจให้พปชร.ในการคลี่คลายปัญหาภายในพรรคให้ลุล่วงได้ด้วยดี

เมื่อถามว่ามองเรื่องระหว่างนายกฯ กับพปชร.อย่างไร นายจุรินทร์กล่าวว่า ไม่ขอก้าวล่วงไปวิจารณ์ แต่เห็นว่าพปชร.เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ถ้าเกิดความขลุกขลักก็อาจมีผลต่อเสถียรภาพรัฐบาลได้ ซึ่งตนพูดตามข้อเท็จจริง ส่วนจะมีจริงหรือไม่มีนั้น เราไม่สามารถตอบได้ แต่ถ้าโดยหลักแล้วมันอาจเป็นปัจจัยหนึ่งได้

จากนี้อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด

ส่วนที่พรรคการเมืองเห็นไม่สอดคล้องกันในการผ่านวาระ 3 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และอาจยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนั้น ไม่ทราบจะมีการยื่นหรือไม่ ต้องรอดูภายใน 15 วัน นับจาก 10 ก.ย. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เปิดให้ยื่นได้ หากจะยื่นต้องวินิจฉัยภายใน 30 วัน หากพ้นจากนั้นถือว่าไม่มีการยื่นให้ศาลก็จะมีการนำขึ้นทูลเกล้าฯ เป็นเงื่อนไขตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด

หลังจากนี้หากรัฐธรรมนูญบังคับใช้ต้องทำกฎหมายลูก เพื่อให้การเลือกตั้งส.ส.ถ้าจะมีในอนาคตสามารถดำเนินการให้สอดคล้องรัฐธรรมนูญที่แก้ไป เมื่อถามว่ามองอย่างนี้แสดงว่าการยุบสภาจะไม่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ เพราะต้องรอกฎหมายลูกเสร็จก่อน

นายจุรินทร์กล่าวว่า ไม่สามารถตอบได้ ไม่ทราบว่าถัดจากนี้การเมืองจะสะดุดอะไรหรือไม่ แต่ที่สุดอาจไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้ เราไม่ทราบ แต่อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด การแก้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องที่ดี อย่างน้อยก็ช่วยลดอุณหภูมิทางการเมือง หรือมีช่องที่กาต้มน้ำมีรูระบายได้บ้าง ซึ่งไม่ใช่ระบายไปในทางที่ผิด แต่ระบายให้การเมืองเข้มแข็งขึ้น

พรรคเล็กชี้ยื่นตีความ 50-50

นายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท กล่าวถึงการยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า เราตั้งใจ แต่ตามรัฐธรรมนูญต้องใช้เสียง 1 ใน 10 ของส.ส.และส.ว. หรือประมาณ 75 เสียง เสียงของพรรคเล็กไม่ถึงอยู่แล้ว เต็มที่ก็ประมาณ 30 เสียง ต้องไปขอเสียงของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคก้าวไกล (ก.ก.) หรือส.ว. อีกประมาณ 40 กว่าเสียง ก็ยังไม่แน่ว่า ส.ว.จะเล่นด้วยหรือไม่

ฉะนั้น กระบวน การการยื่นศาลรัฐธรรมนูญจึงอยู่ที่ 50-50 และตนดูท่าทีของ ภท. ที่แถลงว่าจะไม่ยื่น รวมถึง ก.ก.ที่จะไม่ร่วมยื่นด้วย จึงกังวลเรื่องเสียง อาจต้องมีการพูดคุยและเจรจากันแต่ต้องเป็นการเจรจาทั้งพรรค เพราะหากเจรจาระดับสมาชิกอาจไม่ยุติ

ในส่วน ส.ว.ก็ยังไม่ได้พูดคุย เพราะยังมีเวลาอีก 15 วัน ตอนนี้ยังตอบอะไรไม่ได้เนื่องจากเพิ่งผ่านการลงมติไปแค่ 1 วัน หากภท.ที่มี 60 เสียงมาร่วมด้วยประมาณ 50 เสียง และไปรวมกับส.ว.อีกประมาณ 10 เสียงก็เพียงพอแล้ว ข้อกังวลคือต่อไปการซื้อเสียงจะมีความรุนแรงมากขึ้นในพรรคที่มีทุนที่จะได้เปรียบ

เมื่อแบ่ง ส.ส.เขต 400 คน จะทำให้แคบและทำให้ใช้เงินซื้อง่าย และการเพิ่ม ส.ส.เขต ลด ส.ส.บัญชีรายชื่อ เท่ากับปิดกั้นโอกาสวิชาชีพของสาขาต่างๆ ที่จะเข้าสู่การเมือง ประเทศไทยทิ้งน้ำหนักการคัดคนเข้าสู่การเมืองในระบบ ส.ส.เขตมากเกินไป ส.ส.มักอ้างว่าต้องเข้าถึงและดูแลประชาชนอย่างทั่วถึง แล้วจะมีสมาชิกสภาเทศบาล ส.ก.ไปทำไม เป็นการทำงานซ้อนกับท้องถิ่น

ตามตื๊อภท.-ก้าวไกล

นายพิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย กล่าวว่า พรรคเล็กขณะนี้มีเสียงแค่ 23 เสียง ไม่พอยื่นศาลรัฐธรรมนูญ แม้ภท.และก.ก.จะไม่ร่วมเข้าชื่อกับพรรคเล็กส่งตีความ แต่ นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กำลังตามตื๊อทั้ง 2 พรรคอยู่ เพราะการยื่นศาลรัฐธรรมนูญเป็นช่องทางดีที่สุด แต่ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากพรรคขนาดกลาง พรรคเล็กก็ไม่มีช่องทางสู้แล้ว

แต่แม้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านวาระ 3 แล้ว แต่อาจไม่ได้ใช้ ขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์จะเล่นการเมืองสมัยหน้าหรือไม่ ถ้าไม่เล่นคงได้ใช้ฉบับนี้ แต่ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ยังเล่นการเมืองต่อ มั่นใจว่าไม่ได้ใช้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้แน่ เพราะระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ไม่เป็นประโยชน์ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ขณะนี้คะแนนนิยมย่ำแย่ สู้ไปก็แพ้ พท. และก.ก. อีกทั้งสถานการณ์ภายในพปชร.หักกันแรงมาก ประเมินแล้วสู้ไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์อาจชิงยุบสภาก่อนที่ร่างแก้ไขฉบับนี้มีผลบังคับใช้ กว่าทุกอย่างจะเสร็จครบทุกขั้นตอนไปจนถึงแก้ไขพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส.เสร็จ ใช้เวลา 3-6 เดือน ระหว่างนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ อาจมีการยุบสภาในช่วงนี้” นายพิเชษฐกล่าว

ก้าวไกลเตือนทูลเกล้าฯรธน.

นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก.ก. ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคเล็กต้องการเจรจาขอเสียงไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ว่า พรรคเล็กยังไม่ได้ประสานมา แต่จุดยืนก.ก.คือจบที่รัฐสภา เราไม่อยากไปองค์กรอื่นโดยไม่จำเป็น ร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านวาระ 3 อาจไม่ต้องถึงขั้นยื่นตีความก็ได้ เนื่องจากกระบวน การขึ้นทูลเกล้าฯ ภายใน 15 วัน หลังจากลงมติวาระ 3 นั้น ยังมีปัญหาที่ต้องขบคิดว่าจะนำร่างแบบนี้ขึ้นไปทูลเกล้าฯ หรือไม่ เพราะมีการแก้ไขเกินหลักการที่รับมา ทำให้ร่างนี้ไม่สมบูรณ์

รวมถึงกมธ.ยังเรียกประชุมด่วน ถอน 4 มาตรา ซึ่งไม่ชอบตามข้อบังคับที่ 12 ที่ต้องทำหนังสือแจ้งไม่น้อยกว่า 1 วัน และไม่ได้ขอให้ที่ประชุมรัฐสภาถอนร่างที่ประธานรัฐสภาบรรจุแล้วออกไปก่อน เพื่อเอา 4 มาตราออก จึงเชื่อว่ารัฐธรรมนูญที่มีเนื้อหาและกระบวนการที่ไม่สมบูรณ์ การนำขึ้นทูลเกล้าฯ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ต้องตระหนักให้ดี และอยากฝากถึงเลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้จัดงานธุรการและตรวจข้อกฎหมายให้ถี่ถ้วนว่า กรณีเช่นนี้สมควรหรือไม่ที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ

พปชร.ร้าว-รัฐบาลไม่ครบเทอม

นายธีรัจชัยกล่าวถึงความขัดแย้งใน พปชร. ว่า การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทยเกิดจากการขัดแย้งภายใน ไม่ใช่ปัจจัยภายนอก ม็อบ ฝ่ายค้านเป็นแค่ตัวเร่งให้เร็วขึ้น สถานการณ์ภายใน พปชร.ชัดเจนว่ามีการแตก อยู่ที่ว่าขั้วของ ร.อ.ธรรมนัส จะทนอยู่แบบนี้หรือไม่ และ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่คนของพปชร. โดยแท้ แต่ พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรค

ฉะนั้นจะทำอย่างไรกับความสัมพันธ์ของพี่น้อง 2 ป. จะจัดการดุลอำนาจอย่างไร การเกิดความขัดแย้งเช่นนี้ขึ้นถือเป็นการนับถอยหลังแล้ว เพราะการบริหารงานจะไม่มีทางเป็นเหมือนเดิม นอกจาก พล.อ.ประยุทธ์จะจัดการอย่างเฉียบขาดและหาคนมาแทน ร.อ.ธรรมนัสได้ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัสทำงานในพื้นที่ได้ดี โอกาสไม่ครบเทอมสูงมาก แต่ไม่ทราบว่าเมื่อไร ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยภายหน้า

เอาผิดสส.แหกมติ

นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าก.ก. ให้สัมภาษณ์กรณี นายจิรวัฒน์ อรัณย กานนท์ ส.ส.กทม. โหวตสวนมติก.ก. โดยโหวตเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ว่า ต้องเรียนว่าทั้ง 1.นายจิรวัฒน์ 2.นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย 3.นายพีรเดช คำสมุทร ส.ส.เชียงราย

4.นายขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี 5.นายเกษมสันต์ มีทิพย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ 6.นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ผ่านมาไม่ได้ร่วมประชุม ร่วมกิจกรรมของพรรคอยู่แล้ว ออกห่างจนเหมือนไม่ได้อยู่ก.ก. จึงไม่ได้คาดหวังการลงมติของเขาจะไปทิศทางเดียวกับพรรค แต่เมื่อลงมติเช่นนี้ก็คิดว่าคงเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการวินัยและจริยธรรมพรรคที่จะพิจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อไป

การประชุมของพรรคก่อนโหวต ก็มีส.ส.ที่อยากลงมติเห็นชอบ ไม่เห็นชอบ และงดออกเสียง แต่สุดท้ายก็ออกมาเป็นมติงดออกเสียง บางคนมองว่าถ้าโหวตไม่เห็นด้วยจะหมายความว่าโอเคกับรัฐธรรมนูญ 2560 หรือไม่ บางคนก็คิดว่าประชาชนไม่เข้าใจระบบเลือกตั้งจัดสรรปันส่วนผสม เข้าใจแค่บัตร 1 ใบ กับ 2 ใบ แม้จะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน สุดท้ายก็โหวตงดออกเสียงตามมติพรรค

พท.แย้มซักฟอกแบบไม่ลงมติ

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ช่วงต้นก.ย.ที่ผ่านมา ฝ่ายค้านได้เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลตามมาตรา 151 ไปแล้ว จึงยังสามารถเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ได้ แต่พรรคร่วมฝ่ายค้านยังไม่ได้หารือกันว่าจะเปิดอภิปรายหรือไม่ เพราะขณะนี้กำลังเก็บของเก่าหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจอยู่ เช่น เรื่องคดีความต่างๆ ที่กำลังยื่นฟ้องรัฐบาล แต่ก็ไม่แน่ อาจเปิดอภิปรายแบบไม่ลงมติในช่วงสมัยประชุมปลายปีก็ได้

รอต้อนรับ – ชาวบ้าน ต.ป่าสัก อ.ภูซาง จ.พะเยา รวมตัวชูป้ายให้กำลังใจ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หลังถูกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ สั่งปลดพ้นรมช.เกษตรฯ พร้อมรอต้อนรับ กลับบ้าน เมื่อวันที่ 11 ก.ย.

พะเยาชูป้ายรับธรรมนัสกลับบ้าน

เวลา 09.30 น. ที่ อ.ภูซาง จ.พะเยา ชาวบ้านจาก 3 ตำบล ประกอบด้วย ต.ป่าสัก ต.ภูซาง และ ต.เชียงแรง มารวมตัวกัน 2 จุด คือที่บริเวณหน้าวัดบ้านแก ต.ป่าสัก กว่า 50 คน และบริเวณหอประชุมบ้านสถาน ต.ภูซาง กว่า 50 คน เพื่อมาส่งกำลังใจให้ ร.อ.ธรรมนัส และรอต้อนรับการเดินทางกลับจ.พะเยา ซึ่งชาวบ้านอ้างว่ารัก ร.อ.ธรรมนัส และเห็นถึงความตั้งใจในการทำงาน อยากให้กลับมาพักผ่อนที่พะเยาสักพักเพื่อพักสมอง และกลับไปพัฒนาประเทศชาติในฐานะส.ส.ต่อไป

ทั้งนี้ชาวบ้านมีการชูป้ายข้อความให้กำลังใจ ร.อ.ธรรมนัส อาทิ ขอต้อนรับสู่พะเยา, นักสู้ล้านนาแห่งประชาธิปไตย, ลูกผู้ชายตัวจริงต้องธรรมนัส, ชาวอำเภอภูซาง ขอเป็นกำลังใจให้ท่านธรรมนัส, ท่านธรรมนัส จะไปกลัวมัน ตี่ทำตึงวัน ทำเพื่อประเทศชาติและประชาชน, กลับสู่อ่อมกอดของพี่น้องชาวพะเยา, ยินดีต้อนรับกลับพะเยา สุภาพบุรุษล้านนา, ใจถึงพึ่งได้ ต้องธรรมนัส และชูป้ายเดินไปรอบหมู่บ้าน เพื่อส่งกำลังใจให้ ร.อ.ธรรมนัส ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง เดินรอบหมู่บ้านก่อนแยกย้ายกันกลับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน