หล่มสัก-พิษณุโลกอ่วม
ตลาด100ปีกบินทร์จม

พายุโซนร้อน‘โกนเซิน’ขึ้นฝั่งเมืองดานัง เวียดนามแล้ว ก่อนอ่อนกำลังเป็นดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำ อุตุฯ เตือน 37 จว.รับมือฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน ทั้งเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และอีสาน ส่วนที่ปราจีนฯ ยังหนัก น้ำท่วมตลาดเก่า 100 ปี กบินทร์ ชาวบ้านในชุมชนต้องใช้เรือสัญจร น้ำไหลหลากไปถึงศรีมหาโพธิ ส่วนที่หล่มสัก เพชรบูรณ์ ก็อ่วม ฝนตกหนักอีก จมบ้านเรือน 200 หลัง เตรียมรับมวลน้ำอีกระลอก ด้านเนินมะปราง พิษณุโลก น้ำจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ไหลท่วมบ้านเรือน 20 หลัง ระดับน้ำท่วม 1 เมตร ชาวบ้านขนของหนีวุ่น

ตลาดเก่า100ปีกบินทร์ท่วมหนัก

จากสถานการณ์น้ำท่วมชุมชนตลาดเก่าเทศบาลตำบลกบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีน บุรีว่า ปริมาณน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากแควหนุมานรับมวลน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และอุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก ที่ไหลหลากเข้าท่วม ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี

และรับน้ำจากการพร่องน้ำจากเขื่อนห้วยโสมง (นฤบดินทรจินดา) อ.นาดี ที่ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเกินรองรับ หลังมีฝนตกหนัก และรับมวลน้ำจากแควพระปรงที่ไหลมาจากเทือกเขาสอยดาว จ.สระแก้ว มารวมกันเป็นต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี ทำให้น้ำในแม่น้ำปราจีนบุรีเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ริมตลิ่ง คือชุมชนตลาดเก่า เทศบาลตำบลกบินทร์ อ.กบินทร์บุรี ที่ตั้งติดริมต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรีถูกน้ำท่วมกว่า 100 ครอบครัว ระดับน้ำสูง 60-100 ซ.ม. ต้องเก็บของหนีน้ำรายวันนั้น

เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 11 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ชุมชนตลาดเก่า 100 ปี กบินทร์บุรี ปริมาณน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น จากกลางซอยจนมาถึงปากซอยในชุมชนตลาดเก่า เกือบถึงที่ตั้งของมูลนิธิสัจจะพุทธธรรมแห่งประเทศไทย (อ.กบินทร์บุรี) ที่ตั้งใกล้กัน ระดับน้ำท่วมสูง 60-120 ซ.ม. คนในชุมชนต้องขึ้นไปพักอาศัยบนชั้นที่ 2 ของตัวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้ยกสูงเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ชาวบ้านต้องใช้เรือสัญจรแทน ที่ผ่านมาจุดนี้ น้ำจะท่วมทุกปี เนื่องจากตั้งอยู่ติดกับริมต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี

จากการตรวจสอบบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำปราจีนบุรี นอกจากน้ำท่วมที่ชุมชนตลาดเก่า เทศบาลตำบลกบินทร์แล้ว พบด้านล่างที่ต่ำต่อเนื่องลงมาของแม่น้ำปราจีนบุรีด้าน อ.ศรีมหาโพธิ ประชาชนริมฝั่งแม่น้ำปราจีนบุรีคอยเฝ้าระวัง เก็บของหนีน้ำขึ้นที่สูงตลอดทั้งคืน

นายสุกรี สุวรรณกล่อม ชาวบ้านที่อยู่ริมน้ำแม่น้ำปราจีนฯ กล่าวว่า เมื่อคืนช่วยแม่ยายเก็บของหนีน้ำ เพราะน้ำเพิ่มขึ้นที่บ้านพยาวัง ม.2 ต.บ้านทาม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ที่ตั้งติดริมฝั่งแม่น้ำปราจีนบุรี น้ำไหลเอ่อล้นฝั่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ที่อยู่ริมตลิ่งแม่น้ำปราจีนบุรีกว่า 10 หลัง ระดับน้ำท่วมสูง 50-80 ซ.ม. ทุกคนยังเฝ้าจับตาดูน้ำที่เพิ่มขึ้นๆ ทุกชั่วโมง คาดว่าอาทิตย์หน้าปริมาณน้ำตาลลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ หากไม่ตกลงมาเพิ่มในระยะนี้

ด้านนายวรพันธ์ สุวรรณณุสส์ ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี มีหนังสือถึงนายอำเภอทุกอำเภอ ตามประกาศหนังสือด่วนที่สุดที่ ปจ.(กปภจ) 0023.2/3466 ลงวันที่ 10 ก.ย.64 ระบุว่า ด้วยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณ ภัยจังหวัดปราจีนบุรีได้รับรายงานจากโครง การส่งน้ำและบำรุงรักษานฤบดินทรจินดาว่า โครงการดำเนินการระบายน้ำเพื่อพร่องน้ำในอ่างไม่ให้เกินเกณฑ์เก็บกักสูงสุดในปริมาณที่สัมพันธ์กับปริมาณน้ำที่ไหลลงอ่าง

และเกิดผลกระทบต่อพื้นที่ตามแนวคลองห้วยโสมงน้อยที่สุด ตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค.64 เป็นต้นมา แต่จากภาวะฝนตกหนักในพื้นที่ต้นน้ำแควหนุมานและในพื้นที่รองรับน้ำของอ่างเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ปัจจุบันอ่างมีปริมาณน้ำ 247.63 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 83.94% ของความจุ เพื่อให้อ่างสามารถรองรับน้ำที่จะไหลลงได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยต่อตัวเขื่อน ทางโครงการจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำเพื่อพร่องน้ำออกจากอ่าง ลงคลองห้วยโสมง ในอัตราวันละ 5 ล้านลูกบาศก์เมตร ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย.64 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์น้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติ

การระบายน้ำดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายน้ำและตามแนวคลองห้วยสมอง โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ตามแนวคลองที่มีระดับต่ำกว่าปกติ จึงแจ้งให้อำเภอ ประสานองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และส่วนที่เกี่ยวข้องให้เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อุทกภัย ตลอดจนเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัย

หล่มสักอ่วม – ภาพมุมสูงน้ำท่วมหนักเทศบาลตำบลตาลเดี่ยว ต่อเนื่องเทศบาลเมืองหล่มสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ระดับน้ำบางจุดสูงกว่า 1 เมตร บ้านเรือนถูกน้ำท่วมกว่า 200 หลังคาเรือน จากผลกระทบพายุโกนเซิน เมื่อวันที่ 11 ก.ย.

หล่มสักท่วม 200 หลัง

ส่วนที่จ.เพชรบูรณ์ หลังจากน้ำในแม่น้ำป่าสักเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่เทศบาลเมืองหล่มสัก และเขตเทศบาลตำบลตาลเดี่ยว ที่เชื่อมต่อกับเทศบาลเมืองหล่มสัก คือหมู่ 1 บ้านขวัญโยนใต้ หมู่ 2 บ้านตาลเดี่ยว หมู่ 3 บ้านน้ำอ้อย หมู่ 4 และหมู่ 8 บ้าน ท่ากกแก หมู่ 9 บ้านใหม่ หมู่ 10 บ้านร่องไผ่ และ หมู่ 11 บ้านศรีสะอาด หรือชุมชนศรีสะอาด ชาวบ้านถูกน้ำท่วม ได้รับความเดือดร้อนกว่า 200 หลัง

โดยเฉพาะที่หมู่ 11 ชุมชนศรีสะอาด บ้านเรือนกว่า 40 หลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากถูกน้ำท่วมซ้ำซากทุกปีปีละหลายครั้ง โดยเมื่อวันที่ 10 ก.ย. ระดับน้ำบางจุดสูงกว่า 1 เมตร

ล่าสุดเช้านี้น้ำยังคงทรงตัว ขณะที่เมื่อวานเกิดฝนตกหนักอีกครั้งในพื้นที่อ.หล่มเก่า คาดว่ามวลน้ำน้ำจากอ.หล่มเก่าที่ไหลลงสู่แม่น้ำป่าสักจะมาถึงเขตอ.หล่มสักในช่วงบ่ายของวันนี้ ซึ่งอาจจะทำให้ระดับน้ำท่วมสูงขึ้นอีก

นายอาคม ดวงพุทธา อายุ 49 ปี ชาวบ้านที่ตั้งบ้านเรือนอยู่ริมฝั่งแม่น้ำป่าสักเปิดเผยว่า น้ำจากแม่น้ำไหลเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือน แต่มีการประกาศเตือนล่วงหน้าแล้ว ทำให้ทรัพย์สินไม่ได้รับความเสียหาย ปีนี้น้ำมีปริมาณมากและท่วมขังนานกว่าทุกปีที่ผ่านมา สำหรับช่วงคืนที่ผ่านมาระดับน้ำยังคงทรงตัวจนกระทั่งถึงเช้านี้ แต่ทราบว่ามีฝนตกในอ.หล่มเก่า น้ำกำลังไหลลงมาในพื้นที่อ.หล่มสัก คาดว่าช่วงบ่ายน้ำน่าจะสูงขึ้น

นายสมบูรณ์ เชื้อกลิ่น ผู้ใหญ่บ้านแสนสุข หมู่ที่ 7 ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และคณะเข้าช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจากน้ำเอ่อท่วมพื้นที่สามแยกเข้าหมู่บ้านแสนสุข หลังมีน้ำป่าไหลหลากข้ามถนนโคกสะแบง-บ้านแสนสุขท่วมบ้านราษฎรหลายหลัง น้ำในคลองน้ำใสซึ่งเป็นคลองธรรมชาติและยังเป็นคลองกั้นเขตแดนไทย-กัมพูชาเอ่อล้นท่วมถนนประมาณ 20 ซ.ม.

ทั้งนี้ น้ำท่วมต.คลองน้ำใสเป็นผลพวงจากมีฝนตกติดต่อกันมาหลายวัน ทำให้ปริมาณน้ำในคลองธรรมชาติมีระดับสูงขึ้น ประกอบ กับมีน้ำป่าไหลหลากมาจากจ.จันทบุรี ผ่าน อ.คลองหาด มาด้านต.ทับพริก อ.อรัญ ประเทศ ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่

โคราชเฝ้าระวัง3ลุ่มน้ำ

นายกิติกุล เสภาศีราภรณ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครราชสีมา กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่าภาพรวมในพื้นที่จ.นครราช สีมา ว่า ใน 4 อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 23 อ่างเก็บน้ำขนาดกลางของจ.นครราชสีมา ปัจจุบัน มีปริมาณน้ำภาพรวม 71.40% ของความจุอ่างเก็บน้ำทั้งหมด ซึ่งอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีน้ำจุเกิน 80% แล้ว มี 1 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง ปริมาณน้ำล่าสุด 133 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 86.10%

ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 23 แห่ง มีเกินความจุกักเก็บทั้งหมด 6 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำบะอีแตน อ่างเก็บน้ำลำเชียงสา อ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง อ.วังน้ำเขียว, อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง อ.โนนไทย, อ่างเก็บน้ำหนองกก อ.พระทองคำ และอ่างเก็บน้ำห้วยเพลียก อ.ครบุรี

“ปีที่แล้ว ฝนจะตกฝั่งอ.วังน้ำเขียว แล้วมวลน้ำไหลไปอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ก่อนจะลงอ่างเก็บน้ำลำตะคอง และอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง แต่ในปีนี้จะเห็นว่ามีฝนมาเร็วและจะตกสม่ำเสมอต่อเนื่องที่อ.วังน้ำเขียว อุทยานแห่งชาติทับลาน จึงมีมวลน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง และอ่างเก็บน้ำมูลบนค่อนข้างมาก ส่วนอ่างเก็บน้ำลำตะคอง ปริมาณน้ำยังอยู่ที่ 225 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 71.55% ยังไม่มีสภาวะผิดปกติเร่งด่วนอะไร

ขณะที่บริเวณอ.ด่านขุนทด อ.เทพารักษ์ จะพบว่ามีฝนตกสม่ำเสมอ มาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มวลน้ำจำนวนมากไหลลงมายังอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง จึงต้องเร่งระบายน้ำออกด้านท้ายอ่างฯ แถวอ.โนนสูง อ.โนนไทย

ซึ่งขณะนี้มีลุ่มน้ำที่จะต้องเฝ้าระวัง คือลุ่มน้ำลำเชียงไกร ลุ่มน้ำลำพระเพลิง และลุ่มน้ำมูลตอนบน โดยแนวโน้มคาดว่าปริมาณน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีก เพราะแต่ละปีฝนเคยมาช่วงปลายเดือนก.ย.หรือต้นเดือนต.ค. แต่ปีนี้ฝนมาล่วงหน้า 1 เดือนตั้งช่วงปลายเดือนส.ค. ทำให้มีมวลน้ำสะสมและจะเพิ่มขึ้นอีกต่อเนื่อง จากอิทธิพลของร่องมรสุมและพายุที่ทำให้มีฝนตกลงมาในพื้นที่”

เร่งระบายน้ำเขื่อนลำพระเพลิง

สำหรับอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงที่มีปริมาณน้ำอยู่กว่า 86% แล้วนั้น ขณะนี้ระบายน้ำส่วนหนึ่งออกลงลำธรรมชาติด้วย ซึ่งจะไปสะสมรวมกันกับน้ำฝนที่ตกลงในลุ่มน้ำลำพระเพลิง และลำมูลบน ซึ่งมวลน้ำก็จะไหลไปรวมกันที่อ.โชคชัย อ.เฉลิมพระเกียรติ ตามลำดับ ซึ่งประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวจะต้องติดตามการแจ้งข่าวสถานการณ์ หรือการแจ้งเตือนจากทางอำเภอ ท้องถิ่น หรือจากทางปภ.อย่างใกล้ชิดด้วย แต่มวลน้ำก้อนนี้ กว่าจะไหลไปลงลำน้ำมูลในพื้นที่อ.พิมาย ต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์

ดังนั้นมวลน้ำจำนวนมากที่เอ่อสูงหน้าเขื่อนพิมาย จะเป็นมวลน้ำจากฝนตกสะสมในพื้นที่ไหลลงลำน้ำมูล ซึ่งยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ไม่ได้ติดกับลำน้ำ ทั้งในอ.พิมาย อ.ประทาย และในพื้นที่โซนทิศเหนือของจังหวัด ยังคงขาดแคลนน้ำจากปัญหาฝนทิ้งช่วงนานกว่า 2 เดือนแล้ว

ส่วนอ่างเก็บน้ำลำตะคองปัจจุบันยังสามารถรองรับน้ำได้อีก แต่ฤดูฝนเพิ่งจะเริ่มต้นไม่นาน คาดว่า ต่อจากนี้จะมีฝนตกต่อเนื่องมาอีก ซึ่งจะทำให้มีมวลน้ำฝนสะสมจำนวนมาก บนพื้นที่ต้นน้ำ เช่นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หรืออุทยานแห่งชาติทับลาน และเมื่อดินอิ่มตัว ก็จะเกิดเป็นมวลน้ำไหลหลากหรือดินถล่มลงมาได้

ดังนั้นแม้ตอนนี้เครื่องตรวจวัดระดับน้ำจะยังไม่แจ้งเตือนสัญญาณวิกฤต แต่ที่ราบเชิงเขาหรือพื้นที่ตามเส้นทางไหลของลำน้ำที่เคยประสบน้ำท่วมฉับพลัน จะต้องติดตามสถานการณ์การแจ้งเตือนภัยไว้ด้วย และให้เตรียมพร้อมรับมือ ขนย้ายสิ่งของมี ค่าขึ้นที่สูง เพื่อลดวามสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงหน้าฝนนี้ สรุปคือพื้นที่สูงบนภูเขาจะมีน้ำมากเพราะฝนตกจนอิ่มตัว แล้วไหลลงลำธรรมชาติ หรือลงอ่างเก็บน้ำ แต่พื้นที่บริเวณปลายลำน้ำหรือท้ายน้ำ ยังคงประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอยู่ในขณะนี้

‘อนุชา’เผยองค์พระปฐมทรุด

ด้านนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ตนได้รับการประสานจากวิศวกรว่าจากสภาพอากาศที่มีฝนตกหนักเป็นระยะต่อเนื่องเวลาหลายวัน ส่งผลให้องค์พระปฐมเจดีย์ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร จ.นครปฐม ถูกน้ำเซาะดินทำให้ทรุดตัว จึงสั่งการพศ.ตรวจสอบข้อมูลจากเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ พบว่ากรมศิลปากรได้บูรณปฏิสังขรณ์ องค์พระปฐมเจดีย์ บูรณปฏิสังขรณ์ล่าสุดเมื่อปี 2551

“ส่วนที่มีการเผยแพร่คลิปภาพน้ำไหลเป็นน้ำตกจากบันไดหน้าพระร่วง หรือมีน้ำท่วมขังบริเวณลานด้านองค์พระ มักเกิดขึ้นเป็นประจำเมื่อมีฝนตกหนัก แต่ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณใดเกี่ยวกับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นตามที่ได้รับการแจ้งเตือนมา ทั้งนี้ ได้หารือกับสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจ.นครปฐม ประสานงานกับกรมศิลปากร เข้ามาสำรวจอีกครั้งว่ามีส่วนใดได้รับความเสียหายหรือชำรุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่พุทธศาสนิกชนและชาวนครปฐม”

‘โกนเซิน’ขึ้นฝั่งเวียดนาม

ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเรื่อง พายุโซนร้อนกำลังแรง “โกนเซิน” ฉบับที่ 9 ว่า เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 11 ก.ย. พายุโซนร้อนกำลังแรง “โกนเซิน” บริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 145 ก.ม. ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม หรืออยู่ที่ละติจูด 15.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 109.4 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 90 ก.ม.ต่อช.ม. และกำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 13 ก.ม./ช.ม. คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองดานัง ประเทศเวียดนามในวันที่ 12 ก.ย.64 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ

ขณะที่ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้

ไทยเตือน37จว.รับมือฝนตก

พื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้ วันที่ 12 ก.ย. บริเวณที่มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.นครพนม สกลนคร มุกดาหาร กาฬสินธุ์ อำนาจเจริญ ยโสธร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคตะวันออก จ.ระยอง จันทบุรี และตราด

วันที่ 13 ก.ย. บริเวณที่มีฝนตกหนักบางแห่ง ภาคเหนือ จ.แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก ตาก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.นครพนม สกลนคร มุกดาหาร อำนาจเจริญ ยโสธร ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคกลาง จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี และกาญจนบุรี ภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด

อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และอ่าวไทยตอนบนคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง โดยหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ควรงดออกจากฝั่ง จนถึง วันที่ 14 ก.ย.64

‘เนินมะปราง’ท่วม 1 เมตร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ไหลหลากมายังพื้นที่ จ.พิษณุโลก โดยเฉพาะที่ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ที่มีเขตติดกับ จ.เพชรบูรณ์ น้ำเทือกเขาเพชรบูรณ์ ไหลหลากลงสู่คลองวังโพรง ต.ไทรย้อย อ.เนินมะปราง จนล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านหมู่ 7 ต.วังโพรง และหมู่ 8 และหมู่ 13 ต.ไทรย้อย และไหลเข้าท่วมสวนมะม่วงที่ต้นมะม่วงกำลังออกดอกและนาข้าวที่กำลังโตจนได้รับความเสียหายหลายสิบไร่

นายทวีศักดิ์ ล่อกา ปลัดอำเภอเนินมะปราง พร้อมเจ้าหน้าที่ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนออกสำรวจความเสียหายจากน้ำท่วม เจ้าอาวาสวัดพุกกระโดน หมู่ 1 ต.ไทรย้อย เจ้าอาวาสวัดบ้านใหม่ทองประเสริฐ หมู่ 1 ต.เนินมะปราง นำสิ่งของเครื่องใช้อุปโภคบริโภค และข้าวกล่องไปมอบให้กับชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม 20 หลัง ระดับน้ำสูง 1 เมตร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน