ล็อตแรก2ล.โดสถึง29กย.
คิวสาวท้องเดือนละแสนราย
สภาวุ่น‘สส.-สว.-จนท.’ติดอื้อ

สธ.เร่งฉีดวัคซีนโควิดให้สาวท้องเดือนละ 1 แสนคน หลังพบฉีดแค่ 5.5 หมื่นจากทั้งหมด 5 แสน ย้ำฉีดได้ทุกชนิด ไม่มีผล ต่อเด็กในท้อง สร้างภูมิทั้งแม่และลูก ‘อนุทิน’ เผยไฟเซอร์ 2 ล้านโดสมาถึงไทย 29 ก.ย. ขณะที่ศธ.เปิดแผนฉีดไฟเซอร์นักเรียนทุกสังกัด 4.5 ล้านคนในเดือนต.ค.นี้ รองรับเปิดเรียนเทอมสอง ขยายถึงด็ก 17 ปี 11 เดือน 29 วัน ในวันที่ฉีดด้วย เริ่มใน 29 จังหวัดสีแดงเข้มก่อน พร้อมเตรียมแผนโรงเรียนแซนด์ บ็อกซ์ ไทยติดเชื้ออีก 1.2 หมื่น เสียชีวิต 132 ทั่วปท.ติดเชื้อขาลง ยกเว้น 4 จว.ใต้ รวมทั้งนนทบุรี ปทุมธานี มีแนวโน้มสูง ผวาคลัสเตอร์สภาผู้แทนฯ ทั้งส.ส.-ส.ว.-จนท.สภาติดเชื้ออื้อ กระบี่ล็อกดาวน์อีก เนื่องจากติดเชื้อเพิ่ม ‘ททท.’ จ่อชงศบศ.เปิด 5 จังหวัดท่องเที่ยว 1 ต.ค.นี้ ให้ต่างชาติเที่ยวแบบไม่กักตัวเหมือนภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์

ติดเชื้อ 1.2 หมื่น-ตายเพิ่ม 132

เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ. ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 12,583 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 12,409 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 11,232 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 1,177 ราย และมาจากเรือนจำ 163 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 11 ราย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,394,756 ราย หายป่วยเพิ่ม 16,304 ราย ยอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,248,158 ราย อยู่ระหว่างรักษา 132,113 ราย อาการหนัก 4,096 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 835 ราย

เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 132 ราย เป็นชาย 63 ราย และหญิง 69 ราย พบในกทม. 23 ราย สมุทรปราการ 19 ราย นครปฐม 12 ราย สมุทรสาคร 12 ราย ส่วนจังหวัดอื่นๆ เป็น ผู้เสียชีวิตหลักเดียว ผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 100 ราย มีโรคเรื้อรัง 26 ราย เป็นหญิงตั้งครรภ์ 1 ราย ที่จ.กำแพงเพชร เสียชีวิต ที่บ้าน 1 ราย ที่จ.ตาก เป็นชาวเมียนมา ตรวจพบเชื้อหลังเสียชีวิต ยอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 14,485 ราย

ห่วง4จว.ใต้-นนท์-ปทุมติดเชื้อสูง

นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 13 ก.ย.ได้แก่ กทม. 3,329 ราย ชลบุรี 650 ระยอง 647 ราย นนทบุรี 468 ราย สมุทรปราการ 443 ราย สมุทรสาคร 402 ราย นราธิวาส 401 ราย ยะลา 366 ราย สงขลา 301 ราย ราชบุรี 299 ราย ภาพแผนที่ประเทศไทยรายวันยังทรงๆ อยู่ที่ประมาณ 12,000-16,000 ราย ภาพพื้นที่ยังไม่เปลี่ยนแปลง

เมื่อดูเฉพาะ กทม.ติดเชื้อ 3,329 ราย พบว่ามีการติดเชื้อเกิน 100 ราย 8 เขต ได้แก่ 1.จอมทอง 279 ราย 2.หลักสี่ 186 ราย 3.ดอนเมือง 155 ราย 4.บางซื่อ 140 ราย 5.ราษฎร์บูรณะ 116 ราย 6.หนองแขม 114 ราย 7.สายไหม 107 ราย และ 8.คลองเตย 101 ราย

ทั้งนี้กราฟการติดเชื้อเป็นขาลง สัดส่วนเป็นต่างจังหวัด 60% กทม.และปริมณฑล 40% อัตราติดเชื้อขณะนี้ถือว่าเป็นขาลง เราผ่านภูเขาสูงมาแล้ว มีทิศทางและปลายทาง ที่ดี กราฟตัวเลขผู้ติดเชื้อทั้งประเทศเป็น สีเขียว เช่นเดียวกับในเรือนจำ โดยที่ยังมี แนวโน้มติดเชื้อเพิ่มขึ้น คือ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นนทบุรี และปทุมธานี ผู้ติดเชื้ออาการหนักเพิ่มขึ้นในนนทบุรี ปทุมธานี และสมุทร ปราการ การใส่ท่อช่วยหายใจ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในนนทบุรีและปทุมธานี และการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นในภาพรวม 48 จังหวัดทั่วประเทศ นนทบุรี สมุทรปราการ และนครปฐม

ตายโควิดอายุน้อยสุด 12 วัน

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า กองระบาดวิทยาวิเคราะห์ข้อมูลการเสียชีวิตจากโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-9 ก.ย. 2564 จำนวน 13,637 ราย จากภาพกราฟมีแนวโน้มลดลงทั้งประเทศ โดยเป็นชายมากกว่าหญิง 1:0.84 อายุน้อยที่สุด 12 วัน มากที่สุด 109 ปี โรคประจำตัวส่วนใหญ่เป็นความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูงตั้งครรภ์เสียชีวิต 21 ราย ทั้งนี้เสียชีวิตในสถานพยาบาล 13,067 ราย คิดเป็น 95.82% นอกสถานพยาบาล 361 ราย คิดเป็น 2.65% และไม่ระบุ 209 ราย คิดเป็น 1.53% ส่วนเขตปริมณฑล 5 จังหวัด 3,078 ราย เสียชีวิตในสถานพยาบาล 2,951 ราย คิดเป็น 95.87% นอกสถานพยาบาล 78 ราย คิดเป็น 2.53% และไม่ระบุ 49 ราย คิดเป็น 1.59% ถือว่ามีสัดส่วนเหมือนกัน

สำหรับการเสียชีวิตนอกสถานพยาบาลเพื่อหาช่องว่างของการบริหารจัดการเพื่อจะดูแลได้ดีนั้น พบว่า 361 รายที่เสียชีวิตนอกสถานพยาบาล เป็นชายมากกว่าหญิง 1:0.63 อายุมัธยฐาน 67 ปี อายุน้อยสุด 2 ขวบ มากสุด 100 ปี เยอะสุดคือกทม. 113 ราย สมุทรปราการ 39 ราย ปทุมธานี 30 ราย นครสวรรค์ 26 ราย ชลบุรี 13 ราย ส่วนใหญ่พบเชื้อก่อนเสียชีวิต 170 ราย พบเชื้อวันที่ เสียชีวิต 86 ราย พบเชื้อหลังเสียชีวิต 56 ราย การเสียชีวิตนอกสถานพยาบาลในปริมณฑล 78 ราย เป็นสมุทรปราการ 39 ราย ปทุมธานี 30 ราย นครปฐม 4 ราย นนทบุรี 3 ราย และสมุทรสาคร 2 ราย ภาพรวมชายมากกว่า ผู้หญิง ยกเว้นช่วงอายุ 70 ปีขึ้นไป และ 45-49 ปี ที่พบผู้หญิงมากกว่า

หากเทียบการเสียชีวิตกับการรับวัคซีน พบว่าไม่ได้ฉีดวัคซีนมีมากกว่า และยิ่งอายุมากและไม่ได้ฉีดวัคซีนจะยิ่งมีอัตราเสียชีวิตสูง ส่วนการฉีดครบ 2 เข็ม พบเสียชีวิตก่อนวันเริ่มป่วยมากกว่า 2 สัปดาห์ 67 ราย และก่อนวันเริ่มป่วยน้อยกว่า 2 สัปดาห์ 40 ราย แต่หากรับวัคซีนเพียง 1 เข็ม เพิ่มมากขึ้นเป็น 3 หลัก คือ ก่อนวันเริ่มป่วยมากกว่า 2 สัปดาห์ 980 ราย และก่อนวันเริ่มป่วยน้อยกว่า 2 สัปดาห์ 987 ราย และที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน 8,803 ราย และไม่มีข้อมูล 2,760 ราย

ฉีดสาวท้อง – งานเดือนแห่งการรณรงค์หญิงตั้งครรภ์เข้ารับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยระดมฉีดวัคซีนให้สาวท้องตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไปทั่วประเทศ จำนวน 5 แสนคน สร้างภูมิให้ทั้งแม่และลูก ที่กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 13 ก.ย.

ห่วงคลัสเตอร์งานศพ-ตลาดนัด

ทั้งนี้ การติดเชื้อวันนี้กว่าหมื่นคน พบว่ามีการติดเชื้อจากงานศพจำนวนมาก เพราะมีการรับประทานอาหาร ถอดหน้ากาก อยู่ใกล้ชิดกัน ใช้เวลาพอสมควร เป็นการเลี้ยงอาหารเย็น การพูดคุย หรือการอยู่เฝ้าศพค้างคืน ระยะเวลาของคนที่ไม่ได้พบปะก็มาเจอกันจำนวนมาก กลายเป็นกิจกรรมเสี่ยงขึ้นมา, บางที่ จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในห้าง ตลาดมีรายงานเป็นระยะๆ กระจายหลายจังหวัด ร้านอาหารมีการติดกันไปนั่งดื่มนั่งกินกัน สถานีขนส่ง โรงเรียน อย่างภาคอีสานมีการติดกัน ตลาดนัด ต้องมาช่วยกันลดตรงนี้ให้ได้ ที่สำคัญคือการใช้มาตรการถึงสิ้นเดือนนี้เพื่อ ดูว่า ต.ค.จะมีมาตรการเพิ่มเติมอย่างไร

ฉีดวัคซีนแล้ว 40 ล้านโดส

ส่วนยอดผู้ได้รับวัคซีนของประเทศไทยเมื่อวันที่ 12 ก.ย. ฉีดวัคซีนเพิ่มเติม 215,889 โดส ยอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. ทั้งสิ้น 40,276,356 โดส ขณะที่สถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 225,469,980 ราย เสียชีวิตสะสม 4,644,028 ราย

‘ส.ส.-จนท.สภาฯ’ติดเชื้อ 12

ที่รัฐสภา นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า ตั้งแต่ 1-11 ก.ย. ฝั่งส.ส. มีข้าราชการเจ้าหน้าที่ต่างๆ และส.ส.ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด 12 ราย จำนวนนี้เป็น ส.ส. 1 คนคือ นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้เกิดคลัสเตอร์ขึ้นในสำนักรักษาความปลอดภัย ของสำนักเลขา ธิการสภาผู้แทนราษฎร จึงรายงานไปยังกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ซึ่งร่วมกับสำนักรักษาความปลอดภัย และสำนักบริการทางการแพทย์ของสำนักเลขาธิการสภาฯ ลงพื้นที่สอบสวนโรคระหว่างวันที่ 10-11 ก.ย. เพื่อยืนยันการระบาด ประเมินความเสี่ยงในการติดเชื้อของผู้เข้าร่วมประชุมรัฐสภา และหาปัจจัยเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อ หลังการสอบสวนสรุปผลเบื้องต้น คือคลัสเตอร์ ดังกล่าวไม่พบปัจจัยเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อให้แก่ผู้เข้าร่วมประชุมในรัฐสภา สาเหตุใหญ่คือระบบระบายอากาศในห้องพนักงานไม่ดีพอ มีการถอดหน้ากากอนามัยเวลารับประทานอาหาร มีการพูดคุย และสัมผัสเสี่ยงร่วมกันคือแฟลตของสภาฯ

ทั้งนี้ มอบชุดตรวจ ATK ให้ผู้ที่มีความเสี่ยงสูง และประสานศูนย์บริการสาธารณสุขเขต 19 ดำเนินการตรวจเชิงรุกที่แฟลตสภาฯ ในวันที่ 10-11 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อ 7 รายมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในหน่วยงาน 18 ราย ในผู้ติดเชื้อ 7 รายเป็นฝั่งส.ว. จำนวนหนึ่ง และเป็นบุคคลภายนอก เช่น แม่ค้า ประชาชนที่อยู่ใกล้แฟลตซึ่งมีการสัมผัสกับคนในแฟลต ส่วนข้าราชการที่สังกัดสำนักรักษาความปลอดภัยสภาฯ ที่พบเชื้อในการตรวจเชิงรุกที่แฟลตมี 1 คน ข้อเสนอแนะของกองระบาดวิทยา คือให้รักษามาตรการเดิมอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือ เพิ่มระบบระบายอากาศ และให้กักตัว 14 วัน ตรวจ ATK ซ้ำทุก 3-5 วันในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงสูง จากการสอบถามพบว่าตอนนี้มีการกักตัวเจ้าหน้าที่ของสำนักรักษาความปลอดภัย 21 คน

ส่วนกรณีมีส.ว. 1 คน ติดเชื้อโควิดและเข้าร่วมประชุมรัฐสภาเมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น ในห้องประชุมรัฐสภาส่วนมาก ส.ว.จะนั่งอยู่ในฝั่งส.ว. ฉะนั้น ผู้มีความเสี่ยงสูงส่วนใหญ่จะอยู่ในฝั่งส.ว. ในฝั่งของส.ว.คงจะดำเนินการดูแลผู้ที่มีความเสี่ยงสูง-ต่ำต่อไป สำหรับฝั่งส.ส.มีการแจ้งไปยังสมาชิกให้ทราบ อย่างไรก็ตาม เรายังดำเนินการในการตรวจคัดกรอง สัปดาห์นี้คงต้องเข้มข้นและ ขอความร่วมมือกับสมาชิกรัฐสภาให้มากกว่าทุกสัปดาห์ โดยในวันประชุมสภาฯ วันที่ 15 ก.ย. จะมีการตรวจ ATK ให้กับส.ส.ตามความสมัครใจ ส่วนการประชุมร่วมรัฐสภา วันที่ 17 ก.ย. จะตรวจ ATK ให้กับสมาชิกรัฐสภา ที่บริเวณชั้น 1 ด้านหน้าทางเข้าอาคารรัฐสภา

ส.ว.ก็ติดโควิด

ด้านนายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา กล่าวยอมรับว่านายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ส.ว. ติดเชื้อโควิด-19 จริง เพิ่งทราบเมื่อคืนวันที่ 12 ก.ย. และทราบว่าติดมาจากที่อื่น เจ้าหน้าที่ที่กำลังตรวจสอบว่าติดตั้งแต่วันไหน และมีส.ว.คนใดอยู่ในวงหนึ่งหรือวงสองบ้าง เนื่องจากเพิ่งมีการประชุมร่วมรัฐสภา 10 ก.ย. อย่างไรก็ตาม ทางวุฒิสภามีมาตรการป้องกันอยู่แล้ว

นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว.ในฐานะประ ธานคณะกรรมาธิการเพื่อรองรับสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 วุฒิสภา กล่าวว่า นายอภิชาติมาประชุมร่วมรัฐสภา 10 ก.ย. ยังมีอาการปกติ แต่พอกลับไปเหมือนมีไข้ จึงตรวจ ATK ผลติดเชื้อแต่ไม่มีอาการอะไรมาก และเข้าพักรักษาตัวที่ฮอสพิเทลแล้ว หลังจากนี้จะดำเนินการติดตามไทม์ไลน์อย่างละเอียดจากนายอภิชาติอีกครั้ง เบื้องต้นพบว่านาย อภิชาติร่วมประชุมวุฒิสภา 6-8 ก.ย. และเข้าประชุมร่วมรัฐสภา 10 ก.ย. ได้ประสานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อแจ้งให้ทราบจะได้ตรวจสอบและระมัดระวัง แต่เท่าที่ทราบไม่ค่อยกระทบ เนื่องจากนายอภิชาติอยู่ในวงส.ว.

รายงานข่าวระบุ นอกจากนายอภิชาติ ยังพบว่ามีบุคลากรของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาติดเชื้อใหม่ 2 ราย โดยรับแจ้งผล ติดเชื้อโควิด-19 เมื่อ 10 ก.ย.เช่นกัน โดยบุคลากรในส่วนวุฒิสภาจากข้อมูล 11 ก.ย. มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวม 36 ราย รักษาหาย 28 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 7 ราย และรอการรักษา 1 ราย

ประจวบฯปิดสวนสัตว์หัวหิน

วันเดียวกัน นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าฯประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ตนลงนามสั่งปิดหัวหินซาฟารี แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ในพื้นที่หมู่ 3 ต.ทับใต้ อ.หัวหิน เป็นการชั่วคราวถึงวันที่ 26 ก.ย. หลังพบการติดเชื้อในกลุ่มพนักงานมีผลตรวจยืนยันแล้ว 28 คน จากพนักงานทั้งหมด 50 คน จากการสอบสวนโรคเบื้องต้น คาดว่าการแพร่ระบาดเกิดจากนักท่องเที่ยวที่เข้าไปใช้บริการ เพื่อป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรค จึงห้าม นักท่องเที่ยวและบุคคลภายนอกเข้าใช้บริการ เว้นแต่เป็นความจำเป็นในการป้องกันดูแลรักษาและให้อาหารสัตว์ โดยได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ จากนั้นสั่งการให้องค์การบริหารส่วนตำบลทับใต้ ล้างทำความสะอาดและฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อในหัวหินซาฟารีและบริเวณโดยรอบ

ไฟเซอร์ 2 ล.โดสถึงไทย 29 กย.

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า วันที่ 29 ก.ย.นี้ จะมีวัคซีนไฟเซอร์เข้ามาก่อน 2 ล้านโดส และจะทยอยส่งจนครบ 30 ล้านโดส ดังนั้นช่วงต.ค.-ธ.ค.จะมีวัคซีนเข้ามาจำนวนมาก ขณะที่จำนวนการฉีดวัคซีนเราสามารถฉีดได้มากกว่า 9 แสนโดสต่อวัน หากมีวัคซีนเข้ามาเพียงพอ สำหรับกลุ่มเป้าหมายในการฉีดไฟเซอร์ คือเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป โดยกรรมการวิชาการกำลังหาข้อสรุปอย่างเต็มที่ คิดว่า ไม่น่ามีปัญหา เพราะไฟเซอร์ก็ขึ้นทะเบียน ฉีดครอบคลุมตั้งแต่อายุ 12 ปีขึ้นไป ส่วนในผู้ใหญ่อาจฉีดเป็นเข็ม 2 หรือเข็ม 3 สำหรับการฉีดเข็ม 3 จะเริ่มในต้นต.ค.เป็นต้นไป ในผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม จะทยอยฉีดเพื่อให้มีภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้นอีก ส่วนแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็มมีภูมิคุ้มกันสูงอยู่แล้ว ก็รอ บูสต์ในเวลาที่เหมาะสม อาจเป็นต้นปีหน้าเป็นต้นไป

เมื่อถามว่าจะเริ่มดีเดย์ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็กได้เมื่อไร นายอนุทินกล่าวว่า วัคซีน 2 ล้านโดส เข้ามาวันที่ 29 ก.ย. และส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจรับรองรุ่นการผลิต (Lot Release) ใช้เวลาประมาณไม่เกิน 1 สัปดาห์ แต่เข้าใจว่าทางไฟเซอร์มีการทำเอกสารมาล่วงหน้าเรียบร้อย เมื่อเอกสารพร้อมก็น่าจะตรวจปล่อยวัคซีนออกมาได้เร็ว

เมื่อถามถึงการลดวันกักตัว นายอนุทินกล่าวว่า มีการพูดคุยกัน แต่ต้องดูข้อมูลก่อน

เปิดแผนฉีดนร. 4.5 ล้านคน

น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธานแถลงข่าวเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 “สถานศึกษาปลอดภัย เด็กได้รับวัคซีนถ้วนหน้า” มีนาย สุภัทร จำปาทอง ปลัดศธ. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีควบคุมโรค นพ.สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย และนพ. ทวี โชติพิทยสุนนท์ นายกสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย ร่วมด้วย

น.ส.ตรีนุชกล่าวว่า จากการหารือร่วมกันระหว่าง ศธ. กับกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย เบื้องต้นมีแนวทางเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ได้แก่ 1.แผนการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม แก่กลุ่มผู้ที่มีอายุ 12 ปี จนถึง 17 ปี 11 เดือน 29 วัน ณ วันที่ฉีด โดยจะอนุโลมให้แก่กลุ่มนักเรียนนักศึกษาที่มีอายุเกิน 17 ปี 11 เดือน 29 วันด้วย ซึ่งจะครอบคลุมนักเรียนนักศึกษา ในระดับชั้น ม.1-6 ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประกาศ นียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรือ เทียบเท่า รวมถึงชั้น ป.6 ที่มีอายุ 12 ปี

น.ส.ตรีนุชกล่าวต่อว่า ในเดือนต.ค.จะเริ่มฉีดให้แก่นักเรียน นักศึกษา ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) จำนวน 29 จังหวัดก่อน แต่ตั้งเป้าหมายให้นักเรียน นักศึกษาทุกคนได้รับวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่ 1 อย่างครบถ้วน ซึ่งที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ ได้อนุมัติหลักการให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้แก่นักเรียน นักศึกษาทุกสังกัด ทั้งในและนอกศธ. ทั้งกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โรงเรียนพระปริยัติธรรม โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน และกรุงเทพ มหานคร ซึ่งมีกว่า 4.5 ล้านคน

“ส่วนการฉีดวันซีนวางแผนไว้จะใช้โรงเรียนเป็นฐานในการฉีดวัคซีน โดยมีเป้าหมายว่าต้องไปถึงและรวดเร็วที่สุด ซึ่งสธ.จะเป็นผู้วางแผนการกระจายวัคซีน และศธ.จะสร้างความเข้าใจให้กับผู้ปกครองได้รับรู้ถึงความจำเป็น ความสำคัญ และผลข้างเคียงการฉีดวัคซีนให้เด็ก เพื่อให้ผู้ปกครองยินยอมให้เด็กฉีดวัคซีน มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดทำแบบสำรวจความยินยอมจากผู้ปกครองแล้ว คาดว่าปลายเดือนก.ย.นี้จะได้ข้อมูลสรุปจำนวนนักเรียนที่ผู้ปกครองยินยอมให้ฉีดวัคซีนได้ ไม่อยากให้กังวลว่าผู้ปกครอง ไม่ยอมให้เด็กฉีดวัคซีน ศธ.จะเร่งพยายามสร้างความเข้าใจ เพราะปัญหาโควิด-19 ไม่ได้แค่ฉีดวัคซีนแล้วจบ เราต้องอยู่กับ โควิด-19 ต่อไป แต่จะทำอย่างไรไม่ให้กระทบกระเทือนกับการเรียนรู้และใช้ชีวิตของประชาชน” น.ส.ตรีนุชกล่าว

รมว.ศธ. กล่าวต่อว่า การเปิดภาคเรียนที่ 2 ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ต้องดูว่าวัคซีนมาตามแผนหรือไม่ ปัญหาการระบาดของแต่ละพื้นที่เป็นอย่างไร โดยศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) สาธารณสุขจังหวัด ต้องร่วมกันประเมินว่าจะสามารถเปิดเรียนในโรงเรียนได้หรือไม่ โดยเน้นความปลอดภัยของเด็กเป็นที่ตั้ง อย่างไรก็ตามการเปิดเรียนเทอม 2 ในโรงเรียนต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของโรงเรียน ผู้ปกครอง และชุมชนด้วย ส่วนข้อกังวลว่าถ้าเด็กได้รับวัคซีนแล้วแต่ยังติดเชื้ออยู่ ศธ., สธ. และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดมีแผนเผชิญเหตุรองรับอยู่ เช่น ถ้าเด็กติดเชื้อจำนวนเท่าใด ควรจะปิดสถานศึกษา เป็นต้น

เล็งใช้แผนโรงเรียนแซนด์บ็อกซ์

น.ส.ตรีนุชกล่าวต่ออีกว่า 2.แผนการดำเนินโครงการโรงเรียน Sandbox Safety Zone in School (SSS) ซึ่งเป็นมาตรการสำหรับโรงเรียนประจำ เช่น โรงเรียนศึกษา สงเคราะห์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ และโรงเรียนเอกชนที่มีความพร้อม โดยศธ.จะประสานกับสธ.ลงพื้นที่ตรวจโรงเรียนที่จะประสงค์เข้าโครงการว่าเป็นไปตามมาตรการที่วางไว้หรือไม่ ทั้งนี้การเป็น โรงเรียน SSS มีเงื่อนไข 3 ข้อ คือ 1.เป็นโรงเรียนประจำ 2.เป็นไปตามความสมัครใจ และ 3.ผ่านการประเมินความพร้อม โดยต้องแจ้งความประสงค์ผ่านต้นสังกัด มีการหารือร่วมกับ ผู้ปกครองและผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด จัดให้มีสถานแยกกักตัวในโรงเรียน (School Isolation) จัดให้มี Safety Zone ในโรงเรียน ติดตามประเมินผลโดยทีมตรวจราชการของ ศธ. และสธ. รวมถึงมีการรายงานผล ผ่าน MOE COVID และ Thai Stop Covid Plus

รมว.ศธ.กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ มีสถานศึกษา 15,465 แห่งที่อยู่ในเขตพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด โดยใน 12 จังหวัด มีสถานศึกษา 1,687 แห่งที่อยู่ในเขตพื้นที่ 45 อำเภอปลอดเชื้อ แบ่งเป็นสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) 1,305 แห่ง สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) 111 แห่ง สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) 21 แห่ง และสังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) 250 แห่ง ซึ่ง ศธ.จะพิจารณาความพร้อมของสถานศึกษาสำหรับการเปิดภาคเรียนตามบริบทที่เหมาะสม สำหรับการฉีดวัคซีนให้ครูและบุคลากรทางการศึกษานั้นขณะนี้มีครูได้รับวัคซีนไปแล้วกว่า 70% โดยแผนการจัดสรรวัคซีนในเดือนต.ค.นี้จะให้สถานศึกษาส่งรายชื่อครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ยังไม่ได้รับวัคซีนมาด้วย เพื่อเร่งจัดสรรวัคซีนให้ครูด้วย

คาดฉีดเข็มแรกครบในต.ค.

ด้านนพ.โอภาส กล่าวว่า ตามแผนที่วางไว้วัคซีนไฟเซอร์จะเข้ามาในช่วงปลายเดือนก.ย. ประมาณ 2 ล้านโดส และในเดือนต.ค. จะทยอยเข้ามาประมาณสัปดาห์ละ 2 ล้านโดส สธ.คาดว่าจะสามารถฉีดเข็มที่ 1 ให้เด็กเสร็จสิ้นภายในเดือนต.ค. และจะเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ต่อไป

กทม.พร้อมฉีดไฟเซอร์ให้น.ร.

พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวระหว่างเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารจัดการการให้วัคซีนผ่านระบบทางไกล ว่า สำนักอนามัยรายงานผลการให้บริการวัคซีนโควิด 19 ของกรุงเทพมหา นคร ประชากรกรุงเทพฯ 7,699,174 คน มี ผู้ที่ได้รับวัคซีนตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-12 ก.ย.64 เข็มที่ 1 จำนวน 10,285,747 ราย คิดเป็น ร้อยละ 95.47 เข็มที่ 2 จำนวน 2,723,759 ราย คิดเป็นร้อยละ 35.38 และเข็มที่ 3 จำนวน 184,874 ราย ทั้งนี้จากการคาดการณ์จะสามารถให้บริการวัคซีนเข็มที่ 2 ครบร้อยละ 70 ได้ภายในเดือน ต.ค.นี้

สำหรับแผนการให้วัคซีนเดือนก.ย.ในสถานพยาบาลจะเป็นการให้บริการสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค และกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ โดยในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับน้อมเกล้าฯ ถวายวัคซีนซิโนฟาร์มจากผู้แทนสภากาชาดจีน จำนวน 100,000 โดสเพื่อใช้ในกิจการของสภากาชาด ไทย และสภากาชาดไทยจัดสรรให้กทม. เพื่อให้บริการกับหญิงตั้งครรภ์และสามี จำนวน 10,000 โดส

มาตรการเข้มฉีดที่โรงเรียน

จากนั้นที่ประชุมพิจารณาแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนไฟเซอร์ สำหรับเด็กอายุ 12-17 ปี กลุ่มเป้าหมายคือนักเรียน นักศึกษาที่ศึกษาอยู่ในระดับม.1-6 หรือปวช./ปวส. หรือเทียบเท่า คาดว่าในพื้นที่กรุงเทพฯ จะ มีกลุ่มเป้าหมายในสถานศึกษาทุกสังกัด ประมาณ 400,000 คน แบ่งกลุ่มเป้าหมายการให้วัคซีนเป็น 2 ระยะ ประกอบด้วยระยะแรก นักเรียนระดับม. 4-6 หรือปวช./ปวส. และระยะต่อไป คือนักเรียนในระดับชั้นอื่น โดยกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้ควบคุมบริหารจัดการทั้งหมด

ส่วนของกทม.จะสำรวจกลุ่มเป้าหมายซึ่งผู้ปกครองต้องให้ความยินยอมในการรับวัคซีน จากนั้นจะจัดทำแผนจัดสรรและช่วงเวลาในการรับวัคซีน นอกจากนี้สถานศึกษาต้องเร่งประสานสถานพยาบาลเพื่อให้บริการวัคซีน พร้อมชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ปกครองกลุ่มเป้าหมาย และแจ้งจำนวนนักเรียนที่จะเข้ารับวัคซีนโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการตั้งข้อสังเกตให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระมัดระวังการควบคุมคุณภาพวัคซีนเนื่องจากวัคซีนไฟเซอร์จะต้องจัดเก็บในอุณหภูมิที่กำหนด โดยให้จัดระบบการบริหารจัดการที่ชัดเจน หากเป็นการฉีด ณ สถานพยาบาล คาดว่าจะไม่มีปัญหา แต่หากเป็นการนำออกไปฉีด ณ โรงเรียน ต้องเป็นการฉีดในที่ร่มและไม่มีแสงแดด เพื่อให้วัคซีน ยังคงมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคได้ดี รวมทั้งให้เร่งจัดการระบบการฉีดให้แล้วเสร็จภายในเดือนนี้ เพื่อให้นักเรียนกลุ่มเป้าหมายแรกได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มก่อนเปิดเทอม

ห้ามดื่ม – เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณชายหาดบางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พบกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ฝ่าฝืนคำสั่งให้งดบริโภคสุรา หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด จึงเข้าจับกุมได้ทั้งหมด 9 ราย นำตัวไปดำเนินคดี เมื่อวันที่ 13 ก.ย.

กระบี่ล็อกดาวน์อีกรอบ

พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ประวิตร ผวจ.กระบี่ กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ในพื้นที่ จ.กระบี่ หลังเกิดคลัสเตอร์ใหญ่ 3 กลุ่มว่า ล่าสุดคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.กระบี่ ออกประกาศฉบับที่ 60/2564 ลง วันที่ 12 ก.ย.64 เรื่องมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีข้อบังคับ และการขอความร่วมมือสำคัญ ประกอบด้วยผู้ที่จะเดินทางเข้า จ.กระบี่ ต้องมีเอกสารยืนยันว่าได้รับวัคซีนครบตามจำนวน หรือได้รับวัคซีน แอสตร้าเซนเนก้า 1 เข็ม ไม่น้อยกว่า 14 วัน และต้องมีเอกสารยืนยันผลการตรวจหาเชื้อ ไม่เกิน 7 วัน ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้า-ออก จ.กระบี่ ให้นอภ.ทุกพื้นที่ตั้งด่านชุมชนคัดกรองการเดินทาง

ส่วนร้านอาหารทุกประเภทอนุญาตให้ นั่งรับประทานอาหารในร้านได้ไม่เกิน 25 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ร้าน ห้ามดื่มสุรา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน งดใช้เครื่องปรับอากาศ และให้เปิดร้านได้แค่เวลา 20.00 น. เฉพาะพื้นที่ อ.คลองท่อม และ อ.เหนือคลอง ห้ามนั่งรับประทานในร้าน ห้างสรรพสินค้า เปิดได้ไม่เกินเวลา 20.00 น. ห้ามจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายทุกรูปแบบ ร้านสะดวกซื้อ เปิดได้ตั้งแต่เวลา 05.00-20.00 น. ร้านเกม อินเตอร์เน็ต ร้านนวด ร้านฟิตเนส ยิม สนามกีฬา ให้ปิดให้บริการ สถานศึกษาให้เรียนแบบออนไลน์เท่านั้น ระบบขนส่งสาธารณะให้บริการได้ตั้งแต่เวลา 04.00-20.00 น. งดกิจกรรมรวมกลุ่มเกิน 5 คน ห้ามออกจากบ้านตั้งแต่เวลา 21.00-04.00 น. โดยเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.นี้เป็นต้นไป

ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของ จ.กระบี่ ล่าสุดพบติดเชื้อเพิ่มวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา พบติดเชื้อรวม 43 ราย ผู้ป่วยที่ยังรักษา 842 ราย กลุ่มคลัสเตอร์ที่ยังน่าจับตายังคงเป็นกลุ่มตลาดนัดซึ่งระบาดหนักในพื้นที่ อ.คลองท่อม และ อ.เหนือคลอง ส่วนคลัสเตอร์เกาะพีพี มีผู้ติดเชื้อเพิ่มช่วง 2 วันที่ผ่านมา 22 ราย มีผู้ติดเชื้อรวมจากกลุ่มนี้ 62 ราย ส่วนกลุ่มคลัสเตอร์งานศพวัดแก้วโกรวาราม ตรวจหาเชื้อในกลุ่มเสี่ยง 407 ราย ที่อาคารโรงเรียนเทศบาล 3 เทศบาลเมืองกระบี่ ผลตรวจเป็นลบทั้งหมด ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจากกลุ่มนี้ ติดเพิ่ม 1 ราย มีผู้ติดเชื้อจาก กลุ่มนี้ 41 ราย

ลุยฉีดหญิงท้องเดือนละแสน

นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเปิดงานเดือนแห่งการรณรงค์หญิงตั้งครรภ์เข้ารับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 “1 เดือน 1 แสนราย” ว่า วันนี้เป็นการรณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากเป็นหนึ่งในกลุ่มเสี่ยง 608 คือผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ที่ต้องได้รับวัคซีนก่อนเป็นอันดับแรก เพราะเสี่ยงติดเชื้อรุนแรงและเสียชีวิต ซึ่งหญิงตั้งครรภ์มีอัตราติดเชื้อโควิดเสียชีวิต 2% จึงต้องเร่งดึงหญิงตั้งครรภ์ให้เข้ารับวัคซีนมากที่สุด โดยข้อมูลจากฝ่ายวิชาการยืนยันชัดเจนว่าการฉีดวัคซีนในหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไปไม่มีอันตราย ทั่วประเทศมีประมาณ 5 แสนคน แต่ขณะนี้ฉีดได้แค่ 5.5 หมื่นราย ดังนั้น กรมอนามัยและภาคีเครือข่าย ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย จึงรวมกันรณรงค์เรื่องนี้ ตั้งเป้าว่าในก.ย.นี้ต้องฉีดให้ได้ถึง 1 แสนราย ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น คลินิกฝากครรภ์ หรือศูนย์บริการฉีดวัคซีน ซึ่งหญิงตั้งครรภ์มีไม่มากก็ให้ฉีดได้ทันที ไม่ต้องลงทะเบียน

“ขณะนี้จัดฉีดเชิงรุกให้เข้าใกล้กลุ่มนี้มากที่สุด เพื่อให้สามารถฉีดวัคซีนได้มากและครอบคลุมที่สุด โดยมีท้องถิ่นเป็นเจ้าภาพ มีรพ.สต.เป็นฝ่ายสนับสนุน สิ่งสำคัญเราต้องอำนวยความสะดวก” นายสาธิตกล่าว

เมื่อถามว่าใช้วัคซีนสูตรไหนสำหรับหญิงตั้งครรภ์ นายสาธิตกล่าวว่า วัคซีนมี 2 สูตร สูตรหลัก คือซิโนแวค ตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้า แต่หากจุดฉีดมีแอสตร้าฯ อย่างเดียวก็ฉีด 2 เข็มได้ เป็นทางเลือกเพื่ออำนวยความสะดวก แต่ข้อมูลวิชาการเห็นว่า การสร้างภูมิคุ้มกันได้เร็วขึ้นต้องเป็นซิโนแวคตามด้วยแอสตร้าฯ

แค่ 6 เดือนหญิงท้องดับ 3,668

ด้านนพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ถึงปัจจุบัน พบว่าหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อจำนวน 3,668 ราย เสียชีวิต 82 ราย คิดเป็นกว่า 2% และทารกแรกเกิดติดเชื้อ 180 ราย ขณะที่การฉีดวัคซีนโควิดกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ฉีดแล้วกว่า 7.3 หมื่นโดส เป็นเข็มแรก 55,697 ราย และเข็มสอง 17,574 ราย ขณะที่เข็ม 3 มี 197 ราย ถือว่าน้อยมาก ส่วนพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ที่พบปัญหาอัตราการเสียชีวิตและการเข้าถึงวัคซีนมาจากหลายปัจจัย โดยหลักงานอนามัยแม่และเด็กของพื้นที่ดังกล่าวทำงาน ค่อนข้างยากเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่น ทั้งเรื่องวัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ ที่ผ่านมามีการทำงานเชิงรุก สร้างความเข้าใจมาตลอด และยังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นคลินิกฝากครรภ์ หรือการขับเคลื่อนผ่านนโยบาย 3 หมอ เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หญิงตั้งครรภ์หญิงหลังคลอด 6 สัปดาห์และทารกแรกเกิด ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2564 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ติดเชื้อสะสม 3,668 ราย เป็นชาวไทย 2,475 ราย และชาวต่างชาติ 1,193 ราย โดยมารดาเสียชีวิตสะสม 82 ราย และทารก 37 ราย ขณะที่ 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร 695 ราย รองลงมา สมุทรสาคร 554 ราย สมุทรปราการ 137 ราย ตาก 133 ราย ปทุมธานี 128 ราย นราธิวาส 121 ราย สงขลา 116 ราย ยะลา 112 ราย นครปฐม 90 ราย และพระนครศรีอยุธยา 88 ราย

ชงศบศ.เปิด5จังหวัด 1 ต.ค.

ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.เตรียมเสนอที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) เพื่อพิจารณาเปิด 5 จังหวัด 1 ต.ค.2564 เพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และมีผลตรวจหาเชื้อโควิดด้วยวิธี RT-PCR มีผลเป็นลบ ไม่ติดเชื้อ โดยไม่ต้องกักตัว ภายใต้หลักการปฏิบัติเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด (One SOP One System) เพื่อต่อยอดความสำเร็จจากภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์

สำหรับ 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี (พัทยา อ.บางละมุง อ.สัตหีบ) เชียงใหม่ (อ.เมือง อ.แม่แตง อ.แม่ริม อ.ดอยเต่า) เพชรบุรี (ชะอำ) ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) เนื่องจากเส้นทางท่องเที่ยวจะดำเนินการในเส้นทางที่กำหนด (Sealed Route) เช่นใน 3 วันแรกของโครงการสมุย พลัส โมเดล ทำให้ททท.ทำการตลาดยาก นักท่องเที่ยวไม่เป็นไปตามเป้า จึงจะเสนอ ศบศ.ปรับโครงการนี้เป็นการเที่ยวแบบไม่กักตัว แต่อยู่ในพื้นที่ ที่จำกัด (Sealed Area) เช่นกัน และเปลี่ยนชื่อเป็นสมุย พลัส แซนด์บ็อกซ์ ประกอบด้วย เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน