ตร.ลุยสอบ 143 บัญชีเงินเชื่อมโยง ‘พิยดา’ ตุ๋นมือถือ โดยจ้างผู้อื่นเปิดบัญชีแล้วโอนเงินมายังบัญชีตนเอง ผู้เสียหายแห่แจ้งจับแล้ว 53 คนทั่วประเทศ ในบช.น. มากกว่า 20 คดี เชื่อพิยดาเป็นคนบงการ ศาลเชียงใหม่ไม่ให้ประกัน ส่งเข้าเรือนจำ ค้นรีสอร์ตอายัดเงินสด 7 แสน รถบีเอ็มฯ พ่อกับแม่เลี้ยงยันเป็นเงินส่วนตัวที่เตรียมนำมาประกันตัวลูก ขณะที่เจ้าตัวยังปฏิเสธ ซัดทอดครอบครัวแฟนหนุ่มตัวการ ด้านแฟนหนุ่มโต้กลับทันควันไม่เกี่ยว
เมื่อวันที่ 29 ก.ย. พนักงานสอบสวน สภ. นาหวาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เชิญตัวนายกลยุทธ์ ทองคำพันธ์ อายุ 45 ปี พ่อน.ส.พิยดา ทองคำพันธ์ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาคดีหลอกชายโทรศัพท์มือถือไอโฟนให้นักเรียนชายชั้นม.2 เป็นเหตุให้เด็กเครียดเส้นเลือดสมองแตก เสียชีวิต และน.ส.วีรวรรณ บุญประกอบ อายุ 43 ปี แม่เลี้ยงน.ส.พิยดามาสอบปากคำเพิ่มเติม หลังตำรวจตรวจค้นรีสอร์ตที่พักและอายัดรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู เงินสด 700,000 บาท โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 4 เครื่อง และเอกสารต่างๆ จำนวนหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.วีรวรรณ แม่เลี้ยงน.ส.พิยดาแสดงความไม่พอใจและโวยวายที่ถูกตำรวจอายัดทรัพย์ไปตรวจสอบ โดยยืนยันว่าเงินสด 700,000 บาท เป็นเงินที่เตรียมนำมาประกันตัวน.ส.พิยดา และครอบครัวมั่นใจว่าน.ส.พิยดาไม่ได้เป็นคนโกงผู้เสียหาย จากการพูดคุยกับลูกเลี้ยงระบุว่าคนที่หลอกขายมือถือคือครอบครัวแฟนหนุ่ม ส่วนทรัพย์สินนั้นได้มาจากการขายเสื้อผ้าออนไลน์ จึงอยากให้ตำรวจตรวจสอบเส้นทางการเงินของครอบครัวแฟนหนุ่มด้วย
ด้านตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของน.ส.พิยดา โดยขณะนี้กำลังตรวจสอบเส้นทางการเงินครอบครัวน.ส.พิยดา และยังพบว่าน.ส.พิยดามีหมายจับคดีร่วมกันฉ้อโกงหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่, อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และจ.ราชบุรี มีผู้เสียหายรวมกันกว่า 200 คนทยอยเข้าแจ้งความ ส่วนเงิน 700,000 บาทนั้น นายกลยุทธ์พ่อน.ส.พิยดายืนยันเป็นเงินส่วนตัวที่เบิกจากธนาคารเตรียมไว้ยื่นประกันตัวลูกสาว
ต่อมาพนักงานสอบสวนควบคุมตัวน.ส. พิยดามาสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนนำไปควบคุมตัวที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากอายุยังไม่ครบ 20 ปี พร้อมทั้งยื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ โดยระหว่างที่น.ส.พิยดาถูกควบคุมตัวออกจากสภ.นาหวายนั้น น.ส.พิยดากล่าวว่าเสียใจที่ตกเป็นเครื่องมือ ถูกหลอกใช้จากครอบครัวของแฟนหนุ่มให้หลอกขายโทรศัพท์มือถือจนมีผู้เสียหายจำนวนมาก
น.ส.พิยดากล่าวอีกว่า ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นใดๆ เกี่ยวกับการกระทำความผิดที่เกิดขึ้นเลย แต่ถูกแอบอ้างนำชื่อไปใช้ก่อเหตุและโยนความผิดให้รับคนเดียว กรณีเด็กชายนักเรียนชั้นม.2 ที่เสียชีวิตนั้น ตนเองก็ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นและไม่ได้เป็นคนหลอกขายโทรศัพท์ แต่เมื่อเป็นคดีและมีชื่อตกเป็น ผู้ต้องหาก็รู้สึกเสียใจและขอโทษครอบครัว ผู้เสียหายด้วย
ขณะที่นายวิเชียร อินเรน ทนายความน.ส.พิยดากล่าวว่า ยืนยันให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และกำลังเร่งรวบรวมเอกสารเกี่ยวกับรายรับรายจ่าย เพื่อนำมาใช้เป็นหลักฐานต่อสู้คดี ส่วนกรณีที่น.ส.พิยดาระบุว่าครอบครัวแฟนหนุ่มเป็นคนบงการนั้นยังไม่ทราบข้อเท็จจริง สำหรับเงิน 700,000 บาทที่พ่อและแม่เลี้ยงเตรียมมาเป็นหลักทรัพย์ประกันตัวแต่ถูกตำรวจอายัดไปตรวจสอบ กำลังเร่งทำเรื่องขอคืนจากตำรวจ
ด้าน พ.ต.อ.สกุลรัชช์ คงทอง ผกก.สภ. นาหวาย กล่าวว่า พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน เนื่องจาก เกรงว่า ผู้ต้องหาจะหลบหนี
ต่อมาศาลจังหวัดเชียงใหม่พิจารณาแล้วไม่อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว จากนั้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่
ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) กล่าวว่า จากการสืบสวนสอบสวนทางเทคนิคพบว่าผู้ต้องหาใช้บัญชีบุคคลอื่น หรือบัญชีม้า เพื่อส่งถ่ายเงินไปยังบัญชีส่วนตัวของผู้ต้องหามากกว่า 143 บัญชี จากการเปิดอินสตาแกรม 6 บัญชี
โดยพบว่ามีบัญชีที่มีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงตัวของ ผู้ต้องหาชัดเจน 17 บัญชี ขณะนี้ตำรวจทราบบุคคลที่เป็นเจ้าของบัญชีต่างๆ แล้ว โดย 17 บัญชีที่พิสูจน์ทราบเป็นบัญชีที่พิยดาใช้ในการทำธุรกรรมซื้อทรัพย์สินต่างๆ รวมทั้งว่าจ้างบุคคลอื่นให้เปิดบัญชีและรับโอนเงินส่งต่อไปยังบัญชีส่วนตัวให้บัญชีละ 8,000 บาท โดยประกาศว่าจ้างเปิดบัญชีในสื่อโซเชี่ยลอย่างชัดเจน หากพบว่าผู้ที่เป็นเจ้าของบัญชีรายใดรู้เห็นเป็นใจหรือสนับสนุนการกระทำความผิดจะถูกดำเนินคดีด้วย
ผบช.สอท.กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความเอาผิดผู้ต้องหามากกว่า 40 คดีทั่วประเทศ แต่บางพื้นที่ยังออกหมายจับไม่ได้เนื่องจากไม่มีข้อมูลทางเทคนิคไปยื่นศาลให้ออกหมายจับ สอท.อยู่ระหว่างสรุปข้อมูลพยานหลักฐานทางเทคนิคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อยื่นศาลออกหมายจับต่อไป และจะส่งต่อไปยังสถานีตำรวจต่างๆ ที่ผู้เสียหายแจ้งความไว้ โดยเฉพาะพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) มีคดีที่เกี่ยวข้อง กับน.ส.พิยดามากกว่า 20 คดี เตรียมประสาน บช.น.ออกหมายจับ
ส่วน พล.ต.ต.กานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผบก.สอท.2 กล่าวว่า มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว 53 คน มูลค่าความเสียหายหลายแสนบาท ตำรวจมีข้อมูลน.ส.พิยดาเคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาถึง 3 คดี จึงมีเหตุเชื่อได้ว่าน.ส.พิยดาคือผู้บงการ แต่การดำเนินคดีกับบุคคลอื่นเพิ่มเติมหรือไม่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม
วันเดียวกัน รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ช่อง 3 สัมภาษณ์ครอบครัวแฟนหนุ่มน.ส. พิยดา โดยแฟนหนุ่มยืนยันไม่เกี่ยวกับการหลอกขายมือถือไอโฟน ก่อนหน้านี้น.ส.พิยดาสัญญาจะไม่ทำ แต่ก็มาก่อเหตุซ้ำอีก ทำให้ตนและครอบครัวเครียดมาก ถูกสังคมพิพากษาไปแล้วว่าโกงทั้งครอบครัว เสียใจที่โดนน.ส. พิยดาหลอกอีกครั้ง แม้ตอนนี้จะห่วง แต่ก็ขอตัดใจ คงพอแล้ว เคยให้โอกาสมาแล้ว ไม่ขอทนแล้ว รอบที่แล้วก็แย่ รอบนี้แย่หนักกว่าเดิมอีก
ขณะที่แม่แฟนหนุ่มกล่าวว่า ของแบรนด์ เนมทั้งหมดที่ตำรวจยึดไปเป็นของน.ส.พิยดา ตอนนั้นน.ส.พิยดาอ้างตำรวจมาค้นเป็น คดีเก่า จึงบอกไปว่าไม่ได้สงสัยอะไร เพราะ น.ส.พิยดาจะอ้างว่ารายได้มาจากขายเสื้อผ้าออนไลน์ โดยเมื่อปี 2562 เมื่อครั้งเคยอยู่บ้านย่านจรัญสนิทวงศ์ กทม. ก็เคยถูกตำรวจค้นบ้านแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนั้นอายมากที่โดนตำรวจค้นจึงต้องย้ายบ้าน น.ส.พิยดาเป็นคน 2 บุคลิก บางครั้งร่าเริง บางครั้งก็เงียบ
ส่วนพ่อแฟนหนุ่มกล่าวว่า เครียดมาก ยืนยันครอบครัวไม่เกี่ยวข้อง ไม่เช่นนั้นตำรวจออกหมายจับไปแล้ว ตอนนี้เร่งประสานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อนำเอกสารไปยืนยันรายได้ และเงินในบัญชีหลักแสนบาทเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์คนในครอบครัว ขอย้ำอีกครั้งตัวเองไม่ผิด และลูกชายไม่มีส่วนรู้เห็นแน่นอน