ไฟเซอร์2ล.โดสถึงไทย
ติดเชื้อพุ่ง-เกินหมื่นอีก

จีนให้ ‘ซิโนแวค’ ไทยอีก 1.5 ล้านโดส ส่วน ‘ไฟเซอร์’ ล็อตแรกกว่า 2 ล้านโดสมาถึงไทยแล้วจากสั่งซื้อ 30 ล้านโดส ‘อนุทิน’ เผยเดือนต.ค.มาเพิ่มอีก 6 ล้านโดสทยอยมาต่อเนื่องจนครบภายในปีนี้ เตรียมนำร่องฉีดนักเรียนที่นนทบุรี 4 ต.ค.นี้ สธ.เซ็นซื้อแอสตร้าฯ 60 ล้านโดสในปีหน้า งบ 1.8 หมื่นล้าน ประธานแอสตร้าฯ ระบุตลอดเดือนก.ย. ส่งวัคซีนให้ไทยแล้วกว่า 8 ล้านโดสไทยติดเชื้อเกินหมื่นอีก ป่วยใหม่ 10,414 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 122 ราย ศบค.ย้ำคุมเข้มงานศพ-เทศกาลกินเจ เลขาฯ กพฐ.ยันเปิดเรียนออนไซต์ 1 พ.ย.

ติดเชื้อเกินหมื่นอีก-ตายเพิ่ม 122

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 29 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10,414 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 10,226 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 9,044 ราย

มาจากการค้นหาเชิงรุก 1,182 ราย มาจากเรือนจำ 178 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 10 ราย ได้แก่ ฝรั่งเศส รัสเซีย ญี่ปุ่น เดนมาร์ก สหรัฐอเมริกา สวีเดน ประเทศละ 1 ราย เมียนมา 1 ราย มาจากช่องทางธรรมชาติ และกัมพูชา 3 ราย มาจากช่องทางธรรมชาติ ยอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,591,829 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 11,580 ราย ยอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,459,786 ราย อยู่ระหว่างรักษา 115,423 ราย อาการหนัก 3,232 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 729 ราย

เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 122 ราย เป็นชาย 59 ราย หญิง 63 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 80 ราย มีโรคเรื้อรัง 30 ราย เป็นหญิงตั้งครรภ์ 1 ราย ที่จ.ชัยภูมิ โดยยังไม่ได้รับวัคซีน พบผู้เสียชีวิตมากสุดอยู่ในกทม. 38 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 16,620 ราย

ส่วนยอดผู้ได้รับวัคซีนของประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 ก.ย. มีการฉีดวัคซีนเพิ่มเติม 726,805 โดส ฉีดสะสมแล้ว 50,867,498 โดส ทั้งนี้ หากดูข้อมูลการฉีดวัคซีนจะพบว่ามีจังหวัดที่ฉีดวัคซีนให้ประชากรโดยรวมเกิน 50% ไปแล้ว 11 จังหวัด ได้แก่ กทม. ปทุมธานี สมุทรสาคร สมุทรปราการ พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี นครนายก พังงา ภูเก็ต ระนอง ส่วนที่ได้ 40-49% คือ นนทบุรี นครปฐม ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ระยอง สิงห์บุรี และบุรีรัมย์

และมีจังหวัดที่ฉีดวัคซีนคลอบคลุมกลุ่มผู้สูงอายุเกิน 70% จำนวน 6 จังหวัด ได้แก่ กทม. ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา พังงา ภูเก็ต ระนอง ปัจจัยการฉีดวัคซีนสำคัญในการเปิดบ้านเปิดเมือง ส่วนยอด ATK ตรวจทั้งประเทศ 1 แสน ผลบวก 3-5% วันนี้ 4% คือประมาณ 4 พันราย

ขณะที่สถานการณ์โลก มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 233,548,694 ราย และเสียชีวิตสะสม 4,778,694 ราย

สั่งเข้มงวดเทศกาลกินเจ

สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 29 ก.ย. ได้แก่ กทม. 1,579 ราย ชลบุรี 772 ราย สมุทรปราการ 587 ราย ระยอง 545 ราย สงขลา 517 ราย นราธิวาส 485 ราย ยะลา 452 ราย ราชบุรี 281 ราย ปราจีนบุรี 257 ราย จันทบุรี 225 ราย ขณะที่จ.พะเยาติดเชื้อเป็น 0

“อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของทั้งประเทศถือว่าดีขึ้น แต่ยังเป็นห่วงจำนวนผู้ติดเชื้อใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อจากการตรวจ RT-PCR และ ATK เพิ่มมากขึ้น และถ้าดูภาพรวมคนติดเชื้อจะเป็นกลุ่มอายุน้อย แต่คนที่อาการหนักคือคนที่อายุ 60 ปีขึ้นไป

ดังนั้นจึงขอให้ทุกจังหวัดระดมฉีดวัคซีนไปยังกลุ่ม ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป นอกจากนี้มีสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือมีการติดเชื้อในโรงเรียนนายสิบ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ล้งผลไม้ในหลายจังหวัด รวมถึงพบการติดเชื้อในงานศพที่จ.จันทบุรี และสงขลา จึงขอให้รักษามาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ควรงดจัดเลี้ยง รับประทานอาหาร เพราะผู้สูงอายุที่มาร่วมงานอาจติดเชื้อและอาการรุนแรงได้

ทั้งนี้ในวันที่ 4 ต.ค. จะมีเทศกาลกินเจ จึงขอแจ้งไปยังจังหวัดต่างๆ ให้ตรวจสอบมาตรการของโรงเจ ให้จัดสถานที่อย่างเหมาะสม มีมาตรการควบคุมโรค ให้พนักงานฉีดวัคซีนและตรวจหาเชื้อ ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง หลังจากนี้เราต้องใช้ชีวิตวิถีใหม่ งานแต่ง งานศพ จะรอให้การระบาดเป็นศูนย์คงไม่ได้ เราต้องร่วมกันคิดหาวิธีใหม่ในการใช้ชีวิต”

พญ.อภิสมัยกล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศบค. ลงนามในข้อกำหนด ศบค.ฉบับที่ 34 เกี่ยวกับผ่อนคลายมาตรการตามผลการประชุม ศบค.เมื่อวันที่ 27 ก.ย. และจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1-15 ต.ค. ดังนั้นวันที่ 1-10 ต.ค. ขอให้ศึกษาข้อกำหนดและปฏิบัติตามอย่างเต็มที่ โดยวันที่ 11 ต.ค. ศปก.ศบค.จะพิจารณาผลดำเนินการหากผลที่ออกมาดีจะมีการผ่อนคลายเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

“สำหรับมาตรการผ่อนคลายในส่วนของการแสดงดนตรีในร้านอาหารได้ถึง 21.00 น. ได้นั้น ขอเน้นย้ำว่ายังไม่อนุญาตให้ดื่มสุราและขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขณะที่โรงภาพยนตร์ที่เปิดให้มีผู้ชมได้ 50% ขอเน้นย้ำว่าให้เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก อย่ากระจุกตัว ห้ามรับประทานอาหาร รวมถึงการเปิดให้เข้าชมกีฬากลางแจ้ง 25% ขอให้กระจายตัวทั่วสนาม อย่ากระจุกตัวเช่นเดียวกัน หากทุกอย่างออกมาได้ดี ไม่มีคลัสเตอร์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น จะมีการผ่อนคลายเพิ่มขึ้นตามมาอย่างแน่นอน”

ไฟเซอร์ถึงไทย – นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข รับมอบวัคซีนไฟเซอร์ล็อตแรก 2 ล้านโดส จากที่สั่งซื้อจำนวน 30 ล้านโดส ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 29 ก.ย.

ไฟเซอร์ล็อตแรก 2 ล.โดสถึงไทย

วันเดียวกัน ที่เขตปลอดอากรและคลังสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทร ปราการ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข (สธ.) พร้อมนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เดินทางมารับวัคซีนไฟเซอร์ล็อตแรกที่รัฐบาลจัดซื้อจำนวน 2,000,700 โดส จากทั้งหมด 30 ล้านโดส

ซึ่งวัคซีนดังกล่าวได้รับการขนส่งจากเครื่องบินขนส่งสินค้าของ DHL Express เที่ยวบินที่ 3S-350 เดินทางถึงประเทศไทย เวลา 04.30 น. โดยจะนำไปเก็บในคลังสินค้าอุณหภูมิ-70 องศาเซลเซียส จากนั้นจะตรวจสอบรับรองรุ่นการผลิต โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แล้วจึงกระจายฉีดวัคซีนในเด็กนักเรียนทันทีในสัปดาห์หน้า

นายอนุทินกล่าวว่า การส่งมอบวัคซีนในวันนี้เป็นเครื่องยืนยันว่าวัคซีนมาตามกำหนด โดยจะทยอยเข้ามาอีกทุกๆ วันพุธในแต่ละสัปดาห์ ซึ่งวัคซีนในส่วนของต.ค.จะทยอยเข้ามาอีก 6 ล้านโดส รวมทั้งเดือนต.ค.มี 8 ล้านโดส จากนั้นทยอยเข้ามาต่อเนื่อง จนครบทั้ง 30 ล้านโดสภายในสิ้นปีนี้แน่นอน และมีการวางแผนถึงการสั่งซื้อในล็อตถัดไปแล้วในปี 2565 เพื่อใช้ในการบูสเตอร์โดสเป็นเข็ม 3

นายอนุทิน กล่าวถึงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในช่วงต.ค.ว่า เดือนต.ค.จะมีวัคซีนจำนวนมาก ทั้งไฟเซอร์ แอสตร้าเซนเนก้า และซิโนแวค การฉีดไม่จำเป็นต้องฉีดให้ได้ถึงวันละ 1 ล้านโดส ทยอยฉีดกันวันละ 7-8 แสนโดส อย่างวันที่ 28 ก.ย. ฉีดได้ 7 แสนโดส วันที่ 27 ก.ย. 5 แสนโดส วัคซีนมาเราก็ทยอยฉีด ไม่ได้นำวัคซีนมาเก็บหรือมาดองไว้ แต่ไม่ได้ไปเร่งบุคลากร เพราะทราบว่าทุกคนก็เหนื่อยมาก อีกทั้งการฉีดหลักแสนรายก็ไม่ได้น้อย ดังนั้นขอความเห็นใจอย่าตำหนิบุคลากรเพราะไปบั่นทอนกำลังใจ

นายอนุทินกล่าวต่อว่า กลุ่มเป้าหมายหลักที่จะฉีดวัคซีนไฟเซอร์คือลูกหลานอายุระหว่าง 12-18 ปี ซึ่งมีอยู่ประมาณ 5 ล้านกว่าคน ใช้วัคซีน 10 ล้านโดส ส่วนที่เหลือจะนำไปกระจายให้แก่ประชาชนทั่วไป

ซึ่งกรมควบคุมโรควางแผนการฉีดไว้แล้ว โดยเฉพาะการฉีดไขว้ตามมติคณะอนุกรรมการด้านเสริมภูมิคุ้มกันที่มีมติสูตรการฉีดที่จะทำให้มีภูมิคุ้มกันสูงที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการฉีดซิโนแวคเข็มแรก แอสตร้าเซนเนก้าเข็มที่ 2 หรือแอสตร้าเซนเนก้าเข็มแรก และไฟเซอร์เข็มที่ 2 และหลังจากรับวัคซีนล็อตนี้แล้ว กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และอย.จะดำเนินการตรวจรับตามขั้นตอนและเร่งกระจายวัคซีนไปยังพื้นที่เป้าหมายต่างๆ ทั่วประเทศเร็วที่สุด

คาดว่าจะเริ่มฉีดวัคซีนไฟเซอร์ได้ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป สำหรับแผนการการจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์ในปีหน้าก็ได้พูดคุยไปในระดับหนึ่งแล้ว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประเทศไทยว่าจะมีวัคซีนในเทคโนโลยีทุกประเภท เพียงพอให้การดูแลให้ความปลอดภัยกับประชาชน

จีนให้ซิโนแวคอีก 1.5 ล.โดส

นายอนุทินกล่าวว่า สำหรับการฉีดวัคซีนเข็ม 3 เป็นบูสเตอร์โดสจะทยอยฉีดทุกคนที่อยู่ในระยะเวลาที่ควรได้รับ โดยเป็นคนที่ฉีดซิโนแวคครบ 2 เข็ม นับตั้งแต่มี.ค.เป็นต้นไป มี 3-4 ล้านคน ส่วนคนที่ฉีดซิโนฟาร์มต้องผ่านคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน หากข้อมูลเข้ามาก็พร้อมฉีดให้ เพราะเป็นเชื้อตายเหมือนกัน

แต่กรณีซิโนฟาร์ม ผู้นำเข้าคือบริษัทไบโอเจนนีเทค ร่วมกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ การเก็บข้อมูลหลักฐานเอกสารต่างๆ จะอยู่ที่นั่น อีกทั้งมีกฎหมายที่ใช้ในการตัดสินใจดำเนินแนวทางต่างๆ ได้ เพียงแต่หากมาขอความเห็นชอบจากกระทรวง และเอกสารครบถ้วนสมบูรณ์ก็จัดให้อยู่แล้ว เพราะที่ผ่านมาถือว่าได้เข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระในการฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้จำนวนมาก ตอนนี้ฉีดไปได้กว่า 10 ล้านเข็มแล้ว

“ขณะนี้จีนแสดงความจำนงที่จะบริจาควัคซีนซิโนแวคให้ไทยอีก 1.5 ล้านโดส ส่งเอกสารแสดงเจตจำนงมาแล้ว การดำเนินการหลังจากนี้ยืนยันว่าไม่ล่าช้า ไม่ว่าเป็นประเทศอะไรก็ตาม ส่วนกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทยระบุว่าประเทศไทยปฏิเสธการลงนามรับบริจาควัคซีนไฟเซอร์จากสหรัฐอเมริกา 1 ล้านโดส ทั้งที่จริงๆ แล้วยังไม่มีการส่งเอกสารยืนยันมานั้น ตอนนี้คุยกันแล้ว ทำความเข้าใจกันแล้ว” นายอนุทินกล่าว

ฉีดนำร่องนร.นนทบุรี 4 ตค.

ด้านนพ.โสภณกล่าวว่า วัคซีนไฟเซอร์ ล็อตนี้เตรียมนำมาฉีดให้เด็กนักเรียนอายุ 12 ปีขึ้นไปในพื้นที่จ.นนทบุรีก่อน เริ่มวันที่ 4-8 ต.ค.นี้ เบื้องต้นประสานโรงเรียนออกหนังสือสำรวจความยินยอมของผู้ปกครองในการให้เด็กรับวัคซีนแล้ว สถานที่ฉีดคือห้องพยาบาลของแต่ละโรงเรียน สำหรับขั้นตอนการฉีดวัคซีนฉีด 2 เข็ม ห่างกันประมาณ 4 สัปดาห์ ส่วนข้อกังวลเรื่องผลกระทบในเด็ก หากมีอาการแน่นหน้าอก ใจสั่น ให้รีบแจ้งผู้ปกครองและส่งร.พ.ทันที

“เงื่อนไขสำคัญของการรับวัคซีนไฟเซอร์ คืองดออกกำลังกาย 1-2 สัปดาห์ เนื่องจากมีผลเกี่ยวกับเรื่องหัวใจ ส่วนใหญ่เป็นเฉพาะในเด็กผู้ชาย สำหรับจำนวนวัคซีนคาดว่าจะทยอยเข้ามา และจะมีปริมาณมากในช่วงปลายพ.ย.และมากสุดในธ.ค.ก็จะครบ 30 ล้านโดส ส่วนการจัดเก็บหลังจากฉีดบุคลากรทางการแพทย์ไปแล้วไม่มีปัญหา วัคซีนสามารถอยู่ในอุณหภูมิ 2-8 องศาได้ 1 เดือน”

จ่ายเยียวยานร.-นศ.แล้ว10ล้านคน

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม รับทราบรายงานความคืบหน้าการเยียวยานักเรียนและลดผลกระทบทางการศึกษา ให้กับสถานศึกษา ครูผู้สอน นักเรียน และผู้ปกครอง

โดยเยียวยานักเรียนทุกคน ทุกสังกัด คนละ 2,000 บาท ผู้ปกครองรับเงินเต็มจำนวนโดยไม่หักค่าใช้จ่าย เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา ให้แก่นักเรียนนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในสถานศึกษาสังกัด กระทรวงศึกษาธิการทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงสถานศึกษานอกสังกัดกระทรวงศึกษาธิการตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล-ม.6 และอาชีวศึกษา ประจำภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564

โดยจ่ายเงินเยียวยาครอบคลุมเด็กนักเรียนทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงศึกษาธิการไปแล้วทั้งสิ้น 10,952,000 คน จากเป้าหมาย 11 ล้านคน คิดเป็น 87.80% โดยโรงเรียนสังกัดกระทรวงศึกษาธิการได้รับทั้งหมด 97.75% ที่เหลือทยอยดำเนินการส่งมอบต่อเนื่อง

นายธนกรกล่าวต่อว่า ส่วนการฉีดวัคซีนก็คืบหน้าไปอย่างมากเช่นกัน โดยศธ.วางแผนการดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่นักเรียน นักศึกษาในสังกัดทั้งของรัฐและเอกชนที่มีอายุ 12-18 ปี โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ก.ย.พบว่ามีผู้สมัครใจฉีดวัคซีน 3.61 ล้านคน จากทั้งสิ้น 5,048,081 คน คิดเป็น 71.67% ทั้งนี้ยังจะรวบรวมจำนวนเด็กนักเรียนที่ผู้ปกครองให้ความยินยอมแล้วเพิ่มเติม และจะจัดส่งให้กระทรวงสาธารณสุขเพื่อขอรับการจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติมต่อไป

ทั้งนี้นายกฯ ติดตามมาตรการช่วยเหลือเด็กนักเรียน ผู้ปกครอง พร้อมกำชับกระทรวงศึกษาธิการ ตรวจสอบระบบการจ่ายเงินอย่างใกล้ชิดโดยเงินทุกบาทต้องถึงมือผู้ปกครอง ตรงตามวัตถุประสงค์ ขณะเดียวกันมอบหมายให้ศธ. และสธ.รณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่นักเรียนและ ผู้ปกครองว่าการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับเด็กมีความปลอดภัยและได้รับมาตรฐานองค์การอนามัยโลกและอย. เพื่อให้การฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับเด็กนักเรียน เยาวชน ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองครอบคลุมมากที่สุด รองรับการผ่อนคลายมาตรการและให้การเรียนการสอนในภาคเรียนต่อไปกลับมาสู่รูปแบบปกติทั่วประเทศให้ได้โดยเร็ว

‘มหาชัย’ต่ำร้อยรอบ 5 เดือน

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 99 ราย ถือเป็นยอดต่ำกว่า 100 รายเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน นับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค. 2564 ติดเชื้อสะสม 106,101 ราย รักษาหายเพิ่ม 222 ราย รวมมีผู้กลับบ้านได้แล้วสะสม 97,520 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 7,483 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย

นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ลดน้อยลงนั้นไม่ได้เกิดจากการที่ตรวจน้อยลง เพราะการตรวจเชิงรุกยังมีอย่างต่อเนื่อง และพบว่าอัตราการติดเชื้อลดลงด้วย จำนวนผู้ติดเชื้อที่น้อยลงนั้น พบคนที่ติดเชื้อซ้ำรอบสองแล้วราว 10 เปอร์เซ็นต์ เป็นคนละสายพันธุ์กัน ดังนั้นทุกคนจะประมาทไม่ได้ ยังคงต้องป้องกันตนเองเหมือนเดิม

สธ.เซ็นซื้อแอสตร้าฯ 60 ล.โดส

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีลงนามสัญญาการจัดซื้อวัคซีน แอสตร้าเซนเนก้า ระหว่างนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และนายเจมส์ ทีก ประธานบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 60 ล้านโดสสำหรับปี 2565

นายอนุทินกล่าวว่า สธ.มอบหมายให้กรมควบคุมโรค ลงนามสัญญาจัดซื้อวัคซีนแอส ตร้าฯ ปี 2565 จำนวน 60 ล้านโดส มูลค่ากว่า 1.8 หมื่นล้านบาท โดยจะเป็นวัคซีนบูสเตอร์ให้กับผู้ที่ได้รับวัคซีนในปี 2564 ทั้งการฉีดครบ 2 เข็มหรือการฉีดเข็ม 3 แล้วก็ตาม เป็นการฉีดโดสเดียว จึงมั่นใจได้ว่า 60 ล้านโดสสำหรับประชากรไทย 60 ล้านคนจึงมีความเพียงพอ และใช้การผลิตของโรงงานในไทย ทำให้ไม่ขาดแคลนวัคซีน โดยจะมี วัคซีนแอสตร้าฯ เข้ามาเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน โควิด-19 ให้ทุกคนตั้งแต่ต้นปี 2565 เป็นต้นไป แบ่งการส่งมอบ 3 ไตรมาส คือไตรมาสที่ 1 จำนวน 15 ล้านโดส ไตรมาส 2 จำนวน 30 ล้านโดส และไตรมาส 3 อีก 15 ล้านโดส

นายอนุทินกล่าวต่อว่า สัญญารอบนี้ กรมควบคุมโรคเจรจาได้เงื่อนไขที่ดีขึ้น ราคาดีขึ้น ไม่ต้องมัดจำเงินจองวัคซีน จะจ่ายเมื่อส่งวัคซีนแล้ว นอกจากนี้หากผู้ผลิตพัฒนาวัคซีนรุ่น 2 ที่ครบวงจรมากขึ้น ครอบคลุมสายพันธุ์เดลตาและอื่นๆ ได้สำเร็จ ก็สามารถสวิตช์คำสั่งซื้อได้ทันที โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ส่วนปีหน้าวัคซีนแอสตร้าฯ อาจจะพัฒนารองรับการฉีดตั้งแต่ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ก็อาจจะใช้ในส่วนนี้ด้วย ไม่ต้องสั่งซื้อเพิ่มเติม แต่เราก็มีการเจรจาจัดหาวัคซีนโควิด-19 ในปีหน้ากับหลายผู้ผลิต ไม่เคยปิดกั้นรายอื่น

ด้านนพ.นคร เปรมศรี ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวว่า ช่วงแรกสยามไบโอไซเอนซ์ ผลิตได้เดือนละ 15 ล้านโดส แต่เมื่อมีความชำนาญมากขึ้นก็ผลิตได้เพิ่มเป็น 20 ล้านโดสต่อเดือน ดังนั้นการส่งมอบต่อเดือนก็มากขึ้น จะเห็นว่า ก.ย. ส่งมอบ 8 ล้านโดส ต.ค. คาดว่า 10 ล้านโดส และ พ.ย. ธ.ค. ก็น่าจะเพิ่มมากขึ้นกว่านี้ ทั้งหมดเป็นความพยายาม ระหว่างแอสตร้าฯ และสยามไบโอไซเอนซ์ ส่วนหนึ่งแอสตร้าฯ พยายามหาซัพพลายจากต่างประเทศมาช่วยในการส่งมอบให้แก่ ประเทศอื่นๆ ตามสัญญาทำให้มีวัคซีนในไทยมากขึ้น ในสัญญาจึงเป็นวัคซีนที่ใช้ฐานผลิตในไทย มีความชัดเจนมากกว่า

ส่วนปีหน้าเรากำลังเจรจาจัดหาวัคซีน mRNA เช่นกัน ซึ่งเราพยายามจัดหาวัคซีนชนิดอื่นด้วย จะไม่เอามาเยอะเกินไป แต่ไม่น้อยเกินไป ต้องเผื่อ ซึ่งจะมีความชัดเจนมากขึ้น เพราะวัคซีนแต่ละตัวมีผล มีงานวิจัยมากขึ้น ทำให้การจองวัคซีนไม่ได้อยู่บนความเสี่ยงมากเหมือนปีที่แล้ว การซื้อวัคซีนจะเห็นผลของมันชัดเจน เราจะพิจารณาได้เป็นตัวๆ ปีหน้าก็น่าจะมีวัคซีนที่เพียงพอ จำนวนมากพอสมควร

วัคซีนไทยวิจัยเฟส 2 แล้ว

วันเดียวกัน ที่สถาบันวัคซีนแห่งชาติ จัดเวทีเสวนาออนไลน์ Thailand COVID-19 Vaccine Forum 2021 ผ่านทาง Facebook และ Youtube สถาบันวัคซีนแห่งชาติ โดย ศ.นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม ผอ.บริหารโครงการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ศูนย์วิจัยวัคซีน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ขณะนี้วัคซีนได้ทดสอบในคนระยะที่ 1 และเข้าสู่ระยะที่ 2 ซึ่งการเตรียมโรงงานผลิตในไทยร่วมกับบริษัทไบโอเนท-เอเชีย จำกัด ขณะนี้มีความพร้อมแล้ว และเพื่อความไม่ประมาทก็จะทำวัคซีนรุ่น 2 ไปด้วย หากรุ่นแรกป้องกันการข้ามสายพันธุ์ไม่ได้

ศ.นพ.เกียรติกล่าวต่อว่า สำหรับการวิจัยในมนุษย์ อาสาสมัครในประเทศจะยากขึ้นเรื่อยๆ เพราะทุกคนเข้าถึงวัคซีน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เราเสร็จเฟส 1 ฉีดคนอายุน้อย 18-55 ปีแล้ว ส่วนกลุ่มอายุมาก 56-75 ปีฉีดครบ 2 เข็มแล้ว และสัปดาห์นี้จะครบ 1 สัปดาห์หลังฉีดเข็ม 2 คาดว่าสิ้นเดือนหรือกลางเดือนหน้าจะได้ผล

ส่วนเฟส 2 อายุ 18-59 ปี ฉีดเข็ม 2 เสร็จแล้ว รอหารืออย.จะไปต่ออย่างไร ไบโอเนท-เอเชียก็พร้อมเริ่มผลิตแล้ว คาดจะเริ่มได้เร็วสุดอาจจะเป็นต้นธ.ค.นี้ ซึ่งเดิมเราไม่มีโรงงาน ต้องพึ่งต่างประเทศ ทำให้หลังมีผลในลิงเราหายไป 7-8 เดือนจึงกลับมาเริ่มได้ ซึ่งการผลิตในประเทศของไบโอเนท-เอเชียเป็นการผลิตแบบ 2 in 1 ไม่ต้องแยกโรงงานเหมือนไปผลิตในต่างประเทศ

ผศ.ภญ.สุธีรา เตชคุณวุฒิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด กล่าวว่า วัคซีนใบยาเป็นชนิดโปรตีนซับยูนิต โดยเปลี่ยนลำดับพันธุกรรมของโปรตีนใส่เข้าไปในแบคทีเรีย ที่จะเอาไปใส่ในต้นใบยา เพื่อให้ผลิตโปรตีนออกมาได้ใน 3 วัน จากนั้นตัดออกมานำไปปั่นเป็น Juice ทำให้บริสุทธิ์ เป็นโปรตีนที่เราต้องการและผลิตเป็นวัคซีน

ยืนยันว่าไม่มีการตัดต่อพันธุกรรมของพืช และเมื่อติดตามต่อ ต้นไม้ไม่มีการผลิตโปรตีนต่อ ทำให้ความเสี่ยงปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมน้อย การจัดการกระบวนการผลิตจัดการได้ง่าย สำหรับโรงงานผลิตเราออกแบบและก่อสร้าง 10 เดือน ขณะนี้เสร็จแล้ว พร้อมผลิตตั้งแต่ช่วงก.ค.-ส.ค.ที่ผ่านมา ผลิตวัคซีนได้ 1-5 ล้านโดสต่อเดือน ขึ้นกับขนาดของโดสสุดท้ายที่จะเลือกใช้ ส่วนการวิจัยในคน สัปดาห์นี้วัคซีนกลุ่มแรกเริ่มทดสอบในมนุษย์วันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา ใน 4 คนแรก พบว่า วัคซีนยังปลอดภัย และวันที่ 30 ก.ย. จะฉีด 2 คนที่เหลือ

“เราพัฒนาวัคซีนรุ่นที่ 2 ปรับเปลี่ยนสูตรกระตุ้นภูมิให้ดีขึ้น ทดสอบในสัตว์ทดลอง ความเป็นพิษ อยู่ในการผลิตเพื่อเข้าการทดสอบในมนุษย์เฟส 1 ในกลุ่มอาสาสมัครอายุ 18-65 ปี จะเป็นผลให้ตัดสินใจเอารุ่น 2 เข้าทดสอบต่อไปหรือไม่ และพัฒนาวัคซีนตัวแคนดิเดต อีก 10 สายพันธุ์ เพื่อทดสอบในสัตว์ทดลอง และดูว่าจะเอารุ่น 2 ตัวไหนมาทดสอบต่อไป และเลือกมาทำเป็นสูตรค็อกเทล คาดว่าไตรมาส 3 ปีหน้าน่าจะเป็นอีกวัคซีนที่เอาไปใช้ได้ โดยสถานเสาวภาแบ่งบรรจุตัววัคซีนให้เรา” ผศ.ภญ.สุธีรากล่าว

ภญ.พรทิพย์ วิรัชวงศ์ หัวหน้าโครงการวัคซีนโควิด-19 HXP-GPOVac องค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า ขณะนี้กำลังวิจัยในคนระยะที่ 2 จำนวน 250 คน คาดว่าจะทราบผลปลายปี 2564 เพื่อศึกษาทางคลินิกต่อไปต้นปีหน้า คาดผลออกกลางปี 2565 น่าจะขอรับอนุญาต การใช้แบบมีเงื่อนไข

สร้างภูมิ – นสพ.ประชาชาติธุรกิจ จัดสัมมนา ‘สร้างภูมิคุ้มกัน ฝ่าภัยโควิด’ โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ปาฐกถาพิเศษ ร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิอีกหลายคน โดยนายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานเครือมติชน น.ส.ปานบัว บุนปาน กก.ผจก.มติชน นำผู้บริหาร ให้การต้อนรับที่อาคารมติชน เมื่อวันที่ 29 ก.ย.

ส่งแอสตร้าฯให้ไทยแล้ว24ล.โดส

ด้านนายเจมส์ ทีก ประธาน บริษัท แอส ตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในงานสัมมนาออนไลน์ “ธุรกิจ-สังคม สร้างภูมิคุ้มกัน ฝ่าภัยโควิด” จัดโดยหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ว่า นับตั้งแต่การส่งมอบวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าโดสแรกในเดือน มิ.ย.บริษัทส่งมอบวัคซีนให้กับกระทรวงสาธารณสุขแล้วกว่า 24 ล้านโดส

นายทีกยังกล่าวถึงห่วงโซ่การผลิตวัคซีนในระดับนานาชาติ ว่าบริษัทมีโรงงานเครือข่ายที่ผลิตวัคซีนกว่า 25 แห่งทั่วโลก หนึ่งในนั้นอยู่ที่ไทยคือโรงงานของบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด แม้ว่าช่วงเริ่มแรกเป็นช่วงที่ยากลำบากเนื่องจากต้องมีการเตรียมตัวและการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นสายพานการผลิต แต่การตั้งโรงงานในไทยถือว่าใช้เวลาค่อนข้างรวดเร็วคือเพียง 9 เดือนเท่านั้น จากปกติที่ต้องใช้เวลานับสิบปี

“บริษัทได้ทำตามคำมั่นสัญญาที่มีต่อสาธารณะนับตั้งแต่วันแรกที่สามารถส่งมอบวัคซีนล็อตแรกได้ในวันที่ 7 มิ.ย. และยังผลิตและส่งมอบวัคซีนให้กับไทยได้ 5-6 ล้านโดสต่อเดือน หากรวมการส่งมอบตลอดเดือนก.ย. นี้ จะมีกว่า 8 ล้านโดส” นายทีกกล่าว

สำหรับความร่วมมือร่วมระหว่างแอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด กับ สธ. และบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ นายทีกระบุว่า มีสาระสำคัญว่าห่วงโซ่การผลิตวัคซีนนี้ก่อตั้งขึ้นในไทยเพื่อคนไทยและคนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ วัคซีนที่ผลิตในแต่ละเดือน ราวร้อยละ 30 คือส่งให้แก่ไทย ส่วนที่เหลือจะส่งมอบไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้ ดังนั้นจุดสำคัญที่สุดคือคนไทยควรจะรู้สึกภูมิใจในบทบาทไทยในการเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้กับโรคโควิด-19 ในภูมิภาคด้วย

‘บิ๊กตู่’ยันผ่อนล็อกมากขึ้น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมในจ.ชัยภูมิว่า สถานการณ์ โควิด-19 รัฐบาลผ่อนคลายไปบ้างแล้ว แต่ถ้าปล่อยทั้งหมดก็ยังเสี่ยง ฉะนั้นขอให้ทำความเข้าใจวันนี้ถือว่าเราปล่อยให้เยอะแล้ว ถ้ามันดีต่อไปก็จะปล่อยให้มากขึ้นเรื่อยๆ

เพราะเราไม่อยากให้กลับมาเริ่มต้นที่ศูนย์อีกเหมือนเดิม ถ้ามาปิดล็อกกันใหม่ทั้งหมดมันจะอยู่ที่ใคร ก็ที่พวกเราทุกคนต้องช่วยกัน เพราะประชาชนเราควบคุมการเคลื่อนที่ไม่ได้ จะบอกว่าล็อกดาวน์ไม่ได้ผลจริงๆ แล้วมันได้ผล เขามีกราฟให้ดู แต่พวกเราอาจจะไม่เห็น การล็อกดาวน์แต่ละครั้ง ส่งผลการลดระบาดได้ 20-25-30 % ซึ่งเป็นตัวนั้นกำหนด อย่าคิดเอง มันไม่ได้ เราต้องฟังหมอด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน