สดุดี-เหล่าวีรชน
‘พค.35-เสื้อแดง’
ชี้คนฆ่าลอยนวล

ม็อบหลายกลุ่มนัดชุมนุมกลางสายฝน ร่วมขับไล่‘บิ๊กตู่’ คึกคัก ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ท่ามกลางฝนโปรยปราย ‘ธิษะณา ชุณหะวัณ’ จวกวัฒนธรรมพ้นผิดลอยนวล ส่งผลเจ้าหน้าที่ไม่ต้องรับผิดทั้งเหตุการณ์เดือนตุลา-พฤษภา 35 จนถึงการสลายชุมนุมเสื้อแดง ตะโกนก้อง‘ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ’ โฆษกนปช.ชื่นชม‘ทะลุแก๊ส’เป็นนักต่อสู้ท้าทายอำนาจรัฐ ด้าน‘ลูกนัท’ยันไม่ลืม 6 ตุลา ข้องใจบางคนเห็นเพื่อนตาย แต่วันนี้อำนาจบังตากลับรับใช้เผด็จการ ส่วนที่แยกดินแดงเกิดเหตุเผายางรถยนต์กลางถนน-ปาประทัด ต่อเนื่อง ด้านแนวร่วม 8 องค์กรนร.ปราศรัยทวงถามสิทธิเสรีภาพ สุดทนกระทรวงศึกษาฯ อัดระบบการศึกษากำลังฆ่าเด็ก

อัดใช้ก.ม.ไม่ให้ประกันตัวนศ.

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 3 ต.ค. ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา (แยกคอกวัว) ถนนราชดำเนิน กลุ่มราษฎร เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตยจัดกิจกรรม “3 ตุลา มาไล่ประยุทธ์” เพื่อขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีผู้เข้าร่วมการชุมนุมกว่า 200 คน

โดยมี น.ส.ธิษะณา ชุณหะวัณ กลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ กลุ่มไอลอว์ นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย บอย-นายธัชพงศ์ แกดำ และกลุ่มแนวร่วมผลัดกันขึ้นปราศรัยบนเวที เนื้อหาส่วนใหญ่ยังคงกล่าวถึงที่มาของนายกฯ การบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาล และยังยืนยันข้อเรียกร้อง 4 ข้อให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออกโดยไม่มีเงื่อนไข การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การปฏิรูปสถาบัน/และให้ปล่อยเพื่อนเราระหว่างการปราศรัย ฝนเริ่มตกลงมาประชาชนที่เข้ามาร่วมรับฟังต่างกางร่มพร้อมนำเสื้อกันฝนมาสวมใส่ และยังคงนั่งฟังการปราศรัยอย่างต่อเนื่อง

เวลาประมาณ 17.10 น. น.ส.ธิษะณา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 2 พรรคก้าวไกล กล่าวปราศรัยมีเนื้อหาโดยสรุปตั้งคำถามถึงวัฒนธรรมพ้นผิดลอยนวล และการไม่อนุญาตให้นักศึกษาและนักกิจกรรมได้รับการประกันตัว ทั้งที่ยังต้องได้รับสิทธิว่าเป็นผู้บริสุทธิ์

“วัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิดยังคงดำเนินต่อไป ทั้งจากเหตุการณ์ 6 ตุลา 14 ตุลา พฤษภา 35 จนถึงการสลายชุมนุมเสื้อแดง เจ้าหน้าที่ คนใดก็ไม่ต้องรับผิด วัฒนธรรมเว้นผิดฝังรากมาแสนนานจนคิดว่าเป็นคนถูกกดขี่โดยธรรมชาติ” น.ส.ธิษะณากล่าวและว่า ปัจจุบันมีการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ รวมถึงไม่ให้ประกันตัวนักกิจกรรม ทั้งที่ไม่มีข้อไหนที่นักศึกษาและผู้เคลื่อนไหวเข้าองค์ประกอบการไม่ให้ประกันตัว เพราะไม่มีพฤติการณ์หลบหนี มีที่อยู่อาศัย ไม่มีภยันตรายต่อสาธารณะ มาตรา 112 มีโทษสูง ไม่ได้สัดส่วนกับการกระทำ โทษจำคุกมากเกินไป นับว่ามีปัญหามาก

ตอนท้าย น.ส.ธิษะณากล่าวว่า ขอให้ทุกคนสู้ต่อไปจนกว่าจะได้ประชาธิปไตยและได้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน แล้วตะโกนข้อความว่า “ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ” โดยมีผู้ชุมนุมร่วมเปล่งเสียงไปพร้อมกัน

โฆษกนปช.สดุดีวิญญาณวีรชน

ด้านนายธนพัฒน์ กาเพ็ง หรือปูน ทะลุฟ้า กล่าวปราศรัยว่า แม้ฝนตกแต่ไม่กลัวเปียก สิ่งที่กลัวกว่าคืออำนาจเผด็จการ ตอนนี้เพื่อนของเรายังถูกขัง ทั้งนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน, นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน และคนอื่นๆ ซึ่งอยู่ในเรือนจำเป็นเวลากว่า 50 วันแล้ว คนในเรือนจำหวังอย่างเดียวให้พี่น้องต่อสู้แทน

“รัฐขังเพื่อนเราได้ แต่ขังอุดมการณ์ไมได้ จัดการคนเห็นต่างได้ แต่ชนะเวลาที่คนเห็นต่างจะเปลี่ยนประเทศไม่ได้แน่ โปรดรับฟังความเห็นประชาชนบ้าง เราออกมาเรียกร้องตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ คุณจะห้ามอะไรก็ห้ามได้ แต่อย่าห้ามความคิด” นายธนพัฒน์กล่าว

นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ โฆษกแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวปราศรัยว่าขอสดุดีดวงวิญญาณวีรชน 14 ตุลา 6 ตุลา พฤษภา 35 และ 53 เราต้องสู้จนกว่าจะได้ประชาธิปไตย เกือบ 50 ปีที่ผ่านมา มีการยิง การฆ่าประชาชนที่มาเรียกร้อง บอกว่านักศึกษาธรรมศาสตร์เป็นคอมมิวนิสต์ คนยิง คนฆ่า นิรโทษกรรม แต่คนถูกฆ่าต้องตาย แถมไม่ได้ประชาธิปไตย แต่ตราบใดยังมีลมหายใจก็ต้องออกมาพูด

นายธนาวุฒิกล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นของกลุ่มทะลุแก๊ส ตราบใดที่ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน สามารถทำได้ แต่ตำรวจควบคุมฝูงชน(คฝ.) มีกระสุนยางซึ่งสามารถทำให้ถึงแก่ชีวิตได้เช่นกัน อาวุธก็เยอะกว่ากลุ่มทะลุแก๊สที่มีแค่หนังสติ๊ก พลุ ตะไล โล่ยังไม่มี นี่คือนักต่อสู้ที่ท้าทายอำนาจรัฐ ขอยกย่องให้เกียรติ

“ตราบใดที่ประยุทธ์ยังอยู่ เราจะไล่ประยุทธ์ทุกวัน ไม่ใช่เฉพาะเดือนตุลา พร้อมไปทุกเวที เดินหน้าชน เพราะบริหารแย่มาก ทำงานไม่ดี ไม่เก่ง ไร้ความสามารถ” นายธนาวุฒิกล่าว ก่อนนำผู้ชุมนุมตะโกนว่า “ประยุทธ์ออกไป” อย่างกึกก้อง

เวลา 17.50 น. นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบรท์ เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี กล่าวรำลึกเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 โดยกล่าวตั้งคำถามถึงการใช้ความรุนแรงของรัฐที่มีต่อประชาชน

เพื่ออนาคต – นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย อดีตแนวร่วมกปปส. ปราศรัยบนเวที ‘3 ตุลามาไล่ประยุทธ์’ ชี้หมดเวลาของคนที่เห็นคนไม่เท่ากัน พร้อมชวนชาวสลิ่มที่ทนไม่ไหวออกมาร่วมแสดงพลัง ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว กทม. เมื่อวันที่ 3 ต.ค.

‘ลูกนัท’ลั่นไม่ลืมผู้เสียสละ6ตุลา

เวลา 18.50 น. นายธนัตถ์กล่าวปราศรัยว่า “เราทิ้งกันไม่ได้ แต่เราต้องช่วยกันเอง ก้าวผ่านความอยุติธรรมเพื่อก้าวผ่านไปสู่สังคมประชาธิปไตย เราต้องพูดให้เข้าใจกันและกัน นั่นเป็นเพียงทางออกเดียว เราไม่ยอมรับกฎหมายปลายกระบอกปืน การชุมนุมในวันนี้และทุกวันจนถึงวันเลือกตั้งเป็นบทพิสูจน์ว่าต่อให้โกงแค่ไหน เราจะเอาชนะวันยังค่ำ”

นายธนัตถ์กล่าวว่า สื่อบางสำนักพยายามบอกว่าตนอยากเป็นส.ส.จนตัวสั่น ถึงขั้นทรยศอุดมการณ์ เพราะรู้ว่าประชาธิปัตย์ไปไม่รอด อยากถามว่าถ้าพลังประชารัฐแน่จริง ทำไมตนไม่ไปพปชร. นี่ไม่ใช่เรื่องอุดมการณ์ด้วยซ้ำ แต่เป็นเรื่องความถูกต้อง

“เราต้องการอนาคตที่ดีขึ้น ไม่ต้องการองคาพยพอำนาจมืดมาปลุกระดม ผมไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง หมดเวลาของคนที่เห็นคนไม่เท่ากัน พอกันที เชื่อว่าสลิ่มก็ทนไม่ไหว ก้าวออกมาเถิด”นายธนัตถ์กล่าว

นายธนัตถ์กล่าวด้วยว่า จะไม่ลืม 6 ตุลา ไม่ลืมผู้ที่เสียสละเลือดเนื้อและต้องถูกแขวนคอ อย่างไรก็ตาม ตนเสียดายคนที่ผ่านเหตุการณ์ดังกล่าวบางคนโดนอำนาจบังตา เลือกรับใช้อำนาจเผด็จการโดยลืมไปว่าเพื่อนตัวเองล้มตายในวันนั้น ควรกลับไปถามตัวเองว่าชีวิตนี้ทำอะไรให้เพื่อนหรือยัง พอกันทีกับความอยุติธรรม และการกดขี่ ตนขอทุ่มสุดตัวเพื่อประชาธิปไตยและพ่อแม่พี่น้องคนไทยที่ต้องมีชีวิตที่ดีกว่านี้

จ่อยื่นฟ้องเพิกถอนห้ามชุมนุม

นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือไอลอว์ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ถ้าขอแค่สิทธิประกันตัวไม่ได้ ต้องทำโดยการแก้ไขกฎหมาย ต้องพูดไปถึงการยกเลิกมาตรา 112 ซึ่งล่าสุดมีคนถูกตั้งข้อหาดังกล่าวใหม่ 144 ราย 144 คดี

โดยผู้ที่สร้างประวัติศาสตร์โดนคดีดังกล่าวมากที่สุดคือเพนกวิน นอกจากนี้ยังมีคดีฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถูกนำมาใช้กับการแสดงออกทางการเมือง นับเป็นประวัติศาสตร์ที่คดีการเมืองมากขนาดนี้ โดยมีผู้โดนคดีนี้ถึง 1,171 ราย ไม่เคยมียุคไหนในประวัติศาสตร์ไทยที่คดีการเมืองมากขนาดนี้ คนที่โดนพ.ร.ก.ฉุกเฉินมากที่สุดในประเทศคือ ไบรท์ ชินวัตร จันทร์กระจ่าง 28 คดี

นายยิ่งชีพกล่าวว่า ในวันที่ 5 ต.ค. ตนพร้อมด้วยนายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่ ขอนแก่นพอกันที และน.ส.ชุมาพร แต่งเกลี้ยง หรือ วาดดาว กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก จะไปยังศาลแพ่ง เพื่อเป็นโจทก์ยื่นฟ้องขอให้เพิกถอนข้อกำหนดห้ามชุมนุม เหตุเป็นการออกกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายไม่ชอบ อ้างคุมโรค แต่แท้จริงคุมชุมนุม

เผายางรถ-ปาประทัดแยกดินแดง

ส่วนที่บริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง เขตดินแดง เมื่อเวลา 18.03 น. มีวัยรุ่นปาประทัดไปที่บริเวณเกาะกลางถนนแยกดินแดง เกิดเสียงดัง 2 ครั้ง ต่อมาเวลา 18.11 น. มวลชนวัยรุ่นถือธงแดงประมาณสิบกว่าคนทยอยเข้าพื้นที่ จากนั้นแนวร่วมกลุ่มทะลุแก๊สราว 20 คน พร้อมรถจักรยานยนต์มาถึงและตั้งแถว ขณะเดียวกันฝนเริ่มตกลงมา กลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ออกจากพื้นที่ โดยไปหลบฝนตามจุดต่างๆ และยังมีการปาประทัดที่บริเวณใต้ทางด่วนดินแดงเป็นระยะๆ หลายครั้ง อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีเจ้าหน้าที่คฝ.เข้าพื้นที่แต่อย่างใด

เวลา 19.05 น. รถของกลุ่มปฐมพยาบาลภาคสนามมาถึงบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง บริเวณใกล้เคียงแนวร่วมกลุ่มทะลุแก๊ส ซึ่งยังคงยิงพลุและโยนประทัดอยู่เป็นระยะ

เวลา 19.56 น. ภายหลังฝนหยุดตก มวลชนเผายางรถยนต์บริเวณกลางถนน ใต้ทางยกระดับดินแดงขาเข้าจากฝั่งถนนพระราม 9 จากนั้นมีการปาประทัดต่อเนื่อง โดยรถยนต์ที่สัญจรไปมาต้องเว้นช่องจราจรที่เกิดไฟไหม้ไว้

8 แนวร่วมนร.สุดทนศธ.

เวลา 16.00 น.วันเดียวกัน ที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กลุ่มปฏิวัติการศึกษาไทย ประกอบด้วยแนวร่วม 8 องค์กร อาทิ 1.กลุ่มปฏิวัติการศึกษาไทย 2.นักเรียนเลว 3.โมกหลวงริมน้ำ 4.นักเรียนนอกห้อง 5.Thai STF Claim 6.Society Group 7.สหพันธ์นักเรียนนครสวรรค์ และ 8.คนรุ่นใหม่นครสวรรค์ ประมาณ 30 คน รวมตัวจัดกิจกรรม #3เดือนตุลาถามหาสิทธิ ขณะสายฝนโปรยปราย

โดยจัดเวทีปราศรัย เพื่อทวงถามหาสิทธิทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งเป็นสิทธิที่พวกผู้ใหญ่ไดโนเสาร์นั้นขโมยจากเราไปชั่วชีวิต เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์มีครูคอยถือไม้เรียวตีนักเรียน รวมทั้งเขียนลงกระดานดำ เขียนที่กำแพงหน้ากระทรวงและบนถนน เพื่อเรียกร้องและสะท้อนปัญหาการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของนักเรียน เช่น เครื่องแบบนักเรียน แต่งชุดไปรเวต การทำสีผม และการไว้ผมยาว พร้อมกับฉีกหนังสือ และตะโกนว่าจะต้องมีนักเรียนกี่คนต้องหลุดจากระบบการศึกษา ระบบการศึกษากำลังฆ่าเด็ก ช่วยพวกเราด้วย เป็นต้น

ฟิว ประธานกลุ่มปฏิวัติการศึกษา กล่าวว่า ศธ.อ้างตลอดว่าจะรับไปพิจารณาและแก้ไข แต่ท้ายสุดไม่ได้อะไรเลย ทั้งยังเจอหลักสูตรล้างสมอง ไม่สอดรับกับนักเรียน และในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แทนที่รัฐบาลและศธ.จะหาวิธีการแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพ

แต่ศธ.ให้เรียนออนไลน์มากว่า 2 ปี จนทำให้นักเรียนเครียด และหลุดออกจากระบบการศึกษามากกว่า 1.8 ล้านคน นี่หรือคือการศึกษาที่จะพัฒนานักเรียน พัฒนาประเทศ แต่รัฐกลับลิดรอนสิทธิเสรีภาพของเยาวชน แล้วจะให้เยาวชนไปเป็นอนาคตของชาติได้อย่างไร แบบนี้จะเรียกว่ารัฐไม่รังแกประชาชนได้อย่างไร” ฟิวกล่าว

ตัวแทนนักเรียนอีกคนกล่าวว่า เด็กและเยาวชนส่งเสียงของนักเรียนทั่วประเทศไปถึง น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ นับครั้งไม่ถ้วน แต่เด็กไทยยังเจอกับวิกฤตต่างๆ และตอนนี้เด็กไทยกำลังจะตาย ซึ่งรมว.ศธ.ไม่เคยฟังเสียงของเยาวชน

ทั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลความเรียบร้อย ก่อนจะจบกิจกรรมและแยกย้ายกันกลับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน