เตือนปมปลด 3 เจ้าคณะจังหวัดอาจ ปานปลาย ทำให้พระสงฆ์ทั่วประเทศลุกฮือทวงถามความยุติธรรม ‘ส.ส.นิยม’ พรรคเพื่อไทยชี้ระวังซ้ำรอยเหตุการณ์ยุวสงฆ์ชุมนุมที่ลานอโศก วัดมหาธาตุฯ ท่าพระจันทร์ เมื่อ 48 ปีก่อน ที่เรียกร้องให้แก้พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ที่รวบอำนาจใช้มหาเถรสมาคมครอบงำพระสงฆ์ เผย‘สมเด็จพระมหาวีรวงศ์’ยืนยันไม่ทราบมาก่อนว่ามีวาระปลดเจ้าคณะจังหวัดทั้ง 3 รูป

ลงชื่อค้าน – พระป่ากว่า 500 รูป ร่วมกันลงชื่อคัดค้านมติมหาเถรสมาคม ถอดถอนเจ้าคุณบัวศรี หรือพระเทพสารเมธี เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่อุโบสถ วัดป่าพุทธนิมิต(ภูค้าว) จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 6 ต.ค

ความคืบหน้าและปฏิกิริยาของพุทธศาส นิกชนและคณะสงฆ์ หลังมหาเถรสมาคมมีมติรับทราบการถอดถอน พระธรรมรัตนาภรณ์ วัดเขียนเขต จ.ปทุมธานี พระเทพสารเมธี วัดประชานิยม จ.กาฬสินธุ์ และพระราชปริยัติสุนทร วัดโสธรวราราม จ.ฉะเชิงเทรา พ้นจากเจ้าคณะจังหวัด ตามที่เสนอข่าวไปโดยลำดับนั้น

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. นายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การปลดเจ้าคณะจังหวัดรวม 3 รูป และแต่งตั้งซ้อนอีก 1 รูป อย่างไม่เป็นธรรม ไม่มีความผิด เกรงจะทำให้พระสงฆ์ไปร่วมกับขบวนการนักศึกษา นำมาสู่เหตุการณ์ตุลาฯเลือด

ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นธรรมของกลุ่มพระสงฆ์ เริ่มจากพระภิกษุสามเณรวัดมหาธาตุ และวัดต่างๆ หลายร้อยรูปทั่วประเทศ ที่เรียกว่ากลุ่มยุวสงฆ์ มาชุมนุมกันที่ลานอโศก วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ท่าพระจันทร์ ช่วงเดือนมกราคม 2518 พระสงฆ์บางรูปก็อดอาหาร เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ที่สร้างระบอบเผด็จการในหมู่สงฆ์ ด้วยการสร้างองค์กรมหาเถรสมาคมขึ้นมา เป็นเครื่องมือครอบงำพระสงฆ์ แล้วใช้ทำลายฝ่ายตรงข้าม หากแก้ไขปัญหาไม่ดี อาจเป็นการหมุนเข็มนาฬิกานำพระเณรเข้าร่วมขบวนการนักศึกษาเหมือนในอดีตก็เป็นได้

นายนิยมกล่าวต่อว่า ตนทราบมาว่าพระธรรมรัตนาภรณ์เดินทางเข้าพบสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เพื่อสอบถามสาเหตุการปลดท่านออกจากเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ซึ่งได้รับคำตอบว่า ท่านเองก็ไม่ทราบมาก่อนว่าจะปลดเจ้าคณะจังหวัด เมื่อกรรมการมหาเถรสมาคมยืนยันว่าไม่ทราบเรื่องมาก่อน ก็ต้องถามต่อไปว่าใครเป็นผู้จัดทำวาระการประชุมในวันนั้น

ทั้งนี้ ตามกฎหมายสงฆ์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จะทำหน้าที่เป็นเลขาธิการมหาเถรสมาคม และจะเป็นผู้จัดเตรียมวาระการประชุมให้ เมื่อกรรมการมหาเถรสมาคมไม่รู้ว่าเอกสารการปลดมาได้อย่างไร ก็ต้องถามสำนักพุทธฯ ว่าวาระการประชุมเสนอปลดเจ้าคณะจังหวัดทั้ง 3 รูป ที่นำมาแจ้งให้กรรมการมหาเถรสมาคมทราบในวันนั้น เจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ คนใดเป็น ผู้เรียงพิมพ์ ใครเป็นผู้นำเรื่องมาให้จัดพิมพ์ เป็นพระสงฆ์หรือบุคคลภายนอก

หากเป็นพระสงฆ์ มีตำแหน่งหน้าที่ทางการปกครองคณะสงฆ์หรือไม่ มีเอกสารการปลดเสนอขึ้นมาตามลำดับการปกครองอย่างไร หากเป็นบุคคลภายนอกเกี่ยวข้องกับการบริหารราชการสำนักพุทธอย่างไร หรือเป็นบุคคลที่พ้นจากราชการไปแล้ว แต่ยังมีอิทธิพลครอบงำข้าราชการอยู่ ก็ต้องถามว่าเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยอำนาจหน้าที่อะไร ต้องหาความจริงให้ชัด เพื่อจะได้ไม่สร้างปัญหาให้กับคณะสงฆ์อีกต่อไป อย่างไรก็ตาม ตนได้รับแจ้งจากชาวบ้านทั้ง 3 จังหวัดว่าวันที่ 7 ต.ค. เวลาประมาณ 11.00 น. จะเดินทางมายื่นหนังสือถวายฎีกา








Advertisement

ด้านนายอุทิส ศิริวรรณ ผู้ทรงคุณวุฒิการวิจัยนานาชาติ โครงการปริญญาเอก มหา วิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในฐานะนักวิชาการด้านพระพุทธศาสนา กล่าวว่า เท่าที่ได้พูดคุยพระธรรมรัตนาภรณ์ (สมศักดิ์ โชตินธโร) วัดเขียนเขต จ.ปทุมธานี, พระราชปริยัติสุนทร (อมรภิรักษ์ ปสันโน) วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา, พระราชปริยัติเวที (เจือ กิตติปัญโญ) วัดมุมป้อม จ.นครศรีธรรมราช แต่ละท่านไม่ได้สนใจใดๆ ต่อหัวโขน ตั้งได้ก็ถอดได้ ท่านเข้าใจ

แต่การถอดถอนพระระดับเจ้าคณะจังหวัด ควรเป็นไปโดยชอบประกอบด้วยธรรม และเมื่อถอดท่านออกจากตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัด ก็ควรยกขึ้นเป็นตำแหน่งกิตติมศักดิ์ เช่น ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัด หรือที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค เพื่อเป็นการถวายความเคารพ ซึ่งตนมองว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดีของเรื่องนี้

ชุมนุมสงฆ์ – พระป่ากว่า 500 รูป ร่วมกันสวดมนต์และลงชื่อคัดค้านมติ มหาเถรสมาคม ถอดถอนเจ้าคุณบัวศรี หรือพระเทพสาร เมธี เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่อุโบสถวัดป่าพุทธนิมิต (ภูค้าว) จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 6 ต.ค

ด้านพระญาณรักขิต (แผน โสภโณ) รองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) เปิดเผยว่า เมื่อวันอังคารที่ 5 ต.ค.ตนพร้อมด้วยคณะสงฆ์จังหวัดกาฬสินธุ์ เดินทางมาที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ เพื่อเข้าแสดงมุทิตาสักการะสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (สุชิน อัคคชิโน) กรรมการมหาเถรสมาคม และเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช พร้อมทั้งมอบหนังสือในนามคณะสงฆ์จังหวัดกาฬสินธุ์ เรื่องขอคำชี้แจงกรณีปลดพระเทพสารเมธี (บัวศรี ชุตินธโร) ออกจากตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธรรมยุต)

ซึ่งสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ได้รับหนังสือดังกล่าว แต่ท่านไม่ได้ตอบคำชี้แจงแต่อย่างใด ซึ่งคณะสงฆ์จังหวัดกาฬสินธุ์ ถือว่าเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนปฏิบัติของคณะสงฆ์ ตามสิทธิที่สามารถจะทำได้ ซึ่งหลังจากนี้ คณะสงฆ์จังหวัดกาฬสินธุ์และชาวบ้านที่มาร่วมลงชื่อแสดงพลังเพื่อขอความเป็นธรรมกรณีดังกล่าว จะรวบรวมรายชื่อให้มากที่สุด เมื่อพร้อมสรรพทั้งหมด จะทำเป็นฎีกาถวายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ดำเนินการจัดพิมพ์พระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช แต่งตั้งเจ้าคณะจังหวัดจำนวน 33 รูป หลังจากที่ประชุมมหาเถรฯ ได้รับทราบแล้วเมื่อวันที่ 30 ก.ย.และจะมีการนำขึ้นทูลสมเด็จพระสังฆราช เพื่อลงพระนามต่อไป

ที่ห้องประชุมโรงเรียนพระปริยัติธรรม วัดเขียนเขต ถนนรังสิต-นครนายก ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พระธรรมรัตนาภรณ์ อดีตเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เปิดแถลงข่าว กรณีที่มติมหาเถรสมาคม ถอดถอนออกจากตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี

พระธรรมรัตนาภรณ์กล่าวว่าขอเจริญพรอนุโมทนาที่ได้ให้กำลังใจ อาตมาก็ได้รับแต่งตั้งตำแหน่งมาเป็นลำดับ จากตำแหน่งเจ้าอาวาส เจ้าคณะตำบล รักษาการแทนเจ้าคณะอำเภอ เป็นรองเจ้าคณะจังหวัด และเป็นเจ้าคณะจังหวัดในที่สุด โดยเป็นเจ้าคณะจังหวัดเมื่อปี 2548 ได้ปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่บัดนั้นจนมาถึงบัดนี้เป็นเวลา 16 ปี ทำหน้าที่สนองคณะสงฆ์มาเป็นลำดับ ด้วยความวิริยอุตสาหะในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายด้วยความตั้งใจ

ดังนั้นอาตมาจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เพื่อพระพุทธศาสนา สุดท้ายได้รับแต่งตั้งจากประธานคณะกรรมการฝ่ายอนุกรรมการจากมหาเถรสมาคม ให้ขับเคลื่อนโครงการวัดประชารัฐสร้างสุข ซึ่งก็ได้ดำเนินการมาทั่วประเทศ

พระธรรมรัตนาภรณ์ ที่พวกท่านได้ทราบ ซึ่งได้มาถามอาตมา ก็ตอบไม่ถูกว่าที่ให้ออกจากตำแหน่งด้วยสาเหตุอะไร ซึ่งเป็นโจทย์ที่ตอบไม่ได้ว่าผิดเรื่องอะไร การถอดถอนการปลดนั้นต้องเป็นไปตามกฎบัญญัติของมหาเถรสมาคม ที่กำหนดไว้ถ้าไม่ปฏิบัติตามกฎหมายของมหาเถรสมาคม ที่บัญญัติไว้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

โดยเฉพาะกฎมหาเถรสมาคมที่กำหนดไว้ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใหม่ ระบุไว้ชัดเจนว่าในการแต่งตั้งถอดถอนพระเจ้าคณะใหญ่ เจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด เจ้าอาวาสพระอารามหลวง เมื่อได้ดำเนินการตามกฎของมหาเถรสมาคมแล้ว ให้เสนอมหาเถรสมาคมเพื่อพิจารณาทุกกรณี นำเสนอราชเลขาธิการเพื่อกราบบังคมทูลมีพระราชดำริต่อไป และมีพระราชดำริเป็นประการใดให้ปฏิบัติไปตามนั้น

“สิ่งที่อาตมาได้รับ คิดว่าไม่เป็นธรรมต่ออาตมาตรงที่ว่าไม่ได้มีการสอบสวนทวนความใดๆ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าคณะผู้ใกล้ชิดก็ไม่ได้สอบถาม ไม่เคยเรียกอาตมาไปคุยเลยแม้แต่น้อย ซึ่งอาตมาไม่เคยรู้เรื่องใดๆ เลยที่จะมีการถอดถอน วันนี้ที่อาตมามาแถลงข่าว ก็เพื่อขอความเป็นธรรม เพราะฉะนั้นการถอดถอนเป็นเรื่องที่น่าคิดมาก ตรงนี้ก็อยากจะตอบว่าไม่ขอต่อความยาวสาวความยืด เป็นเรื่องที่น่าคิด

ถ้าเป็นเรื่องแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาก็ยังดี ให้ออกก็ยังดี แต่ว่าถอดถอนหรือปลด เป็นอันตรายต่อพระมาก เหมือนถูกตัดคอหรือประหารชีวิต เพราะฉะนั้นท่านทั้งหลายอาจจะมาขอความเป็นธรรม ญาติโยมมาถามหลวงพ่อผิดอะไรอาตมาก็ตอบไม่ถูก พระที่มาให้กำลังใจก็ถามว่าผิดอะไร อาตมาก็ตอบไม่ถูก ไม่รู้ว่าผิดอะไรนี่คือสิ่งที่อาตมาได้รับ” พระธรรมรัตนาภรณ์กล่าว

ที่ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี อ.เมือง จ.ปทุมธานี ลูกศิษย์และประชาชนจำนวน 100 คน นำโดยนายสมชาย ระภานุสิทธิ์ และนางแดง ทิมทอง ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมให้พระธรรมรัตนาภรณ์ ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ผ่านศูนย์ดำรงธรรม นอกจากนี้ ยังยื่นหนังสื่อต่อผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ปทุมธานี ซึ่งมี นายเดชา ละลีย์ นักวิชาการศาสนาชำนาญการพิเศษ เป็นผู้รับเรื่อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน