ยอดตายโควิด
กลับพุ่งสูงอีก!

ตายโควิดเพิ่ม 113 ติดเชื้ออีก 11,200 สธ.ห่วง 4 จว.ใต้ติดเชื้อยังสูงหวั่นหนักเท่ากทม. ตรังปิด 4 ตลาดที่ห้วยยอด หลังพ่อค้าแม่ค้าติดเชื้อ ยะลาปิดตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง แม่ฮ่องสอนสั่งปิด 9 หมู่บ้านที่ปาย และ 2 หมู่บ้านที่สบเมย เนื่องจากติดเชื้อพุ่ง ผู้ว่าฯจันทบุรีสั่งห้ามซื้อขายเหล้า เบียร์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกจุดทั้งจังหวัดจนถึงสิ้นเดือนต.ค. เนื่องจากพบติดเชื้อในงานเลี้ยงฉลอง สังสรรค์อื้อ เปิดจองฉีดเข็ม 3 วันเดียวเต็ม

ติดเชื้ออีก11,200-ดับ113

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ว่า มีติดเชื้อเพิ่ม 11,200 ราย อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 2,553 ราย พื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ 1,949 ราย จังหวัดอื่นรวม 67 จังหวัด 6,540 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 138 ราย ผู้เดินทางจากต่างประเทศ 20 ราย มีผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,678,297 ราย หายป่วยแล้ว 10,087 ราย หายป่วยสะสม 1,524,431 ราย รักษาอยู่ 109,022 ราย อยู่ในโรงพยาบาล 39,982 ราย โรงพยาบาลสนามและอื่นๆ 69,040 ราย อาการหนัก 3,000 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 715 ราย

มีเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 113 ราย อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 45 ราย พื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ 11 ราย จังหวัดอื่นๆ รวม 67 จังหวัด 57 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 17,418 ราย

รายละเอียดผู้เสียชีวิต 113 ราย เป็นชาย 67 ราย หญิง 46 ราย คนไทย 110 ราย เมียนมา 2 ราย กัมพูชา 1 ราย เป็นผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 83 ราย มีโรคเรื้อรัง 22 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 7 ราย ตั้งครรภ์ 1 ราย อายุ 19 ปี จ.แม่ฮ่องสอน โดยไม่ได้รับวัคซีน

สำหรับ 10 จังหวัดติดเชื้อใหม่สูงสุด ได้แก่กรุงเทพฯ 1,279 ราย สมุทรปราการ 795 ราย ชลบุรี 752 ราย ยะลา 740 ราย สงขลา 596 ราย จันทบุรี 450 ราย ระยอง 398 ราย นราธิวาส 332 ราย ปราจีนบุรี 330 ราย นครศรีธรรมราช 313 ราย

‘น่าน-แพร่’ป่วยเป็น 0

เมื่อดูภาพรวมการติดเชื้อใหม่ในประเทศ ในพื้นที่ต่างจังหวัด 67 จังหวัด มีผู้ติดเชื้อ 6,540 ราย คิดเป็น 59% กรุงเทพฯ และปริมณฑล 2,553 ราย คิดเป็น 23% ชายแดนใต้ 1,949 ราย คิดเป็น 18% โดยกรุงเทพฯ เป็นจังหวัดเดียวมีติดเชื้อเกิน 1,000 ราย และไม่มีผู้ติดเชื้อ 2 จังหวัด คือ น่าน และแพร่

ฉีดวัคซีนแล้ว 57 ล้านโดส

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงสถานการณ์โรค โควิด-19 ว่า ข้อมูลวันที่ 6 ต.ค. ประเทศไทยฉีดวัคซีนโควิด-19 สะสม 57,387,052 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 33,774,684 โดส คิดเป็น 46.9% เข็มสอง 22,005,722 โดส คิดเป็น 30.5% และเข็มสาม 1,606,646 โดส คิดเป็น 2.2% โดยการฉีดเข็มแรกของกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ได้แก่บุคลากรสาธารณสุข 123.5% เจ้าหน้าที่ด่านหน้า 62.3% อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) 72.5% ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 62% ประชาชนทั่วไป 44.3% ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 59.3% หญิงตั้งครรภ์ 14% และนักเรียนอายุ 12-17 ปี ที่เริ่มคิกออฟวันที่ 4 ต.ค. ฉีดแล้ว 7.4 หมื่นราย

“วัคซีนจะมีเพียงพอและสามารถจัดการให้ฉีดวัคซีนได้เร็วที่สุด โดยเป้าหมายสิ้นต.ค.นี้ จะฉีดเข็มแรก 43 ล้านคน คิดเป็น 61% เข็มสอง 26 ล้านคน คิดเป็น 37% ส่วนสิ้นพ.ย. เข็มแรกจะได้ 75% เข็มสอง 55% จะถือว่าได้ตามมาตรฐานโลกในการฉีดวัคซีนของประเทศที่พัฒนาแล้ว และสิ้นธ.ค.เข็มแรกจะได้ 85% และเข็มสองครอบคลุม 70% เรียกว่าเกือบทุกคนในประเทศไทยจะได้รับอย่างน้อยสองเข็ม และเข็มสามจะค่อยๆ เพิ่มต่อไป หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน คาดว่าวันที่ 1 ม.ค. 2565 สถานการณ์ต่างๆ น่าจะคลี่คลายได้มาก การดำเนินชีวิตต่างๆ คงกลับมาแบบปกติสุขในแบบนิวนอร์มัลต่อไป”

สธ.ชี้ไทยถึงทางแยกโควิดระบาด

นพ.เกียรติภูมิกล่าวด้วยว่า สำหรับประเทศไทยวันนี้รายงานติดเชื้อ 11,200 ราย เสียชีวิต 113 ราย รักษาหาย 10,087 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 109,022 ราย ภาพรวมการป่วยหนักปอดอักเสบลดลงจาก 5-6 พันราย เหลือ 3 พันราย ใส่ท่อช่วยหายใจก็ลดต่อเนื่องวันนี้รายงาน 715 ราย สถานพยาบาลยังมีเตียงเพียงพอ

นพ.เกียรติภูมิกล่าวต่อว่า พื้นที่กทม.และปริมณฑลการติดเชื้อค่อยๆ ลดลงตามลำดับ และต่ำลงมาเรื่อยๆ ในระดับที่ควบคุมได้ ถือว่าค่อนข้างปลอดภัย เพราะทั้งจำนวนการฉีดวัคซีน การติดเชื้อรายวัน ถือว่าดีขึ้น ส่วนจังหวัดต่างๆ ช่วงแรกลดลง ตอนนี้ทรงตัว และมีแนวโน้มอาจจะเพิ่มขึ้นได้ แต่เมื่อแยกตามพื้นที่ พบว่าพื้นที่ชายแดนใต้กำลังเพิ่มขึ้นตามลำดับ และเป็นตัวทำให้การและตัวเลขของต่างจังหวัดสูงขึ้น ดังนั้นต่างจังหวัดที่ไม่รวมชายแดนใต้สถานการณ์ถือว่าดีขึ้นช้าๆ ยังอยู่ในการควบคุม ส่วนชายแดนใต้ติดเชื้อมากขึ้นต้องลงไปควบคุมโรค เร่งการฉีดวัคซีน และขอความร่วมมือดำเนินการตามมาตรการต่างๆ เพื่อลดการติดเชื้อไม่ให้สูงขึ้น เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้อีกระยะอาจมีปัญหาคล้าย กทม.

“เมื่อล็อกดาวน์ เราสามารถลดจำนวนผู้ติดเชื้อลงได้ เมื่อปรับมาตรการหากไม่ทำอะไรเลย คาดการณ์ว่าการติดเชื้อรายวันอาจกลับขึ้นมาพุ่งไปถึง 3 หมื่นราย จึงต้องอาศัยมาตรการอื่นๆ ควบคู่ด้วยเพื่อกดตัวเลข ซึ่งขณะนี้สถานการณ์จริงมาถึงทางแยกแล้ว ประสิทธิ ผลล็อกดาวน์น่าจะหมดแล้วหลังควบคุมได้ 2 เดือน แต่ถ้าร่วมมือกันก็จะลดลงมาได้” นพ.เกียรติภูมิกล่าว

ห่วงใต้ระบาดหนักเท่ากทม.

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวถึงการควบคุมโรค โควิด-19 ในพื้นที่ภาคใต้ว่า พื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้มีการระบาดมากขึ้น พบการระบาดทั้ง 3 สายพันธุ์ คือ เบตา อัลฟา และเดลตา จากการลงพื้นที่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งยะลา สงขลา ปัตตานี พบว่าต้องมีมาตรการต่างๆ เข้มมากขึ้น อย่างการส่งเสริมร้านอาหาร ร้านค้า หรือการดำเนินการต่างๆ เกี่ยวกับมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (Covid Free Setting) และการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) แม้จะไม่ได้บังคับ แต่เป็นการเชิญชวน อย่างการไปร้านอาหาร ร้านค้า หากไม่มีการทำโควิดฟรีเซ็ตติ้ง ประชาชนต้องช่วยกันทวงถาม เพื่อให้เกิดการตื่นตัว

นพ.เกียรติภูมิกล่าวว่า สิ่งสำคัญจะต้องมีมาตรการต่างๆ ควบคู่กันเพื่อป้องกันโรคในพื้นที่ภาคใต้ให้ได้ โดยมีทั้งการส่งชุดตรวจ ATK ลงไปเพิ่มเติม ส่งยาฟาวิพิราเวียร์ เนื่องจากพบว่าใช้ยาเพียง 30% ทำให้อัตราการเสียชีวิตยังสูง แนะนำว่าก่อน 4 วันแรกต้องให้ยาเพราะได้ผลดีมาก ขณะนี้ส่งไปประมาณ 1 ล้านเม็ด และจะติดตามการดำเนินการควบคุมป้องกันโรคเพิ่มเติมกับทางผู้ตรวจราชการฯ และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอย่างใกล้ชิด ซึ่งน่าจะทำให้การติดเชื้อจะชะลอได้ ขณะเดียวกันยังได้ส่งวัคซีนโควิดเข้าไปอีกเป็นแสนโดส ทั้งแอสตร้าเซนเนก้า ซิโนแวค และไฟเซอร์

เมื่อถามว่าพื้นที่ชายแดนใต้ยังไม่ค่อยฉีดวัคซีน เนื่องจากความเชื่อวัฒนธรรม นพ.เกียรติภูมิกล่าวว่า ต้องทำความเข้าใจ พยายามให้ผู้นำทางศาสนาเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งเรื่องสุขภาพน่าจะก้าวข้ามเรื่องสังคมได้ และคิดว่าทุกวัฒนธรรมอยากให้คนมี สุขภาพดี แข็งแรง

เมื่อถามว่าหากไม่มีการดำเนินการใดๆ คาดการณ์ว่าภาคใต้จะระบาดหนักเทียบกทม.ในระยะเวลาเท่าใด นพ.เกียรติภูมิกล่าวว่า ตนให้นโยบายไปดำเนินการจัดทำแบบจำลองในแต่ละจังหวัด รวมทั้ง 4 จังหวัดภาคใต้ แต่ยังไม่ได้รับรายงานกลับมา ซึ่งการทำแบบนี้จะได้ให้มีการควบคุมกำกับ คล้ายกับแบบจำลองระดับประเทศ ซึ่งตอนนี้ก็มาถึงทางแยก แต่จริงๆ ก็ไม่ใช่ เพราะเมื่อคลายล็อกดาวน์ยอดก็ต้องขึ้น แต่เมื่อขึ้นจะทำอย่างไรไม่ให้เป็นจริง มีมาตรการลดผู้ติดเชื้อ ซึ่งขออีก 2 เดือน เมื่อเข้าต.ค. และพ.ย. เชื่อว่าจะเบาลง เพราะวัคซีนเข็มที่ 1 ครอบคลุม 70% สิ้น ธ.ค.ก็จะได้รับวัคซีน 85%

เมื่อถามว่าต้นม.ค. 2565 จะมีข่าวดีใช่ หรือไม่ ปลัดสธ.กล่าวว่า ก็อยากให้มีข่าวดี ตนเข้าใจว่า ทุกคนอยากพบปะเจอกัน อย่างเด็กไปโรงเรียนฉีดวัคซีน ดีใจกันมากได้เจอเพื่อน

เล็งล็อกดาวน์4จว.ใต้

เมื่อถามว่าทางภาคใต้จำเป็นต้องล็อกดาวน์หรือไม่ นพ.เกียรติภูมิกล่าวว่า ได้ให้นโยบายไว้เหมือนกัน หากมาตรการที่มีอยู่ไม่เพียงพอ อาจต้องใช้มาตรการทางสังคมเช่นกัน

ถามถึงกรณีการฉีดสูตรไขว้แอสตร้าเซนเนก้า-ไฟเซอร์ นพ.เกียรติภูมิกล่าวว่า จริงๆ ในเชิงวิชาการสามารถใช้สูตรนี้ได้ แต่ตอนนี้จะกระทำแล้ว ก็ให้ยืนยันมา ซึ่งวันนี้มี การประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ซึ่งวัคซีนยิ่งมีทางเลือกก็ยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยตอนนี้ข้อมูลต่างๆ มีหมดแล้ว เพียงแต่เราจะประกาศทางการ ซึ่งในทางวิชาการใช้ได้อยู่แล้ว แต่จะต้องรายงานเข้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (อีโอซี) ศปก.สธ. และศบค.ใหญ่รับทราบและประกาศใช้เป็นมาตรฐาน ต้องให้พิจารณาว่าถึงเวลาหรือยังที่จะใช้ได้

3วันฉีดนร.แล้ว7.4หมื่น

ด้านนพ.เฉวตสรร นามวาท ผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน สธ. กล่าวว่า การฉีดวัคซีนในนักเรียนจนถึงเมื่อวันที่ 6 ต.ค. ฉีดแล้ว 74,500 ราย ซึ่งบางคนรู้สึกว่าคิกออฟแล้วน่าจะฉีดวันละหลายหมื่นหรือแสนราย แต่การฉีดในนักเรียนมีการวางแผนตามความพร้อม ซึ่งโรงเรียนหลายแห่งกำลังสอบอยู่ อย่างในกทม.เรียนออนไลน์ก็สอบปลายภาคช่วงนี้ จึงอยู่ที่ความพร้อมการกำหนดจุดบริการ และการฉีดยังเป็นวัคซีนชนิด mRNA ที่ต้องดูแลอุณหภูมิอย่างดี

“ส่วนข้อกังวลอาการไม่พึงประสงค์ คืออาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ถือว่าเจอต่ำมาก ซึ่งก่อนเริ่มฉีดกลุ่มนักเรียน ก็ฉีดเด็กที่มีโรคประจำตัวแสนราย พบอาการนี้ 6 ราย แปลว่าอีก 9.9 แสนราย ไม่มีอาการ แต่ที่ต้องเตือนเพื่อหากมีอาการ คือแน่นหน้าอก ใจสั่น หายใจเหนื่อย หน้ามืด หมดสติ จะได้ไปดูแล ซึ่งรักษาหายได้ โดยให้สังเกตอาการช่วงหลังฉีด 1-5 วันแรก หากมีอาการสงสัยให้บอกผู้ปกครอง ถ้าเรียนอยู่ให้บอกครู เพื่อรับไปดูแล โดยวัคซีนมีความปลอดภัย ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) แจ้งว่าเดิมมีการแสดงความจำนงฉีด 3.6 ล้านคน ตอนนี้เพิ่มอีกเป็นหลักแสน ก็สามารถจัดสรรดูแลเรื่องวัคซีนได้ต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เกิดประโยชน์ต่อนักเรียนที่ต้องศึกษาเล่าเรียน ครอบครัว และช่วยลดการระบาดลงต่อเนื่อง”

กต.เผยวัคซีนยุโรปกำลังส่งให้ไทย

นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความร่วมมือการจัดหาวัคซีนป้องกันโรค โควิด-19 จากประเทศยุโรป ได้แก่ เยอรมนี ฮังการี และไอซ์แลนด์ว่า เมื่อวันที่ 5 ต.ค.64 คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้จัดซื้อวัคซีน แอสตร้าเซนเนก้า 400,000 โดส จากฮังการี และรับบริจาควัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 346,100 โดสจากเยอรมนี และวัคซีนไฟเซอร์ 100,620 โดสจากไอซ์แลนด์

“ฮังการีเสนอขายต่อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าจำนวนดังกล่าวให้แก่ไทยในราคาทุนที่ฮังการีซื้อจากผู้ผลิต ความร่วมมือครั้งนี้เป็นผลมาจากความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด โดยเฉพาะระหว่างรองนายกรัฐมนตรีและรมว.การต่างประเทศของไทย กับรมว.การต่างประเทศและการค้าของฮังการี ซึ่งหารือในประเด็นดังกล่าว ระหว่างการพบหารือที่การประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา สำหรับเยอรมนีเสนอที่จะบริจาควัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 346,100 โดส ให้แก่ประเทศไทย นอกเหนือจากการบริจาคยารักษาโรคโควิด 2,000 ยูนิตที่มอบให้แก่ประเทศไทยก่อนหน้านี้แล้ว ขณะนี้วัคซีนดังกล่าวอยู่ระหว่างขั้นตอนเตรียมการจัดส่ง และไอซ์แลนด์เสนอที่จะบริจาควัคซีนไฟเซอร์ 100,620 โดสให้แก่ประเทศไทย ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการขนส่ง โดยเป็นการแสดงไมตรีจิตที่ดีของฝ่ายไอซ์แลนด์ ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ราบรื่นกับไทยเสมอมา แม้ทั้งสองประเทศจะมีที่ตั้งที่ห่างไกลกัน”

แจ๊ดดูแล – พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี ให้กำลังใจชาวบ้านและทีมแพทย์ที่จุดฉีดวัคซีนฟิวเจอร์พาร์ครังสิต จ.ปทุมธานี โดยฉีดแล้วกว่า 300,000 คน และสั่งจองไว้อีก 2 แสนโดส เพื่อฉีดให้ได้เกิน 90% ของจำนวนประชากร เมื่อวันที่ 7 ต.ค.

ปทุมฯฉีดซิโนฟาร์มอีก2แสนโดส

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกอบจ.ปทุมธานี เดินทางมาอำนวยความสะดวกกับประชาชนและให้กำลังใจทีมบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งอบจ.ปทุมธานีจัดซื้อวัคซีนจากสถาบันราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เพิ่มอีก 200,000 โดส สำหรับประชาชนชาวปทุมธานี 100,000 คน

‘บ้านเชียง’ติดเชื้อ 15-ปิดตลาด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเชียง ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี แหล่งมรดกโลก พบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 15 ราย มีทั้งพระและโยม จากคลัสเตอร์งานศพ 4 ศพ ทางเทศบาล ต.บ้านเชียง สั่งปิดสถานที่ต่างๆ ทั้งตลาดสด ตลาดอาหารเย็น และสถานที่สำคัญต่างๆ เป็นเวลา 3 วัน

สงขลาป่วยใหม่พุ่ง 596

สำนักงานสาธารณสุขสงขลารายงานว่า พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 596 คน ไม่มีการเสียชีวิต ยอดสะสมผู้ติดเชื้อ 34,479 คน เสียชีวิตสะสม 158 ราย นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 6,200 คน

ตรังปิด4ตลาดที่ห้วยยอด

ที่บริเวณอาคารพลศึกษาไทยเข้มแข็ง เทศบาลตำบลห้วยยอด อ.ห้วยยอด จ.ตรัง นายธวัชชัย วรพงศ์พัฒน์ นายกเทศมนตรีตำบลห้วยยอด ประสานทีมแพทย์จากโรงพยาบาลเอกชนเพื่อเร่งตรวจค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกด้วยชุดตรวจ ATK ให้กับพ่อแม่ค้าและประชาชนกลุ่มเสี่ยงในเขตเทศบาลตำบลห้วยยอด และใกล้เคียงรวมกว่า 400 คน หลังพบเชื้อได้แพร่ระบาดในกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนภายในตลาดสด และตลาดนัด ภายในเขตเทศบาลตำบลห้วยยอด รวม 4 แห่ง ขณะนี้ติดเชื้อแล้ว 80 ราย ต้องเร่งตรวจหาเชื้อเชิงรุกกับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่เหลือทั้งหมด และสั่งปิดตลาดทั้ง 4 แห่ง ในเขตเทศบาลตำบลห้วยยอด คือ ตลาดเสริมสุข (ตลาดควนหนังขำ) ตลาดศรีศุภผล ตลาดดับเพลิง และตลาดหน้าสถานีรถไฟ ไปจนถึงวันที่ 9 ต.ค.นี้ หรือจนกว่าจะควบคุมพื้นที่ระบาดได้

เบตงปิดตลาดสดกลางเมือง

ส่วนที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา นายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง นำทีมเจ้าหน้าที่จากกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองเบตง และสำนักงานสาธารณสุขลุยล้างทำความสะอาดตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง พร้อมตรวจติดตามการเฝ้าระวังป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หลังจังหวัดยะลามีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุดเป็นอันดับ 6 ของประเทศ

จากการตรวจ ATK พ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดสด 43 ราย พบติดเชื้อโควิด 14 ราย ทางศปก.เทศบาลเมืองเบตง มีคำสั่งปิดตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง ตั้งแต่วันที่ 5-10 ต.ค.นี้

‘ปาย’ล็อกดาวน์9หมู่บ้าน

วันเดียวกัน นายอนุสรณ์ มณีเลิศ นายอำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน ออกคำสั่งอำเภอ เรื่องการควบคุมพื้นที่เพื่อป้องกันและจำกัดการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดได้กระจายไปในหลายหมู่บ้าน พื้นที่ต.เวียงเหนือ และต.แม่นาเติง อ.ปาย จึงมีคำสั่งให้หมู่ที่ 2-4, 6, 8-10 ต.เวียงเหนือ และหมู่ที่ 6 และ 11 ต.แม่นาเติง อ.ปาย เป็นพื้นที่ควบคุมเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 6-20 ต.ค.2564 หรือจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น

จันท์ห้ามขายเหล้า-เบียร์ทั้งจว.

ด้านนายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าฯ จันทบุรี ลงนามในคำสั่งห้ามจำหน่าย จ่าย แจก หรือแลกเปลี่ยน สุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกประเภท เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่จ.จันทบุรี ยังพบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่องและยังไม่มีแนวโน้มจะลดลง โดยพบการแพร่ระบาดในกลุ่มผู้ร่วมจัดเลี้ยงสังสรรค์ในงานประเพณี และพิธีการต่างๆ รวมถึงพบการระบาดในกลุ่มตั้งวงดื่มสุราเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ในสถานที่ทำงาน เคหสถาน หรือสถานที่ต่างๆ พฤติการณ์ดังกล่าวทำให้พบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนจำนวนมากและยังไม่สามารถควบคุมโรคได้ ส่งผลกระทบต่อระบบการบริการสาธารณสุข การดำเนินชีวิต และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวมเพื่อเป็นการควบคุมและระงับยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. ถึง 31 ต.ค.2564

‘สบเมย’สั่งปิด2หมู่บ้าน

ด้านนายผะอบ บินสะอาด นายอำเภอสบเมย จ.แม่ฮ่องสอน มีคำสั่งปิดพื้นที่บ้านห้วยกระต่าย หมู่ที่ 8 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย และบ้านห้วยวอก หมู่ที่ 6 ต.กองก๋อย อ.สบเมย ตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค. ถึงวันที่ 2 พ.ย.2564 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด

ลงทะเบียนเข็ม3วันเดียวเต็มแล้ว

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อเปิดให้ประชาชนจองคิวเพื่อรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทั้งเข็มที่ 1 และเข็มที่ 3 ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ โดยเริ่มลงทะเบียนวันแรกในวันที่ 7 ต.ค.64 เวลา 09.00 น. โดยจะเริ่มฉีด 9-31 ต.ค.64 โดยการจองคิวฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 สำหรับผู้ที่ไม่เคยรับวัคซีนโควิด และมีอายุตั้งแต่ 18 ปี โดยจะเป็นการฉีดสูตรไขว้ ชนิดวัคซีน เข็มที่ 1 คือซิโนแวค และเข็มที่ 2 คือแอสตร้าเซนเนก้า มีระยะห่าง 21 วัน

ล่าสุด AIS แจ้งผ่านทางช่องทางโซเชี่ยล ระบุการลงทะเบียนฉีดเข็ม 3 เต็มจำนวนแล้ว ขณะที่เข็ม 1 ยังสามารถลงทะเบียนได้อยู่ ส่วน NT หรือ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ และ True แจ้งว่าเข็ม 3 ลงทะเบียนเต็มแล้วเช่นกัน

สำหรับการจองคิวฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ผู้ที่รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มแล้วภายใน 31 ก.ค.64 จากศูนย์ฉีดหรือร.พ.อื่นๆ ทุกแห่ง และต้องการรับวัคซีนเข็มกระตุ้นชนิดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า

วัคซีนน.ร. – นักเรียนและเยาวชนอายุ 12-18 ปี เข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เป็นวันแรก ที่จุดฉีดศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซานครราชสีมา โดยทั้งจังหวัดมีผู้ปกครองยินยอมให้บุตรหลาน รับวัคซีนทั้งสิ้น 1.4 แสนคน เมื่อวันที่ 7 ต.ค.

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน