ตู่เยือนนครศรี
จนท.2พันคุ้มกัน
ป้อมลุยสระแก้ว

‘บิ๊กติ๊ก’ เข้าชี้แจงข้อหา แจ้งบัญชีทรัพย์สินเท็จ อนุฯไต่สวนป.ป.ช. เผยคืบหน้า เตรียมสรุปส่งป.ป.ช.ชุดใหญ่พิจารณา ‘บิ๊กตู่’ เยือนนครศรีฯ ตร.-ทหารระดมคุ้มกันเข้ม 2 พันนาย ส.ส.พปชร.-ปชป.ภาคใต้ เข้าแถวต้อนรับพร้อมหน้า ปลื้ม ชาวบ้านชูป้ายเชียร์-ตะโกนให้กำลังใจสู้ๆ ดังสนั่น นายกฯ แหลงใต้ ‘รักจังฮู้’ ลั่นอย่าให้ใครมาแบ่งแยกฝ่าย ‘บิ๊กป้อม’ ลุยภารกิจสระแก้ว วันนี้ ‘จุรินทร์’ เตือนรัฐบาลอย่าแตะให้กระเพื่อมอีก เพื่อไทยซัด ‘บิ๊กตู่’ จะชิง นายกฯ อีกสมัย ให้เลิกบ้าอำนาจ

‘บิ๊กตู่’ลุยนครศรีฯ-ส.ส.ใต้แห่รับ

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ลงพื้นที่ตรวจการบริหารจัดการน้ำ และตรวจแผนการป้องกันอุทกภัยและการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จ.นครศรี ธรรมราช โดยมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ร่วมคณะ

ส่วนบรรยากาศการต้อนรับ มีส.ส.ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 14 คน มาต้อนรับและลงพื้นที่ด้วยเกือบทั้งหมด ประกอบด้วย ส.ส.นครศรีธรรมราช ทั้ง 4 คน นายรงค์ บุญสวยขวัญ นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง นายสายัณห์ ยุติธรรม และนายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ, ส.ส.ภูเก็ต นายนัทธี ถิ่นสาคู นายสุทา ประทีป ณ ถลาง , ส.ส.สงขลา นาย วันชัย ปริญญาศิริ นายศาสตรา ศรีปาน นายพยม พรหมเพชร ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี , นาย นิพันธ์ ศิริธร ส.ส. ตรัง ,นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.ยะลา และนายวัชระ ยาวอหะซัน ส.ส.นราธิวาส ขาดเพียงนายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส เนื่องจากป่วยและยังมีส.ส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ร่วมต้อนรับในจุดต่างๆ ด้วย

รปภ.ขั้นสูงสุด-ใช้จนท.2พันนาย

สำหรับการรักษาความปลอดภัยในแต่ละจุดที่พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่นั้น มีการปรับแผนยกระดับการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด มีการระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจจากทั้งจ.นครศรีธรรมราช และใกล้เคียงมาปฏิบัติหน้าที่รายทางตามเส้นทางการเดินทาง ชุดควบคุมฝูงชน หรือ คฝ.ที่เตรียมความพร้อมกรณีเกิดการชุมนุมขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่คอยปิดการจราจรตามแยกต่างๆ และยังมีกองกำลังติดอาวุธจากมณฑลทหารบกที่ 41 ค่ายวชิราวุธ กองทัพภาคที่ 4 เข้ารักษาพื้นที่อย่างเข้มงวด รวมใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมดราว 2 พันคน แต่ไม่มีม็อบมาชุมนุมต่อต้าน นายกฯ ในจุดใด มีเพียงกลุ่มนครเสรีเพื่อประชาธิปไตย เคลื่อนไหวผ่านเพจเฟซบุ๊กเพื่อรวมพลคนไม่เอาประยุทธ์

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้โพสต์ประกาศแจ้งเตือน 4 ข้อห้ามที่ผิดกฎหมาย ประกอบด้วย 1.ปาไข่ หรือไข่เน่า 2.ด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย 3.เอารูปนายกฯหรือพระบรมฉายาลักษณ์มาเผา อาจทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายหรืออาจทำให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย 4.นำภาพ นายกฯไปลงเฟซหรือไลน์หรือในสื่อโซเชี่ยลด้วยข้อมูลเท็จ หรือหลอกลวง อาจมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ขอพร – พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพระ บรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ระหว่างไปตรวจราชการและการบริหารจัดการน้ำใน จ.นครศรี ธรรมราช เมื่อวันที่ 7 ต.ค.

ถวายผ้าห่มองค์พระบรมธาตุฯ

เวลา 13.30 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางมายังวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร วัดคู่บ้าน คู่เมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) และนายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ต้อนรับ พร้อมส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในพื้นที่

โอกาสนี้ พล.อ.ประยุทธ์ถวายผ้าห่มองค์พระบรมธาตุฯ และถวายเครื่องไทยธรรม จตุปัจจัยแด่พระเทพวินยาภรณ์ (สมปอง ปัญญาทีโป) เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช และรองเจ้าคณะภาค โดยเจ้าอาวาสได้มอบพระพุทธรูปให้นายกฯ เพื่อเป็นที่ระลึก

ขณะเดียวกัน มีชาวบ้านมาต้อนรับ พร้อมมอบดอกไม้ให้กำลังใจและตะโกน “ลุงตู่สู้ๆ นายกฯสู้ๆ อย่าลาออก” และนายกฯ ถ่ายภาพร่วมกับชาวบ้านเป็นที่ระลึก พร้อมกล่าวกับเด็กๆ ที่มาต้อนรับว่า “เรียนหนังสือให้จบนะ เคารพพ่อแม่ กตัญญูรู้คุณ ความรักความสามัคคีเท่านั้นที่ทำให้เราพ้นจากความทุกข์ ทั้งปวง ต้องเดินไปด้วยกันนะจ๊ะ ช่วยกันพลิกโฉมภาคใต้ของเราใหม่”

อ้อนชาวบ้าน‘รักจังฮู้’

เวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ตรวจการบริหารจัดการน้ำในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ที่สะพานคลองหน้าเมือง (จุดตั้งเครื่องสูบน้ำ) ต.ปากนคร อ.เมืองนครศรีธรรมราช จากนั้น ตรวจแผนการป้องกันอุทกภัยและการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช ที่บริเวณถนนพุทธภูมิ (ด้านถนนเลียบทางรถไฟ จุดยูเทิร์นที่ 1) ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมืองนครศรีธรรมราช

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับชาวบ้านว่า เราต้องอยู่ด้วยความรักความสามัคคี อย่าให้ใครมาบ่อนทำลายได้ สังคมต้องอยู่ด้วยกัน พ่อแม่พี่น้องพี่ป้าน้าอา ใครจะมาทำลายไม่ได้ นี่คือสันหลังของประเทศไทย สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นสิ่งสำคัญยิ่งของประเทศ เราต้องมีความรักความสามัคคี ไม่เกลียดชัง ให้ร้ายกัน และฟังในสิ่งที่เป็นประโยชน์ อยากบอกว่ารักจังฮู้ เพราะคิดถึงจึงมาหา และมาดูแลเตรียมความพร้อมเครื่องป้องกันน้ำท่วม

นายกฯ ยังได้แนะนำตัวรัฐมนตรีที่เดินทางมาด้วย และกล่าวว่า ขอบคุณทุกคนด้วยใจจริงและบรรดาส.ส.ทั้งหมดที่มารับวันนี้ด้วย และเรียก ส.ส. นักการเมืองที่มาต้อนรับทีละคนให้ออกมาแนะนำตัวกับชาวบ้าน พร้อมกล่าวว่า วันนี้มี ส.ส.มาจากหลายพื้นที่ ไม่ใช่แค่ส.ส.นครศรีธรรมราช แต่มีทั้ง ส.ส.สงขลา นราธิวาส ภูเก็ต อีกด้วย โดยยืนยันตนเองดูทุกพื้นที่อยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีส.ส. ระบุว่า นอกจากส.ส.ภาคใต้ ยังมี ส.ส.นครสวรรค์ พิจิตร และพิษณุโลกมาด้วย

ลั่นอย่าให้ใครมาแบ่งแยกฝ่าย

เมื่อเวลา 15.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ตรวจเยี่ยมศูนย์ดิจิทัลชุมชน ต.มะม่วงสองต้น อ.เมืองนครศรีธรรมราช โดยพล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้เราทำงานร่วมกันทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ รวมทั้งบรรดาส.ส.ต่างๆ ก็ดูแลความต้องการของประชาชนในพื้นที่ วันนี้เราต้องไม่ให้ใครมาแบ่งแยกพวกเรา เป็นกลุ่มเป็นฝ่ายให้ทุกคนมีความรักความสามัคคี เพื่อจะพาคนในชาติเจริญก้าวหน้าไปพร้อมกัน อยากให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีมีความสุข นั่นคือเป็นเป้าหมายของรัฐบาลอย่างยิ่งยวด ที่จะทำงานให้ทุกคนอย่างเต็มที่ ร่วมกันพลิกโฉมประเทศไทยไปกับตน ไม่ให้กลับมาสู่ที่เดิม จะเดินช้าเกินไปไม่ได้ ขอฝากทุกคนไว้ได้ ตนทำคนเดียวไม่ได้ รู้ว่า ท่านเชื่อมั่นตน เชื่อมั่นคนของท่าน

ต่อมาเวลา 16.10 น. พล.อ.ประยุทธ์ได้เยี่ยมชมนิทรรศการต่างๆ และขอให้กรมประชาสัมพันธ์ เปิดเพลงชาติไทย พร้อมร้องเนื้อท่อนที่ว่า “ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย เป็นประชารัฐ” แล้วร่วมร้องเพลงชาติที่หน้าเสาธงโรงเรียนวัดมะม่วงสองต้น จนจบเพลง โดยเมื่อถึงท่อนที่ว่า “ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด” พล.อ.ประยุทธ์ได้นำมือขวาไปกุมไว้ที่หัวใจด้วย เมื่อร้องเพลงจบได้กล่าวคำว่า “ไชโย” 3 ครั้ง พร้อมระบุว่านี่คือประเทศไทยของเรา “ประเทศไทยของเราจงเจริญ” และเดินทางกลับกรุงเทพฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้รถตู้โตโยต้าอัลพาร์ด สีดำ เลขทะเบียน กอ 5817 นครศรีธรรมราช และทุกพื้นที่ รวมทั้งตลอดเส้นทาง จะมีประชาชนยืนชูป้ายและตะโกนให้กำลังใจ “ลุงตู่สู้ๆ รักลุงตู่” และบอกให้อยู่นานๆ เป็นนายกฯ ยาวๆ ไปเลย สร้างรอยยิ้มให้กับนายกฯ เป็นอย่างมาก

‘บิ๊กป้อม’ทำภารกิจที่สระแก้ว

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่สระแก้วในวันที่ 8 ต.ค. เพื่อดูสถานการณ์ น้ำท่วม ว่า การลงพื้นที่ของตนได้บอกกล่าวพล.อ.ประยุทธ์ แล้ว ส่วนนายกฯ ก็บอกตนว่าลงพื้นที่นครศรีธรรมราช ต่างคนต่างบอกกันเพื่อช่วยกันไปทำงานช่วยประชาชน และรองนายกฯ คนอื่นก็ลงพื้นที่ทำไมไม่พูดกันบ้าง ตอนนี้ทุกพรรคลงกันหมดเพื่อช่วยประชาชนให้ดีขึ้น

สำหรับภารกิจของ พล.อ.ประวิตร ที่สระแก้ว นอกจากไปรับทราบสถานการณ์น้ำ การแก้ไขน้ำท่วม-น้ำแล้ง ยังไปรับฟังการแก้ปัญหาที่ทำกินและที่อยู่อาศัยทับซ้อนพื้นที่ป่าไม้ถาวร อ.วังสมบูรณ์ พร้อมตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีน และมอบทุนการศึกษาที่โรงเรียนวังน้ำเย็นวิทยาคม ต.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น

แจงตั้งกุนซือ‘สมศักดิ์-พีระพันธุ์’

พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงการตั้งนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ มาเป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐว่า ให้มาช่วยงาน ไม่ใช่การจัดทัพอะไร ให้มาช่วยงานเพราะงานตนเยอะ

ผู้สื่อข่าวถามว่าการตั้งนายสมศักดิ์ เป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ปลอบใจหลังพลาดตำแหน่งประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ได้ปลอบใจ จะปลอบใจเรื่องอะไร มาเป็นที่ปรึกษาตน มาช่วยงานที่มีเยอะแยะไปหมดและทั้งสองคนก็ไม่ได้แบ่งจะให้ดูเรื่องใด ให้ดูทุกเรื่องจากตน ต่อข้อถามว่าสาเหตุที่ตั้งนาย พีระพันธุ์ เพราะเป็นคอนเน็กชั่นโรงเรียนมัธยมหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า คอนเน็ก ชั่นเรื่องอะไร รู้จักกันมานานแล้ว คุ้นเคยกันมาตั้งแต่เป็นรัฐมนตรี เมื่อปี 2551 ที่ตนเป็นรมว.กลาโหม และนายพีระพันธุ์ เป็นรมว.ยุติธรรม

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ ให้นายพีระพันธุ์ มาช่วยงาน ถือว่าเป็นคนของนายกฯ มาก่อน พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตอนนี้เป็นคนของพรรคพลังประชารัฐ เพราะสมัครเป็นสมาชิกพรรคแล้ว จะเป็นคนของใครและบอกแล้วว่าให้มาช่วยงาน ไม่ได้ให้มาดูด้านไหนเป็นพิเศษ ให้มาช่วยทุกเรื่อง เมื่อถามว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้า นายพีระพันธุ์ จะเป็นหนึ่งในขุนพลของพรรคด้วยหรือไม่ พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า ไม่รู้ จะเป็นขุนพลหรือไม่ขุนพล ทุกคนก็เป็นขุนพลหมด

‘จุรินทร์’เตือนอย่ากระเพื่อมอีก

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ในการลงพื้นที่จ.นครศรีธรรมราชของพล.อ. ประยุทธ์ ตนได้มอบให้ ส.ส.พรรคในพื้นที่นครศรีธรรมราช ไปต้อนรับ ต้องให้เกียรติในฐานะหัวหน้ารัฐบาล และให้ส.ส.รายงานภาพรวมปัญหาในพื้นที่

ผู้สื่อข่าวถามถึงเสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาล ยังเหมือนเดิมหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ยังทำงานร่วมกันไปได้ด้วยดี ยังไม่มีปัญหา คิดว่าให้สถานการณ์เดินหน้าไปตามระบบ เพราะรัฐบาลผสม มีหลักเกณฑ์ วัฒนธรรมทางการเมืองในการทำงานร่วมกันอยู่แล้ว ถ้าไม่ไปแตะอะไร ไม่ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมโดยไม่จำเป็น ปัญหาก็ไม่เกิด และพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลและฝ่ายค้านหลายครั้ง เรามีประสบการณ์ จึงเข้าใจได้ดีถึงการทำงานร่วมกันในรูปแบบรัฐบาลผสมว่าต้องทำอย่างไร

พท.ซัด‘ตู่’ชิงนายกฯอีกสมัย

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนเดือดร้อนได้รับผลกระทบจาก น้ำท่วมในวงกว้าง ขณะที่รัฐบาลมุ่งแก้ปัญหาภายในพรรคร่วมรัฐบาล ปมยึดคืนหน่วยงาน-ทวงคืนหน่วยงานกันไปมาจนวุ่นวาย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้องช่วยเหลือเกษตรกรอย่างทันท่วงที ไม่ใช่พอทวงคืน 4 หน่วยงานกลับมาได้ ก็กระหยิ่มยิ้มย่องกอดคอกันต่อไป ไม่สนใจแก้ปัญหา ทอดทิ้งประชาชน

“พล.อ.ประยุทธ์ไปเอาความมั่นใจมาจากไหน ถึงบอกว่ายินดีเป็นนายกฯ ต่ออีกสมัย ต้องถามประชาชนด้วยว่ายินดีหรือไม่ เพราะมีประชาชนเกือบร้อยละ 70 สะท้อนผ่านนิด้าโพล ถึงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ควรยุติบทบาททางการเมืองได้แล้ว เพราะบริหารงานล้มเหลว ขาดภาวะผู้นำ ไม่มีศักยภาพ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาภายในประเทศได้ ส่งผลกระทบให้ประชาชนเดือดร้อน” นายอนุสรณ์กล่าว

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐจะเสนอ พล.อ.ประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกฯ เพื่อสืบทอดอำนาจระยะยาว และยึดติดอำนาจคุมประเทศ ปูทางนายทหารรุ่นต่อไปขึ้นคุมแทนโดยไม่สนใจว่าประชาชนจะรู้สึกอย่างไร 7 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์สร้างหายนะให้กับประเทศมากแค่ไหน ประชาชนเดือดร้อนทั้งประเทศ เศรษฐกิจพัง ค้าขายฝืด พล.อ.ประยุทธ์ไม่รู้สึกละอายตัวเองหรือ ที่บ้าอำนาจ ควรที่จะละอายต่อบาปบ้าง ทั้งๆ ที่ทำร้ายประชาชนทำลายประเทศขนาดนี้ ต้องพิจารณาแล้วว่าตัวเองจะหลงอำนาจไปอีกทำไม

เปิดตัว‘รวมไทย ยูไนเต็ด’

เวลา 10.30 น. นายวินท์ สุธีรชัย อดีตส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้เปิดตัวกลุ่ม “รวมไทย ยูไนเต็ด” เพื่อประเทศไทยเดินหน้าอย่างมืออาชีพ ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ โดยมี ผู้ร่วมก่อตั้ง 4 คนได้แก่ 1.นายวินท์ 2.นาย วรนัยน์ วาณิชกะ อดีตบรรณาธิการบริหารนิตยสาร GQ 3.นายณิชนัจทน์ สุดลาภา หรือเซเรน่า นางแบบข้ามเพศชื่อดัง และ 4.นายอภิรัต ศิรินาวิน อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคมหาชน ร่วมกันแถลง

นายวรนัยน์กล่าวว่า ตนไม่ได้โม้ว่า รวมไทย ยูไนเต็ด คือคำตอบหรือทางออกของประเทศ เพียงแค่ขอโอกาส ขอให้ประชาชนมีคำตอบว่าใครมีวิสัยทัศน์และศักยภาพบริหารประเทศให้พัฒนาและเจริญ บริหารแบบมืออาชีพ ไม่ใช่เพื่อพวกพ้อง บริหารใช้ธรรมาภิบาล ไม่ใช้ระบบอุปถัมภ์ รวมไทย ยูไนเต็ด คือคนไทยทุกคนร่วมมือกัน อำนาจในมือประชาชนคือคำตอบ ถ้าเราโหวตเหมือนเดิม เราก็จะได้เหมือนเดิม คือความธรรมดาและปานกลาง ถดถอยลงไปสู่ความด้อยการพัฒนาที่ประเทศอื่นแซงเราไป และยืนยันเราไม่ได้เป็นนอมินีของใคร

ด้านนายวินท์กล่าวว่า พวกเรามั่นใจจุดยืนว่าจะสามารถรวบรวมประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศได้แน่นอน สิ่งที่เรารับไม่ได้คือการสืบทอดอำนาจ เราไม่สามารถรับส.ว.ที่มาเลือกนายกฯ ได้

อีสานโพลยังเลือกเพื่อไทย

เมื่อเวลา 09.00 น. นายสุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการสำรวจอีสานโพล ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า จากการสำรวจความคิดเห็นคนอีสานเรื่อง “ดัชนีภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนอีสาน ไตรมาส 3/2564 และคาดการณ์ไตรมาส 4/2564” จากประชาชน 1,110 ราย ระหว่างวันที่ 1-3 ต.ค. พบว่า ดัชนีภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนอีสาน ไตรมาส 3/2564 (ก.ค.-ก.ย.64) เท่ากับ 30.2 จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน ซึ่งจัดอยู่ในระดับแย่ และคาดว่าไตรมาส 3/2564 (ต.ค.-ธ.ค.64) จะเท่ากับ 30.7 ถือว่าดีขึ้น เล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับแย่เช่นกัน

สำหรับคะแนนผลงานรัฐบาลรายไตรมาส คนอีสานให้คะแนนด้านเศรษฐกิจ ร้อยละ 23.0 และหากมีการเลือกตั้งใหม่ พบว่า อันดับ 1 คนอีสานยังเลือก ‘เจ๊หน่อย’คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นนายกฯ รองลงมาคือนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายอนุทิน ชาญวีรกูล เมื่อสอบถามว่าถ้ามีการเลือกตั้ง ส.ส.จะเลือกใคร คนอีสานระบุว่า อันดับที่ 1 พรรค เพื่อไทย รองลงมาคือ พรรคก้าวไกล พรรคพลังประชารัฐ และพรรคภูมิใจไทย

กมธ.ปราบโกงเลื่อนสอบ5ล.

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชี รายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ที่ประชุมกมธ. ได้เลื่อนการตรวจสอบกรณีมีส.ส.อภิปรายในที่ประชุมสภา เมื่อ 2 ก.ย.2564 ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจกล่าวหาพล.อ.ประยุทธ์จ่ายเงิน 5 ล้านบาท ให้ส.ส. ภายในอาคารรัฐสภา เพื่อจูงใจให้ลงมติไว้วางใจ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพพจน์ของสภา เนื่องจากผู้ที่เชิญมาให้ข้อมูล คือ นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรค เพื่อไทย เดินทางไปต่างประเทศ ส่วน น.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส.สมุทรสาคร พรรคพลังประชารัฐ ไม่มาให้ข้อมูล กมธ.จึงจะเชิญมาให้ข้อมูลอีกครั้ง ในวันที่ 19 ต.ค.

สำหรับการเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ รายละเอียดนั้น เบื้องต้นจะเชิญนางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภา ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเก็บภาพในกล้องวงจรปิด และในฐานะกรรมการสอบของประธานสภา ส่วนจะเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ มาชี้แจงด้วยหรือไม่ ต้องรอดูรายละเอียดอีกครั้งว่าพยานหรือหลักฐานไปถึงหรือไม่ หากผู้ที่เชิญมาชี้แจงไม่ยอมมา ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะไม่มีบทลงโทษ

ป.ป.ช.จ่อสรุปคดี‘บิ๊กติ๊ก’

รายงานข่าวจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหา พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา น้องชาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม และกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ที่เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ถูกกล่าวหาว่าจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินอันเท็จและเอกสารประกอบ หรือปกปิดข้อเท็จจริงอันควรแจ้งให้ทราบกรณีมิได้แจ้งถือครองบ้านใน จ.พิษณุโลก รวมถึงข้อมูลบัญชีเงินฝากของนางผ่องพรรณ จันทร์โอชา ภริยานั้น พล.อ.ปรีชา ได้มารับทราบ ข้อกล่าวหา พร้อมชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาแล้ว

ขั้นตอนหลังจากนี้คณะอนุกรรมการ ไต่สวนฯ จะรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เพื่อเตรียมสรุปสำนวน ส่งที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาต่อไป คาดว่าอีกไม่นานจะมีบทสรุป

ม็อบอันเดอร์แวร์ – กลุ่มสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ แขวนยกทรง-ชุดชั้นใน ชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือลูกจ้าง 1,388 คน ถูกเลิกจ้างโดยไม่ได้รับเงินชดเชย หลังบริษัทประกาศปิดกิจการ ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 7 ต.ค.

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน