‘30คลัสเตอร์’
งานศพติด838
ชงล็อก4จว.ใต้

ตายโควิดเพิ่ม 116 ติดเชื้ออีก 11,140 ราย ผวา 30 คลัส เตอร์งานศพ ตั้งแต่ 21 ก.ย. ติดเชื้อ 838 ใน 30 จังหวัด มากสุดที่วารินชำราบ อุบลฯ ศปก.ศบค.แย้มล็อกดาวน์ 4 จว. ชายแดนใต้ เนื่องจากติดเชื้อยังสูง ชงศบค.ชุดใหญ่ชี้ขาด 14 ต.ค.นี้ สธ.ยันมีไฟเซอร์เพียงพอฉีดนักเรียน เร่งกระจาย 1.5 ล้านโดส จับตาอาการข้างเคียง ก่อนเคาะฉีดเข็ม 2 ให้ด.ช.12-ต่ำกว่า 16 ปี อังกฤษถอดไทยออกจากประเทศกลุ่มสีแดง ให้คนฉีดวัคซีนครบเข้าประเทศได้ ไม่ต้องกักตัว 10 วัน ยกเว้นซิโนฟาร์ม-ซิโนแวค

ติดเชื้อเกินหมื่น 2วันติด-ตาย 116

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 8 ต.ค. ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ทำเนียบรัฐบาล นพ.เฉวตสรร นามวาท ผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11,140 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 11,052 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 10,080 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 972 ราย มาจากเรือนจำ 72 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 16 ราย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,689,437 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 9,933 ราย ยอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,561,790 ราย อยู่ระหว่างรักษา 110,113 ราย อาการหนัก 3,003 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 682 ราย

เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 116 ราย เป็นชาย 56 ราย หญิง 60 ราย ผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 93 ราย มีโรคเรื้อรัง 18 ราย พบผู้เสียชีวิตมากสุดอยู่ในกทม. 28 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 17,534 ราย

ฉีดวัคซีนแล้ว 58 ล้านโดส

ส่วนยอดผู้ได้รับวัคซีนของประเทศไทยเมื่อวันที่ 7 ต.ค. มีการฉีดวัคซีนเพิ่มเติม 911,677 โดส รวมยอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. ทั้งสิ้น 58,298,700 โดส ขณะที่สถานการณ์โลก มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 237,545,619 ราย เสียชีวิตสะสม 4,849,332 ราย

นพ.เฉวตสรรกล่าวต่อว่า สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 8 ต.ค. ได้แก่ กทม. 1,255 ราย ยะลา 776 ราย ชลบุรี 687 ราย นราธิวาส 592 ราย สมุทรปราการ 576 ราย ปัตตานี 503 ราย สงขลา 444 ราย นครศรีธรรมราช 395 ราย ระยอง 342 ราย จันทบุรี 284 ราย อย่างไรก็ตาม ภาพรวมสถานการณ์โลกมีแนวโน้มลดลง แต่หากดูเป็นรายประเทศจะพบว่าบางประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วอย่างกว้างขวางยังมีการติดเชื้อใหม่ เราจึงจำเป็นต้องตั้งการ์ดให้สูง

30 คลัสเตอร์งานศพติดเชื้อ 838

ขณะที่สถานการณ์ในประเทศไทยพบการติดเชื้อในกลุ่มผู้เข้าร่วมงานศพ โดยระหว่างวันที่ 21 ก.ย.-7 ต.ค. มีผู้ติดเชื้อ 838 ราย ใน 30 จังหวัด 87 งาน 30 คลัสเตอร์ ที่มากสุดคือ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พบผู้ติดเชื้อ 148 ราย มีปัจจัยหลักมาจากการสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้ ไม่สวมหน้ากากอนามัย มีการรับประทานอาหารร่วมที่ต้องถอดหน้ากาก ดื่มสุรา และเล่นการพนันหลังงานศพ ซึ่งมีการล้อมวง ส่งเสียง สัมผัสใกล้ชิด ละเลยเปิดหน้ากากออก สำหรับผู้ที่รู้ว่าติดเชื้อ หากจำเป็นต้องไปร่วมงานศพขอให้มีมาตรการป้องกัน นอกจากนี้ยังพบคลัสเตอร์ต่างๆ ในต่างจังหวัด อาทิ พบที่ล้งผลไม้ ร้านทำป้าย จ.จันทบุรี วงหมูกระทะ ที่ จ.ลำปาง หอพักที่ จ.เชียงใหม่ ร้านเบเกอรี่ จ.ประจวบคีรีขันธ์

“สำหรับกรณีมีการเผยแพร่ข่าวในโซเชี่ยลว่า ฉีดวัคซีนชนิด mRNA แล้วจะส่งผลต่อสุขภาพใน 1-2 ปีหลังการฉีดนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง มีการฉีดไปแล้วมากมาย เรามีการศึกษา มีเอกสาร ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อ ให้ติดตามจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือสูง ส่วนกรณีที่มีข่าวว่านักเรียนจะมาฉีดวัคซีน พอถึงเวลาแล้วแจ้งให้กลับโดยยังไม่ได้ฉีดวัคซีนนั้น ขอชี้แจงว่าวัคซีนไฟเซอร์มีเพียง 1.8 ล้านโดส และมีผู้แจ้งประสงค์จะฉีด 3.6 ล้านคน โดยมีการทยอยลงไปเรื่อยๆ แต่อยู่ที่การจัดการของบางพื้นที่ในเรื่องการนัดหมาย”

‘ศบค.‘เคาะเข้มขึ้นเครื่องบิน

นพ.เฉวตสรรกล่าวถึงกรณีการเดินทางโดยใช้บริการสายการบินต่างๆ ต้องผ่านการฉีดวัคซีนครบถ้วน หรือตรวจ ATK อย่างไร ว่า วันเดียวกันนี้ ที่ประชุม ศปก.ศบค.มีมติเห็นชอบเรื่องการปรับมาตรการการรับ ผู้โดยสารบนอากาศยานตามความสามารถของอากาศยาน โดยมีส่วนสำคัญคือผู้ที่จะเดินทางได้จะต้องฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์คือ 2 เข็ม หรือจะต้องมีผลตรวจ ATK หรือ RT-PCR ตรวจไม่พบเชื้อภายใน 72 ชั่วโมง และที่สำคัญเรื่องการตรวจความพร้อมเหล่านี้ และการคัดกรองตั้งแต่จะเข้าพื้นที่ต้องเคร่งครัดและเข้มงวด

ผู้สื่อข่าวถามถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่รายวันยังอยู่ที่หลักหมื่น ทั้งที่จะมีการผ่อนคลายมากขึ้นเรื่อยๆ ศบค.จะต้องบริหารจัดการอย่างไรให้ความสำคัญต่อเรื่องใด เพื่อไม่ให้กลับมาเกิดการระบาดระลอกใหม่ นพ.เฉวตสรรกล่าวว่า ปลัดสธ.พูดถึงเรื่องเรามาถึงทางแยกคือผลของการล็อกดาวน์ที่ผ่านมา น่าจะจางลงหรือหมดไปแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ แนวโน้มจากกราฟดูเริ่มลดลง แต่ถ้าเราไม่มีมาตรการที่ดีพอ กราฟก็อาจพุ่งกลับสูงขึ้นไปอีกครั้ง ซึ่งเราไม่อยากให้เกิดขึ้น หากดำเนินการไม่ดีการติดเชื้อรายใหม่อาจจะไปถึงวันละ 25,000 คน หรือใกล้ 30,000 คนก็ได้

ศบค.จ่อล็อกดาวน์ 4 จว.ใต้

เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวแนวโน้มการออกมาตรการล็อกดาวน์พื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดการระบาดโควิด-19 อย่างต่อเนื่องว่า แน่นอนจะต้องมีมาตรการออกมาเพื่อแก้ปัญหาให้สถานการณ์ดีขึ้น

เมื่อถามว่ามาตรการที่ออกมาจะเหมือนการล็อกดาวน์รอบแรกหรือไม่ พล.อ.สุพจน์กล่าวว่า ยังไม่ได้ข้อยุติ ต้องประชุมอีก 2 รอบ โดยจะพิจารณาในการประชุมศบค.ชุดใหญ่วันที่ 14 ต.ค.นี้

อังกฤษถอดไทยพ้นสีแดงโควิด

นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า สหราชอาณาจักรพิจารณาปรับประเทศไทยออกจากประเทศกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในกลุ่มประเทศ สีแดงแล้ว จะมีผลตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค.2564 เป็นต้นไป ทำให้ผู้ที่จะเดินทางเข้าสหราชอาณาจักร จากประเทศในกลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มสีแดงที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้วจากประเทศและวัคซีนที่สหราชอาณาจักรรับรองจะไม่ต้องตรวจหาเชื้อแบบพีซีอาร์ (PCR) ก่อนเดินทาง และไม่ต้องกักตัวเมื่อเดินทางถึงสหราชอาณาจักร โดยจะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อแบบ PCR ในวันที่สองเมื่อเดินทางถึงสหราชอาณาจักรเท่านั้น

“กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานทูตไทยในกรุงลอนดอนว่า เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2564 รัฐบาลสหราชอาณาจักรประกาศผลการพิจารณาทบทวนรายชื่อประเทศและพื้นที่ที่พบการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และความเสี่ยงในการเดินทางรอบล่าสุด โดยปรับให้ไทยและอีกหลายประเทศรวมทั้งประเทศอาเซียนออกจากกลุ่มประเทศสีแดงและจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค.2564 เวลา 04.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของสหราชอาณาจักร การปรับเปลี่ยนรายชื่อประเทศ ครั้งนี้รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้ปรับปรุง ข้อกำหนดใหม่ โดยเหลือการกำหนดประเทศและพื้นที่เสี่ยงเพียง 2 กลุ่มคือกลุ่มสีแดงซึ่งเหลือเพียง 7 แห่ง และกลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มสีแดง ซึ่งรวมถึงประเทศไทย”

นายธานีกล่าวต่อว่า รัฐบาลสหราชอาณา จักรยังประกาศรับรองการฉีดวัคซีนจากประเทศไทยเพิ่มเติมด้วย โดยครอบคลุมถึงเอกสารรับรองการฉีดของไทย โดยมีวัคซีน 4 ชนิดที่ให้การรับรอง ได้แก่ แอสตร้าเซนเนก้า, ไฟเซอร์, โมเดอร์นา และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน โดยไม่มีเงื่อนไขเกี่ยวกับแหล่งผลิตวัคซีน ทำให้ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตในประเทศไทยครบจำนวนแล้วสามารถเดินทางเข้าสหราชอาณาจักรได้ ส่วนผู้เดินทางจากประเทศไทยที่รับวัคซีนชนิดอื่น เช่น ซิโนแวคและซิโนฟาร์ม หรือยังไม่ได้รับวัคซีนยังต้องมีผลการตรวจหาเชื้อแบบ PCR ก่อนเดินทาง และเข้ารับการกักตัวที่บ้านพักเมื่อเดินทางถึงอีก 10 วัน การพิจารณาปรับไทยออกจากกลุ่มประเทศสีแดงในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลสำเร็จจากความพยายามของทูตไทยในกรุงลอนดอน กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการผลักดันร่วมกันและประสานงานกับฝ่ายสหราชอาณาจักรอย่างเต็มที่ ซึ่งจะส่งผลให้การเดินทางจากไทยมีความสะดวกยิ่งขึ้น และส่งเสริมการ ท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักรมายังไทยในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวปลายปีอีกด้วย

‘บิ๊กป้อม’ตรวจฉีดนร.สระแก้ว

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่โรงเรียนวังน้ำเย็นวิทยาคม อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจนักเรียน นักศึกษาที่ฉีดวัคซีน พร้อมให้กำลังใจครู และผู้ปกครอง บุคลากรทางการศึกษา แพทย์ และมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียน นักศึกษา โดยมีน.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ(ศธ.) และผู้บริหารระดับสูงของศธ.ต้อนรับ จากนั้นพบปะพูด คุยกับชาวสระแก้วและมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 ด้วย

ด้านน.ส.ตรีนุชกล่าวว่า ขณะนี้จ.สระแก้วมีนักเรียนที่ได้แจ้งความประสงค์เข้ารับการฉีดวัคซีน 33,630 คน คิดเป็นร้อยละ 81.32 จากนักเรียนทั้งหมด 41,354 คน และได้รับอนุมัติวัคซีนไฟเซอร์ ระยะที่ 1 จากสธ. 16,800 คน ในโรงเรียน 50 แห่ง ดำเนินการฉีดระหว่างวันที่ 5-15 ต.ค. 2564 วันนี้มีนักเรียนจากโรงเรียนวังน้ำเย็นวิทยาคม 831 คนเข้ารับการฉีดวัคซีน

‘มหาชัย’ติดเชื้ออีก 233

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาครรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 233 ราย ติดเชื้อสะสม 108,026 ราย รักษาหายเพิ่ม 288 ราย มีผู้กลับบ้านได้แล้วสะสม 102,764 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 4,144 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตรายวัน 3 ราย เสียชีวิตสะสม 1,118 ราย

สำหรับการฉีดวัคซีนของจ.สมุทรสาคร ฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว 610,958 โดส, เข็ม 2 จำนวน 408,434 โดส, เข็ม 3 สะสม 48,665 โดส รวมฉีดวัคซีนแล้ว 1,068,057 โดส

กาญจนบุรีติดเชื้อ 190

ส่วน จ.กาญจนบุรี พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 190 ราย ทั้งหมดตรวจหาเชื้อในรูปแบบ RT-PCR แยกเป็นผู้ติดเชื้อภายในจังหวัด 173 ราย นอกพื้นที่จังหวัด 6 ราย สถานประกอบการ 11 ราย เสียชีวิต 1 ราย ชาว อ.ไทรโยค รวมผู้ป่วยสะสมตั้งแต่เดือนเม.ย. 18,484 ราย หายป่วย 188 ราย หายป่วยสะสม 15,564 ราย รักษาอยู่โรงพยาบาล 2,754 ราย เสียชีวิตสะสม 166 ราย

ยะลาเร่งฉีดวัคซีนให้น.ร.

ที่ห้องประชุมภู่พัฒน์ โรงพยาบาลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา นายกิตติภณ เปรมรัชชานนท์ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง อำเภอเบตง เดินทางมาดูการฉีดวัคซีนให้นักเรียนอายุ 12-18 ปี ซึ่งเริ่มขึ้นวันที่ 8 ต.ค.เป็นต้นไป ตามความสมัครใจที่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง เบื้องต้นในอ.เบตงมีนักเรียนที่ประสงค์ฉีดและผ่านการยินยอมของผู้ปกครอง 1,200 คน

ยันไฟเซอร์มีพอฉีดนร.

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงการฉีดวัคซีนโควิดนักเรียนว่า ขณะนี้วัคซีนไฟเซอร์ล็อตที่ 2 ที่มาถึงไทยวันที่ 6 ต.ค. 1.5 ล้านโดส ผ่านการตรวจรับรองคุณภาพและความปลอดภัยจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แล้ว เตรียมกระจายไปร.พ.ภูมิภาคทุกอำเภอภายใน 1-2 วันนี้ เพื่อฉีดกลุ่มนักเรียนที่ผู้ปกครองแจ้งความประสงค์ให้รับวัคซีนราว 4 ล้านคน

ส่วนที่ในโซเชี่ยลมีเดียแพร่ข้อมูลว่า วัคซีนไม่พอ บางโรงเรียนต้องจับสลาก ยืนยันว่าเตรียมไว้เพียงพอนักเรียนทุกคน จะทยอยส่งมอบเป็นงวด โดยล็อตแรกทยอยส่ง 40% ของนักเรียนที่ประสงค์รับวัคซีนแต่ละพื้นที่ และส่งอีกเป็นงวดๆ จากนั้นเว้น 3-4 สัปดาห์ จึงมารับวัคซีนเข็ม 2 มีการวางแผนเตรียมไว้เช่นกัน

นพ.โสภณกล่าวอีกว่า การฉีดวัคซีนในนักเรียนนักศึกษาอายุ 12-18 ปีที่เริ่มเมื่อวันที่ 4 ต.ค. ฉีดสะสมแล้ว 150,190 คน คิดเป็น 3.3% ของเป้าหมาย 4.5 ล้านคน ผู้ที่รับวัคซีนไฟเซอร์หากเป็นกลุ่มที่อายุน้อยจะต้องเฝ้าระวัง หากสงสัยว่าอาจจะเป็นอาการไม่พึงประสงค์จากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ เช่น แน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก หอบ เหนื่อยง่าย หมดสติ เป็นลม ใจสั่น ผู้ปกครองหรือครูให้พาไปพบแพทย์ ก่อนหน้านี้มีการฉีดในเด็กกลุ่มเสี่ยงมีโรคประจำตัว พบ 3 รายได้รับการรักษา โดยอาการที่ไม่ได้รุนแรงหายป่วยได้ถ้ารักษาถูกต้องและทันเวลา หลังฉีดวัคซีนแล้ว 1.5 แสนคน ติดตามอาการไม่พึงประสงค์ พบเจ็บ บวม ร้อนบริเวณที่ฉีด บางกรณีเวียนศีรษะ เหมือนจะเป็นลม คลื่นไส้ อาเจียนจำนวนไม่มาก ปฐมพยาบาลแล้วกลับเป็นปกติ

เมื่อถามถึงการพิจารณาฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็ม 2 ในนักเรียนชาย นพ.โสภณกล่าวว่า กรณีเด็กผู้ชายและหญิง อายุ 16-18 ปี และเด็กอายุ 12-ต่ำกว่า 16 ปีที่มีโรคประจำตัว ต้องฉีด 2 เข็ม เพราะถ้ามีโรคประจำตัวแล้วป่วยโควิดจะมีอาการรุนแรงได้ กรณีเด็กชายอายุ 12-ต่ำกว่า 16 ปี แข็งแรงดี จะต้องรอดูสัปดาห์หน้าว่ามีอาการอะไรเกิดขึ้น เพราะมีการสังเกตอาการเฝ้าระวังจะมีข้อมูลมากขึ้นว่าอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบที่กังวลจะเกิดในเด็กไทยเหมือนในต่างประเทศหรือไม่ โดยมีเด็กชายที่แจ้งความประสงค์รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ประมาณ 2 ล้านคน หรือครึ่งหนึ่งของจำนวนนักเรียนเป้าหมาย

ถามถึงการพิจารณาวัคซีนสูตรไขว้ นพ.โสภณกล่าวว่า จะมีวัคซีนสูตรไขว้เพิ่มขึ้น แต่รายละเอียดจะแจ้งในวันที่ 11 ต.ค. หลังเข้าสู่การพิจารณาของ EOC สธ.

เมื่อถามถึงเหตุผลและความเป็นไปได้ที่จะมีวัคซีนสูตรไขว้ แอสตร้าเซนเนก้าตามด้วย ไฟเซอร์ นพ.โสภณกล่าวว่า ประเทศไทยจะมี วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าและไฟเซอร์เข้ามามากช่วงต.ค.-ธ.ค. จึงต้องใช้วัคซีนให้เกิดประโยชน์สูงสุด อีกทั้งจำนวนวัคซีนแอสตร้าฯ กับไฟเซอร์ ก็มีจำนวนมากพอๆ กัน ส่วนซิโนแวคฉีดในต.ค.นี้ก็คงหมด ส่วนผู้ที่ฉีดแอสตร้าฯ ครบ 2 เข็มนั้น ต่างประเทศยังไม่มีการบูสเตอร์ ต้องรออีกระยะหนึ่ง

ฉีดไฟเซอร์ – นักเรียนชั้น ม.1-3 โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย กทม. เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ยี่ห้อไฟเซอร์ ของสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (โรงพยาบาลเด็ก) ที่โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย เมื่อวันที่ 8 ต.ค.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน