ปมปลด 3 เจ้าคณะจังหวัดยังวุ่น รัฐบาลโยนมหาเถรฯ แจงเอง วิษณุเผย 11 ต.ค. มีประชุม ‘มส.’ และจะแถลงกรณีนี้ให้สังคมทราบ ด้านรัฐมนตรีสำนักนายกฯชี้มติมส. ไม่ใช่เรื่องมาคาดเดา รอคณะสงฆ์อธิบายเอง ยันไม่ใช่เรื่องผิดพลาด-พิเศษพิสดาร ลั่น ‘มส.’ให้คำตอบได้แน่

เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มหาเถรสมาคม (มส.) มีมติปลดพระสังฆาธิการ (เจ้าคณะจังหวัด) 3 จังหวัด ประกอบด้วย เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี โดยประชาชนในพื้นที่เคลือบแคลงใจในมติ ว่า วันที่ 11 ต.ค. จะมีความชัดเจน โดยมส.จะประชุมและแถลงเรื่องนี้ให้ประชาชนทราบ

เมื่อถามว่า มีประชาชนออกมาเรียกร้องให้ทบทวนมติ และตั้งข้อสังเกตว่าการปลดนั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า รอคำชี้แจงจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) คาดว่าอาจจะแถลงในวันที่ 11 ต.ค.หรือ 12 ต.ค.นี้ เนื่องจากปกติวันที่ 11 ต.ค.จะประชุมมส.อยู่แล้ว

เมื่อถามว่า หมายความว่ามติของ มส. ยังไม่ถึงที่สุดใช่หรือไม่ หรือต้องรอพศ. ที่กำกับดูแลพิจารณาก่อน นายวิษณุกล่าวว่า รอให้เขาชี้แจงก็แล้วกัน เขาจะบอกเองว่าจะเป็นอย่างไร ถ้าสงสัยก็ไปถามกันตรงนั้น อย่างไรก็ดีทางพศ.ได้มาเล่าให้ฟัง ซึ่งตนก็ไม่ได้แนะนำอะไรไป เพราะเรื่องนี้เป็นอำนาจของคณะสงฆ์ ซึ่งหลังจากที่ชี้แจงแล้ว ความเคลือบแคลงใจของประชาชนจะจบหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ

ด้านนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแล พศ. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีญาติธรรมเคลื่อนไหวคัดค้านมติ มส. ที่ถอดถอนพระสังฆาธิการ ระดับเจ้าคณะจังหวัด 3 รูป ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นมติของที่ประชุมมส. ตนเป็นฆราวาส อยู่ในฐานะที่ไม่สามารถพูดอะไรได้มาก ส่วนกรณีที่มีผู้จะร้องเรียนหรือคัดค้าน ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะอาจจะมีทั้งความไม่เข้าใจและเข้าใจเกิดขึ้นได้ ขอให้รอดูและทางคณะสงฆ์ซึ่งจะทำเรื่องนี้ให้เป็นที่กระจ่างในเร็วๆ นี้ เพราะไม่มีอะไรเป็นเรื่องพิเศษหรือพิสดาร และไม่มีข้อผิดพลาดอะไร แต่บางครั้งเราไม่สามารถลงลึกในรายละเอียดของเรื่องพระสงฆ์ได้ ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาพูดกันง่ายๆ ทั่วไป หรือจะมาเอาแค่ความรู้สึกนึกคิด ไม่ได้คิดว่าถูกหรือผิดอย่างไรไม่ได้ เมื่อเป็นมติของคณะสงฆ์ เราไม่ควรจะนำมาวิเคราะห์วิจารณ์ หรือคาดเดาอะไร เรื่องพระพุทธศาสนาถ้าจะมาคาดเดาคงไม่ใช่เรื่องดี อย่าคิดกันไปเอง เพราะจะหาคำตอบที่แท้จริงไม่ได้ เรื่องนี้มส.มีคำตอบให้แน่นอน ขอให้มั่นใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่า มส.กำลังเร่งแก้ปัญหาเรื่องนี้ใช่หรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า ไม่ใช่การเร่งแก้ปัญหา เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของปัญหา เพราะโดยปกติปัญหาจะเกิดจากคณะบุคคลหรือบุคคล แต่มส.ไม่ใช่ปัญหา แต่เพียงจะออกมาชี้แจงให้เกิดความเข้าใจ ตนเชื่อว่า มส.ไม่ได้ทำอะไรผิดแผกไปจากที่คนอื่นเข้าใจ จึงขอให้มั่นใจ

เมื่อถามว่า คิดว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวหรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า ตนคิดว่าไม่ได้เป็นอย่างนั้น ในเรื่องกิจของสงฆ์ เราจะมาคิดว่าเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวไม่ได้ และเชื่อว่าคนไทยเองก็ไม่คิดว่าเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว สังคมไทยเราจะช่วยกันปกป้องและประคับประคองพระพุทธศาสนา ส่วนที่มีบุคคลระดับนักการเมือง ส.ส.และที่ปรึกษารัฐมนตรีในจ.กาฬสินธุ์ ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านมติ มส.นั้น ก็ไม่เป็นไรปล่อยให้เป็นเรื่องปกติ เพราะถ้าเราเข้าไปยุ่งในส่วนของพระ วันข้างหน้าคงปกครองพระไม่ได้ แล้วเราจะปล่อยให้เป็นอย่างนี้หรือ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มติมส.แบบนี้ จะทบทวนได้หรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า ไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีการทบทวนหรือไม่ เป็นเรื่องที่มส.ต้องจัดการ โดยเฉพาะโลกปัจจุบันเป็นโลกดิจิทัล ต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างทำ ย่อมมีการวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้นได้ ส่วนพศ.ซึ่งเป็นฝ่ายเลขานุการของมส. ปฏิบัติหน้าที่ตามขั้นตอน ไม่สามารถชี้แนะอะไรให้กับคณะสงฆ์ได้ และขอย้ำว่าเรื่องดังกล่าวเป็นไปตามขั้นตอนและกระบวนการ ตนเชื่อว่าพระสงฆ์เองก็รู้เรื่อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน