แถลง1ปีม็อบเบิ้ม
ย้ำ‘3ข้อเรียกร้อง’

นัดชุมนุมใหญ่อีกวันที่ 31 ต.ค. นี้ ‘ราษฎร’ ออกแถลงการณ์ครบ 1 ปีเคลื่อนไหวใหญ่ในนาม‘คณะราษฎร 2563’ ระดมมวลชนบุกปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลเป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นก็ถูกรัฐตามเช็กบิลเล่นงานทางกฎหมายทุกอย่างโดยไม่ยุติธรรม ย้ำเคลื่อนไหวเดินหน้าต่อด้วยข้อเรียกร้องเดิม ประยุทธ์ต้องลาออก ร่างใหม่รัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง รวมถึงการปฏิรูปสถาบัน ด้าน ‘ลูกเกด’ นำทีม 8 ผู้ถูกสภ.ธัญบุรีออกหมายเข้าพบตร.รับทราบข้อหาฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และตำรวจปล่อยตัวทั้งหมดโดยไม่มีใครโดนข้อหามาตรา 112

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 ต.ค. ที่ สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.ธัญบุรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ คฝ.และเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบจำนวนหนึ่งได้นำแผงเหล็กมาปิดกั้นบริเวณถนนทางเข้าออกบริเวณหน้าสภ.ธัญบุรี เพื่อเตรียมพร้อมหลังจากทางพนักงานสอบสวน สภ.ธัญบุรี ได้ออกหมายเรียกให้กลุ่มเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน และกลุ่มราษฎร เดินทางมารับทราบข้อหาฝ่าฝืนพ.ร.บ.ฉุกเฉิน และพ.ร.ก.โรคติดต่อ ขัดคำสั่งของจังหวัดปทุมธานี

สำหรับคดีนี้สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 11 ก.ย. มีการนัดชุมนุมทำกิจกรรมไล่เผด็จการ และเรียกร้องให้ปล่อยเพื่อนเรา โดยจัดชุมนุมและปราศรัย ทำกิจกรรม ที่บริเวณหน้าศาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อรับทราบข้อหาพ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ และมาตรา 112 รวม 9 คน ประกอบด้วย 1.น.ส.พริม มณีโชติ พิธีกรกลุ่มราษฎร 2.น.ส.ศรีไพร นนทรี เครือข่ายแรงงาน 3.น.ส.ธนพร วิจันทร์ เครือข่ายแรงงาน 4.น.ส. วิปัศนา อยู่พูล เครือข่ายคณะละครของผู้ถูกกดขี่ 5.น.ส.สุธิลา ลืมคำ เครือข่ายแรงงาน 6.นายวิศรุต สมงาม กลุ่มราษฎร 7.นายไพศาล จันปาน 8.นางสุนีย์ ไชยรส อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชน และ 9.น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว

จากนั้นกลุ่มเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชนและเครือข่ายราษฎรทั้ง 9 คน และมวลชนจำนวนหนึ่ง ที่มาให้กำลังใจผู้ต้องหาทั้งหมดร่วมกันแสดงเชิงสัญลักษณ์ โดยเดินแบกโลงศพมาตั้งไว้บริเวณสภ.ธัญบุรี พร้อมนำดอกไม้จันทน์มาวางไว้บนโลงศพไว้อาลัยความอยุติธรรม จากนั้นเดินไปกราบไหว้ศาลพระภูมิสภ.ธัญบุรี พร้อมวางดอกไม้ น้ำแดง และธงสีขาวให้ยกเลิกมาตรา 112 ไปวางไว้หน้าศาล

น.ส.พริมกล่าวว่า นี่คือสิ่งเกิดขึ้นในกระบวนการยุติธรรมของบ้านเรา ขอบคุณมากที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาต้อนรับมากขนาดนี้ มีหลายเรื่องเหลือเกินที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองนี้จนต้องไว้อาลัย หนึ่งในนั้นคือกระบวนการยุติธรรม ดังนั้น วันนี้การแสดงเชิงสัญลักษณ์ของพวกเราที่โดนหมายเรียกในคดีพ.ร.ก. ฉุกเฉิน หรือคดีอื่นๆ ที่ถูกกล่าวหา แค่มาขอใช้สิทธิในการประกันตัวเพื่อนๆ ของเราหลายเรื่องที่อยากจะไว้อาลัยต่อความอยุติธรรม ในประเทศนี้

น.ส.ชลธิชากล่าวว่า ไม่คาดคิดว่าตนจะต้องมาโดนคดี สภ.ธัญบุรี เพียงเพราะว่าเรียกร้องให้มีการคืนสิทธิในการประกันตัวให้เพื่อนๆ ที่ออกมาต่อสู้ ที่ออกมาเรียกร้องต่อการปฏิรูปสถาบัน เป็นเรื่องน่าตลกมากที่เราเรียกร้องสิทธิเพื่อเพื่อนเรา ตนขอชี้แจงเรื่องคดีความเมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ตัดสินใจขึ้นปราศรัย เพราะคิดว่าเราอยู่ในความหดหู่ อยู่ในความสิ้นหวังมากพอแล้ว อยู่กับความกลัวแค่เพียงว่าหยุดฝันการปฏิรูปสถาบัน เราทราบดีว่างบประมาณมีปัญหาอย่างไรบ้าง ยืนยันว่าทุกครั้งที่พูดไปเป็นข้อเท็จจริงและมีข้อมูลประเด็นเรื่องงบประมาณเพราะเป็นประเด็นในรัฐสภาอยู่แล้ว และที่สำคัญพูดด้วยความหวังดี มีใจที่บริสุทธิ์ จากนั้นไม่ถึงสองสัปดาห์สภ.ธัญบุรีที่คอยปกปักรักษารัฐบาลและออกหมายเรียกผู้ต้องหาทั้ง 9 คน

“ส่งหมายเรียก 8 คน ผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ยกเว้นแค่เกด และที่สภ.ธัญุบุรี ไม่ได้ออกหมายเรียกส่งไปให้ สภ.ธัญบุรีไม่เคยชี้แจงว่าเกิดอะไร แต่เกดทราบว่าตนมีคดีความร่วมกันกับพี่น้องทุกคนตรงนี้ เพราะเรามีชื่อแรกที่ถูกหมายเรียกแต่ไม่เคยได้รับหมายเรียกอันนี้ คือสิ่งที่เกิดขึ้นก็พยายามไถ่ถามตลอดทาง ทนายก็ถามตลอดคดีความ สรุปเกดจะมีหมายเรียกตามมาไหม สภ.ธัญบุรีไม่เคยชี้แจง ประหลาดไหม แต่มีตำรวจปทุมธานีติดต่อทนายบอกว่าเกดโดนคดี 112 อีกหนึ่งคดี เกดมาปรากฏตัวก็จะนำตัวขึ้นศาลธัญบุรี ฝากขังทันทีทันใดเลย มีคำขู่ออกมา ดังนั้น วันนี้จะเรียกมารายงานตัวก็ดูแปลกเพราะไม่มีหมายเรียก จึงมาแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า ฉันไม่ได้หลบหนี มาอยู่ที่นี่ มาอย่างกล้าหาญ พร้อมสู้ในกระบวนการยุติธรรม ที่สำคัญเรามาครั้งนี้มาทำให้ความชอบธรรมของสภ.ธัญบุรีทำอะไรเกดไม่ได้ ถ้าเอาไปฝากขังก็คือกลั่นแกล้งประชาชนไม่ให้พูด” ลูกเกดกล่าว

ด้านนางสุนีย์กล่าวว่า วันนี้มาตามหมายเรียกพนักงานสอบสวน สภ.ธัญบุรี อยากจะบอกว่าตำรวจ ซึ่งวันนั้นก็อาจจะเห็นตนเองในฐานะนายประกันมายื่นประกันให้เด็กๆ ที่ศาลธัญบุรี ซึ่งตำรวจก็เห็นอยู่หลังได้ยื่นเรื่องประกันตัว ซึ่งศาลยังไม่อนุญาต แต่ต่อมาก็ได้อนุญาต เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นแสดงความเป็นจริง ได้ลุกขึ้นพูดในเวทีเครื่องเสียงของน้องๆ เพื่อจะบอกว่าในฐานะอดีตกรรมการสิทธิ ในการประกันตัวเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานเหมือนที่น้องๆ ไม่ว่าโดนคดีอะไรก็ตามกระบวนการยุติธรรมตามรัฐธรรมนูญ ต้องให้สิทธิเขาในการประกันตัวในการต่อสู้คดี ไม่ใช่ให้เขาไปติดคุกก่อนแล้วจะมาปล่อยทีหลังมันก็ไม่สวย เป็นเรื่องที่เขามีโอกาสในการต่อสู้คดีอย่างยุติธรรม เพราะว่าอำนาจรัฐมีเยอะแล้ว ไม่ว่าตำรวจหรือกระบวนการอื่น คือเรื่องนี้ตนอยากจะบอกว่านายประกันที่ไปยื่นประกันตัวแล้ววันนี้ก็มาในฐานะผู้ต้องหาเสียเองและก็ได้หมายเรียกมาก็มารายงานตามหมายเรียก

จากนั้นทั้ง 9 คน พร้อมด้วยทีมทนายความศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุยชนได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อหาพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีการแจ้งข้อหามาตรา 112 กับผู้ต้องหาคนใด หลังทั้งหมดรับทราบข้อหาเสร็จสิ้นในเวลา 12.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปล่อยตัวชั่วคราวทั้งหมด

เมื่อช่วงค่ำวันที่ 14 ต.ค. เฟซบุ๊กแฟนเพจราษฎรได้เผยแพร่แถลงการณ์ราษฎร ครบรอบ 1 ปี การเคลื่อนไหวของคณะราษฎร 2563 มีเนื้อหาโดยสรุปว่า เนื่องในวันที่ 14 ต.ค. 2564 นอกจากจะเป็นวันครบรอบ 48 ปี วันมหาวิปโยค 14 ตุลาคม 2516 แล้ว ยังเป็นวันครบรอบ 1 ปีการชุมนุมใหญ่ของคณะราษฎร 2563 ที่ราษฎรนับแสนชีวิตได้ร่วมเคลื่อนพลจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปยังทำเนียบรัฐบาล และด้วยกำลังจากราษฎรทุกคนจึงทำให้สามารถล้อมทำเนียบรัฐบาลได้สำเร็จ แม้จะมีอุปสรรคจากเจ้าหน้าที่รัฐ และยัดเยียดข้อหาให้ก็ตาม

การชุมนุมดังกล่าวเป็นไปด้วยความสันติปราศจากอาวุธ ราษฎรตั้งใจที่จะปักหลักชุมนุมค้างคืนเพื่อกดดันให้ผู้มีอำนาจทำตามข้อเรียกร้อง แต่สิ่งที่ได้คือการใช้กำลังเข้าจับกุมและสลายการชุมนุมในเช้ามืดวันที่ 15 ต.ค. ทำให้เพื่อนหลายคนถูกจับ และพี่น้องราษฎรที่เดินทางจากภูมิลำเนาตนตกค้าง ไม่สามารถกลับภูมิลำเนาได้

การชุมนุมต่อเนื่องหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ก็ยกระดับความรุนแรงในการสลายการชุมนุม เช่น การใช้รถฉีดน้ำผสมสารระคายเคืองที่แยกปทุมวัน จนถึงการใช้กระสุนยางยิงผู้ชุมนุมที่สามเหลี่ยมดินแดง และยังยกระดับความรุนแรงด้วยกฎหมาย จากการดำเนินคดีฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน กฎหมายอาญา ม.116 และกฎหมายอาญา ม.112 เป็นจำนวนมาก ทำให้เพื่อนหลายคนถูกคุมขังและไม่ได้รับสิทธิประกันตัว

ราษฎรเสียใจและขออภัยต่อพี่น้องราษฎรที่เข้ามาร่วมการชุมนุมในค่ำคืนนั้น ทุกท่านที่เราไม่สามารถอำนวยความสะดวกและดูแลท่านในวินาทีที่เจ้าหน้าที่รัฐใช้ความรุนแรงเพื่อยุติการชุมนุมของพวกเรา จึงได้เปลี่ยนรูปแบบการชุมนุมไปเป็นการชุมนุมรายวัน และได้เห็นพลังของพี่น้องราษฎรนับแสนที่ออกมาชุมนุมทุกวัน ทุกพื้นที่ นั่นคือพลังที่ยิ่งใหญ่ที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ และเป็นสิ่งยืนยันว่าประเทศนี้เป็นของราษฎรอย่างแท้จริง

ราษฎรยังคงยืนยัน 3 ข้อเรียกร้องคือ 1.ประยุทธ์และองคาพยพต้องออกไป 2.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ทุกหมวด ทุกมาตรา และ 3.ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์

การเคลื่อนไหวของราษฎรยังคงดำเนินต่อไปและกระจายไปตามภูมิภาคต่างๆ และขอแสดงความนับถือต่อหัวใจพี่น้องราษฎรทุกคนที่ร่วมต่อสู้เคียงข้างกันตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ขอให้พี่น้องร่วมเดินทางกันต่อไป แม้หนทางสู่ประชาธิปไตยอาจไม่ราบรื่นนัก แต่หากร่วมมือกัน ฟ้าใหม่ย่อมมาถึงอย่างแน่นอน สำหรับการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของราษฎร ขอให้ พี่น้องทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการ นัดหมายครั้งสำคัญ 31 ต.ค.นี้

รับข้อหา – ‘ลูกเกด’ ชลธิชา แจ้งเร็ว พร้อมพวกรวม 9 คน ผู้ต้องหากระทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กรณีทำกิจกรรมหน้าศาลธัญบุรี เมื่อวันที่ 11 ก.ย. เข้ารับข้อหาตามหมายเรียก ก่อนได้ประกันตัวทั้งหมด ที่สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 15 ต.ค.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน