‘โจ้’จ่อยื่นทูตจีนสอบทร.
ตัดต่อรูปสีจิ้นผิงทำจีทูจี

‘บิ๊กป้อม’ ส่งธรรมนัสเดินสาย 30 เขต กทม. พร้อมส่งผู้สมัครส.ส.ทุกเขต ชี้มี 4 พรรค ‘ปชป.-พท.-ภท.-ก.ก.’ คู่แข่งสำคัญ เพื่อไทยเปิดตัวธีมประชุมใหญ่ โต้ ‘ศรัณย์วุฒิ’ ยันไม่เคยกดขี่ส.ส. ‘ยุทธพงศ์’ พบพิรุธกองทัพเรือตัดต่อภาพปธน.จีน ร่วมลงนามซื้อเรือดำน้ำ จ่อยื่นสถานทูตจีนตรวจสอบสัปดาห์หน้า ก้าวไกลบุกขอนแก่น เปิดตัวผู้สมัครชิงส.ส.อีสาน ‘พิธา’ มั่นใจได้เก้าอี้เพิ่มแน่ หวังอัพเกรด เป็นพรรคใหญ่ ม็อบขอนแก่นรุดมอบกระเช้า จี้แก้ปัญหางูเห่าในพรรค ‘เท่าพิภพ’ ยันไม่ย้ายซบเพื่อไทย สิบล้อภาคอีสานกว่า 200 คัน นัดล้อมกรุง 19 ต.ค. กดดันรัฐบาลแก้น้ำมันแพง ขู่หากยังเฉย เตรียมนัดหยุดวิ่ง

‘บิ๊กป้อม’สั่งลงพื้นที่ 30 เขตกทม.

เมื่อเวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) น.ส.ธนพร ศรีวิราช ภรรยา นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพปชร. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมขัง และมอบถุงยังชีพ บริเวณชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา เขตบางซื่อและเขตดุสิต มีน.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. ร่วมลงพื้นที่ด้วยในชุมชนวัดบางโพ และชุมชนราชทรัพย์ ที่วัดบางโพ พร้อมสักการะสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระพี่นางเธอสุพรรณกัลยา และสมเด็จพระเอกาทศรถ

นางนฤมลกล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค ห่วงใยประชาชน และกำชับส.ส. ดูแลประชาชน ในทุกมิติ ได้มอบให้เลขาธิการพรรคลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่าหลังจากนี้ พปชร. จะลงพื้นที่ให้ครบทั้ง 30 เขตในกรุงเทพมหานคร ไม่เว้นในพื้นที่ที่ไม่มีส.ส.ของพรรค

ช่วยน้ำท่วมกรุง – ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พร้อมน.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. มอบถุงยังชีพให้ผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ในชุมชนวัดบางโพ และชุมชนราชทรัพย์ ที่วัดบางโพ เขตบางซื่อ เมื่อวันที่ 16 ต.ค.

ลั่นส่งส.ส.กทม.ครบทุกเขต

ด้านร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า พล.อ.ประวิตร มอบให้นางนฤมลเป็นที่ปรึกษากำกับดูแลทั้งผู้สมัครและว่าที่ผู้สมัครส.ส. ฉะนั้น ตนและนางนฤมลได้พูดคุยและรับนโยบายจากหัวหน้า พรรค ตั้งใจว่าจะลงให้ครบ 30 เขตในกทม. แม้จะมีส.ส.หรือไม่มีส.ส.ก็ตาม เรามีผู้สมัครและว่าที่ผู้สมัครที่มีคุณสมบัติพร้อมรับใช้ประชาชนในแต่ละเขต ถ้ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ลงมาและกฎหมายลูกถูกแก้แล้ว ก็จะเพิ่มเป็น 34 เขต ซึ่งเราต้องทำงานให้ครบทั้ง 34 เขต

ส่วนที่ส.ส.บางคนระบุเป็นทีมงานของพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผบ.ตร. ซึ่งจะลงสมัครผู้ว่าฯกทม.นั้น การเมืองระดับท้องถิ่นคือรากเหง้าของการเมืองระดับชาติ และส.ส.ทุกคนควรมีฐานเป็นของตนเอง หมายถึงต้องมีนักการเมืองท้องถิ่นเป็นของตนเอง แต่เราจะสนับสนุนในรูปแบบใดที่ไม่ผิด กฎหมาย ก็ต้องศึกษากัน เมื่อถามว่าผู้ว่าฯ กทม. พปชร.ไม่ส่งเองใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า อยู่ที่พล.อ.ประวิตร ให้นโยบาย และเราต้องประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) และส.ส.กทม.ว่ามีแนวทางอย่างไร ตอนนี้ มีแต่ข่าวว่าจะสนับสนุนคนนั้นคนนี้ สุดท้ายต้องประชุมกก.บห.

เมื่อถามว่าพล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรค ได้พูดถึงยุทธศาสตร์การเลือกตั้งท้องถิ่นอย่างไรบ้าง ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า พล.อ.วิชญ์ หารือกับพล.อ.ประวิตร ถือว่าท่านทำงานคู่กัน คาดว่าหากหารือกันแล้ว นโยบายต่างๆ จะสั่งการมาที่ตนและนางนฤมลให้กำหนดเป็นนโยบายต่างๆ ในเวลานี้ พปชร.พูดได้ 100% ว่าเรามีผู้สมัครเกือบครบทุกเขต

ชี้ม็อบต้านเป็นธรรมชาติ

ผู้สื่อข่าวถามถึงการลงพื้นที่ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม และพล.อ.ประวิตร ที่มีมวลชน บางส่วนต่อต้าน เลขาธิการ พปชร. กล่าวว่า การต่อต้านเป็นเรื่องการเมือง มักมีกลุ่ม ต่อต้าน ตนพูดเสมอว่าหากเข้าสู่เวทีการเมือง ต้องยอมรับความคิดเห็นต่าง และนำสิ่งนั้นมาแก้ไข ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญ อย่างกรณีหัวหน้าพรรค ลงพื้นที่จ.ขอนแก่น พล.อ.ประวิตร ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะหากคิดว่าประชาชนส่วนหนึ่งต้องการอย่างนั้น เราต้องนำมาศึกษา และได้สั่งการให้ไปศึกษาว่าเรื่องอะไร ถือเป็น เรื่องที่ดี เราอย่ามองว่าคนเห็นต่างจะเป็นศัตรู ดังนั้น ต้องปล่อยตามธรรมชาติ นี่คือธรรมชาติ ของบ้านเมืองเรา เราต้องนำความคิดเห็นของผู้เห็นต่าง ไม่ว่าเยาวชนหรือคนกลางวัย นำมาศึกษาและแก้ไข

เมื่อถามว่าภาพที่ออกมา ในการลงพื้นที่จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่พยายามกีดกันประชาชนบางส่วนที่ต้องการเข้าถึงนายกฯ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ถ้าตนไปกับหัวหน้าพรรค เรามักพูดเสมอว่า อย่ากันเขา ให้เขาได้แสดง เพราะถ้ายิ่งกันเหมือนยิ่งไปห้าม

ยก‘ปชป.-พท.-ภท.-กก.’คู่แข่ง

ส่วนที่เคยพูดในที่ประชุมพรรค เรื่องปัญหา ภายในพรรคว่าหากไม่สามัคคีกัน จะทำให้แพ้พรรคก้าวไกล ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ส.ส.พปชร. ร้อยละ 99% เรารักกัน ตนยืนยันว่าเรารักกัน จะสังเกตได้เวลาเราทำอะไร จะทำเป็นทีม แท็กทีมกัน เรามีหัวหน้าพรรคที่เป็นคนใจถึงพึ่งได้ ต้องยึดหัวหน้าเป็นที่ตั้ง ทีมเวิร์กเราต้องไป ด้วยกัน ฉะนั้น ศัตรูการเลือกตั้งทางการเมือง ไม่ใช่พลังประชารัฐด้วยกัน และตนไม่ได้มองว่าพรรคใดเป็นศัตรูทางการเมือง เมื่อลงสู่สนามเลือกตั้งคือเราออกสนามรบ ทำอย่างไรจะชนะใจชาวบ้าน ให้มากาพปชร. เราเพียงเปรียบเปรยเฉยๆ

เมื่อถามว่าการมองเช่นนั้นเป็นการให้เครดิต พรรคก้าวไกลใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เราไม่ได้มองเป็นศัตรู เมื่อถามย้ำว่าการที่ยกตัวอย่างพรรคก้าวไกลขึ้นมา แสดงว่าเขา มีคะแนนนิยมที่ดีกว่าใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า พรรคการเมืองเวลาสู้กันในสนาม มีไม่กี่พรรค เพื่อไทย ก้าวไกล ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ที่จะสู้กันอย่างหนัก ตนไม่ได้มองว่า เป็นก้าวไกลพรรคเดียว

พีระพันธุ์แจงยิบ-ร่วมงานพปชร.

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ และที่ปรึกษาหัวหน้า พปชร. โพสต์เฟซบุ๊ก ชี้แจงกรณีสมัครเป็นสมาชิก พปชร.ว่า ตนไม่เคย คาดคิดว่าการสมัครเข้าเป็นสมาชิก พปชร. จะถูกนำไปวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ ตีความ โยงกันจนวุ่นวาย ไม่รู้ไปเอาข้อมูลจากไหน ตนยังไม่เคยรู้เรื่องเลย ตนไม่มีเงื่อนไขและไม่มีการเสนอเงื่อนไขใดๆ ในการเป็นสมาชิกพรรค เป็นการสมัครสมาชิกธรรมดา ไม่มีอะไร ลึกลับซ่อนเงื่อน และได้พูดคุยกับพล.อ.ประวิตร มาตั้งแต่ปี 2563 เกี่ยวกับความตั้งใจจะสร้างพรรคให้เป็นสถาบันการเมืองที่เข้มแข็ง เป็นหลักให้บ้านเมืองต่อไป

นายพีระพันธุ์ระบุด้วยว่า ตนอยากช่วยพล.อ.ประวิตร ในเรื่องนี้ แต่ติดขัดเรื่องงาน ที่ต้องดำเนินการให้เสร็จตามเวลา ทั้งนี้ เดือนเม.ย.2564 งานต่างๆ เบาลง จึงเรียนให้พล.อ.ประวิตรทราบ แล้วกรอกใบสมัคร โดยพล.อ.ประวิตรเป็นผู้ลงนามรับรองด้วย ตัวเอง แต่เกิดการระบาดของโควิด ที่ทำการพรรคปิดไม่มีกำหนด สมัครไม่ได้ และการประชุมใหญ่พรรคในเดือนเม.ย. ก็ถูกยกเลิก จนกลางเดือนก.ย. จึงให้เจ้าหน้าที่สอบถาม ไปที่พรรคและนัดกันว่าต้นเดือนต.ค. จะนำใบสมัครของตนไปยื่นให้

นายพีระพันธุ์กล่าวอีกว่า เมื่อสมัครเป็นสมาชิกพรรคเรียบร้อย โดยใช้ใบสมัครที่เตรียม ไว้เดิมตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่พล.อ.ประวิตรลงนามรับรองให้แล้ว หัวหน้าพรรคก็แต่งตั้งเป็น ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค เพื่อมาช่วยท่านทำงาน ซึ่งเป็นดุลพินิจและเป็นอำนาจของท่านเองทั้งสิ้น ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง ไม่มีอะไรแอบแฝง ไม่มีอะไรลึกลับซับซ้อน และไม่มีอะไรเกี่ยวข้อง กับประเด็นการเมืองอย่างที่วิเคราะห์วิจารณ์กันขณะนี้

ก้าวไกลจัดประชุมไร้เงางูเห่า

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ (KICE) จ.ขอนแก่น พรรคก้าวไกลได้จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2564 โดยมี กก.บห. ตัวแทนประจำจังหวัดจากทั่วประเทศบางส่วน สมาชิกพรรค และว่าที่ผู้สมัครส.ส.ภาคอีสาน รวมประมาณ 500 คน อย่างไรก็ตาม ส.ส.ที่ไม่ได้มาร่วมประชุมใหญ่ครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นคนที่ประกาศ ชัดเจนว่าจะไม่ไปต่อกับพรรค ได้แก่ นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ส.ส.กทม. นายพีรเดช คำสมุทร ส.ส.เชียงราย นายเอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย

พิธาลั่นยิ่งทุบ-คุณภาพยิ่งเพิ่ม

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวเปิดประชุมใหญ่ว่า การเดินทางของพรรคก้าวไกล เมื่อเปรียบเทียบ ปีแรกกับปีที่ 2 มีทั้งเรื่องที่ยังเหมือนเดิม และแตกต่างกัน เรื่องที่เหมือนเดิมและต้องทำให้ชัดเจนมากขึ้นคือแนวทางทำงานแบบพรรคก้าวไกล ทำงานแบบสร้างสรรค์ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยอนาคตใหม่ การทำการเมืองแบบระยะยาว ไม่ใช่แค่หวังผลการเลือกตั้งครั้ง ต่อไปเท่านั้น

นายพิธากล่าวต่อว่า ในปีนี้และปีที่แล้วแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ปีที่แล้วเป็นสมรภูมิ อยู่ที่สภา แต่ปีนี้อยู่ที่สังคม เมื่อพรรคอนาคตใหม่ ถูกยุบ พรรคก้าวไกลไม่มีที่ยืน มีงูเห่า มีคนย้ายพรรค ถูกมองว่าคุณภาพจะลดลง จึงทำทุก วิถีทางที่จะพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นในสภาว่า ถึงแม้จะทุบ แต่คุณภาพจะไม่ลดลง มีแต่จะเพิ่มขึ้น อภิปรายให้แหลมคมและดุดันมากขึ้น ในปีที่แล้วเห็นตนใส่สูทพูดในสภา แต่ปีนี้จะเห็น ใส่ชุดม่อฮ่อม ผูกผ้าขาวม้า กินซอยจุ๊ อู่เพี้ยะ หมายความว่าจะกลับไปสู่รากฐานตั้งแต่ที่เริ่มเข้ามา เป็นอดีตอนาคตใหม่ ซึ่งสมาชิกพรรคและส.ส.พรรคจะเป็นรากฐานสำคัญของการเมืองที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

ปลุกก้าวไกลฮึดสู้

ต่อมาเวลา 14.00 น. นายพิธาปราศรัยแสดงวิสัยทัศน์ตอนหนึ่งว่า ก่อนโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง ตนสัญญาว่าจะเว้าอีสานให้ได้ เพราะเราเป็นหนี้บุญคุณคนอีสาน ตั้งแต่ปิดสภา ตนเดินทางกว่า 3,000 กิโลเมตร จากเหนือสุดจนใต้สุด ตนไม่เคยเจอไตรวิกฤตอย่างนี้ คือ เศรษฐกิจ โควิด-19 และภัยพิบัติ เมื่อตนได้ลงพื้นที่ก็รู้สึกเหนื่อยใจ แต่ฮึกเหิม คือเหนื่อยใจกับการบริหารโควิด-19 ของรัฐบาล เกษตรกรช้ำใจกับภาวะน้ำท่วมน้ำแล้ง ราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ แต่ตนก็ฮึกเหิม ที่ได้เดินทางกับเพื่อนร่วมขบวนทุกคน ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ที่มีใจสู้ไปด้วยกัน เพื่อทำให้บ้านเกิด ของเขาได้รับการแก้ปัญหา โดยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จะไม่ยอมแพ้กับสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งนี้ ช่วยเติมพลังให้ตนมาทำงานการเมือง เมื่อสภาเปิดในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ตนจะนำสิ่งที่ได้พบไปพูด ในสภาด้วยตัวเอง

ขอชนะเพื่อเปลี่ยนปท.ไทย

นายพิธากล่าวว่า เราเดินทางเห็นปัญหามาก หากต้องการพัฒนาประเทศ เราต้องชนกับช้าง ที่เป็นรัฐราชการรวมศูนย์ ตัวอ้วนอุ้ยอ้าย เขียนนโยบายอยู่ในห้องแอร์ เราต้องสู้กับเสือนอนกินและระบอบปรสิตที่กัดกินประเทศไทย คือนายทุนผูกขาด และนักการเมือง ท้องถิ่น พรรคจะใช้วิถีก้าวไกลกับทุกเรื่อง จะสู้กับช้าง และชนกับเสือ เราจะชนะระบอบนี้ ได้อยู่ที่ทัศนคติ เราทุกคนต้องมีทัศนคติเหมือนราชสีห์ ที่ไม่ใหญ่เท่ากับช้าง ไม่เร็วเท่ากับเสือ ไม่ฉลาดเท่าลิง แต่มีความสุภาพและเข้มแข็ง ที่อยู่ในใจประชาชน ไม่ใช่อยู่บนหัว ของประชาชน เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทย

นายพิธากล่าวว่า ทุกคนคงรู้อยู่แล้วว่า การเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางไกล ไม่ได้โรย ด้วยกลีบกุหลาบ แต่การเดินทางไกลครั้งนี้ ไม่โดดเดี่ยว เพราะเป็นการเดินทางของคนธรรมดาทุกคนที่ถูกกดขี่จากความอยุติธรรม ต้องเติมพลังให้กันและกัน ที่สำคัญสุดคือ เมื่อเราเริ่มเดินแล้ว ห้ามหยุดเดิน และไม่มี ครั้งไหนที่เราเดินมาได้ไกลขนาดนี้ ระบบรัฐสภาไทยไม่เคยพูดถึง หรืออภิปรายที่สั่นสะเทือนขนาดนี้ เราเป็นพรรคมวลชนที่มีสมาชิก ขับเคลื่อนมาไกลแล้ว สุดท้าย แพ้กี่ครั้งไม่เป็นไร ชนะครั้งเดียวพอแล้วประเทศไทยจะเปลี่ยนไป

เปิดตัว 3 ว่าที่ผู้สมัครชิงอีสาน

จากนั้นพรรคก้าวไกลเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกลบางส่วน ประกอบด้วย นายชัชวาล อภิรักษ์มั่นคง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 ขอนแก่น นายอดิศักดิ์ สมบัติคำ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 มหาสารคาม และนางอรนุช ผลภิญโญ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชัยภูมิ

มั่นใจได้ส.ส.อีสานเพิ่มแน่

นายพิธาให้สัมภาษณ์ว่า การมาภาคอีสานครั้งนี้เพื่อร่วมทุกข์ร่วมสุขกับประชาชน มาเพื่อ หาข้อมูลนำไปจัดทำเป็นนโยบายในการเลือกตั้ง ครั้งต่อไป เชื่อว่าจะชนะใจคนอีสานได้ ทั้งนี้ 116 เขตในภาคอีสาน ตนตั้งใจจะไปให้ครบทุกเขตไม่ว่าจะเป็นเขตยุทธศาสตร์หรือไม่ ซึ่งเราตั้งใจจะสู้ทุกเขตทุกจังหวัดในภาคอีสาน มั่นใจว่าพรรคก้าวไกลจะได้ส.ส.เขตในภาคอีสานเพิ่มขึ้น

เมื่อถามว่าในพื้นที่ขอนแก่นเคยได้ส.ส. สมัยพรรคอนาคตใหม่ แต่กลับเป็นงูเห่า จะปรับยุทธศาสตร์ในการเลือกผู้สมัครอย่างไร นายพิธากล่าวว่า สาเหตุที่มาจัดประชุม ที่ขอนแก่นเนื่องจากไม่ใช่พื้นที่สีแดงเข้ม มีความสะดวกสบายในการเดินทาง แต่อีกทางคือเป็นสัญลักษณ์ในเชิงมาเปิดประตูสู่ภาคอีสาน ซึ่งตั้งใจจะมาที่เขต 1 เพื่อมาทวงคืนส.ส.ในเขตนี้ ตนเลือกนายวีรนันท์ ศรีฮวด ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขต 1 ทนายความสิทธิมนุษยชน ซึ่งได้พิสูจน์ตัวเองมาหลายสิบปี จึงมั่นใจว่าจะทวงคืนพื้นที่ได้

เมิน‘บิ๊กตู่’บอกไม่ยุบสภา

เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ในการสู้กับพรรค เพื่อไทยที่เป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน นายพิธากล่าวว่า ไม่หนักใจ ในระบอบประชาธิปไตยการแข่งขันเป็นเรื่องดี คนที่ได้ประโยชน์คือประชาชน ใครแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งได้ดี รวมถึงปัญหาหนี้สินให้กับเกษตรกร ตนคิดว่า จะเป็นทางเลือกและเป็นการแข่งขันในเชิงนโยบาย ประชาชนจะได้ประโยชน์

เมื่อถามถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ย้ำจะไม่มีการยุบสภา แต่เห็นสัญญาณการลงพื้นที่ของพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึง การเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส. นายพิธากล่าวว่า ตนคิดว่าคนเราเวลาอะไรที่ทิ่มแทงใจ ก็จะพูดออกมา ที่อาจจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจหรือเป็นข่าวลวง หรือตั้งใจจะส่งสัญญาณตรงกันข้าม เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาตลอด และคนนี้ไม่ใช่หรือที่บอกว่าจะไม่ทำรัฐประหาร ดังนั้น ใครจะพูด อะไร พรรคไหนจะทำอะไรเป็นเรื่องของเขา แต่พรรคก้าวไกลต้องเตรียมตัวให้พร้อมทุกเวลา ในทุกมิติ ทุกสนาม

ตั้งเป้าอัพเกรดเป็นพรรคใหญ่

เมื่อถามถึงระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ นายพิธา กล่าวว่า ไม่ว่าระบบไหนก็ต้องพร้อมสู้ เมื่อเป็น พรรคการเมือง เราต้องปรับยุทธศาสตร์ การทำงานให้ใกล้ชิดกับประชาชนให้มากขึ้น ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลใจ สักวันหนึ่งเราจะต้องเป็นพรรคขนาดใหญ่ วันนี้เราอาจเป็นพรรคขนาดกลาง แต่เรามีความฝันว่าสักวัน จะเป็นพรรคขนาดใหญ่ ดังนั้น กติกาไหน ที่คิดว่าจะได้ประโยชน์กับเขาในตอนนั้น อาจจะเป็นประโยชน์กับเราก็ได้

เมื่อถามว่าพรรคจะส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่ นายพิธากล่าวว่า ส่งแน่นอน โดยรอจังหวะที่เหมาะสมในการเปิดตัว จะได้ไม่ช้ำ

เท่าพิภพลั่นไม่ย้ายซบเพื่อไทย

นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวส.ส.กทม.พรรคก้าวไกลหลายคนจะย้ายไปอยู่พรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้า เช่น นายเท่าพิภพ, นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ และน.ส.วรรณวรี ตะล่อมสิน ว่า ยืนยันว่าตนไม่ไปไหน ตนเกิดจากอนาคตใหม่ ต่อเนื่องมาอยู่ก้าวไกล ไม่เคยคิดย้าย ไปไหน อีกทั้งกระแสความนิยมของพรรค ก้าวไกลในเขตตนถือว่ากระแสดีมาก จะย้ายไป ทำไม ตนยอมให้คนทั้งโลกทรยศตน แต่ไม่ยอม ทรยศใครแน่นอน ส่วนในรายของคนที่มีชื่อในข่าวลือ เช่น นายณัฐชา น.ส.วรรณวรี ก็ยังอยู่ กับก้าวไกล ไม่ย้ายพรรค

ม็อบขอนแก่นจี้แก้ปัญหางูเห่า

เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ศูนย์ประชุมฯ นายขวัญข้าว ตัวแทนกลุ่มขอนแก่นพอกันที กับภาคีนักเรียน KKC ได้นำกระเช้าตะกร้าบรรจุส้มและงูปลอมที่ทำจากยางมามอบให้พรรคก้าวไกล ผ่านนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชี รายชื่อ รองเลขาธิการพรรค นายอภิชาติ ศิริสุนทร และนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เพื่อเป็นสัญลักษณ์ ให้แก้ปัญหางูเห่าภายในพรรค

ธีมใหม่ – รถสองแถวในจังหวัดขอนแก่น ติดสติ๊กเกอร์ธีมใหม่ของพรรคเพื่อไทย ‘พรุ่งนี้เพื่อไทย : เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน’ ชวนนับถอยหลังสู่พรุ่งนี้ที่ดีกว่าวันนี้ ปลุกความหวัง คืนความฝันให้คนไทย ต้อนรับการประชุมใหญ่ที่จะจัดขึ้น เมื่อวันที่ 16 ต.ค.

เพื่อไทยเปิดตัวธีมประชุมใหญ่

ที่พรรคเพื่อไทย น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงถึงการประชุมใหญ่ของพรรค ที่จ.ขอนแก่น ในวันที่ 28 ต.ค.ว่า ขณะนี้ประเทศเกิดวิกฤตหลายด้าน ทำให้คนไทยจมดิ่งในหุบเหวแห่งความสิ้นหวัง ความยากจน คนตกงาน และความเหลื่อมล้ำที่เพิ่มขึ้นสูง พรรคเล็งเห็นปัญหา เราจึงพร้อมสร้างความหวัง สร้างนโยบาย ด้วยการคืนเงินในกระเป๋า คืนสุขภาพที่ดี คืนศักดิ์ศรี และคืนประชาธิปไตยให้ประชาชน ดังนั้น การประชุมใหญ่จึงจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “พรุ่งนี้ เพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน” เพื่อทวงคืนคุณภาพชีวิตทีดีคืนสุ่คนไทยอีกครั้ง

นอกจากนี้ ขอเชิญชวนประชาชน เปลี่ยนภาพปกบนเฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ตั้งแต่วันนี้ เพื่อร่วมกันแสดงความหวัง แสดงพลัง และเป็นส่วนหนึ่งของการนับถอยหลังสู่จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง พร้อมกันนี้หน้าจอแอลอีดี หน้าที่ทำการพรรค สำนักงานใหญ่ ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ ยังเปลี่ยนภาพธีมงานประชุมใหญ่พรรค ซึ่งจะเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.เป็นต้นไป

โต้ศรัณย์วุฒิ-ไล่รีบหาพรรคใหม่

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพท. กล่าวตอบโต้กรณีนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ ที่ถูกพรรคขับออกจากสมาชิก กล่าวหาในพท.มีปีศาจห้องแอร์กดดันส.ส.ในพรรคว่า ขอยืนยันว่าในพรรคไม่มีปีศาจ เราอยู่กันมานาน และเป็นพรรคใหญ่ของประเทศ เป็นพรรคที่เป็นประชาธิปไตย

ช่วงที่นายศรัณย์วุฒิ อยู่กับพรรค ก็ได้รับสิทธิ์เป็นกรรมาธิการ (กมธ.) งบประมาณ ถึง 3 ปีติดต่อกัน ถือว่าได้รับสิทธิ์พิเศษจากพรรค และที่ผ่านมาพรรคก็ไม่มีการกดขี่ ทำไม เรื่องที่ตัวเองได้รับสิทธิ์ไม่เคยพูดถึง แต่มาพูดให้พรรค ตนเรียกร้องให้นายศรัณย์วุฒิ รีบไป หา พรรคสังกัดให้ทัน 30 วันจะดีกว่า ไม่ต้องมาห่วงเรื่องในพท. พวกเราอยู่กันอย่างมีความสุข ไม่มีใครมากดขี่ข่มเหง ถ้าจากกันทำไมไม่จากกัน ด้วยดี

แฉพิรุธตัดต่อภาพปธน.จีน

นายยุทธพงศ์ กล่าวถึงกองทัพเรือไทย จัดซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีน ซึ่งในโครงการจะซื้อ 3 ลำ แต่เพิ่งซื้อลำแรกไปลำเดียว เพราะ พท.คัดค้านไว้ว่า พบข้อพิรุธการแถลงข่าวของกองทัพเรือ เมื่อ 24 ส.ค.63 ซึ่งกองทัพเรือ นำภาพของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนมาตัดต่อกับภาพพิธีลงนามสัญญาซื้อเรือดำน้ำลำที่ 1 ระหว่างกองทัพเรือกับบริษัทเอกชนรายหนึ่ง เมื่อ 5 พ.ค.60 อาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดคิดว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มาร่วมเป็น สักขีพยานลงนามในสัญญาซื้อขายเรือดำน้ำลำที่ 1 ทั้งที่ภาพของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เป็นภาพจากงานพิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปี กองทัพเรือจีน เมื่อ 22 เม.ย.62

นายยุทธพงศ์กล่าวว่า ตนจะนำเรื่องการแอบอ้างประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ว่าซื้อแบบ รัฐต่อรัฐ ไปยื่นให้เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยในสัปดาห์หน้า เพื่อให้เรื่องไปถึงรัฐบาลจีน และประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ตรวจสอบว่าบริษัทดังกล่าวแอบอ้างรัฐบาลจีน ทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการซื้อเรือดำน้ำ อีกทั้งการที่กองทัพเรือไทยเอารูปมาตัดต่อ ทั้งที่ท่านไม่ได้เกี่ยวข้อง อาจกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และจะยื่นเรื่องนี้ ต่อรมว.การต่างประเทศของไทยด้วย เชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องใหญ่ไม่จบง่ายๆ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน